การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

1. การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

2. การพิจารณาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์การพิจารณาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์     การเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ทำได้ง่าย มีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามร้านค้าทั่วไป แต่ผู้ใช้งานควรพิจารณาว่าจะนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อทำงานด้านใด และผู้ใช้ควรเลือกคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้คุ้มค่ากับจำนวนเงินเนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์มีทั้งแบบที่ใช้ได้กับงานทุกประเภทหรืองานเฉพาะด้าน แม้ว่าราคาเครื่องอุปกรณ์ต่างๆจะถูกลง และ

3. ทำไมต้องเลือกคอมพิวเตอร์ ??? • ใช้งานง่าย รวดเร็ว • มีการประมวลผลที่ไว,การคิดที่เป็นระบบ มาช่วยอำนวยความสะดวก เช่น -โปรแกรมคิดเลข -Microsft Office พิมพ์งานต่างๆ -Photoshop ตกแต่งรูปภาพ • สามารถทำอะไรต่างๆได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น -การเล่นเกมส์ –ดูละครย้อนหลัง –ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล

4. ลักษณะการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ลักษณะการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ • ขั้นตอนแรกที่เราควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ นั่นคือต้องการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้งานอะไร เป็นต้นเพื่อที่เราจะสามารถเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานโดยเราจะแบ่งตามประเภทของงานเป็น4ประเภท คือ1.งานด้านแอกสาร คือทำงานเอกสารทั่วไปตามสำนักงาน2.งานด้านความบันเทิงคืองานทั่วเกี่ยวกับพวกสื่อมัลติมีเดีย3.งานด้านกราฟิก คือเกี่ยวกับการทำภาพ • 4.งานด้านการเล่นเกม คือ เล่นเกม

5. งานด้านเอกสาร เป็นการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับจัดการด้านเอกสารรายงาน ตกแต่งภาพ ทำการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ ดูภาพยนตร์ หรือสื่อทางการศึกษา ติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ใช้ซอฟแวร์ประยุกต์ เช่น ซอฟแวร์ประมวลคำ และซอฟแวร์ตารางทำงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในงานประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ซีพียูที่มีความเร็วสูงคือประมาณ 1 GHz ขึ้นไป ควรมีแรมอย่างน้อย 1 GB อาจเลือกใช้จอภาพแบบแอลซีดีขนาดใหญ่ประมาณ17-19 นิ้วเพื่อถนอมสายตา เนื่องจากลักษณะงานต้องจ้องมองจอภาพตลอดเวลา

6. การเลือกซื้อคอมสำหรับงานด้านเอกสารการเลือกซื้อคอมสำหรับงานด้านเอกสาร • CPU : ใช้ Sempron, Athlon XP หรือ Celeron II ก็ได้ ตั้งแต่ความเร็ว 1 GHz ขึ้นไป ( ในปัจจุบันต่ำกว่า 1 GHz หาซื้อตามร้านทั่วไปแทบไม่ได้แล้ว ) • RAM : DDR-SDRAM ขนาด 128 MB ขึ้นไป หรือ 256 MB ถ้าเป็น Windows XP • Mainboard : ใช้เมนบอร์ดอะไรก็ได้ แต่เน้นการรับประกันและอุปกรณ์ On Board เช่น การ์ดจอ การ์ดเสียง โมเด็ม และการ์ดแลน ให้ติดมาบนเมนบอร์ดด้วย เพื้อประหยัดค่าอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น • Harddisk : ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ ขนาด 40 GB ขึ้นไป ( ปัจจุบันถ้าต่ำกว่า 40 GB หาซื้อยากแล้ว ) • จอภาพแบบ CRT/LCD : ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ขนาด 17 นิ้ว แต่ให้เน้นการรับประกัน • Printer : ใช้แบบ Inkjet ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ให้เน้นการรับประกันและราคาหมึกพิมพ์ที่ถูก

7. งานด้านความบันเทิง คอมพิวเตอร์ในระดับนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ ในระดับคุณภาพเสียงแบบดิจิตอลหรือเล่นเกมส์แบบ 3 มิติโดยเฉพาะ ซึ่งจะนิยมเลือกส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพในระดับปานกลาง รวมทั้งปัจจุบันเกมส์ใหม่ ๆ ที่ออกมา ล้วนแล้วแต่มีความต้องการทรัพยากรของเครื่องสูง ๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่ CPU, RAM และที่สำคัญที่สุดคือ การ์ดจอ นั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงทุนสูง เพื่อให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับรองรับเกมส์ใหม่ ๆ ได้

8. การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับงานด้านความบันเทิงการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับงานด้านความบันเทิง • CPU : ใช้ Athlon 64, Athlon XP หรือ Pentium 4 ก็ได้ ตั้งแต่ความเร็ว 2 GHz ขึ้นไป • RAM : DDR-SDRAM ขนาด 256 MB ขึ้นไป • Mainboard : ใช้เมนบอร์ดอะไรก็ได้ แต่เน้นการรับประกันและอุปกรณ์ On Board เช่น โมเด็ม และการ์ดแลน ให้ติดมาบนเมนบอร์ดด้วย ถ้าไม่มีอาจหาซื้อมาได้ตามความต้องการ • Harddisk : ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ ขนาด 40 GB ขึ้น • VGA Card : หรือการ์ดจอ ที่ใช้ เช่น Geforce 4 Ti4200 ขึ้นไป Geforce FX5200 ขึ้นไป และ ATiRadeon 9000 ขึ้นไป เป็นต้น ที่มีหน่วยความจำบนตัวการ์ดตั้งแต่ 128 ขึ้นไป • Sound Card : หรือการ์ดเสียง ใช้เป็น SoundBlaster Live DE5.1 ขึ้นไปหรือเทียบเท่า • ลำโพง : ใช้เป็นำโพงแบบ 2.1 หรือ 5.1 Channel ก็ได้ • จอภาพแบบ CRT/LCD : ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ขนาด 17 นิ้ว

9. งานด้านกราฟิก • คอมพิวเตอร์สำหรับงานด้านกราฟิก ออกแบบสิ่งพิมพ์ และ สื่อมัลติมีเดีย ส่วนมากเป็นคอมของคนที่ทำงานด้านการออกแบบ สถาปนิก นักตัดต่อหนัง หรือ อาชีพที่ต้องใช้ในการออกแบต้องมีต้นทุนในการซื้ออุปกรณ์ค่อนข้างสูงเพราะ เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ความละเอียดสูงและความรวดเร็วในการทำงาน

10. การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ด้านงานกราฟิกการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ด้านงานกราฟิก • เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี CPU รุ่น Pentium หรือรุ่นที่สูงกว่า • ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows98 /Windows ME/Windows2000/ WindowsXPหรือ Windows NT4.0 ที่ติดตั้ง Service Pack 4 ,5 หรือ 6a เป็นอย่างน้อย • RAM อย่างน้อย 128 MB ขึ้นไป • Hard Disk เนื้อที่ว่างอย่างน้อย 125  MB • การ์ดจอแสดงผลสีหน้าจอ 24 บิต ขึ้นไปสำหรับงานกราฟฟิก • แสดงผลความละเอียดของจอภาพ 1,024 X 766 พิกเซล

11. อุปกรณ์ด้านงานกราฟิก • สแกนเนอร์ (Scanner)เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านหรือสแกนข้อมูลหรือภาพถ่ายบนเอกสารเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ได้รูปแบบเป็นภาพ • กล้องดิจิตอล (Digital Camera)สามารถถ่ายภาพในรูปแบบดิจิตอล ที่มีความละเอียดสูง ถึง 3 – 4 ล้านพิกเซลขึ้นไป เหมาะกับการใช้งานกราฟิก • จอสัมผัส (Touch Screen)เป็นจอที่ให้ผู้ใช้ใช้นิ้วชี้ที่หน้าจอ เพื่อสั่งงานบนหน้าจอได้ • ปากกาแสง (Light Pen)เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลที่ทำงานด้วยการตรวจจับแสงบนหน้าจอ CTR ของคอมพิวเตอร์ ใช้ในการคลิกเลือก และวาดบนหน้าจอเหมือนการใช้ Touch Screen • กระดานกราฟิก (Graphic Tablet)เป็นอุปกรณ์ที่รองรับการวาดภาพ สามารถทำงานกับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง สนับสนุนกับโปรแกรมกราฟิกต่างๆ

12. งานด้านการเล่นเกม • ในปัจจุบันเกมคอมพิวเตอร์แต่ละเกม มีอัตราในความต้องการทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สูงมากๆ สิ่งที่สำคัฐๆก็จะมี แรม(RAM) ซีพียู(CPU) และการ์ดจอ(Graphic card) ดังนั้นหากอยากเล่นเกมใหม่ๆ ก็ควรเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อที่จะได้สามารถรองรับเกมใหม่ๆที่ออกมาในอนาคตได้

13. การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ด้านการเล่นเกมการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ด้านการเล่นเกม • CPU : Intel Core i7-3610QM (2.30 GHz, 6 MB L3 Cache, up to 3.30 GHz) • Graphic Chip : nVidia GeForce GTX 670M (2 GB GDDR5) • Display : 15.6 inch WUXGA (1920×1080) LED • Memory : 16 GB DDR3 • Hard Disk : 750 GB 7200 RPM + 64GBx2 SSD Raid 0 • Drive : Blu-ray Disc Drive (Blu-ray Writable) • Details : HD 720p Webcam, USB2.0×1, USB3.0×3, D-Sub/VGA, e-SATA, HDMI, Card Reader 4-in-1, Express Slot, IEEE 802.11 b/g/n, Bluetooth, LAN และ Li-ion 9 Cell Battery • Sound : 2.1 Sound by Dynaudio loudspeaker system • Weight : 3.50 Kg. [ 4.5Kg. with AC Adapter]

