1 / 52

Object-Oriented Programming

Object-Oriented Programming. ผู้สอน อ.วาทินี ดวงอ่อนนาม. การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ. บทที่ 2 : แนะนำ จาวา. แนะนำเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมด้วยจาวา แนะนำภาษาจาวา หลักการทำงานของจาวา. รู้จักกับภาษา Java.

brier
Télécharger la présentation

Object-Oriented Programming

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Object-Oriented Programming ผู้สอน อ.วาทินี ดวงอ่อนนาม การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ

  2. บทที่ 2 : แนะนำ จาวา • แนะนำเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมด้วยจาวา • แนะนำภาษาจาวา • หลักการทำงานของจาวา

  3. รู้จักกับภาษา Java • ภาษา Java นั้นได้รับการพัฒนามาจากบริษัท Sun Microsystems ซึ่งเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลก โดยถือกำเนิดภายใต้โครงการ Green Project ในปี 1996 ซึ่งมีหัวหน้าทีมพัฒนาที่ชื่อว่า James Gosling ซึ่งโปรแกรมเมอร์ Java ทั่วโลกยกย่องว่าเป็น บิดาของ Java

  4. เหตุใดจึงนิยมเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Java • ภาษา Java นั้นมีปรัชญาการสร้างมาจากการที่ต้องการทำให้เราเขียนโปรแกรมเพียงครั้งเดียว แต่สามารถนำไปใช้งานได้ในอุปกรณ์ชนิดต่างๆ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเพียงแค่คอมพิวเตอร์อย่างเดียว

  5. ความสามารถของ Java Technology

  6. เบื้องหลังการทำงานของโปรแกรมภาษา Java • เราเขียนโปรแกรมของภาษา Java เราจะได้ Source Code ซึ่งเป็นไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .java จากนั้นเรานำ Source Code ไปคอมไฟล์ให้กลายเป็นเป็น Java Byte Code (จะเก็บอยู่ในไฟล์ .class) • เวลาที่ทำงานจริงในคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ใดๆ ก็ตาม Java Byte Code จะถูกคอมไพล์อีกครั้งให้เป็นภาษาเครื่องเฉพาะคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์นั้นๆ เข้าใจ การคอมไพล์ครั้งนี้จะใช้ Java Virtual Machine (JVM) คอมไพล์ และรัน

  7. ในภาษา Java โปรแกรมที่เราพิมพ์เรียกว่า “Source code” ซึ่งเรา Save จะมีส่วนขยายหรือนามสกุล เป็น (.java) เมื่อผ่านการ Compileจะได้ File ที่มีส่วนขยายเป็น (.class) ซึ่งตัว Compiler ของ Java จะมีชื่อว่า (javac) และใน (.class) จะเก็บข้อมูลในลักษณะของ Bytecodeซึ่งถูกสร้างด้วยกระบวนการของ Java Virtual Machine(JVM)

  8. โครงสร้างด้านการ Compile โปรแกรมภาษา Java Interpreter Javac.exe Java.exe

  9. JVM • Java Virtual Machine (JVM) สามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการที่แตกต่าง ดังนั้นไฟล์ (.class ) จึงสามารถที่จะ Run บนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows, Solaris , Linux, หรือแม้แต่ MacOS

  10. จาวาและเครื่องจักรสมมุติ(JVM)จาวาและเครื่องจักรสมมุติ(JVM) • แผนผังแสดงการติดต่อของจาวาและ JVM Java program Java program Java program Java virtual machine Windows Unix Macintosh

  11. Write Once Run Anywhere

  12. Write Once Run Anywhere

  13. โครงสร้างการ Compiler และ Interpreter

  14. รูปแบบการเขียนโปรแกรมในภาษา Java Java Technology • Java SE : ย่อมาจาก Java Standard Edition เป็นรูปแบบการเขียนโปรแกรมสำหรับการทำงานบนคอมพิวเตอร์ทั่วไป ถือว่าเป็นรูปแบบแรกของภาษา Java เป็นเทคโนโลยีจาวาที่ออกแบบเพื่อนำมาใช้พัฒนางานบน เครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปและคอมพิวเตอร์เวิร์กสเตชัน • Java EE : ย่อมาจาก Java Enterprise Edition เป็นรูปแบบการเขียนโปรแกรมกับระบบงานขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ งานบนระบบเครื่องเซิร์ฟเวอร์รองรับการทำงานร่วมกับ Servlets, JSP และ XML

