1 / 27

ที่มาและความสำคัญ

การพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อ สนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี. ที่มาและความสำคัญ.

kort
Télécharger la présentation

ที่มาและความสำคัญ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี

  2. ที่มาและความสำคัญ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานในกำกับของมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2546 ตามมติสภามหาวิทยาลัยฯ ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2546 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2546 เริ่มเปิดการเรียนการสอนครั้งแรกในระดับบัณฑิตศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการความรู้ ในภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2547 ซึ่งต่อมาในปีการศึกษา 2549 วิทยาลัยได้เปิดการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และระดับปริญญาตรี รวม 3 หลักสูตร คือ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (หลักสูตรนานาชาติ) สาขาวิชาแอนนิเมชัน และหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสมัยใหม่และเทคโนโลยี (ภาคปกติ และภาคพิเศษ) และในปีการศึกษา 2552 ได้เปิดการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษา เพิ่มอีก 1 หลักสูตร คือ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการความรู้

  3. เริ่มเข้ารับการตรวจรับการประเมินประกันคุณภาพการศึกษา ตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 จนถึงปีการศึกษา 2553 โดยเกณฑ์การตรวจสอบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน มหาวิทยาลัยฯ ได้กำหนดเกณฑ์การประเมินตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยมี 9 องค์ประกอบ ดังนี้ 1. ปรัชญา ปณิธาน วัตถุประสงค์ และแผนการดำเนินงาน 2. การผลิตบัณฑิต 3. กิจกรรมพัฒนานิสิตนักศึกษา 4. การวิจัย 5. การบริการวิชาการแก่สังคม 6. การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม 7. การบริหารจัดการ 8. การเงินและงบประมาณ 9. ระบบและกลไกการประกันคุณภาพการศึกษา

  4. จากการเข้ารับการตรวจรับการประกันคุณภาพการศึกษาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการในจัดการระบบสารสนเทศ ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ อยู่หลายระบบ ดังนี้ • ระบบสารสนเทศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU MIS) อยู่ในรูปแบบการจัดเก็บ • ประวัติ ต่างๆ เช่น การพัฒนา การบริการวิชาการ การกรอกภาระงาน (TOR:JA) • การลา ฯลฯ • ระบบ Dss : Decision Support System for CAMT Executive อยู่ในรูปแบบของ • การรายงานสถิติการพัฒนาและการมาปฏิบัติงาน • จัดเก็บไว้ในรูปแบบ File ข้อมูล เช่น แผนพัฒนาบุคลากร แผนการจ้างบุคลากร • ข้อมูลการพัฒนา ข้อมูลการลาศึกษาต่อ ฯลฯ ซึ่งมักจะพบปัญหาบ่อยครั้งในรูปแบบของความต้องการข้อมูลในเชิงการรายงานผลตามรอบระยะเวลาการประกันคุณภาพการศึกษา และยังขาดระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ เพื่อช่วยวางแผนในการบริหารทรัพยากรมนุษย์

  5. เช่น ข้อมูลการวิเคราะห์ FTES, SCCH และพัฒนาบุคลากร เช่น ข้อมูลการวางแผนการลาศึกษาต่อของบุคลากร ข้อมูลการวางแผนการพัฒนาความก้าวหน้าตำแหน่งงานของบุคลากร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญในการผลักดันหลักเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาในองค์ประกอบที่ 2 การผลิตบัณฑิต และผลักดันภาระกิจ ตามแผนต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กำหนด ด้วยเหตุนี้ ผู้ศึกษา จึงมีความต้องการพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี จำนวน 5 ด้าน ดังนี้ • ด้านการวางแผนอัตรากำลัง • ด้านการวางแผนการลาศึกษาต่อ และทุนการศึกษา • ด้านการวางแผนความก้าวหน้าตำแหน่งทางวิชาการ • ด้านการรายงานผลข้อมูลการพัฒนา • ด้านการรายงานผลการมาปฏิบัติงาน

  6. โจทย์วิจัย คำถามหลัก • ระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี แตกต่างกับระบบสารสนเทศเดิมที่มีอยู่แล้วหรือไม่เพียงใด คำถามรอง • การสร้าง และพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารฯ จะช่วยแก้ไขปัญหาในการวางแผน และสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารได้อย่างไร • จะรวบรวม จัดเก็บข้อมูลอะไร

