Chikungunya

1. Chikungunya

2. By… 1.นางสาวฟาตีฮะ อูมา เลขที่ 107 2.นางสาวฟาตีฮา สือนิ เลขที่ 108 3.นายปริญญา ยอดอาษา เลขที่ 109 4.นางสาวฟารินดา ดอเสาะ เลขที่ 110 5.นางสาวฟาริสา หมะ เลขที่ 111 6.นายปัฐพล นามวงศ์ เลขที่ 112 7.นายฟิกรี สาและ เลขที่ 113 8.นางสาวภาวิณี เข็มเพชร เลขที่ 114 นักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 4 ห้อง ก กลุ่มที่ 1

4. ข้อมูลทั่วไป ผู้ป่วย ชายไทย อายุ24 ปี HN 5203104ระดับการศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น อาชีพ ทำสวนCHIEF COMPLAINT ไข้ ผื่นขึ้นตามตัว 1 วันก่อนมาโรงพยาบาล

5. PRESENT ILLNESS 3 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ตาแดงและปวดกระบอกตาทั้ง 2 ข้าง ปวดศีรษะ ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้านได้รับยามารับประทาน อาการไม่ดีขึ้น

6. 1 วันก่อนมาโรงพยาบาล ไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ตาแดง มีผื่นขึ้นตามตัว จึงมาโรงพยาบาล

7. PAST HISTORY - ปฏิเสธโรคประจำตัว, ปฏิเสธการแพ้ยา อาหาร- ปฏิเสธการได้รับอุบัติเหตุ- ดื่มสุรานานๆครั้ง (ไม่ทราบระยะเวลา) สูบบุหรี่วันละครึ่งซอง (ไม่ทราบระยะเวลา)

8. ประวัติการเจ็บป่วยของเพื่อนบ้าน ที่เกี่ยวข้องกับโรค มีลูกพี่ลูกน้องเคยป่วยเป็นโรคที่มีอาการคล้ายคลึงกันแต่ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร และมีประวัติโดนยุงกัดมาประมาณ 2 สัปดาห์และตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องหายเจ็บป่วยด้วยโรคที่กล่าวมาแล้ว

9. พฤติกรรมสุขภาพ การรับประทานอาหาร : รับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ มีการรับประทานอาหารว่างระหว่างมื้อบางวันเป็นของหวาน บางวันเป็นผลไม้ ผู้ป่วยล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหารทุกครั้งการออกกำลังกาย : เล่นฟุตบอลทุกวัน (หยุดเฉพาะวันที่ฝนตก) วันไหนที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลก็จะวิ่งรอบๆบ้าน

10. การพักผ่อน: พักผ่อนวันละ 6 ชั่วโมง นอนกลางมุ้งทุกคืน แต่เวลาที่พักผ่อนเวลากลางวันก็จะไม่ได้กลางมุ้ง การขับถ่าย : ถ่ายอุจจาระวันละ 1 ครั้ง ปัสสาวะวันละ 4-5 ครั้ง ไม่มีปัสสาวะแสบขัดการใช้สารเสพติด : ดื่มสุราเป็นบางครั้งเมื่อมีการสังสรรค์กับเพื่อนๆ และสูบบุหรี่วันละ ครึ่งซอง

11. Physical examinations. Vital singแรกรับ: T = 38 o C P = 104 /min R = 22 /min BP = 130/70 mmHgGeneral appearance :Thai male, , look well, thin, Normal growth and development.Skin :Normal color for race, smooth texture, warm to touch, good skin turgor, moisture. Maculopapular rash,no edema, no cyanosis, and no jaundice, no lesion, tourniquet test negative

12. Head and face :symmetry, normal shape, no mass and lesion.Hair/Scalp :Black color, normal distribution, no white streak, Scalp dry, no lesion.Ears :External ears no mass, no lesion, both ears canal normal, no abrasion or inflammation, normal hearing.Eyes :Normal eyes contour, conjunctiva injection, Sclera no jaundice, pupils round 3 mm. reaction to light both eyes, no cataract.

13. Nose :External configuration normal, mucous membrane pink, Turbinate not enlarged, not discharge, septum not deviated, no discharge.Mouth :lip not pale, no cyanosis, Uvula in midline, soft palate and hard palate no lesion, tonsils not enlarged, pharynx not injected.Lymph nodes:no tender, other not enlarge.Neck :No stiffness of neck, Trachea in midline, moving on swallowing trachea normal, not enlarged, no engorgement of neck vein.

14. Breast :Symmetrical breast size, no discharge or massChest, Thorax and Lungs :Normal chest contour, lung good expansion, equally, no retraction, normal breath sound, lung clear, no crepitation , no rhonchi, no wheezing, no kyphosis, lordosis and scoliosis lumbar.Heart :No active pre-cordial, no bulging, no thrill, no heaving, H.R. 104/min, normal rhythm, no murmur..

