470 likes | 951 Vues
ทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง. แผนการจัดการเรียนรู้. สาระการเรียนรู้ เรื่องทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง. เครื่องมือช่วยค้นคว้า. ความหมายและลักษณะของทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้. ประเภทของทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง. อ้างอิงที่ให้คำตอบอบโดยตรง. อ้างอิงที่แนะนำแหล่งคำตอบ.
E N D
ทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิงทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เรื่องทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง เครื่องมือช่วยค้นคว้า ความหมายและลักษณะของทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ ประเภทของทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง อ้างอิงที่ให้คำตอบอบโดยตรง อ้างอิงที่แนะนำแหล่งคำตอบ
ความหมาย หนังสืออ้างอิงคืออะไร ? ทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง (Reference books) เป็นหนังสือที่แตกต่างไปจากหนังสือทั่วไป จัดทำขึ้นเพื่อใช้ตอบปัญหาเฉพาะเรื่อง ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งเล่ม เนื้อหาแต่ละตอนจะมีความสมบูรณ์ในตัวเองสิ่งตีพิมพ์ วัตถุประสงค์ให้ผู้อ่านได้ความรู้และข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเชื่อถือได้ เขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ ลักษณะพิเศษ คือ จะมี สัญลักษณ์ อ หรือ R หรือRef ทรัพยากรสารสนเทศอ้างอิงคืออะไร?
เครื่องมือช่วยค้นสารสนเทศ เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูล ทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อการอ้างอิง จะมีเครื่องมือช่วยค้นคว้าสารสนเทศที่ต้องการได้ รวดเร็วหลายลักษณะ ได้แก่ อักษรนำเล่ม (volume guide) จะปรากฏที่สันหนังสือ
ดัชนีริมหน้ากระดาษ(Thumb index) เป็นการตัดกระดาษริมขวาของ หนังสืออ้างอิงให้เป็นรูปครึ่งวงกลมแล้ว กำกับด้วยตัวอักษรเพื่อช่วยค้นหา คำต่างๆที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
คำนำทาง (Guide word ) • คือคำที่ปรากฏอยู่ที่มุมบนของ หน้ากระดาษทุกหน้า เพื่อแนะนำ ว่าเรื่องที่จะค้นได้อยู่ในหน้านั้นๆ
ดัชนี หรือ ดรรชนี (Index) • คือ คำสำคัญหรือ หัวข้อสำคัญ ที่ปรากฏบนหนังสือนำมาเรียง ตามลำดับอักษร มีเลขหน้ากำกับไว้ บอกให้ทราบว่า คำนี้จะพบที่หน้าใด บ้างในเล่ม
ประเภทหนังสืออ้างอิง หนังสืออ้างอิง แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. หนังสืออ้างอิงที่ให้คำตอบได้โดยตรง สามารถตอบคำถามได้ทันที ได้แก่
พจนานุกรม (Dictionary) • เป็นหนังสือรวบรวมคำ ความหมายของคำ การอ่านออกเสียง การสะกดคำและที่มาของคำและอื่นๆ มีการเรียบเรียงคำตามลำดับอักษรและ สระเพื่อความสะดวกในการค้นหา ที่มีใช้ในภาษาไทย
ตัวอย่างการใช้พจนานุกรมตัวอย่างการใช้พจนานุกรม คำ ชนิดของคำ เสียงอ่าน ชนก, ชนก-[ชะนก, ชะนะกะ-]น. ชายผู้ให้เกิด, ประวัติของคำ พ่อ. (ป.;ส.) ชนกกรรม [ชะนะกะกัม] น. คำที่ประกอบ กรรมอันนำให้เกิดหรือกรรมอันเป็น ขึ้นใหม่ ต้นเค้าทั้งข้างดีหรือข้างชั่ว ตัวอย่างการใช้คำ เช่นกรรมอันทำให้เกิดเป็นคนชั้นสูง หนังสือที่อ้าง เป็นชนกกรรมฝ่ายกุศล. (อรรศาสน์). ชนนี [ชนนะนี] น. หญิงผู้ให้เกิด, แม่. (ป.; ส.) ความหมาย
ประเภทของพจนานุกรมแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ พจนานุกรมภาษา (GeneralLanguage dictionary) พจนานุกรมเฉพาะวิชา (Subject dictionary) พจนานุกรมภาษาเดียว พจนานุกรมสองภาษา พจนานุกรมหลายภาษา
สารานุกรม(Encyclopedia) คือหนังสือที่รวบรวมความรู้ในแขนงวิชาต่างๆ ไว้ในเล่มเดียวกันหรือชุดเดียวกัน ให้คำอธิบาย เรื่องราวของสิ่งต่างๆ อย่าง ละเอียดจัดเรียงเนื้อหา ตามลำดับอักษร มีดัชนี ช่วยค้น สารานุกรมอาจมี เล่มเดียวจบหรือ หลายเล่มจบ เรียกว่า หนังสือชุด
ประเภทสารานุกรม ประเภทของสารานุกรมแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ สารานุกรมเฉพาะวิชา เช่น สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมทั่วไป เช่น สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน
สิ่งพิมพ์รัฐบาล (Government Publication) • เป็นสิ่งพิมพ์ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ อาจเป็นระดับ กระทรวง กรม กอง หรือรัฐวิสาหกิจ เพื่อเผยแพร่ผล การปฏิบัติงานความเคลื่อนไหวของ หน่วยงาน หรือความก้าวหน้าทาง วิชาการ เป็นแหล่งที่ให้ข้อเท็จจริง ปฐมภูมิ (primary Source )
หนังสือ อื่นๆ วารสาร รายงานการสำรวจวิจัย เอกสารอัดสำเนา ประเภทสิ่งพิมพ์รัฐบาล แผ่นปลิว หนังสือรายปี ภาพโฆษณา หนังสือพิมพ์
อักขรานุกรมชีวประวัติอักขรานุกรมชีวประวัติ อักขรานุกรมชีวประวัติ (Biographical dictionary) เป็นหนังสือที่รวบรวมชีวประวัติ ของบุคคลบุคคลสำคัญ จัดเรียงชีวประวัติตามลำดับอักษร สำหรับชาวต่างประเทศเรียงตามลำดับ นามสกุล ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ ปีเกิด ปีตาย ภูมิลำเนา การศึกษา สถานภาพ ครอบครัว อาชีพ หน้าที่การงาน และผลงาน
ประเภทของอักขรานุกรมชีวประวัติประเภทของอักขรานุกรมชีวประวัติ อักขรานุกรมชีวประวัติแบ่งออกเป็น 2 ประเภท อักขรานุกรมชีวประวัติบุคคลทั่วไป อักขรานุกรมชีวประวัติบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง บุคคลที่เสียชีวิตแล้ว บุคคลที่ยังมีชีวิต
หนังสืออ้างอิงทางภูมิศาสตร์หนังสืออ้างอิงทางภูมิศาสตร์ หนังสืออ้างอิงทางภูมิศาสตร์ (Geographical source) เป็นหนังสือที่รวบรวมความรู้ ข้อเท็จจริง และรายละเอียด เกี่ยวกับชื่อ สถานที่ทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ ชื่อประเทศ เมือง แม่น้ำ ภูเขา มหาสมุทร เป็นต้น
ประเภทของหนังสืออ้างอิงทางภูมิศาสตร์ประเภทของหนังสืออ้างอิงทางภูมิศาสตร์
รายปี( Yearbooks) • หนังสือประเภทนี้จัดพิมพ์รายปี รวบรวม ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ บุคคลสำคัญ และความก้าวหน้าของวิทยาการ สาขาต่างๆ ในรอบปีที่ผ่านมา เสนอข้อความสั้นๆ ในรูปของตาราง สถิติและปฏิทินเหตุการณ์ หรืออื่นๆ
ประเภทของหนังสือรายปีแบ่งออกเป็น 2 ประเภท หนังสือรายงานประจำปี(Subject records of progress) หนังสือรายปีทั่วไป ( General yearbook) สมพัตสร(Almanac) หนังสือรายปีสรุปข่าวปัจจุบัน ( News Summary ) หนังสือรายปีสารานุกรม ( Encyclopedia yearbook)
