1 / 70

php

php.

ady
Télécharger la présentation

php

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. php ในปัจจุบัน Web siteต่าง ๆ ได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว อาทิเช่น เรื่องของความสวยงามและแปลกใหม่, การบริการข่าวสารข้อมูลที่ทันสมัย,เป็นสื่อกลางในการติดต่อ และสิ่งหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากซึ่ง อได้ว่าเป็นการปฏิวัติรูปแบบการ ขายของก็คือ E-commerceซึ่งเจ้าของสินค้าต่างๆ ไม่จำเป็น ต้องมีร้านค้าจริงและไม่จำเป็นต้องจ้างคนขายของอีกต่อไปร้านค้าและตัวสินค้า นั้น จะไปปรากฏอยู่บน Wed site และการซื้อขายก็เกิดขึ้นบนโลกของ Internet แล้ว PHP ช่วยเราให้เป็นการพัฒนา Web site และความสามารถที่โดดเด่นอีกประการ-หนึ่งของ PHP นั้น คือ database-enabled web pageทำให้เอกสารของ HTML สามารถที่ จะเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูล (database)ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว จึงทำให้ ความตองการในเรื่องการจัดรายการสินค้าและรับรายการสั่งของตลอดจนการจัดเก็บ ข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญผ่านทาง Internet เป็นไปได้อย่างง่ายดายPHP เป็นภาษาจำพวก scripting language คำสั่งต่างๆจะเก็บอยู่ในไฟล์ที่เรียกว่า สคริปต์ (script) และเวลาใช้งานต้องอาศัยตัวแปลชุดคำสั่ง ตัวอย่างของภาษาสคริปก็เช่น JavaScript, Perl เป็นต้น ลักษณะของ PHP ที่แตกต่างจากภาษาสคริปต์แบบอื่นๆ คือ PHP ได้รับการพัฒนาและออกแบบมา เพื่อใช้งานในการสร้างเอกสารแบบ HTML โดยสามารถสอดแทรกหรือแก้ไขเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงกล่าวว่า PHP เป็นภาษาที่เรียกว่า server-sideหรือ HTML-embedded scripting languageเป็นเครื่องมือที่สำคัญชนิดหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถสร้างเอกสารแบบ Dynamic HTMLได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีลูกเล่นมากขึ้นเนื่องจากว่า PHP ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตัว Web Server ดังนั้นถ้าจะใช้ PHP ก็จะต้องดูก่อนว่า Web server นั้นสามารถใช้สคริปต์ PHP ได้หรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น PHP สามารถใช้ได้กับ Apache WebServerและ Personal Web Server (PWS)สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 95/98/NTในกรณีของ Apache เราสามารถใช้ PHP ได้สองรูปแบบคือ ในลักษณะของ CGIและ Apache Module ความแตกต่างอยู่ตรงที่ว่า ถ้าใช้ PHP เป็นแบบโมดูล PHP จะเป็นส่วนหนึ่งของ Apache หรือเป็นส่วนขยายในการทำงานนั่นเอง ซึ่งจะทำงานได้เร็วกว่าแบบที่เป็น CGIเพราะว่า ถ้าเป็น CGI แล้ว ตัวแปลชุดคำสั่งของ PHP ถือว่าเป็นแค่โปรแกรมภายนอก ซึ่ง Apache จะต้องเรียกขึ้นมาทำงานทุกครั้ง ที่ต้องการใช้ PHP ดังนั้น ถ้ามองในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน การใช้ PHP แบบที่เป็นโมดูลหนึ่งของ Apache จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

  2. - ใช้ได้ฟรี- PHP เป็นโปร แกรมวิ่งข้าง Sever ดังนั้นขีดความสามารถไม่จำกัด- Conlatfunนั่นคือ PHPวิ่งบนเครื่อง UNIX,Linux,Windowsได้หมด- เรียนรู้ง่าย เนืองจาก PHPฝั่งเข้าไปใน HTMLและใช้ดครงสร้างและไวยากรณ์ภาษาง่ายๆ- เร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมือใช้กับ Apach Server เพราะไม่ต้องใช้โปรแกรมจากภายนอก- ใช้ร่วมกับ XMLได้ทันที- ใช้กับระบบแฟ้มข้อมูลได้- ใช้กับข้อมูลตัวอักษรได้อย่างมีประสิทธิภาพ- ใช้กับโครงสร้างข้อมูลใช้ได้แบบ Scalar,Array,Associative array- ใช้กับการประมวลผลภาพได้