  7. วัตถุประสงค์การวิจัย • เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจของผู้บริหาร ด้านการบริหารทรัพยากร • มนุษย์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี • เพื่อรวบรวมแผนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ รวบรวมข้อมูลการพัฒนา และรวบรวม • ข้อมูลการมาปฏิบัติงาน ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย • มีระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจสำหรับผู้บริหาร (DSS) ด้านการบริหารทรัพยากร • มนุษย์ • มีฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน มีความถูกต้อง ไม่ซ้ำซ้อน และสามารถสืบค้นตามความ • ต้องการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ • ผู้บริหาร สามารถนำข้อมูลมากำหนดเป็นนโยบายในการบริหาร และพัฒนา ทรัพยากร • มนุษย์ ในวิทยาลัยฯ - บุคลากรนำข้อมูลจากระบบเพื่อนำไปใช้ในการจัดทำรายงานการประกันคุณภาพ การศึกษา ต่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

  8. แนวคิด ทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง และการทบทวนวรรณกรรม การวิจัยเรื่อง “การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี” มีแนวคิด ทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง และการทบทวนวรรณกรรม ดังต่อไปนี้ • แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการความรู้ • แนวคิดเกี่ยวกับการสารสนเทศ • แนวคิดเกี่ยวกับระบบการตัดสินใจของผู้บริหาร • แนวคิดเกี่ยวกับวิศวกรรมความรู้ • แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ • มาตรฐาน ISO 12207 และ ISO 15504 • การทบทวนวรรณกรรม (งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง)

  9. วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยในครั้งนี้ใช้ ISO 12207/15504 โดยมี 15 หัวข้อดังต่อไปนี้ ที่นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมจากเดิม 48 กิจกรรม ให้เหลือ 15 กิจกรรมที่สำคัญ และมีการวัดและประเมินผลตามหลักการของ Deming’s CyelePDCAซึ่งได้ ได้แบ่งขั้นตอนที่สำคัญ 3 ขั้นตอน คือ • การสร้างระบบการจัดการความรู้ (Eng1-Eng4) • การกำหนดและจัดกิจกรรมการจัดการความรู้(Man1-Man3) • กิจกรรมสนับสนุนการจัดการความรู้ (Rin1-4,Reu1-3,Sup1)

  10. ENG1 Requirements elicitation • การเก็บความต้องการ (CommonKADS: Scoping, Knowledge Capture, Case Study and Validation Meetings) • ศึกษาข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศ ที่เกี่ยวข้องกับงานบริหารงานบุคคล • ติดต่อ และสอบถามผู้เชี่ยวชาญ จากกองบริหารงานบุคคล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะต่างๆ • ประชุมกำหนดขอบเขตเกี่ยวกับกรอบความต้องการด้านสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร และปัญหาเกี่ยวกับจัดการข้อมูลเดิม ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องกับระบบ เพื่อกำหนดวาระการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ • สัมภาษณ์ และจับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญโดยตั้งวาระวิเคราะห์ และสังเคราะห์ ความรู้ ตามมาตรฐาน CommonKADS (Task-Inference-Domain-Knowledge Base-Ontology) • ตรวจสอบความครบถ้วน โดยนำบทวิเคราะห์ (Transcript) ไปสอบทานความเข้าใจความถูกต้อง สมบรูณ์ ครบถ้วนกับผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหาร • นำผลที่ได้สอบทานกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ไปสร้างแบบจำลองความรู้ตามมาตรฐาน CommonKADS • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  11. ENG2System Requirements • การวิเคราะห์ความต้องการระบบงาน (IEEE830: Business Specification, User Specification) • นำข้อมูลจาก ENG 1 มาวิเคราะห์เพื่อกำหนดคุณสมบัติของระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจที่ต้องการ และข้อกำหนดตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ • เสนอข้อกำหนดประเภทผู้ใช้งาน ระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ DSS ตามโปรแกรม Microsoft SharePoint ได้แก่ Knowledge Worker (Add กับ Edit ได้), Contributor, Designer, Content Manager, Full Control • Knowledge Worker คือ หน่วยบริหารงานบุคคล • User คือ ผู้บริหารทุกระดับ บุคลากรที่รับผิดชอบในสำนักงานเลขานุการวิทยาลัย • KMS Supportคือ หน่วยคอมพิวเตอร์และพัฒนาระบบ • หลังจากจบภาระกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภาระกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  12. ENG3 Software Requirements Analysis • การวิเคราะห์ความต้องการซอฟต์แวร์ (IEEE830: System Specification, Requirement Specification) โดยวิเคราะห์ข้อมูลจาก ENG 1+ENG 2 เพื่อให้ระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเป็นไปตามที่ต้องการ • ออกแบบและเสนอ ข้อกำหนดความต้องการ ด้าน Hardware, Software และ CoP • System Specification • SS-1 Network (CAMT Intranet , Internet) • SS-2 System Software (MS SharePoint 2010) • วิเคราะห์ความต้องการในการใช้งานระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ • Requirement Specification • RS–1 ระบบสารสนเทศด้านการวางแผนอัตรากำลัง • RS-2 ระบบสารสนเทศด้านการวางแผนการลาศึกษาต่อ และทุนการศึกษา • RS-3 ระบบสารสนเทศด้านการวางแผนความก้าวหน้าตำแหน่งทางวิชาการ • RS-4 ระบบสารสนเทศด้านการรายงานผลข้อมูลการพัฒนา • RS-5 ระบบสารสนเทศด้านการรายงานผลการมาปฏิบัติงาน • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  13. ENG4Software Design • การออกแบบซอฟต์แวร์ (IEEE830: Functional Specification, Design Specification) • Process: • กำหนดวิธีลงรหัส (Code) และชื่อมาตรฐาน (Naming Convention) ขององค์ประกอบต่างๆใน MS SharePoint เช่นCoP, Task, Inference, Domain และ Knowledge Base • ออกแบบโครงสร้าง (Program Structure หรือ Architecture) ของ MS SharePoint ตามลำดับ CoP, Task, Inference, Domain และ Knowledge Baseให้มีการเข้าถึงหน้าจอที่จะใช้งาน ให้เร็วที่สุดสะดวกที่สุด (One Click Society) • ออกแบบรูปลักษณ์มาตรฐานของส่วนประกอบต่างๆ ได้แก่ Site, Workspace หรือ List ต่างๆ • Output: Design ข้อกำหนดโครงสร้างและส่วนประกอบต่างๆของ MS SharePoint • Outcome:เวลาที่ใช้ในการออกแบบซอฟต์แวร์ต่อเวลาตามแผน