15. Abdomen :Normal abdominal contour, no superficial vein dilatation, no surgical scar, liver and spleen can’t be palpable no abdominal mass, Bowel sound +ve 8/min, no tenderness and rebound tenderness, no guarding and rigidity, no fluid thrill Neurologic :Mental status :Good consciousness.Motor system :normal tone, motor power grade 5, equally, normal gait and posture. No fibrillation,no fasciculation, no atrophy.

16. Sensory system :No sensation impairment, intact in all area.Deep tendon reflex :biceps, triceps, supinator, knee, ankle +2 allExtremitise :No deformity Genitalia : not doneRectal :not done

17. ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ Lab CBC วันที่ 10 กันยายน 2553

19. แปลผลการตรวจ WBC = 6,840 K/uL, Plt=230,000K/UL, HCt =30.7 pg ไม่พบความผิดปกติของผล LabWBC Hct และ Plt ปกติ ซึ่งในโรคชิกุนคุนยา พบเกล็ดเลือดปกติ ซึ่งสามารถแยกจากไข้เดงกีได้ ในDF/DHFจะพบ Plt ต่ำ แต่ถ้าเป็นไข้เลือดออกตรวจพบว่าค่า Hct จะเพิ่มมากกว่าปกติเนื่องจากเกิดจากการรั่วของพลาสมาจึงทำให้เลือดเข้มข้นกว่าปกติ แต่ WBC จะต่ำกว่าปกติเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งจะพบว่าไม่สามารถที่จะแยกได้ว่าเป็นโรคDF/DHF หรือ Chikungunya ออกจากกันได้ เพราะ ทั้ง 2 โรคเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเหมือนกัน

20. Neutrophil = 80.4 % เนื่องจาก case อยู่ในสภาวะเป็นไข้ ปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัว อาจจะส่งผลให้ค่า Ne สูงขึ้นได้ และ Case รับประทานอาหารได้น้อย ทำให้การเผาผลาญอาหารบกพร่องก็ส่งผลให้ ค่า Ne สูงขึ้นได้ เนื่องจากร่างกายมีการติดเชื้อ Neutrophilทำหน้าที่ได้ลดลง จึงทำให้มีค่าเพิ่มสูงขึ้น

21. Lymphocyte = 9.1 % เนื่องจาก Case อยู่ในภาวะเป็นไข้ซึ่งติดมาจากเชื้อไวรัส แล้วทำให้ผู้ป่วยเกิดความวิตกกังวลส่งผลให้ Lymphocyte สูงขึ้น เนื่องจากทำหน้าที่ได้ลดลงเนื่องจากร่างกายมีการติดเชื้อร่วมกับมีการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ เพราะถูกสร้างมาจากไขกระดูกในเมื่อกระดูกได้รับการกระทบกระเทือน การอักเสบ ทำให้สร้าง Lymphocyte ได้ลดลง

22. 4. อภิปรายแผนภูมิการวินิจฉัยแยกโรคและข้อมูลสนับสนุน (ใน word)

23. 5. ตารางเปรียบเทียบการวินิจฉัยแยกโรคและข้อมูลสนับสนุนทางทฤษฎีกับของผู้ป่วย 1.โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya)วิเคราะห์ Case : ในcaseมาด้วยอาการ ไข้สูง ปวดศีรษะเป็นบางครั้ง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดข้อ มีผื่นขึ้นตามตัว ตาแดง ปวดกระบอกตาทั้ง ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ 2 ข้าง ผลการตรวจTT = Negativeและผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการ พบ WBC=6,800 cell, Hct= 45.5% และPLT=230,000

24. จากข้อมูลที่ได้จากการตรวจร่างกาย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการและจากการให้ข้อมูลของ case เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับทฤษฏี พบว่ามีอาการใกล้เคียงกับโรคชิคุนกุนยามากที่สุด จึงคิดว่า Case นี้น่าจะเป็น Chikungunya

25. 2.โรคไข้เลือดออก (Dengue Fever)วิเคราะห์ Case :ในcaseมาด้วยอาการ ไข้สูง อุณหภูมิ 38.8 องศาเซลเซียล ปวดศีรษะเป็นบางครั้ง อ่อนเพลียเล็กน้อย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดข้อ มีผื่นขึ้นตามตัว

26. ไม่พบจุดเลือดออกตามร่างกายตาแดงทั้ง 2 ข้าง ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ผลการตรวจร่างกาย ไม่พบ คอแดง คออักเสบ และผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการ พบ WBC=6,800 cell, Hct= 45.5% และPLT=230,000

27. จากข้อมูลที่ได้จากการตรวจร่างกาย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการและจากการให้ข้อมูลของ case เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับทฤษฏี พบว่า Case นี้ มีข้อมูลไม่เด่นชัด

