1 / 48

งานพัฒนาบุคลากร กองบริหารงานบุคคล

งานพัฒนาบุคลากร กองบริหารงานบุคคล. โครงการ ประชุมผู้ได้รับทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วันอังคารที่ 11 กันยายน 2555. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการลาศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการลาศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ.

lance
Télécharger la présentation

งานพัฒนาบุคลากร กองบริหารงานบุคคล

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. งานพัฒนาบุคลากร กองบริหารงานบุคคล โครงการประชุมผู้ได้รับทุนการศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิวันอังคารที่ 11 กันยายน 2555

  2. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการลาศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ

  3. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการลาศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ กรณีผู้ลาศึกษาต่อ เป็น ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้1. ระเบียบ1.1 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษาต่อ และฝึกอบรมภายในประเทศ พ.ศ. 25381.2 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษาต่อ และฝึกอบรมภายในประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 25471.3 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย และดูงาน ณ ต่างประเทศ พ.ศ. 2549

  4. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการลาศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ กรณี ผู้ลาศึกษาต่อ เป็น ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ (ต่อ)2. ประกาศประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้ข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัยไปศึกษาต่อ3. พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา การจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535

  5. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการลาศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ กรณีผู้ลาศึกษาต่อ เป็น พนักงานมหาวิทยาลัย ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ระเบียบ1.1 ระเบียบคณะกรรมการบริหารงานบุคคลสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การให้พนักงานมหาวิทยาลัยไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย และดูงาน พ.ศ. 25511.2 ระเบียบคณะกรรมการบริหารงานบุคคลสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การให้พนักงานมหาวิทยาลัยไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย และดูงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554

  6. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการลาศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ กรณีผู้ลาศึกษาต่อ เป็น พนักงานมหาวิทยาลัย ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ (ต่อ)1. ระเบียบ (ต่อ)1.3 ระเบียบคณะกรรมการบริหารงานบุคคลสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การลา และการจ่ายค่าตอบแทนระหว่างลาของพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2550 1.4 ระเบียบคณะกรรมการบริหารงานบุคคลสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การลา และการจ่ายค่าตอบแทนระหว่างลาของพนักงานมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 25522. ประกาศ ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้ข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัยไปศึกษาต่อ

  7. การขอขยายเวลาศึกษาต่อ และรายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการ ประกอบด้วย • 1. แบบรายงานตัวขอขยายเวลาศึกษาต่อของข้าราชการ ดาวน์โหลดได้ที่ http://personnel.rmutsb.ac.th/dowload.html • 2. แบบรายงานผลการศึกษาสำหรับข้าราชการที่ได้รับอนุญาตให้ไปศึกษาต่อประเภท ก. หรือ ข. สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ดาวน์โหลดได้ที่ http://personnel.rmutsb.ac.th/dowload.html 3. หนังสือรับรองของสถานศึกษาที่ไปศึกษาต่อ 4. สำเนารายงานผลการศึกษา ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาจนถึงปัจจุบัน แบบฟอร์ม และเอกสารที่เกี่ยวข้องในการยื่นขอขยายเวลาศึกษาต่อ • หมายเหตุ ให้ดำเนินการล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน ก่อนวันสิ้นสุดระยะเวลาลาศึกษาต่อ

  8. การขอขยายเวลาศึกษาต่อ และรายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการ ประกอบด้วย • 1. แบบรายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการ ดาวน์โหลดได้ที่ http://personnel.rmutsb.ac.th/dowload.html 2. หนังสือรับรองของสถานศึกษาที่ไปศึกษาต่อว่าศึกษาครบตามหลักสูตร จากสถานศึกษาดังกล่าวแล้ว 3. สำเนารายงานผลการศึกษา ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาจนถึงปัจจุบัน แบบฟอร์ม และเอกสารที่เกี่ยวข้องในการยื่นขอรายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการ

  9. การขออนุญาตไปนำเสนอผลงานวิชาการ หรือผลงานวิจัย รวมทั้งฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัย ณ ต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ประกอบด้วย • 1. แบบใบลาไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัย ดาวน์โหลดได้ที่ http://personnel.rmutsb.ac.th/dowload.html • 2. หนังสือรับรองของสถานศึกษา • 3. หนังสือเชิญเข้าร่วมจากหน่วยงานที่ไปนำเสนอผลงานวิชาการ หรือผลงานวิจัย รวมทั้งฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัย ณ ต่างประเทศ แบบฟอร์ม และเอกสารที่เกี่ยวข้อง