หนังสือคู่มือ(Hand Books ) • เป็นหนังสือที่รวบรวมความรู้เบ็ดเตล็ด โดยให้ข้อเท็จจริงอย่างสั้นๆ เพื่อใช้เป็นคู่มือสำหรับค้นหาคำตอบในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แบ่งเป็น 2 ประเภท ☺ หนังสือคู่มือทั่วไป รวบรวมความรู้ ข้อเท็จจริงเรื่องสั้นๆ หลายสาขาวิชา หรือเบ็ดเตล็ด ☺ หนังสือคู่มือเฉพาะวิชา เป็นหนังสือรวบรวมความรู้เฉพาะ สาขาวิชา ไม่รวมถึงหนังสือประเภทตำราเรียน เช่น คู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ คู่มือการทำอาหาร ฯลฯ
นามานุกรมหรือ ทำเนียบนาม(Directory) • เป็นหนังสือรวบรวมรายชื่อบุคคลหรือ องค์กร โดยมีการจัดเรียงชื่ออย่างมีระบบ .บุคคลจะใช้ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน หมายเลขโทรศัพท์ .องค์กรหรือสถาบัน จะใช้ชื่อ ที่ตั้ง หมายเลขโทรศัพท์ หน้าที่ ความรับผิดชอบบุคลากร และ อื่นๆ
ประเภทของทำเนียบนามแบ่งได้ 6 ประเภท นามานุกรมอื่นๆ ทำเนียบนามสินค้าและบริการ(รายชื่อห้างร้าน บริษัท) ทำเนียบสมาชิกสมาคมวิชาชีพ(สมาคมแพทย์ สมาคมห้องสมุดฯลฯ) ทำเนียบนามรัฐบาล(หน่วยงานรัฐบาลในระดับกระทรวง ทบวง กรม และสำนักงาน) ทำเนียบนามท้องถิ่น(สมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์ โรงเรียน เขตการศึกษา) ทำเนียบนามสถาบัน(โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย)
2. หนังสืออ้างอิงที่แนะนำแหล่งคำตอบ ได้แก่
บรรณานุกรม(Bibiography ) • เป็นหนังสือที่รวบรวมรายชื่อสิ่งพิมพ์ เรียบเรียงไว้อย่าง เป็นระบบ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ ผู้จัดพิมพ์ ปีพิมพ์ หรือ จำนวนหน้า จำนวนเล่ม ราคา บรรณานุกรม บางเล่มเรียกว่า บรรณนิทัศน์ การจัดเรียงลำดับมีหลายวิธี
การจัดเรียงลำดับ บรรณานุกรม • การจัดเรียงลำดับ มีหลายวิธี คือ ☻จัดเรียงลำดับอักษรแบบพจนานุกรม ☻จัดเรียงลำดับประเภทของชื่อผู้แต่ง หรือตามอักษรหัวเรื่อง ☻จัดเรียงลำดับตามระบบการแบ่งหมวดหมู่
ประเภทของบรรณานุกรม ▪ บรรณานุกรมทั่วไป (Universal Bibliographies) เป็นหนังสือรวมรายชื่อสิ่งพิมพ์ไม่จำกัดปีพิมพ์ สาขาวิชา ภาษา หรือประเทศที่จัดพิมพ์ ▪บรรณานุกรมแห่งชาติ (National Bibliographies)เป็นหนังสือรวมรายชื่อสิ่งพิมพ์ที่จัดพิมพ์ขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือมีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศใดประเทศหนึ่งหรือเขียนเป็นภาษาของชาตินั้น โดยไม่จำกัดสาขาวิชา ▪บรรณานุกรมเฉพาะวิชา (Subject Bibliographies) เป็นหนังสือรวมรายชื่อสิ่งพิมพ์ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งโดยเฉพาะ
(ต่อ) ▪บรรณานุกรมเฉพาะบุคคล(lndividualBibliographies) เป็นหนังสือรวมรายชื่องานเขียนของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และงานเขียน ของผู้อื่นที่เขียนเกี่ยวกับบุคคลนั้น จัดทำขึ้นเพื่อให้ความสะดวก ในการศึกษาเกี่ยวกับชีวิต แนวคิด และผลงานของบุคคลนั้น ▪บรรณานุกรมเพื่อการค้า(Trade Bibliographies) เป็นหนังสือรวมรายชื่อสิ่งพิมพ์ใหม่ซึ่งจัดทำโดยสำนักพิมพ์เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ซื้อทราบ ▪บรรณานุกรมของบรรณานุกรม (Bibliographies) เป็นหนังสือ รวมรายชื่อหนังสือบรรรานุกรมในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งโดยเฉพาะ