  3. Comment เป็นส่วนที่ละไว้ไม่ให้ PHPทำการประมวลผลในส่วนนั้น ๆ Comment/คำอธิบาย ของ PHPจะใช้ด้วยเครื่องหมาย // หรือ /* PHP *///ใช้ Comment 1 บรรทัด/* PHP */ใช้ Comment มากกว่า 1 บรรทัด

  4. PHP Variable() สำหรับการเขียนโปรแกรมสำหรับภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูง สิ่งที่จะขาดเสียมิได้คือ การกำหนดและใช้ตัวแปร (variable) ตัวแปรในภาษา PHP จะเหมือนกับในภาษา Perl คือเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย dollar ($) โดยเราไม่จำเป็นต้องกำหนดแบบของข้อมูล (data type) อย่างเจาะจงเหมือนในภาษาซี เพราะว่า ตัวแปลภาษาจะจำแนกเองโดยอัตโนมัติว่า ตัวแปรดังกล่าว ใช้ข้อมูลแบบใด ในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ข้อความ จำนวนเต็ม จำนวนที่มีเลขจุดทศนิยม ตรรก เป็นต้นSyntaxview source print? 1.<? 2.$var = value; 3.?>

  5. PHP Variable PHP Define PHP Defined PHP Global PHP Integer PHP Float PHP Boolean PHP String PHP Null PHP Empty PHP isset PHP Array PHP Object

  6. ขอบเขตการตั้งชื่อตัวแปรขอบเขตการตั้งชื่อตัวแปร - ขึ้นต้นด้วยเครื่งหมาย $ แล้วตามด้วยตัวอักษร A-Z,a-z- มีความยาวไม่เกิน 255 ตัวอักษร- ห้ามมีจุดทศนิยม หรือช่องว่าง- จะต้องไม่ตรงกับคำสงวน และควรตั้งชื่อ ให้มีความหมายใกล้เคียงกับ ค่าที่เก็บ- ตัวอักษรเล็กหรือใหญ่จะเป็นตัวแปรต่างกัน- ถ้าตั้งตัวแปรมาใหม่ แล้วทับตัวแปรเก่า ค่าของตัวแปรเก่าจะหายไป

  7. PHP Define() การประกาศ define คือการประกาศค่าตัวแปรคงที่ ความหมายคือ เมื่อมีการประกาศตัวแปรภายใต้ function นี้ตัวแปรนั้นจะถูกเก็บไว้ที่หน่วยความจำ สามารถเรียกค่าตัวแปรนั้นใช้งานได้ตลอดเวลา นิยมประกาศเป็นค่า Configuration ต่าง ๆ และทั้งยังสามารถเรียกใช้ได้ทั้งภายในและถายนอก Class หรือ Function ได้Syntaxview source print? 1.<? 2.define("CONSTANT", "value"); 3.   4.echo CONSTANT; 5.?>

  8. Sample 01.<?php 02.define("CONSTANT", "Hello world."); 03.echo CONSTANT."<br>"; // outputs "Hello world." 04.echo Constant."<br>"; // outputs "Constant" and issues a notice. 05.   06.define("GREETING", "Hello you.", true); 07.echo GREETING."<br>"; // outputs "Hello you." 08.echo Greeting."<br>"; // outputs "Hello you." 09.?>

  9. PHP Defined() เป็น function ที่ใช้ในการตรวจสอบว่ามการประกาศค่าคงที่หรือไม่ โดยจะทำการ return ค่าเป็น true กับ falseSyntaxview source print? 1.<? 2.defined("CONSTANT"); // return true/false 3.?>

  10. Sampleview source print? 01.<?php 02.define("CONSTANT1", "Hello world."); 03.   04.if (defined('CONSTANT1')) { 05.    echo "CONSTANT1 = true Value = ".CONSTANT1."<br>"; 06.} 07.else 08.{ 09.    echo "CONSTANT1 = flase Value = <br>"; 10.} 11.if (defined('CONSTANT2')) { 12.    echo "CONSTANT2 = true Value = ".CONSTANT2."<br>"; 13.} 14.else 15.{ 16.    echo "CONSTANT2 = flase Value = <br>"; 17.} 18.?>