  10. ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับทุนการศึกษา

  11. ระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ว่าด้วยทุนการศึกษา ฝึกอบรม และดูงาน พ.ศ. 2549 • ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาจัดสรรทุนให้ข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัยไปศึกษาต่อภายในประเทศและต่างประเทศ • ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เรื่อง หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าสืบค้นข้อมูลเตรียมทำวิทยานิพนธ์

  12. ระยะเวลาการให้ทุน • ระดับปริญญาโท ให้ทุนไม่เกิน 2 ปี • ระดับปริญญาเอก ให้ทุนไม่เกิน 3 ปี • ระดับปริญญาโท - เอก ให้ทุนไม่เกิน 5 ปี

  13. ข้อผูกพันการรับทุนการศึกษาข้อผูกพันการรับทุนการศึกษา • ให้ผู้รับทุนทำสัญญาผูกพันการปฏิบัติราชการไว้เป็นเวลาเท่ากับระยะเวลาที่ไปศึกษา • กรณีผิดสัญญาผู้รับทุนต้องชดใช้เงินทุน และหรือเงินเดือนรวมทั้งเงินเพิ่ม และหรือเงินอื่นใดทั้งสิ้นที่ได้รับไประหว่างที่ได้รับอนุญาตให้ไปศึกษาต่อ และเบี้ยปรับคืนอีกหนึ่งเท่าของเงินที่จะต้องชดใช้แก่มหาวิทยาลัย • ผู้ได้รับทุนไปศึกษาต่อภาคนอกเวลา หากไม่สามารถศึกษาสำเร็จตามหลักสูตรต้องชดใช้ทุนที่ได้รับคืนต่อมหาวิทยาลัย • ผู้ได้รับทุนต้องรายงานผลการศึกษาให้มหาวิทยาลัยทราบทุกภาคเรียนและเมื่อสำเร็จการศึกษาให้มารายงานตัวต่ออธิการบดี พร้อมกับส่งวิทยานิพนธ์ (รูปเล่มวิทยานิพนธ์ จำนวน 4 เล่มพร้อมข้อมูลในแผ่นซีดี จำนวน ๔ แผ่น) หรือผลงานวิจัยให้มหาวิทยาลัยด้วย

  14. หน้าที่ที่พึงปฏิบัติของผู้รับทุนการศึกษาหน้าที่ที่พึงปฏิบัติของผู้รับทุนการศึกษา

  15. ต้องอุตสาหะ ตั้งใจ เพียรพยามเล่าเรียนอย่างดีที่สุดที่จะศึกษาวิชาที่ได้รับทุนให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด โดยไม่หลีกเลี่ยง ละเลย ทอดทิ้ง ยุติ หรือเลิกการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาวิชาที่ได้รับทุน เว้นแต่จะยุติหรือเลิกการศึกษาโดยความเห็นชอบของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

  16. ต้องไม่ขอรับทุนอื่นใด และไม่ทำงานอื่นไม่ว่าจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ในระหว่างการศึกษา กรณีที่มีความจำเป็นต้องขอรับทุนอื่น ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (คณะกรรมการทุนการศึกษา ฝึกอบรม และดูงาน) และได้รับอนุมัติจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

  17. การเปลี่ยนแปลงสาขาวิชาหรือสถานศึกษาหรือแนวทางการศึกษา หรือระยะเวลาจะกระทำมิได้ เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (คณะกรรมการทุนการศึกษา ฝึกอบรม และดูงาน) และได้รับอนุมัติจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

  18. ต้องรายงานผลการศึกษาผ่านผู้บังคับบัญชา ให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิทราบเมื่อสิ้นภาคการศึกษานั้น ๆ โดยผลการศึกษาต้องผ่านความเห็นชอบของอาจารย์ที่ปรึกษา

  19. เมื่อสำเร็จการศึกษา ต้องแจ้งผลสำเร็จการศึกษาพร้อมเอกสาร โดยผ่านผู้บังคับบัญชาให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิทราบ ดังนี้ - หนังสือรับรองว่าศึกษาครบตามหลักสูตร และสำเร็จการศึกษา โดยได้รับอนุมัติจากสถานศึกษา - ใบรายงานผลการศึกษา - วิทยานิพนธ์หรือผลงานวิจัย ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด - กรณีดำเนินการขอเพิ่มคุณวุฒิ หรือปรับอัตราเงินเดือนให้ได้รับตามคุณวุฒิที่ได้รับเพิ่มขึ้น จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน นับจากวันที่สถานศึกษาออกหนังสือรับรองว่าสำเร็จการศึกษา

  20. การยุติการให้ทุนการศึกษาของผู้รับทุนการศึกษา และการเรียกตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการตามเดิม

  21. การจัดทำสัญญา รับทุนการศึกษา และสัญญาค้ำประกันรับทุน

  22. 1. รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว (ติดตรงมุมขวาบนสุดของสัญญา) 2. ติดอากรแสตมป์ 1 บาท (ติดตรงมุมซ้ายบนสุดของสัญญา) 3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ พร้อมรับรองสำเนา ถูกต้อง 4. สำเนาหน้าแรกของทะเบียนบ้าน และหน้าที่มีชื่อผู้ให้สัญญา พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 5. กรณีผู้ให้สัญญามีคู่สมรส แนบเอกสารของคู่สมรสตามข้อ 2 และข้อ 3 พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง ส่วนทะเบียนสมรส รับรองสำเนาถูกต้องทั้งผู้ให้สัญญาและคู่สมรสด้วย 6. กรณีผู้ให้สัญญาหย่า แนบเอกสารสำเนาใบหย่า พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 7. กรณีคู่สมรสผู้ให้สัญญาเสียชีวิต แนบเอกสารสำเนาใบมรณะบัตร พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 8. หนังสือรับรองลายมือชื่อ (กรณีทำสัญญาจากคณะ / มีแบบฟอร์ม) เอกสารที่ใช้ประกอบการจัดทำสัญญารับทุนการศึกษา

  23. 1. ติดอากรแสตมป์ 10 บาท (ติดตรงมุมซ้ายบนสุดของสัญญา) 2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 3. สำเนาหน้าแรกของทะเบียนบ้าน และหน้าที่มีชื่อผู้ให้สัญญา พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 4. กรณีผู้ให้สัญญามีคู่สมรส แนบเอกสารของคู่สมรสตามข้อ 2 และข้อ 3 พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง ส่วนทะเบียนสมรส รับรองสำเนาถูกต้องทั้งผู้ให้สัญญาและคู่สมรสด้วย 5. กรณีผู้ให้สัญญาหย่า แนบเอกสารสำเนาใบหย่า พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 6. กรณีคู่สมรสผู้ให้สัญญาเสียชีวิต แนบเอกสารสำเนาใบมรณะบัตร พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง เอกสารที่ใช้ประกอบการจัดทำสัญญาค้ำประกันรับทุนการศึกษา

  24. กรณีผู้รับทุนการศึกษาศึกษาต่อภาคปกติกรณีผู้รับทุนการศึกษาศึกษาต่อภาคปกติ - ผู้รับทุนไม่รายงานผลการศึกษาตามระยะเวลาที่กำหนดจะมีผลต่อการเบิกจ่ายเงินทุนการศึกษาในภาคการศึกษาถัดไป - ผู้รับทุนมีผลการศึกษาไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะสำเร็จการศึกษาได้ หรือผู้ได้รับทุนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

  25. หลักเกณฑ์การจัดทำสัญญาค้ำประกันหลักเกณฑ์การจัดทำสัญญาค้ำประกัน • ผู้ค้ำประกันจะต้องเป็นบิดาหรือมารดาของผู้ให้สัญญา โดยผู้ค้ำประกัน ไม่ต้องแสดงหลักทรัพย์ในการทำสัญญาค้ำประกัน กรณีที่บิดามารดาเสียชีวิตแล้ว ให้ผู้ที่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หรือผู้ที่เป็นพี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกันเป็นผู้ค้ำประกัน • ในกรณีไม่สามารถจัดหาผู้ค้ำประกันได้มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาตรวจสอบ หากผลการพิจารณาตรวจสอบปรากฏว่าผู้ให้สัญญาไม่มีผู้ค้ำประกันจริง และผู้ให้สัญญามีศักยภาพสูงยิ่งในการศึกษา มหาวิทยาลัยจะให้ผู้ให้สัญญาทำสัญญาลาศึกษาโดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