  14. MAN1Organizational Alignment • การสื่อสารในองค์กร (Strategic Planning, Roll-out-> KM Vision + People / Process / Technology Missions) • ตรวจสอบ รวบรวมวิสัยทัศน์ แนวนโยบาย ภาระ หน้าที่ หรือแผนการดำเนินงานของวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี ว่าหากนำระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจมาใช้จะสอดคล้องหรือสนับสนุนวิสัยทัศน์ หรือนโยบาย หรือแผนการดำเนินงานได้อย่างไร • จัดทำแผนกิจกรรม เพื่อให้บุคลากรทุกคน ได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง เพื่อให้บรรลุถึงวิสัยทัศน์ • จัดสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจและข้อเสนอแนะจากบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  15. MAN2 Organization Management • การจัดการองค์กร (Work Breakdown Structure -> Organization Structure+Jobs (CoP = KM, KE, Experts, Users)) • วิเคราะห์โครงสร้างของวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี (ก่อนมีระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ) และทำการวิเคราะห์ปัญหาจากโครงสร้างเดิม • ออกแบบปรับปรุงโครงสร้าง กำหนดภารกิจหน้าที่ของบุคลากรเพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์ • จัดทำคำสั่งแต่งตั้งผู้มีอำนาจ และมอบหมายกำหนดผู้รับผิดชอบระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  16. MAN3 Project Management • การจัดการโครงการ (Time schedule, Resources (Depletion/Non-Depletion = Resource Calendar, Cashflow + Gantt Chart-> Action Plan) (กิจกรรมทั่วไป 1) ตรวจสอบความรู้ 2) กรอบแนวคิดทางธุรกิจ 3) จับ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ความรู้ 4) สร้างระบบ IT 5) นำ DSS เข้าใช้งานสร้างกิจกรรม 6) ประเมินผล) • จัดประชุมผู้บริหารระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกำหนดเป้าหมายร่วมกัน • แต่งตั้งคณะทำงาน วางแผน ประเมินทรัพยากร เวลา คน อุปกรณ์ สถานที่ งบประมาณ เพื่อบรรลุเป้าหมาย ในกิจกรรม • จัดสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจและข้อเสนอแนะจากบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง • จัดประชุมผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับรองแผนงาน • ขออนุมัติดำเนินโครงการ และทรัพยากรที่ต้องการตามแผนงาน • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  17. RIN1 Human Resource Management • การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Organization Analysis -> Functions-> Jobs -> Manpower) • ทำการศึกษา วิเคราะห์ว่า ควรมีตำแหน่งใดบ้าง คุณสมบัติตามตำแหน่งงาน ได้แก่ ขอบเขตความรับผิดชอบ การทำงานสำคัญ ความรู้ ทักษะ และทัศนคติ ของบุคลากรในตำแหน่งงานต่างๆ • วิเคราะห์โครงการสร้างใหม่ขององค์กรที่สนับสนุนการจัดการความรู้ให้ประสบแผนกำลังคน 5 ปีพร้อมระบุ User Specification เพื่อรองรับระบบสารสนเทศ ให้ประสบความสำเร็จ • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  18. RIN2 Training • การฝึกอบรม(Duties+Tasks->Knowledge+skill+attitude-> Gap Analysis -> training needs) • ทำการศึกษา วิเคราะห์ ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ของผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ปฎิบัติ รวมทั้งวิธีการในการจัดฝึกอบรม หรือขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานภายนอกที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญด้านการจัดฝึกอบรม เช่น มีวิธีฝึกอบรมโดยวิธีใดบ้าง ต้องใช้ระยะเวลาใด หลักสูตรต้องมีเนื้อหาใดบ้าง งบประมาณได้มาจากที่ใด • จัดทำข้อเสนอ นำข้อมูลที่ได้ในข้อ 1) มาเป็นฐานข้อมูลเบื้องต้น เป็นแนวทางในการกำหนดและจัดทำแผนหลักสูตรการฝึกอบรม • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  19. RIN3 Knowledge Management • การจัดการความรู้ (Portal Software for KMS Project-> Domain Repository + Portal) • จัดเก็บเอกสาร ตรวจสอบเอกสารเดิม ตรวจสอบในระบบ KMS และแหล่งข้อมูลต่างๆที่ใช้ในการออกแบบ ติดตั้ง ระบบสารสนเทศ ตามลิ้นชักความรู้ TaskTaxonomy: QA1, ENG1, ENG2, ENG3, ENG4, MAN1, MAN2, MAN3, RIN1, RIN2, RIN3, RIN4, REU1, REU2, REU3 โดยทำการแยกประเภทเอกสารให้เป็นหมวดหมู่ ว่าเป็นเอกสารประเภทใด และจะต้องมีการกำหนดรูปแบบ และประเภทของเอกสารที่จะจัดเก็บ • จัดทำระบบ MySite และนำข้อมูลทั้งหมดเก็บลง MySiteใน Microsoft SharePoint และบันทึกลงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น CD หรือ DVD เพื่อเป็นข้อมูล BackUpไว้อีกชั้นหนึ่ง • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  20. RIN4 Infrastructure โครงสร้างพื้นฐาน (Cost Benefit Analysis ->Cost of Infrastructure, Cost of Development, Ease of Development, Interface Capabilities, Control and Security, Scalability) 1) ทำการขอข้อมูล ติดตั้ง และบำรุงรักษา โครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินโครงการ จัดการความรู้ เกี่ยวกับ Hardware , Software และระบบ Network จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการสร้างและใช้งานระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจว่าจะต้องมี Hardware , Software และระบบ Network อะไรบ้าง ที่มีอยู่แล้วใช้ได้หรือไม่ และต้องมีอะไรเพิ่มถึงจะเหมาะสมกับระบบ 2) จัดทำรายงาน วิเคราะห์ ในการจัดหาอุปกรณ์ Hardware , Software และระบบ Network เพื่อใช้กับ KMS เพียงพอหรือไม่ ต้องมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับกิจกรรมการจัดการความรู้ รวมทั้งต้องมีแผนการจัดซื้อครุภัณฑ์เพิ่มเติม เช่น 2.1) อุปกรณ์ใดมีอยู่แล้ว มีอายุการใช้งานกี่ปี และมีจำนวนเท่าใด 2.2) อุปกรณ์ใดต้องหาเพิ่ม จะหาเพิ่มด้วยวิธีใดบ้าง เช่น เช่า เช่าซื้อ ซื้อ ราคาเท่าใด 3) หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  21. REU1Asset Management การจัดการทรัพย์สิน (Balance Service Performance <> Economic Performance, Registration, Classification, Life, Risk Management -> invest, outsource, lease, rent, maintain, keep, upgrade, replace, dispose) • นโยบาย ยุทธศาสตร์ กฎเกณฑ์ ในการจัดการทรัพย์สิน คือ • ใช้ทรัพย์สินเดิมให้มากที่สุด ซื้อเพิ่มเท่าที่จำเป็น • ใช้ซอฟต์แวร์ถูกต้องตามกฎหมาย • มีแผนซื้อหรือเช่าทดแทน • การทำสัญญาซ่อมบำรุง • มีการตรวจสภาพ ซ่อมและซื้อทดแทน • การใช้ฐานข้อมูลในการใช้งานเพื่อจำหน่ายซาก • แบ่งประเภททรัพย์สิน ตามประเภทการใช้งาน กำหนดอายุการใช้งาน แผนการซื้อทดแทนเมื่อหมดอายุ (Spending Plan)ป

