1 / 50

เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น

เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น. Introduction to Information technology. รหัสและชื่อวิชา ทส. 1101 เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น Course Code / Name INT 1101 Introduction to Information technology. หน่วยกิต 3 หน่วยกิต. อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ปรมินทร์ เพ็ชรมณี. คำอธิบายรายวิชา

Télécharger la présentation

เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น Introduction to Information technology

  2. รหัสและชื่อวิชาทส. 1101 เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น Course Code / Name INT 1101 Introduction to Information technology หน่วยกิต 3 หน่วยกิต อาจารย์ผู้สอนอาจารย์ปรมินทร์ เพ็ชรมณี คำอธิบายรายวิชา Course Description หมายถึงการนำเทคโนโลยีนำมาใช้งานที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ได้มาเป็นสารสนเทศ ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อช่วยในการติดต่อสื่อสาร และการส่งผ่านข้อมูลและสารสนเทศให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

  3. OBJECTIVE 1. เพื่อศึกษาหลักการพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น 2. เพื่อศึกษากระบวนการของสารสนเทศต่าง ๆ 3. เพื่อศึกษาและการประยุกต์การนำสารสนเทศใช้งานจริง ๆ

  4. การวัดผลการเรียน การวัดผลการเรียน Assignment + Project + Quiz 20 คะแนน Evaluation สอบกลางภาค 20 คะแนน สอบปลายภาค 60คะแนน รวม 100 คะแนน

  5. วิธีการสอน Teaching Methodการสอนภาคทฤษฎี และใช้โปรแกรมนำเสนอภาพนิ่งประกอบคำบรรยาย ห้องเรียน 6203 วัน – เวลาสอน- ห้องเรียนS.1 วันอังคารเวลา 09.00 – 12.00 น. ห้อง 6203 Day-Time-Room(Teaching) วัน – เวลาสอบ Day-Time Examination (กลางภาค) วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30 - 11.30 น. (Midterm) (ปลายภาค) วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2551 เวลา 08.30 - 11.30น. (Final)

  6. หัวข้อบรรยาย (TOPICS) ครั้งที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (Introduction To Computer) ครั้งที่ 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ (Introduction to Information Technology) ***ครั้งที่ 3*** ฮาร์แวร์คอมพิวเตอร์ (Hardware Computer) ครั้งที่ 4 ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ (Software Computer) ครั้งที่ 5 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network and Communication) ***ครั้งที่ 6*** การจัดเก็บข้อมูลลงไฟล์และฐานข้อมูล (Storage Data In File And Database) ครั้งที่ 7 อินเทอร์เน็ตและระบบสารสนเทศองค์กร (Internet And Information System)

  7. หัวข้อบรรยาย (TOPICS) ครั้งที่ 8 ระบบจำนวนและการแทนค่าข้อมูลในคอมพิวเตอร์ (Number System and Sign Representation ) ***ครั้งที่ 9*** ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Virus Computer) ครั้งที่ 10 การพัฒนาระบบสารสนเทศ (Development Information System) ครั้งที่ 11 อัลกอรึทึมและการแก้ปัญหาโจทย์ทางคอมพิวเตอร์ ***ครั้วที่ 12*** การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหาร และการ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Implementation Information Technology and for Management and E-Commerce) ครั้งที่ 13 ความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ (Computer Security) ครั้งที่ 14 บุคลากรและจริยธรรม (People ware Ethics)

  8. วัน – เวลาสอบ Day-Time Examination (กลางภาค)วันจันทร์ที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 08.30 – 11.30 น. (Midterm) (ปลายภาค) วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2551 เวลา 08.30 – 11.30 น. (Final) หนังสือและเอกสารประกอบการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ทส.1101 โดย อาจารย์ปรมินทร์ เพ็ชรมณี 2.คัมภีร์ระบบสารสารสนเทศ (Information System) โดย กิตติ ภักดีวัฒนกุล 3.หนังสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น 4.คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่อุษณีย์ ภักดีตระกูลวงศ์

  9. CHARPTER 1 เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น Information Technology

  10. สาระการเรียนรู้ 1.ความหมายของคอมพิวเตอร์ 2.วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ 3.ยุคของคอมพิวเตอร์ 4.ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์ 5.ความสามารถของคอมพิวเตอร์ 6.รูปแบบการประมวลผลของคอมพิวเตอร์

  11. คอมพิวเตอร์คืออะไร คือ อุปกรณ์ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถรับข้อมูลและชุดคำสั่ง (Program) ในรูปแบบแบบที่เครื่องรับได้ แล้วนำมาประมวลผล (Process) ข้อมูลตามชุดคำสั่งเพื่อแก้ปัญหา หรือ ทำการคำนวณที่สลับซับซ้อนจนได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และยังสามารถบันทึก หรือแสดงผลลัพธ์เหล่านั้นได้