  26. การกรอกข้อความในสัญญาการกรอกข้อความในสัญญา • 1.การกรอกรายละเอียดในสัญญาให้เขียนตัวบรรจงไม่ใช่คำย่อ ห้ามขูดลบหรือเขียนข้อความทับข้อความเดิม ห้ามใช้น้ำยาลบคำผิด ถ้าจะต้องแก้ไขข้อความที่เขียนไว้ผิดให้ใช้วิธีขีดฆ่าหรือตกเติมและให้ผู้ทำสัญญาลงลายมือชื่อกำกับไว้ทุกแห่งที่ขีดฆ่าหรือตกเติม • 2. การกรอกสัญญาจะใช้เขียนหรือพิมพ์ก็ได้ และสัญญาทุกฉบับต้องเป็นลายมือเดียวกัน เขียนด้วยปากกาสีเดียวกัน (ควรใช้ปากกาสีน้ำเงิน) หรือเครื่องพิมพ์เดียวกัน ห้ามถ่ายสำเนา • 3. วันที่และสถานที่ทำสัญญาให้กรอกรายละเอียดตามความเป็นจริง • 4. รายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่ผู้ทำสัญญา และผู้ค้ำประกันให้กรอกตามทะเบียนบ้าน • 5. การลงลายมือชื่อผู้ให้สัญญาและผู้ค้ำประกัน ให้ลงลายมือชื่อต่อหน้าพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองบริหารงานบุคคล หรือเจ้าหน้าที่ที่คณะ หรือมอบหมาย • 6. ผู้ทำสัญญา และผู้ค้ำประกันที่มีคู่สมรสให้คู่สมรสลงลายมือชื่อไว้ในช่องผู้ให้ความยินยอมต่อหน้าพยานด้วย • 7. ช่องลายมือชื่อผู้รับสัญญาให้เว้นไว้ • 8. คำรับรองว่าไม่มีคู่สมรสโดยเป็นโสด คู่สมรสตาย หรือหย่า คำใดที่ไม่ใช้ให้ขีดฆ่า แล้วลงลายมือชื่อกำกับ • 9. ผู้ทำสัญญาต้องลงลายมือชื่อกำกับด้านล่างมุมขวาสุดของสัญญารับทุนฯ ทุกแผ่น และผู้ค้ำประกันต้องลงลายมือชื่อกำกับด้านล่างมุมขวาสุดของสัญญาค้ำประกันทุกแผ่นด้วย ทั้งนี้ การจัดทำสัญญารับทุนฯ และเอกสารที่ใช้ประกอบการจัดทำสัญญารับทุนฯ ผู้ได้รับทุนจะต้องจัดทำจำนวน 3 ชุด

  27. สัญญารับทุนการศึกษาภายในประเทศสัญญารับทุนการศึกษาภายในประเทศ

  28. ตัวอย่างกรณีการชดใช้ทุนการศึกษา

  29. 1. สำเร็จการศึกษาแล้ว เข้ารับราชการตามคำสั่งของมหาวิทยาลัยต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของเวลาที่รับทุนการศึกษาระหว่างไปศึกษาต่อตามสัญญา (นับตั้งแต่วันที่รายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการ)ตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 โดยได้รายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2558 และได้สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ผู้ได้รับทุนต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2558 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ดังนั้น ผู้ได้รับทุนจะสิ้นสุดระยะเวลารับทุนในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561

  30. 2. สำเร็จการศึกษาแล้ว ไม่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัย หรือเข้ารับราชการแต่ไม่ครบกำหนดยินยอมรับผิดชดใช้คืนซึ่งเงินทุน และหรือเงินอื่นใดที่ได้รับไปจากมหาวิทยาลัยในระหว่างที่ศึกษาต่อตามสัญญา กับเบี้ยปรับอีก 1 เท่าของจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้คืนดังกล่าว กรณีที่เข้ารับราชการไม่ครบกำหนด ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม เงินที่จะชดใช้คืนและเบี้ยปรับจะลดลงตามส่วนของเวลาที่รับราชการใช้ไปบ้างแล้วตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 แต่ไม่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัย ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินคืนมหาวิทยาลัย เป็นจำนวน 500,000 บาท + เบี้ยปรับอีก 1 เท่าของเงินที่ต้องชดใช้ คือ 500,000 บาท เท่ากับต้องชดใช้เงินทุนให้กับมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น จำนวน 1,000,000 บาท