  11. PHP Global() ตัวแปรระดับโกลบอลเมื่อมีการประกาศแล้ว สามารถทำการเรียกใช้ค่าตัวแปรนั้น ๆ ได้จากชื่อตัวแปรโดยตรงและยังถูกจำเข้าสู่หน่อยความจำ คือตัวแปรโกลบอลสามารถเรียกใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน function และสามารถเรียกใช้งานได้ทั้งโปรเจคSyntax<? $GLOBALS["var"] = $value; echo $var; ?>Sample<?php $a = 1; $b = 2; function Sum() { $GLOBALS['b'] = $GLOBALS['a'] + $GLOBALS['b']; } Sum(); echo $b; ?>

  12. PHP Integer() เป็นการประกาศตัวแปรชนิดตัวเลขจำนวนเต็ม {..., -2, -1, 0, 1, 2, ...}. Syntax1.<? 2.$var = 1234;  3.?>

  13. PHP float() ชนิดตัวแปรแบบทศนิยมSyntaxview source print? 1.<? 2.$var = 1234.567 3.?>

  14. PHP Boolean() ชนิดตัวแปรแบบ ค่าจริง และค่าเท็จ Syntax1.<? 2.$var = true/flase; 3.?>

  15. PHP String() ชนิดตัวแปรแบบ ข้อความ Syntax1.<? 2.$var = "string"; 3.?>

  16. PHP Null() ชนิดตัวแปรค่าว่าง Syntax

  17. ฟังก์ชันที่ใช้ตรวจสอบตัวแปรฟังก์ชันที่ใช้ตรวจสอบตัวแปร Empty

  18. PHP Empty() ตรวจสอบว่าตัวแปรดังกล่าวมีค่าหรือไม่โดยจะทำการ return ค่าเป็น true และ false Syntax<? empty($var); ?>

  19. PHP isset() ตรวจสอบว่าตัวแปรมีอยู่หรือไม่ คือมีการประกาศค่าตัวแปรหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นค่าว่างก็ตามโดยจะทำการ return ค่าเป็น true และ false Syntax1.<? 2.isset($var); 3.?>

  20. PHP Array() ชนิดตัวแปรแบบ Array เป็นตัวแปรชุดที่มีการเก็บค่าตัวแปรที่มี ชนิดของข้มูลเหมือนกัน เช่น เก็บ รายชื่อของพนักงาน อายุ เงินเดือนcount($array) // คือการนับจำนวนค่าตัวแปรสมาชิกของ arraySyntaxview source print? 1.<? 2.$var[..] = $value; 3.$var[..] = $value; 4.$var[..] = $value; 5.?>

  21. Arrary 1 มิติ 01.<? 02.$a[0]="Somchai"; 03.$a[1]="Weerachai"; 04.$a[2]="Surachai"; 05.$a[3]="Adisorn"; 06.?> 07.   08.การประกาศตัวแปร 09.   10.$a[3] 11.   12.จะมีสมาชิก 4 ตัวคือ $a[0],$a[1],$a[2],$a[3]

  22. Arrary 2 มิติ 01.<? 02.$a[0][0]="Somchai"; 03.$a[0][1]="Werachai"; 04.$a[1][2]="Surachai"; 05.?> 06.   07.$a[2][2] 08.   09.จะมีสมาชิก 8 ตัว คือ $a[0][0],$a[0][1],$a[0][2],$a[1][0],$a[2][0],$a[1][1],$a[1][2],$a[2][2]

  23. Arrary 3 มิติ 1.<? 2.$a[0][0][0]="Somchai"; 3.$a[0][1][2]="Werachai"; 4.$a[1][2][3]="Surachai"; 5.?>

  24. PHP Object()ชนิดตัวแปรแบบวัตถุที่ได้ค่าจากการจำลอง object หรือสืบทอดค่า1.<? 2.$var = object() 3.?>

  25. PHP Echo เป็นคำสั่งที่ใช้แสดงค่าของตัวแปร หรือ แสดงค่าของ PHP Syntax1.<? 2.echo "string/value"; 3.?>

  26. PHP Print เป็นคำสั่งที่ใช้แสดงค่าของตัวแปร หรือ แสดงค่าของ PHP สำหรับข้อแตกต่างระหว่างคำสั่ง print กับ echoก็คือ echo สามารถแยกแทรกนิพจน์ หรือค่าตัวแปรลงไปได้ โดยใช้เครื่องหมาย , คั่นSyntax<? print "string/value"; ?>