  15. รูปแบบการเขียนโปรแกรมในภาษา Java Java Technology • Java ME : ย่อมาจาก Java Micro Edition เป็นรูปแบบการเขียนโปรแกรมกับอุปกรณ์ขนาดเล็ก (คือมีหน่วยความจำน้อย) เช่น โทรศัพท์มือถือ, เซ็ตท็อปบ็อกซ์ เป็นต้น มีเป้าหมายสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชันที่ ทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้ทรัพยากรจำกัดไม่ว่าจะเป็นขนาดของหน่วยความจำ ความสามารถในการการประมวลผล เช่น โทรศัพท์มือถือ เพจเจอร์ ปาล์ม PDA เป็นต้น

  16. องค์ประกอบของเทคโนโลยีจาวาองค์ประกอบของเทคโนโลยีจาวา • JVM (Java Virtual Machine) ทำหน้าที่เป็นอินเตอร์พรีตเตอร์ • JRE(Java Runtime Environment) ใช้ในการรันโปรแกรม • J2SDK(Java 2 Software Development Kit) เป็นชุดพัฒนาโปรแกรมภาษาจาวา

  17. แพล็ตฟอร์มของ Java

  18. Platform • Platform หมายถึง สภาพแวดล้อมทาง Hardware หรือ Software ในขณะที่ RunProgram ซึ่ง Platform ส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Platform บนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows, Linux, Solaris OS, และMacOSและ Platform ส่วนใหญ่จะสามารถทำงานร่วมกันได้ภายใต้มาตรฐานของระบบปฏิบัติการเดียวกันแต่ Java Platform มีความแตกต่างไปจาก Platform อื่น ๆ นั่นก็คือสามารถ Run ได้ทุก ๆ ระบบปฏิบัติการโดยไม่ยึดติดอยู่กับระบบปฏิบัติการและ Hardware • ด้วยเหตุนี้ทำให้ภาษา Java เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

  19. Java Platform มี 2 องค์ประกอบ • Java Virtual Machine (JVM) • Application Programming Interface (API) แสดงตัวอย่างของ API และ Java Virtual Machine (JVM) ที่ปกป้องโปรแกรมกับการยึดติดอยู่กับ Hardware

  20. JVM • Java Virtual Machine (JVM) เป็นตัวกลางที่ภาษาจาวานำมาใช้เพื่อทำการแปลโปรแกรมแล้วส่งต่อไปให้ระบบปฏิบัติการจากนั้นก็จะทำแปลงคลาสให้เป็นภาษาเครื่องและทำงานต่อไป โดยโปรแกรมภาษาจาวาทุกตัวจะต้องทำงานอยู่ในภายใต้ Java Virtual Machine(JVM) ซึ่งมีอยู่ในตัวไม่ว่าจะเป็น Applet servletและอื่น ๆ นอกจากนี้แล้ว JVM ยังมีหน้าที่ความรับผิดชอบเตรียมความพร้อมสำหรับความปลอดภัยอีกด้วย

  21. API • Application Programming Interface (API) • API จะรวบรวม Components สำหรับสร้างส่วนติดต่อกับผู้ใช้ที่เรียกว่า Graphical User Interface (GUI) ซึ่ง API เป็นกลุ่มของ Libraries ที่มีความสัมพันธ์กับ Classes และ Interfaces และ Libraries ใน Java เราจะเรียกกันว่า “packages”

  22. ก่อนจบบท • สำหรับบทนี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาษา Java ซึ่งเป็นภาษาเขียนโปรแกรมที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด Write Once Run Anywhere ทำให้เราเขียนโปรแกรมเพียงครั้งเดียว แต่สามารถนำไปรัน หรือใช้งานบนคอมพิวเตอร์ (หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) แบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก โดย Java ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถหลายหลาย รองรับการทำงานในรูปแบบต่างๆ และปัจจุบันก็มีโปรแกรมเมอร์มากมายทั่วโลกศึกษา และติดตามอย่างใกล้ชิด