  12. ยุคของคอมพิวเตอร์ ยุคของคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็น 4 ยุค ได้แก่ • ยุคที่ 1 (ค.ศ.1945-1955) เป็นยุคคอมพิวเตอร์พื้นฐาน ที่เป็นหลอดสุญญากาศ ในหลอดสูญญากาศ ประกอบด้วย 18,000 หลอด สามารถ บวกเลขได้ 5,000 ครั้ง แต่ยังมีขนาดใหญ่มาก • ยุคที่ 2 (ค.ศ.1955-1964) เป็นยุคคอมพิวเตอร์ที่นำทรานซิสเตอร์ ช่วยคอมพิวเตอร์สามารถคำนวณน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ราคาสูงส่วนใหญ่ ตามหน่วยงานราชการ , มหาวิทยาลัย เริ่มพัฒนาภาษาใช้งาน ได้แก่ FORTRAN , COBOL ลักษณะการทำงานเป็น Batch Processing

  13. วิวัฒนาการของเครื่องคอมพิวเตอร์ • เริ่มแรก การนับนิ้ว การใช้เศษไม้และก้อนหิน ลูกคิด • ในปี ค.ศ. 1671 3 นักวิจัย John Napier สร้างเครื่องคิดเลขที่ชื่อว่า “Napier’s Bones” Henry Briggs คิดค้นแบบคำนวณตารางลอการิทึม Edmund Gunter ได้นำค่าลอการิทึมของ Briggs มาแกะลงไม้ บรรทัด

  14. ในปี ค.ศ. 1792 - 1871 Charles Babbage“ อนาไลติคัล เอ็นจิน ” ซึ่งมีเครื่องคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันคือมีหน่วยรับส่งข้อมูล , หน่วยควบคุม , หน่วยความจำ โดยจะใช้บัตรเจาะรูเป็นส่วนในการรับและแสดงผล

  15. ยุคที่ 3 (ค.ศ.1965-1980) เริ่มมีการคิดค้นผลิต IC (Integrated Circuit) ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง และมีการพัฒนาภาษาขั้นสูง เช่น เช่น BASIC , PASCAL , FORTRAN ) แต่มีข้อจำกัดทางด้าน มัลติโปรแกรมแกนมิ่ง (Multiprogramming) และ มัลติโปรเซสซิ่ง (Multiprocessing) แต่ก็เริ่มมีระบบเรียลไทม์ (Real-time System) การแชร์เวลา (TimeSharing) และระบบปฏิบัติการแบบ Vistual Storage Single-Mode) ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็น Unix

  16. ยุคที่ 4 (ค.ศ.1972 – 1984) เป็นยุคคอมพิวเตอร์ที่ทำงานได้แบบทั้งมีซับซ้อนสูงและมีการประมวล ผลสูง ลักษณะคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 4 สามารถ • ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microcessor) • หน่วยประมวลผลกลาง CPU (Central Processing Unit : CPU) ประกอบด้วย รีจิสเตอร์ (Register) หน่วยควบคุม (Control Unit) หน่วยคำนวณทางคณิตศาสตร์และตรรกะ (ALU : Arithmetic and Logical Unit) • คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

  17. ยุคที่ 5 (ค.ศ.1984 – 1990) เป็นยุคคอมพิวเตอร์ที่ทำงานได้แบบทั้งมีซับซ้อนสูงและมีการประมวล ผลสูง ลักษณะคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 4 แต่พัฒนาความสามารถในด้านการโต้ตอบ กับผู้ใช้ (GUI:Graphic User Interface) ในดูง่ายมากขึ้น มีการติดตั้งระบบต่าง ๆ • เครือข่ายอินทราเน็ต (Intranet) • อินเตอร์เน็ต (Internet) • เครือข่ายระยะใกล้ (LAN:Local Area Network) • เครือข่ายระยะไกล (WAN:Wide Area Network) • ผลิตคอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊ค (Notebook) • สามารถพัฒนาโปรแกรมเชิงภาษาวัตถุ (Object Oriented Programming)

  18. ยุคปัจจุบัน (ค.ศ.1990 – อนาคต) เป็นยุคของเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้นซึ่งคอมพิวเตอร์ในยุคนี้สามารถสามารถเรียนแบบความคิดของมนุษย์ ซึ่งนำ ไปสู่ในยุคของคอมพิวเตอร์คิดเองได้ 1.ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent : AI) 2.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System :: DSS) 3.ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System :ES) 4.การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing : NLP) 5.โครงข่ายใยประสาทเสมือน (Artificial Neural) 6.ตรรกะคลุมเครือ (Fuzzy Logic)