  31. 3. ยุติการศึกษา ไม่สำเร็จการศึกษาด้วยประการใด แต่เข้ารับราชการตามคำสั่งของมหาวิทยาลัยต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของเวลาที่รับทุนการศึกษาระหว่างไปศึกษาต่อตามสัญญา (นับตั้งแต่วันที่รายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการ)ตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 ศึกษาต่อได้ 2 ปี และได้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 และได้รายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ผู้ได้รับทุนต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ดังนั้น ผู้ได้รับทุนจะสิ้นสุดระยะเวลารับทุนในวันที่ 30 พฤษภาคม 2559

  32. 4. ประพฤติผิดวินัยจนถึงถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการก็ดีต้องชดใช้เงินทุนคืนให้มหาวิทยาลัยเป็นจำนวนเงิน 2 เท่าของเงินทุนที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัย หรือลดลงตามส่วนพร้อมทั้งดอกเบี้ยในกรณีที่ไม่ชำระเงินภายในกำหนดหรือชำระแต่ไม่ครบตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 และได้ขยายเวลาศึกษาต่ออีก 1 ปี โดยมิได้ได้รับทุน และได้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 แต่ไม่แจ้งให้มหาวิทยาลัยทราบ และเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ จนมหาวิทยาลัยดำเนินการให้ออกจากราชาการ ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินคืนมหาวิทยาลัย เป็นจำนวนเงิน 2 เท่าของเงินทุนที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัยคือ 500,000 บาท เท่ากับต้องชดใช้เงินทุนให้กับมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น จำนวน 1,000,000 บาท

  33. - เงินที่ชดใช้คืนและเบี้ยปรับตามสัญญา จะต้องชำระให้ทันทีนับแต่วันที่ได้รับแจ้งมหาวิทยาลัย หากไม่ชำระภายในกำหนดหรือชำระให้แต่ไม่ครบ ทั้งนี้ จะโดยความยินยอมของมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็ตาม - ยินยอมให้คิดดอกเบี้ยจากเงินที่ยังมิได้ชำระในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีด้วย - ยินยอมให้มหาวิทยาลัย หักเงินบำเหน็จบำนาญหรือเงินอื่นใดที่จะพึงได้รับจากทางราชการ เพื่อชดใช้เงินที่ต้องรับผิดชอบตามสัญญา - ถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา ยินยอมให้ฟ้องร้องเรียกเงินที่ค้างชำระได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

  34. สัญญารับทุนการศึกษาภายในประเทศภาคนอกเวลา

  35. ตัวอย่างกรณีการชดใช้ทุนการศึกษา

  36. 1. สำเร็จการศึกษาแล้ว เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัย ต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของเวลาที่รับทุนการศึกษาระหว่างไปศึกษาต่อตามสัญญา (นับตั้งแต่วันที่สำเร็จการศึกษา)ตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 โดยได้สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ผู้ได้รับทุนต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ดังนั้น ผู้ได้รับทุนจะสิ้นสุดระยะเวลารับทุนในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561

  37. 2. สำเร็จการศึกษาแล้ว ไม่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัย หรือเข้ารับราชการแต่ไม่ครบกำหนด ยินยอมรับผิดชดใช้คืนซึ่งเงินทุน และหรือเงินอื่นใดที่ได้รับไปจากมหาวิทยาลัยในระหว่างที่ศึกษาต่อตามสัญญา กับเบี้ยปรับอีก 1 เท่าของจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้คืนดังกล่าว กรณีที่เข้ารับราชการไม่ครบกำหนด ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม เงินที่จะชดใช้คืนและเบี้ยปรับจะลดลงตามส่วนของเวลาที่รับราชการใช้ไปบ้างแล้วตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 แต่ไม่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัย ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินคืนมหาวิทยาลัย เป็นจำนวน 500,000 บาท + เบี้ยปรับอีก 1 เท่าของเงินที่ต้องชดใช้ คือ 500,000 บาท เท่ากับต้องชดใช้เงินทุนให้กับมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น จำนวน 1,000,000 บาท