  27. PHP Printf คำสั่ง printfจะมีลักษณะเหมือนกับ printfในภาษา C เพราะว่า เหตุผลที่ใช้เพราะเราจะสามารถจัด Formatหรือรูปแบบ ข้อความในการแสดงผลได้ Syntaxview source print? 1.<? 2.printf($format,$value); 3.?>

  28. $format %d เลขฐานสิบ %o เลขฐานแปด %b เลขฐานสอง %c รหัส ASCII %s ข้อความ %x,%Xเลขฐานสิบหก %f ทศนิยม

  29. PHP $$ เป็นการกำหนดค่าตัวแปรให้เป็นชื่อตัวแปร เพื่อจะได้ค่าใหม่ที่ต้องการSyntax1.<? 2.$$var = value; 3.?>

  30. Sample1.<? 2.$strScore = 20; 3.$strItem = "strScore"; 4.echo $$strItem; 5.?> 20

  31. PHP Flush เป็นการกำหนดค่าตัวแปรให้เป็นชื่อตัวแปร เพื่อจะได้ค่าใหม่ที่ต้องการ โดยปกติคำสั่งที่ใช้ในการส่งข้อมูลไปยัง Browser นั้นจะต้องมีการเก็บข้อมูล ไว้ในหน่วยความจำในส่วนที่เรียกว่า Bufferก่อน และส่งข้อมูลไปก็ต่อเมื่อ ข้อมูลที่อยู่ใน Bufferนั้นเต็ม Flushนั้นจะ ทำให้ข้อมูลที่อยู่ใน Bufferถูกส่งไปแสดงที่ Browserโดยทันที โดยไม่ต้องรอให้ข้อมูลใน Buffer นั้นเต็มSyntax<? flush(); ?>Sample<? for($i=0;$i<10;$i++) { echo "ส่งข้อความไปให้ Browse<br>"; } flush(); ?>

  32. PHP Print_r เป็นคำสั่งที่ใช้แสดงค่าใน Array ออกมาทั้งหมดSyntaxview source print? 1.<? 2.print_r($array,boolean-return); 3.?>

  33. Sample01.<?php 02.$a = array('b' => 'bat', 'c' => 'cat', 'r' => 'rat'); 03.echo print_r($a,true);  04.echo "<hr>"; 05.$b = array(bat,cat,rat); 06.echo print_r($b,true);  07.echo "<hr>"; 08.$c = array(bat,cat,rat); 09.foreach($c as $arr) 10.{ 11.    echo $arr."<br>"; 12.} 13.?>

  34. PHP Concat String การรวม Stringด้วยภาษา PHP จะใช้เครื่องหมาย (.) (dot)Syntaxview source print? 1.<? 2.$str1.$str2.str3,...; 3.?>

  35. Sampleview source print? 1.<? 2.$str1 = "A"; 3.$str2 = "B"; 4.$str3 = "C"; 5.$str4 = $str1.$str2.$str3; 6.echo $str4; 7.?>

  36. Arithmetic Operatorsโอเปอเรเตอร์ทางคณิตศาสตร์ $a + $b บวก ผลบวกของ $a และ $b. $a - $b ลบ ผลลัพธ์จาก $b ลบออกจาก $a. $a * $b คูณ ผลคูณของ $a และ $b. $a / $b หาร ผลหารของ $a และ $b. $a % $b หารเอาเศษ เศษจากการหารของ $a หารโดย $b.