  19. ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่ง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานด้านต่าง แบ่งเป็น 7 ประเภทดังนี้ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีการประมวลมากถึง 100 ล้านคำสั่งต่อวินาที

  20. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจาก SuperComputer มี ความเร็วในการประมวลผลสูงสามารถทำงานในลักษณะ Muti-User

  21. มินิคอมพิวเตอร์ (MINI Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดอยู่ระหว่างเมนเฟรมกับไมโครคอมพิวเตอร์ แต่ความเร็วในการประมวลผลน้อยกว่าเครื่อง เมนเฟรมและทำงานช้ากว่า มินิคอมพิวเตอร์เหมาะกับงานที่ข้อมูลเป็นจำนวนมาก ๆ และการรองรับ การใช้งานได้ หลาย USER

  22. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer : PC) เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน ได้แก่ เครื่อง IBM ตระกูล 486 เป็นต้นมาปัจจุบันเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Pentium , AMD ,Celeron , Dual Call CPU เป็นต้น

  23. คอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊ค (ComputerNotebook) ลักษณะการทำงานคล้ายกับ Personal Computer แต่จุดเด่นของโน็ตบุ๊ค คือ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ลักษณะของโน็ตบุ๊ค คือคีย์บอร์ดและเมาส์จะติดอยู่ที่ตัว คอมพิวเตอร์

  24. คอมพิวเตอร์ แทปเลท (Tablet Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะของคอมพิวเตอร์คล้ายกับ NoteBook มีขนาด เล็กกว่า น้ำหนักเบาแต่คุณสมบัติที่แตกต่างของแทปเลทคือการป้อนข้อมูลสามารถ ป้อนข้อมูลทางจอภาพได้โดยใช้ปากกาเขียนลงไปและมีโปรแกรมช่วงแปลงอักษร ให้เหมือนกับการพิมพ์ทางคีย์บอร์ด

  25. คอมพิวเตอร์ ขนาดพกพา (Tablet Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะของคอมพิวเตอร์คล้ายกับ NoteBook มีขนาด เล็กกว่า NoteBook มีขนาดเท่าฝ่ามือ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้สำหรับงาน เช่น ตารางเวลา ปฏิทินนัดหมาย สมุดโทรศัพท์ เป็นต้น

  26. ความสามารถของคอมพิวเตอร์ความสามารถของคอมพิวเตอร์ • ด้านความเร็วในการประมวลผลข้อมูล (Speed) • ด้านความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy) • ด้านความน่าเชื่อถือ (Rellability) • ด้านการเก็บข้อมูล (Storage) • ด้านการย้ายข้อมูล (Move Information) • ด้านการสื่อสาร (Communication) • ด้านการทำงานหลายอย่าง ๆ เป็นต้น

  27. ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือ ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessor) หน่วยความจำหลัก (Memory) หน่วยระบบ ย้อนกลับ

  28. อุปกรณ์รับเข้า/ส่งออกอุปกรณ์รับเข้า/ส่งออก • อุปกรณ์รับเข้าที่นิยม ได้แก่ • คีย์บอร์ด • เมาส์ • อุปกรณ์ส่งออกที่นิยม ได้แก่ • จอภาพ • เครื่องพิมพ์ ย้อนกลับ

  29. หน่วยความจำสำรอง • ปิดเครื่องแล้วยังสามารถเก็บข้อมูลและโปรแกรมไว้ได้ • ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ • ฟล็อปปี้ดิสก์ • ฮาร์ดดิสก์ • ออปติคัลดิสก์ (จานแสง) ย้อนกลับ

  30. อุปกรณ์สื่อสาร • ช่วยให้ไมโครคอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารถึงกันได้ • “โมเด็ม” เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่นิยมใช้ • ทำหน้าที่แปลงสัญญาณจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้สามารถผ่านทางสายโทรศัพท์ได้ • ในขณะเดียวกันก็สามารถแปลงสัญญาณจากสายโทรศัพท์ให้เป็นสัญญาณที่เครื่องสามารถประมวลผลได้ ย้อนกลับ

  31. รูปแบบการประมวลผลของคอมพิวเตอร์รูปแบบการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ • การประมวลผลส่วนบุคคล (Personal Computer) • การประมวลผลแบบรวมศูนย์ (Centralized Computing) • การประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Computing)

  32. การประมวลผลส่วนบุคคล (Personal Computer) เป็นการประมวลกับกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยตรง ซึ่งช่วย ในด้านการจัดเก็บข้อมูลลงสู่คอมพิวเตอร์ ,ช่วยให้ปฏิบัติงานให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