ดรรชนี(Index) • เป็นสิ่งพิมพ์ที่รวบรวมชื่อบทความทางวิชาการ ที่จะเป็นประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้าวิจัย ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร ต่างๆ สามารถใช้สืบค้นเพื่อ เข้าถึงบทความที่ต้องการได้ ได้แก่ ชื่อผู้แต่ง ชื่อบทความ ชื่อวารสารที่ลงเรื่องนั้นๆ ปีที่ ฉบับที่ วันเดือนปีของวารสาร และเลขหน้าที่ลงบทความ
ประเภทของดรรชนีวารสารประเภทของดรรชนีวารสาร ประเภทของดรรชนีวารสาร แบ่งเป็น 4 ประเภท ดรรชนีวารสารเฉพาะวิชา ดรรชนีวารสารที่ห้องสมุดจัดทำขึ้นเอง ดรรชนีวารสารทั่วไป ดรรชนีวารสารเฉพาะชื่อ
สารสนเทศเพื่อการอ้างอิงออนไลน์สารสนเทศเพื่อการอ้างอิงออนไลน์ • ทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิงออนไลน์ ปัจจุบันมีเป็นจำนวนมาก เพื่อความเข้าใจและสะดวกในการสืบค้น ขอยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจดังนี้ ♦ พจนานุกรม http://dictionary.cammbridgc.org/ ♦ สารานุกรม http://www.encyclopedia.com ♦ หนังสือรายปี http://siamaregives.com/index. ♦ อักขรานุกรมชีวประวัติ http://www.s9.com/
(ต่อ) ♦ นามานุกรม (สมุดโทรศัพท์หน้าเหลืองฉบับภาษาไทย) http://www.yellowpages.co.th/ ♦ สิ่งพิมพ์รัฐบาล http:thaigov.net/links.php ♦ บรรณานุกรม จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)http://ue.thailis.or.th/ ♦ดรรชนีวารสารไทย ออนไลน์ http://library2.nind.ac.th/index/top.htm
การประเมินคุณค่าสารสนเทศเพื่อการอ้างอิงการประเมินคุณค่าสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง • การประเมินคุณค่าสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง มีหลักการประเมินดังนี้ ☺ความน่าเชื่อถือ สิ่งสำคัญประการแรกคือ คุณวุฒิ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของผู้แต่ง ผู้รวบรวมหรือ ผู้รับผิดชอบ ตลอดจนถึงความมีชื่อเสียงของสำนักพิมพ์หรือ สถาบันที่อุปถัมภ์
(ต่อ) ☺ขอบเขต จะต้องพิจารณาว่า หนังสืออ้างอิงนั้น มีขอบเขต ครอบคลุมเนื้อหาวิชาตามที่ระบุไว้หรือไม่ เนื้อหา มีความทันสมัย และมีบรรณานุกรมมาอ้างอิง ประกอบการเขียน
(ต่อ) • ☺การเสนอเรื่องราวหรือเนื้อหาวิชา ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน เชื่อถือได้ ปราศจากอคติ ในการแสดงความคิดเห็น
(ต่อ) ☺แบบการเขียน พิจารณาดูว่าเป็นหนังสือที่ผู้เขียน เขียนขึ้นสำหรับผู้อ่าน ทั่วไป สำหรับนักศึกษาวิชาเฉพาะที่มีความลึกซึ้งในวิชา ☺การจัดลำดับของเนื้อหาวิชา พิจารณาดูว่าหนังสืออ้างอิงชื่อนั้น จัดเรียงลำดับเนื้อ เรื่องอย่างไร เช่น เรียงลำดับอักษร เรียงตามลำดับหมวดหมู่วิชา หรือเรียงตามที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
(ต่อ) ☺การจัดรูปเล่ม ต้องพิจารณาถึงลักษณะของตัวพิมพ์ ชนิดของกระดาษ การจัดคอลัมน์ การเข้าเล่ม ว่ามีคุณภาพเพียงใด ☺ลักษณะพิเศษ จะต้องพิจารณาส่วนประกอบอื่นที่ช่วยให้หนังสืออ้างอิงชื่อนั้นมีลักษณะเด่น แตกต่างไปจากเล่มอื่น เช่น มีภาพประกอบ แผนภูมิ ตาราง กราฟ และบรรณานุกรม
จบแล้วนะคะ จบแล้วนะคะ