  38. 3. ยุติการศึกษา ไม่สำเร็จการศึกษาด้วยประการใด แต่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัยยินยอมชดใช้เงินทุนคืนให้แก่มหาวิทยาลัย เป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินทุนที่ได้รับไปทั้งหมด และจะรับราชการในมหาวิทยาลัย เพื่อชดใช้ทุนต่อไปอีกเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่าของระยะเวลารับทุนการศึกษาระหว่างไปศึกษาต่อตามสัญญา หากรับราชการไม่ครบกำหนดไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม จะต้องชดใช้เงินคืนและเบี้ยปรับ ลดลงตามส่วนของเวลาที่รับราชการใช้ไปบ้างแล้วตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 และยังไม่สำเร็จการศึกษา ได้ศึกษาต่ออีก 2 ปี โดยมิได้รับทุนการศึกษา และได้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินทุน จำนวน 500,000 บาท และต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ดังนั้น ผู้ได้รับทุนจะสิ้นสุดระยะเวลารับทุนในวันที่ 30 พฤษภาคม 2563กรณีรับราชการต่อไปอีกไม่ครบระยะเวลา 3 ปี (ลาออก, ปลดออก, ไล่ออก) จะต้องชดใช้ในส่วนของเบี้ยปรับจำนวน 500,000 บาท (1 เท่าของเงินทุน) และเงินเบี้ยปรับที่ต้องชดใช้ลดลงตามส่วนของเวลารับราชการใช้ไปบ้างแล้ว

  39. 4. ประพฤติผิดวินัยจนถึงถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการก็ดี ยินยอมชดใช้เงินทุนคืนให้แก่มหาวิทยาลัยเป็นจำนวนเงิน 2 เท่าของเงินทุนที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัย หรือลดลงตามส่วนพร้อมทั้งดอกเบี้ยในกรณีที่ไม่ชำระเงินภายในกำหนดหรือชำระแต่ไม่ครบตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 และยังไม่สำเร็จการศึกษา ได้ศึกษาต่ออีก 2 ปี โดยมิได้รับทุนการศึกษา และได้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 แต่ไม่แจ้งให้มหาวิทยาลัยทราบ และเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ จนมหาวิทยาลัยดำเนินการให้ออกจากราชาการ ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินคืนมหาวิทยาลัย เป็นจำนวนเงิน 2 เท่าของเงินทุนที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัยคือ 500,000 บาท เท่ากับต้องชดใช้เงินทุนให้กับมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น จำนวน 1,000,000 บาท

  40. - เงินที่ชดใช้คืนและเบี้ยปรับตามสัญญา จะต้องชำระให้ทันทีนับแต่วันที่ได้รับแจ้งมหาวิทยาลัย หากไม่ชำระภายในกำหนดหรือชำระให้แต่ไม่ครบ ทั้งนี้ จะโดยความยินยอมของมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็ตาม ยินยอมให้คิดดอกเบี้ยจากเงินที่ยังมิได้ชำระในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีด้วย- ผู้รับทุนต้องศึกษาให้สำเร็จการศึกษาตามกำหนดระยะเวลาในหลักสูตรที่ได้กำหนดไว้ หากปรากฏว่าต้องขยายเวลาการศึกษาออกไปอีก ยินยอมเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการศึกษาด้วยตนเองทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่ขยายเวลาการศึกษาออกไปจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา- ยินยอมให้มหาวิทยาลัย หักเงินบำเหน็จบำนาญหรือเงินอื่นใดที่จะพึงได้รับจากทางราชการ เพื่อชดใช้เงินที่ต้องรับผิดชอบตามสัญญา- ถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา ยินยอมให้ฟ้องร้องเรียกเงินที่ค้างชำระได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

  41. สัญญารับทุนการศึกษาภายในประเทศภาคนอกเวลา โดยใช้เวลาราชการบางส่วน

  42. ตัวอย่างกรณีการชดใช้ทุนการศึกษา

  43. 1. สำเร็จการศึกษาแล้ว เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัยต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของเวลาที่รับทุนการศึกษาระหว่างไปศึกษาต่อตามสัญญา (นับตั้งแต่วันที่สำเร็จการศึกษา)ตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 โดยได้สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ผู้ได้รับทุนต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ดังนั้น ผู้ได้รับทุนจะสิ้นสุดระยะเวลารับทุนในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561