  23. บทที่ 3 เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเขียนจาวา

  24. เตรียมตัวก่อนเขียนโปรแกรมเตรียมตัวก่อนเขียนโปรแกรม

  25. ตรวจสอบความพร้อมของระบบตรวจสอบความพร้อมของระบบ • ระบบปฏิบัติการ : มีได้ทั้ง Windows 98, XP, Vista, Linux, Unix, Solaris (ในที่นี้ผู้เขียนจะใช้ระบบปฏิบัติการ WindowsXP เป็นหลัก) • แรม และพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ : สำหรับแรมควรมีขนาดขั้นต่ำตามที่ระบบปฏิบัติการได้กำหนดไว้ ส่วนพื้นที่ว่างฮาร์ดดิสก์ก่อนติดตั้ง JDK และ EditPlusไม่ควรต่ำกว่า 500 MB • ความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต : เพื่อดาวน์โหลด JDK และ EditPlusรวมทั้งทดสอบการเขียนโปรแกรม Applet ด้วย

  26. ดาวน์โหลด และติดตั้ง JDK • สามารถติดตั้ง JDK ได้จากแผ่นซีดีได้เลย หรือจะดาวน์โหลดจากเว็บไซต์http://java.sun.com/javase/downloads/index.jsp • เมื่อดาวน์โหลดเสร็จให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอนของไฟล์ที่ดาวน์โหลดไว้

  27. ดาวน์โหลด และติดตั้ง JDK (ต่อ) • อ่านข้อกำหนดแล้วคลิกปุ่ม • คลิกที่ปุ่ม

  28. ดาวน์โหลด และติดตั้ง JDK (ต่อ) • รอสักครู่ ชุดติดตั้งจะสอบถามให้ติดตั้งองค์ประกอบเพิ่มเติมคลิก • สุดท้ายก็คลิก

  29. ปรับแต่ง และทดสอบหลังติดตั้ง • เลือกStart > Programs > Accessories > Command Prompt • ที่หน้าจอ Command Prompt ให้ป้อนคำสั่งjava –version เพื่อเป็นการแสดงเวอร์ชันของ JDK ที่เราเพิ่งติดตั้งไป

  30. ปรับแต่ง และทดสอบหลังติดตั้ง (ต่อ) กำหนด PATH เพื่อเรียกใช้โปรแกรมต่างๆ ใน JDK • คลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties • คลิกที่แท็บAdvanced แล้วคลิกปุ่ม

  31. ในกรอบ System variables คลิกเลือกตัวแปรระบบPath ในรายการ คลิกปุ่ม • พิมพ์ต่อท้ายค่าที่ปรากฏในช่อง Variable Value ด้วยข้อความ ;C:\Program Files\Java\jdk1.6.0_16\bin; แล้วคลิกปุ่ม

  32. การกำหนดค่าตัวแปร CLASSPATH • ให้คลิกปุ่ม • จะปรากฏหน้าต่าง New System Variable ขึ้นมา ให้เราตั้งชื่อตัวแปรระบบ และกำหนดค่าของตัวแปรนั้น แล้วคลิกที่ปุ่ม

  33. การกำหนดค่าตัวแปร CLASSPATH (ต่อ) • จะเห็นว่ามีตัวแปรระบบ CLASSPATH สร้างขึ้นมาใหม่ จากนั้นคลิกปุ่ม

  34. Development Tool • Jbuilder • Oracle JDeveloper • Gel • BlueJ • Java Forte • EditPlus

  35. สำหรับเขียนโปรแกรม Java • - Borland JBuilder: ช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึ้น เหมือนกับการเขียนโปรแกรมประเภท Visual ภาษาอื่น ๆ (แต่ไม่ฟรี) เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Borland สามารถ Download เพื่อ • ทดลองใช้งานได้ที่ www.borland.com • - Sun One Studio: เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Sun Microsystemสามารถ Download เพื่อทดลองใช้งานได้ที่ http://java.sun.com • -Editplus: มีความสามารถในการรองรับภาษาเขียนโปรแกรมได้หลายภาษา สามารถ Download เพื่อทดลองใช้งานได้ที่ www.editplus.com