  37. String Operators เป็น โอเปอเรเตอร์ที่ใช้กับข้อความซึ่งจะใช้ (.) เพียง โอเปอเรเตอร์เดียวSyntax1.<? 2.$str1.$str2.str3,...; 3.?>

  38. Assignment Operators เป็น โอเปอเรเตอร์กำหนดค่าโอเปอเรเตอร์พื้นฐานคือ "=" คือคุณจะต้องคิดว่าค่าทางซ้ายมือของโอเปอเรเตอร์คือผลลัพธ์จากคำสั่งที่กระทำทางขวามือ <?$a = 3; $a += 5; // $a = 8, มีความหมายว่า $a = $a + 5; $b = "Hello ";$b .= "There!"; // $b = "Hello There!",เหมือนกับ $b = $b . "There!"; ?>

  39. Assignment Operators เป็น โอเปอเรเตอร์เชิงตรรกศาสตร์ ตัวอย่าง ความหมาย ผลลัพธ์ $a and $b And $a=1จริงก็ต่อเมื่อ $a และ $b เป็นจริง $a or $b Or จริงถ้า $a หรือ $b ตัวใดตัวหนึ่งเป็จริง $a xor $b Or จริงถ้า $a หรือ $b ตัวใดตัวหนึ่งเป็นจริง, แต่จะไม่จริงถ้าทั้งสองไม่จริง. ! $a Not จริงถ้า $a ไม่จริง $a && $b Not จริงทั้ง $a และ $b เป็นจริง $a || $b Or จริงถ้า $a หรือ $b ตัวใดตัวหนึ่งเป็จริง

  40. Comparison Operators เป็น โอเปอเรเตอร์เชิงตรรกศาสตร์ ตัวอย่าง ความหมาย ผลลัพธ์ $a == $b เท่ากับ จริงถ้า $a มีค่าเท่ากับ $b. $a != $b ไม่เท่ากับ จริงถ้า $a มีค่าไม่เท่ากับ $b. $a < $b น้อยกว่า จริงถ้า $a มีค่าน้อยกว่า$b. $a > $b มากกว่า จริงถ้า $a มีค่ามากกว่า $b. $a <= $b น้อยกว่าหรือเท่ากับ จริงถ้า $a มีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ $b. $a >= $b มากกว่าหรือเท่ากับ จริงถ้า $a มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ $b.

  41. PHP while() จะพิจารณาเงื่อนไขแล้วค่อยทำ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำ ถ้าเท็จ จะกระโดดออกจากลูปทันที1.<? 2.while (expr) 3.{ 4.    statement & condition 5.} 6.?>

  42. PHP do..while() ทำก่อนแล้วค่อยพิจารณาเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ จะกระโดดออกจากลูปทันทีSyntax1.<? 2.do { 3... 4.}while($condition) 5.?>

  43. PHP for() จะทำงานจนเงื่อนไขนั้นเป็นเท็จ ถึงจะกระโดดออกจากลูปSyntax1.<? 2.for (expr1; expr2; expr3) 3.{ 4....//condition 5.} 6.?>

  44. PHP foreach() เป็นคำสั่งเพื่อนำข้อมูลออกมาจากตัวแปลที่เป็นประเภท array โดยสามารถเรียกค่าได้ทั้ง $key และ $value ของ arraySyntax01.<? 02.foreach (array_expression as $value) 03.{ 04.    statement & Condition 05.} 06.foreach (array_expression as $key => $value) 07.{ 08.    statement & Condition 09.} 10.?>

  45. PHP break() เป็นคำสั่งให้หยุดและหลุดจาก for, foreach, while, do-while or switch คือมีเจอคำสั่งนี้โปรแกรมจะหลุดออกจาก loop เหล่านี้ทันทีSyntax1.<? 2.break(); 3.?>

  46. PHP continue() เป็นคำสั่งที่ให้หยุดการทำงานบางอย่าง เพื่อกลับไปเริ่มต้นหรือข้ามทำเงื่อนไขต่อไปSyntax1.<? 2.continue; 3.?>

  47. PHP if() กำหนดเงื่อนไขการทำงานในเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงSyntax1.<? 2.if(expr1) 3.{ 4....//statement 5.} 6.?>

  48. PHP else() กำหนดเงื่อนไขที่เป็นจริงและเงื่อนไขที่เป็นเท็จSyntax01.<? 02.if(expr1) 03.{ 04....//statement 05.} 06.else 07.{ 08....//statement 09.} 10.?>

  49. PHP if...elseif() กำหนดเงื่อนไขเป็นจริงได้หลายเงื่อนไขเพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจSyntax01.<? 02.if(expr1) 03.{ 04....//statement 05.} 06.elseif(expr2) 07.{ 08....//statement 09.} 10.?>

More Related