  44. 2. สำเร็จการศึกษาแล้ว ไม่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัย หรือเข้ารับราชการแต่ไม่ครบกำหนดยินยอมรับผิดชดใช้คืนซึ่งเงินทุน และหรือเงินอื่นใดที่ได้รับไปจากมหาวิทยาลัยในระหว่างที่ศึกษาต่อตามสัญญา กับเบี้ยปรับอีก 1 เท่าของจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้คืนดังกล่าว กรณีที่เข้ารับราชการไม่ครบกำหนด ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม เงินที่จะชดใช้คืนและเบี้ยปรับจะลดลงตามส่วนของเวลาที่รับราชการใช้ไปบ้างแล้วตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 แต่ไม่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัย ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินคืนมหาวิทยาลัย เป็นจำนวน 500,000 บาท + เบี้ยปรับอีก 1 เท่าของเงินที่ต้องชดใช้ คือ 500,000 บาท เท่ากับต้องชดใช้เงินทุนให้กับมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น จำนวน 1,000,000 บาท

  45. 3. ยุติการศึกษา ไม่สำเร็จการศึกษาด้วยประการใด แต่เข้ารับราชการในมหาวิทยาลัยยินยอมชดใช้เงินทุนคืนให้แก่มหาวิทยาลัย เป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินทุนที่ได้รับไปทั้งหมด และจะรับราชการในมหาวิทยาลัย เพื่อชดใช้ทุนต่อไปอีกเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่าของระยะเวลารับทุนการศึกษาระหว่างไปศึกษาต่อตามสัญญา หากรับราชการไม่ครบกำหนดไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม จะต้องชดใช้เงินคืนและเบี้ยปรับ ลดลงตามส่วนของเวลาที่รับราชการใช้ไปบ้างแล้วตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 และยังไม่สำเร็จการศึกษา ได้ศึกษาต่ออีก 2 ปี โดยมิได้รับทุนการศึกษา และได้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินทุน จำนวน 500,000 บาท และต้องรับราชการต่อไปอีกเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ดังนั้น ผู้ได้รับทุนจะสิ้นสุดระยะเวลารับทุนในวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 กรณีรับราชการต่อไปอีกไม่ครบระยะเวลา 3 ปี (ลาออก, ปลดออก, ไล่ออก) จะต้องชดใช้ในส่วนของเบี้ยปรับจำนวน 500,000 บาท (1 เท่าของเงินทุน) และเงินเบี้ยปรับที่ต้องชดใช้ลดลงตามส่วนของเวลารับราชการใช้ไปบ้างแล้ว

  46. 4. ประพฤติผิดวินัยจนถึงถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการก็ดียินยอมชดใช้เงินทุนคืนให้แก่มหาวิทยาลัย พร้อมเบี้ยปรับอีกเป็นจำนวนเงิน 1 เท่าของเงินทุนที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัย หรือลดลงตามส่วนพร้อมทั้งดอกเบี้ยในกรณีที่ไม่ชำระเงินภายในกำหนดหรือชำระแต่ไม่ครบตัวอย่าง ผู้ได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก มีระยะเวลารับทุน 3 ปี เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 และยังไม่สำเร็จการศึกษา ได้ศึกษาต่ออีก 2 ปี โดยมิได้รับทุนการศึกษา และได้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 แต่ไม่แจ้งให้มหาวิทยาลัยทราบ และเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ จนมหาวิทยาลัยดำเนินการให้ออกจากราชาการ ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินคืนมหาวิทยาลัย จำนวน 500,000 บาท + เบี้ยปรับอีก 1 เท่าของเงินทุนที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัยคือ 500,000 บาท เท่ากับต้องชดใช้เงินทุนให้กับมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น จำนวน 1,000,000 บาท

  47. - เงินที่ชดใช้คืนและเบี้ยปรับตามสัญญา จะชำระให้ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งมหาวิทยาลัย หากไม่ชำระภายในกำหนดหรือชำระให้แต่ไม่ครบ ทั้งนี้ จะโดยความยินยอมของมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็ตาม ยินยอมให้คิดดอกเบี้ยจากเงินที่ยังมิได้ชำระในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีด้วย- ยินยอมให้มหาวิทยาลัย หักเงินบำเหน็จบำนาญหรือเงินอื่นใดที่จะพึงได้รับจากทางราชการ เพื่อชดใช้เงินที่ต้องรับผิดชอบตามสัญญา- ถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา ยินยอมให้ฟ้องร้องเรียกเงินที่ค้างชำระได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

  48. จบการนำเสนอขอบคุณค่ะ

More Related