  33. การประมวลผลแบบรวมศูนย์ (Centralized Computing) เป็นการประมวลโดยนำข้อมูลจากเครื่องปลายทางมารวมศูนย์กลางเครื่อง Server แล้วค่อยทำการประมวลผลแล้วส่งกับไปยังเครื่อง Teminal อีกครั้ง

  34. TERMINAL TERMINAL SERVER TERMINAL TERMINAL

  35. การประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Computing) เป็นการประมวลโดยสามารถแชร์ข้อมูลที่อยู่รวมกัน , สามารถแบ่งทรัพยากร รวมกันได้โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานแบบ Client-Server

  36. SERVER SERVER

  37. การเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ตแบบ Web - Server INTERNET ISP

  38. CHARPTER 2 เทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น (Information Technology)

  39. นิยามคำจำกัดความของคำว่า IT สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการเก็บรวบรวมและเรียบเรียงเพื่อใช้เป็น แหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เช่น การนำเสนอยอดขายรายเดือนต่อผู้บริหาร เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง การนำความรู้ทางด้านวิทยศาสตร์หรือความรู้แขนงอื่น ๆ ที่ได้ จัดระเบียบไว้แล้วนำมาประยุกต์ใช้งานด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ

  40. สาระการเรียนรู้ • คำจำกัดความของคำว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Technology) , สารสนเทศ (Information) • วิธีการกระบวนการเปลี่ยนแปลงข้อมูลกลายเป็นระบบสารสนเทศ • เพื่อให้เข้าใจถึงคำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ • องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ • ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

  41. กระบวนการเปลี่ยนแปลงจากข้อมูลกลายเป็นระบบสารสนเทศกระบวนการเปลี่ยนแปลงจากข้อมูลกลายเป็นระบบสารสนเทศ การประมวลผล (Processing) ข้อมูล (DATA) สารสนเทศ (Information) • ตัวเลข • ตัวอักษร • รูปภาพ • รูปถ่าย

  42. เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หมายถึง การนำมาใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลเพื่อให้ ได้เป็นสารสนเทศ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ กับเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารและการส่งผ่านข้อมูลและสารสนเทศ ให้สะดวกรวกเร็วมากยิ่งขึ้น

  43. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนประกอบด้วยกันทั้งหมด 5 ส่วนได้แก่ • ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือ อุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ • ซอฟต์แวร์ (Software) ได้แก่ OS , Application Software , Utility Software , อื่น • เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการติดต่อสื่อสาร คือ ระบบ เครือข่าย (Computer Network and Communication) • ข้อมูลและฐานข้อมูล (Data and Database) ได้แก่ ฐานข้อมูลประวัตินักศึกษา

  44. บุคลากร (People) ซอฟต์แวร์ (Software) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) 4. ระเบียบปฏิบัติการ (Procedure) 5. ข้อมูล (Data) องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ

  45. บุคลากร • เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด • เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ • โดยตรง • โดยอ้อม • คอมพิวเตอร์ใช้ในงาน • ธุรกิจ&บันเทิง • การศึกษา&การแพทย์

  46. อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ IT

  47. อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ IT

  48. ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน 1.ช่วยเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการทำงาน คือ สามารถให้องค์กรทำงานร่วมกันได้ 2.ช่วยจัดระบบสารสนเทศที่มีอยู่อย่างมากมายให้เป็นระเบียบ คือ สะดวกรวดเร็ว,ง่ายกับการจัดเก็บ การค้นหาข้อมูล 3.ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่น อินเตอร์เน็ต , อินทราเน็ต 4.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเป็นอัตโนมัติ เช่น การโอน,ถอน,ฝากเงิน ผ่าน ATM , การสั่งซื้อสินค้าออนไลด์ , RFID 5.เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการกระจายโอกาสการเรียนรู้ เช่น E-Learning , การรักษาพยาบาล ผ่านเครือข่ายการสื่อสาร , 6.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสารสนเทศ เช่น การคำนวณที่ยุ่งยากซับซ้อน , Just-In-Time 7.ช่วยลดจำนวนบุคลากรในการประมวลผลและผลิตสารสนเทศ 8.ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เช่น ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้แก่ระบบกระทรวงมหาดไทย

  49. สรุปท้ายบทที่1-2 จากเนื้อหา ในบทนี้จะกล่าวถึงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นอย่างไรและศึกษาเกี่ยวกับ ความหมายของคอมพิวเตอร์, วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์,ยุคแต่ละยุคของเครื่องคอมพิวเตอร์,ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ,ความสามารถของคอมพิวเตอร์ , รูปแบบการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์

More Related