  22. Server อายุ 3 ปี • System Software Server อายุ 3 ปี • Network อายุ 3 ปี • KMS Software อายุ 3 ปี • จัดทำมาตรฐานการตรวจรับ การตรวจสอบทรัพย์สินประจำปี (เงื่อนไขการตัดสินใจ ความเสี่ยงต่างๆ เช่นเสียบ่อย ไม่มีผู้ขายหรือบริการหลังการขาย เทคโนโลยีล้าสมัย ค่าใช้จ่ายสูงเกินไป) การจำหน่ายซากและทดแทน • จัดทำมาตรฐานการเบิกจ่าย รับผิดชอบครุภัณฑ์ • จัดทำฐานข้อมูลทะเบียนและประวัติการใช้งานบำรุงรักษาทรัพย์สิน • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆ ไป (Act)

  23. REU2 Reuse Program Management การใช้ซ้ำโปรแกรมข้อมูลต่างๆ (Normalization) • กำหนดยุทธศาสตร์ กฎเกณฑ์ ในการใช้ซ้ำหรือไม่ทำซ้ำ • ต้องไม่มีข้อมูลที่ซ้ำซ้อน • มีอยู่แล้วไม่ทำซ้ำ • พยายามใช้ Template • วิเคราะห์หาโอกาสในการใช้ซ้ำ • เอกสารกำกับงาน ISO12207 (QA1, ENG4, RIN3, RIN4, REU1, REU2) • Workspace Templates • Knowledge Map Templates • จัดทำเกณฑ์มาตรฐานการใช้ซ้ำ การตรวจสอบการออกแบบซ้ำ และการฝึกอบรม • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  24. REU3 Domain Engineering ความรู้เฉพาะงาน(CommonKADS Knowledge Model) • ทำการวิเคราะห์ผล ENG1 ถึง ENG4 และ MAN1 เพื่อตรวจสอบว่าสามารถนำอะไรไปใช้ซ้ำได้บ้าง ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องใช้ซ้ำได้มากที่สุด และจัดทำรายงานหัวข้อความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ต่อได้ เพื่อลดงานในการทำการจัดการข้อมูลเรื่องที่คล้ายกัน • หลังจากจบภารกิจ มีการทำรายงานการดำเนินงาน (Do) ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ (Check) และนำไปปรับปรุงแนวทางในการทำภารกิจ และระบบคุณภาพ ในครั้งต่อๆไป (Act)

  25. กระบวนการประเมินค่าข้อมูล (DataAnalysis ด้วย CommonKADS มีการ จัดข้อมุล วิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ข้อมูลใดมีความหมายหรือไม่มีความหมาย) เมื่อได้ทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูลตามกระบวนการมาตรฐาน ISO12207/15504 ที่เลือกดำเนินการจำนวน 15 Tasks จากนั้นทำการวิเคราะห์และประเมินค่าข้อมูล โดยวิธีกระบวนการ Common KADS เพื่อสร้างแผนที่ความรู้ (Knowledge Map) แสดงกระบวนการตั้งหลักการ (Conceptualization) และแบบจำลองความรู้ (Knowledge Model) ที่ใช้ในการทำงาน แก้ปัญหา หรือตัดสินใจ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1) แบบจำลองความรู้ภารกิจ (Task Knowledge) 2) แบบจำลองความรู้วิธีการคิด (Inference Knowledge) 3) แบบจำลองความรู้หลักการเฉพาะปัญหา (Domain Knowledge) เมื่อได้แบบจำลองความรู้ทั้ง 3 ระดับ แล้วจะนำประเมินค่าข้อมูลที่ได้จากการสาธิตระบบ และแผนการจัดการระบบ ตลอดจนการเสนอกิจกรรมเกี่ยวกับระบบต่อ ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ผลสำเร็จ ของการศึกษาว่าจะบรรลุวิสัยทัศน์หรือสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ใช้หลักการพิจารณาตามหัวข้อต่อไปนี้ เพื่อนำไปวิเคราะห์สรุปผลการศึกษาต่อไป 1) ความเป็นไปได้ 2) ข้อดี 3) ข้อเสีย/ข้อด้อย 4) ข้อปรับปรุง/ข้อเสนอแนะ 5) ประโยชน์ที่ได้รับ

  26. ระยะเวลาการดำเนินงานวิจัยระยะเวลาการดำเนินงานวิจัย

More Related