28. และมีข้อมูลคัดค้านคือ ผู้ป่วย มีอุณหภูมิเท่ากับ 38.8 องศาเซลเซียล ไม่มีอาการ เบื่ออาหาร ไม่อาเจียน ไม่ปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี้และไม่พบอาการเจ็บชายโครงขวา

29. 3. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) วิเคราะห์ Case :ในcaseมาด้วยอาการ ไข้สูง อุณหภูมิ 38.8 องศาเซลเซียล ปวดศีรษะเป็นบางครั้ง อ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ไม่เฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีผื่นขึ้นตามตัว

30. ตาแดงทั้ง 2 ข้าง ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก ผลการตรวจร่างกาย ไม่พบ คอแดง คออักเสบ และผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการ พบ WBC=6,800 cell, Hct= 45.5% และPLT=230,000

31. จากข้อมูลที่ได้จากการตรวจร่างกาย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการและจากการให้ข้อมูลของ case เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับทฤษฏี พบว่า Case นี้ มีข้อมูลไม่เด่นชัด และมีข้อมูลคัดค้านคือ ผู้ป่วยมาด้วยอาการปวดข้อ ปวดกระบอกตา ร่วมด้วย

32. 6. สรุปการวินิจฉัยโรคชองพยาบาล/แพทย์ และสรุปการวินิจฉัยโรคของนักศึกษาพร้อมเหตุผล แพทย์วินิจฉัยโรค :R/O Chikungunya การวินิจฉัยโรคของนักศึกษา :Chikungunyaเนื่องจากผู้ป่วยมาด้วยอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ปวดศีรษะเป็นบางครั้ง ปวดกระบอกตา มีผื่นขึ้นตามตัว ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ตาแดง ผลการทดสอบ Tourniquet test negative

33. และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ WBC = 6,840 cells , Hct. = 45.4% , PLT = 230,000 cells ซึ่งไม่พบความผิดปกติ V/S แรกรับ BT = 38.8 oC PR = 104 / min RR = 22 / min BP = 130/70 mmHg.

34. 7. ตารางเปรียบเทียบแผนการรักษาพยาบาลเบื้องต้นและเหตุผลของพยาบาล/แพทย์กับของนักศึกษา (ใน Word)

35. 8. คำแนะนำเฉพาะโรค 1.แนะนำให้พักผ่อนมากๆและดื่มน้ำมากๆ เพื่อสามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายและทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนจะทำให้ร่างกายฝืนกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น

36. 2.แนะนำให้เช็ดตัวลดไข้ร่วมกับการรับประทานยาลดไข้ เนื่องจากถ้ารับประทานยาเพียงอย่างเดียวจะไม่ช่วยทำให้ไข้ลดลงได้ จำเป็นต้องเช็ดตัวลดไข้ร่วมด้วยและทำให้เกิดความสดชื่นเพิ่มขึ้นด้วย

37. 3.แนะนำไม่ให้รับประทานยาแก้ปวด ลดไข้ ชนิดอื่น เช่น แอสไพริน จะทำให้เกิดเลือดออกง่ายหยุดยาก

38. 4.แนะนำให้สังเกตอาการผิดปกติของตนเอง เช่น มีเลือดออกตามร่างกาย ได้แก่ มีจุดจ้ำเลือดออกตามผิวหนัง เลือดออกตามไรฟัน อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระสีดำซึ่งอาจเกิดจากการมีเลือดออกภายในอวัยวะภายในของร่างกาย อาการไม่ดีขึ้นให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที

39. 5.แนะนำให้ดูแลตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด โดยการหลีกเลี่ยงเข้าไปในแหล่งที่มียุงชุกชุม นอนกางมุ้ง หรือ ทายากันยุง เพื่อป้องกันยุงกัดและกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง เช่น คว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง หากมีแจกันดอกไม้ให้หมั่นเปลี่ยนน้ำบ่อยๆเพื่อป้องกันการเพาะพันธ์ยุงของลูกน้ำยุงลาย เป็นต้น

40. 6.แนะนำให้กลับมาพบแพทย์ตามที่แพทย์นัด เพื่อสามารถที่จะรักษาและการวินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง

41. 9.การพยากรณ์โรค ผู้ที่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน อาจมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ เนื่องจาก เชื้อมันมีหลายเผ่าพันธุ์ และการเป็นโรคนี้อาจเกิดการแพร่เชื้อกระจายไปยังผู้อื่นได้ โดยมียุงเป็นพาหะ ซึ่งอาจเกิดการระบาดไปทั่วพื้นที่ได้

42. จึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองไม่ให้ถูกยุงกัดและกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง เพื่อป้องกันการระบาดของโรค

43. Thank you.