  36. สำหรับเขียนโปรแกรม Java • - BlueJ : เป็นผลิตภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเดนมาร์ก เมื่อเขียนโปรแกรม Editor ชนิดนี้จะทำการสร้าง Class Diagram ของโปรแกรมนั้น ๆ และยังเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์กับ Class หรือโปรแกรมอื่น ๆ อีกด้วย • - NotePad:เป็น Editor ที่มีอยู่ในระบบของ Windows โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่ม แต่มีข้อเสียคือ ไม่สามารถแสดงหมายเลขบรรทัดของคำสั่ง (line of code) ได้ • - NetBeans : ทำให้ง่ายและสามารถลดเวลาในการเขียนโปรแกรม สามารถพัฒนาระบบงานได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับการใช้ Swing และสร้างการโต้ตอบแบบ GUI สามารถ Download โปรแกรมเพื่อติดตั้งใช้งานได้ที่ www.netbeans.org • นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมี Editor อื่น ๆ อีกที่รองรับการเขียนโปรแกรมภาษา Java

  37. มารู้จักซอฟแวร์สำหรับสร้างโปรแกรมภาษามารู้จักซอฟแวร์สำหรับสร้างโปรแกรมภาษา • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ชื่อว่าEditPlus • สามารถสร้างโปรแกรมได้หลายภาษาโดยจะมีสีแยกประเภทของคำในแต่ละภาษาให้ ทำให้สะดวกต่อการอ่านโปรแกรม • ให้ทำการสร้างconfig เพื่อให้โปรแกรมเราสามารถคอมไพล์ไฟล์โปรแกรมจาวาและรันไฟล์โปรแกรมจาวาได้

  38. ไฟล์สำคัญของจาวาที่ต้องใช้ไฟล์สำคัญของจาวาที่ต้องใช้ • จากโฟล์เดอร์C:\Program Files\Java\jdk1.6.0_16\bin • Javac.exe สำหรับคอมไพล์จาวา • Java.exe สำหรับรันโปรแกรมจาวา • Appletviewer.exe สำหรับดู applet

  39. สร้าง config ใน EditPlus กันก่อนนะคะ • เลือก font ที่สามารถใช้ภาษาไทยได้

  40. สร้าง config ใน EditPlus กันก่อนนะคะ • ทำการสร้างconfigเพื่อให้โปรแกรมEditPlusสามารถคอมไพล์และรันโปรแกรมภาษาจาวาได้

  41. การกำหนด Config User Tool • Java Compile  C:\Program Files\Java\jdk1.6.0_16\bin\Javac.exe • Java RUN  C:\Program Files\Java\jdk1.6.0_16\bin\Java.exe

  42. สร้าง config ใน EditPlus กันก่อน คลิกadd tool/Program แล้วเติมข้อความดังในภาพด้านล่างทั้งสอง

  43. สร้างconfigในEditPlusกันก่อน (set compiler)

  44. สร้างconfigในEditPlusกันก่อน(set interpreter) เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่ม OK เพื่อทำการบันทึกคำสั่งที่เราสร้างขึ้นให้ EditPlusรู้จัก

  45. สร้าง config ใน EditPlus กันก่อน คลิกadd tool/Program แล้วเติมข้อความดังในภาพด้านล่างทั้งสอง ซ้าย set compiler ขวา set interpreter

  46. เริ่มใช้โปรแกรม EditPlus • เปิดโปรแกรมEditPlusขึ้นมา • คลิกเมนูFile/Newเลือกjava • ลองพิมพ์ไฟล์ต่อไปนี้แล้วบันทึกในชื่อHelloWorld.java class HelloWorld { public static void main(String[] args) { System.out.println("Hello World! สวัสดี ชาวโลก"); } }

  47. ลองสร้างโปรแกรมแรกกันเถอะลองสร้างโปรแกรมแรกกันเถอะ

  48. compile ด้วยการกด Ctrl + 1

  49. หลังจาก compile เราจะได้ไฟล์ .class(Byte Code)

  50. run ด้วยการกด Ctrl + 2

More Related