14. หน่วยประมวลผลหลัก(CPU) เป็น ส่วนประกอบ คอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ในการควบคุมการประมวลผลข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงการอ่าน การคำนวณ และแปลค่าสัญญาณต่างๆ ที่ได้มาจากอุปกรณ์ Input และ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการเก็บข้อมูลอย่างเช่น Hard Disk และ RAM เพื่อให้ได้ข้อมูลที่นำไปแสดงผล สำหรับซีพียูนั้นนับว่าเป็นปัจจัยแรกๆ ที่ผู้ซื้อควรจะมอง เพราะว่ามันจะ บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของ คอมพิวเตอร์ เครื่องนั้นๆ ได้ดีที่สุด ว่าซีพียูตัวนี้ความเร็วขนาดนี้น่าจะใช้งานในระดับไหนได้ดี โดยมักจะแบ่งการใช้งานเป็นหลัก

15. เช่น ใช้งานเอกสารทั่วไป ใช้เล่นเกม 3D, 2D ที่มีความละเอียดสูงๆ หรือใช้งานทางด้านมัลติมีเดียความบันเทิงต่างๆ สำหรับซีพียูที่ออกมาวางขายในปัจจุบันนั้นก็จะมีอยู่ 2 ค่าย ได้แก่ ค่ายอินเทล และ ค่ายเอเอ็มดี โดยอินเทลจะมาด้วยซีพียู Intel Pentium4 กับ Intel celeronกับซ็อกเก็ต478 ที่จะรองรับกับความเร็วบัส (FSB) ที่ 400, 533 และ 800MHz ส่วนซีพียูจากค่าย เอเอ็มดี นั้นก็จะมาด้วย AMD Athlon XP กับซ็อกเก็ต462 ที่รองรับความเร็วบัส (FSB) ตั้งแต่ 200, 266 และ 333MHz และ AMD Athlon64 กับซ็อกเก็ต754 ที่รองรับความเร็วบัส (FSB) 1600MHz

16. ตัวอย่างหน่วยประมวลผลหลักตัวอย่างหน่วยประมวลผลหลัก

17. เมนบอร์ด (Mainboard) เป็น ส่วนประกอบ ของเครื่องคอมพิวเตอร์และเป็นอุปกรณ์หลักในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ใน เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะทำหน้าที่ในการรับ/ส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถส่งผ่าน ข้อมูล ซึ่งกันและกันได้ โดยผ่านส่วนควบคุมนั้นคือ ชิปเซต(Chipset) สำหรับเมนบอร์ด ที่มีวางขายอยู่ ในปัจจุบันมีรายชื่อดังต่อไปนี้ ABIT, Albatron, ASROCK, ASUS, DFI, ECS, Gigabyte, Intel, Iwill, LEMEL, MSI, SHUTTLE, MATSONIC และP&A

18. ขั้นที่ 1 เลือกเมนบอร์ดให้เข้ากับซีพียู เช่น ถ้าเป็นซีพียูจากค่ายอินเทล ก็จะต้องใช้เมนบอร์ดที่รองรับซีพียูซ็อกเก็ต 478 ส่วนถ้าเลือกใช้ซีพียูจากค่ายเอเอ็มดีก็จะต้องเลือกใช้เมนบอร์ดซ็อกเก็ต 462 หรือ ซ็อกเก็ต 754 กับซีพียูแบบ 64 บิต ขั้นที่ 2 ต้องดูว่าซีพียูสามารถรองรับกับความเร็วบัสขนาดเท่าใดบ้าง ซึ่งผู้ซื้อจะต้องเลือกเมนบอร์ดที่สามารถรองรับกับความเร็วบัส ของซีพียูที่ใช้ได้ เช่น ถ้าใช้ Intel Pentium4 กับขนาดความเร็วที่ 800MHz จะต้องซื้อเมนบอร์ดที่สนับสนุนความเร็วบัสที่ 800MHz หรือสนับสนุนเทคโนโลยี ไฮเปอร์-เธรดดิ้ง ด้วย

19. ตัวอย่างเมนบอร์ด

20. หน่วยความจำ (RAM) สำหรับหน่วยความจำนั้นเป็น อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ในการเก็บ และพักข้อมูลที่รอการประมวลผล หรือทำการประมวลผลเสร็จแล้ว เพื่อนำไปใช้ใน การแสดงผลของข้อมูล และยังสามารถที่จะทำการเก็บข้อมูล หรือคำสั่งที่ถูกเรียกใช้บ่อยๆ เพื่อให้การทำงานของระบบรวดเร็วขึ้น แรมเป็นอุปกรณ์ชิ้นที่สามที่ควรจะมอง แรมที่วางขายอยู่ในท้องตลาดก็จะมีอยู่ 2แบบ คือ • SDRAM • DDR-SDRAM เป็นที่นิยมใช้กันมาก

21. ตัวอย่างแรม

22. ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) เป็นตัวเก็บข้อมูลต่างๆ ที่ใช้งานในระบบของ เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นแหล่งเก็บข้อมูลหลักของ เครื่อง คอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้ามีความจุสูงๆ ก็สามารถที่จะเก็บข้อมูลได้ในปริมาณได้มากๆ ฮาร์ดดิสก์ที่ออกมาวางขายนั้นมีมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณภาพไม่แตกต่างกันมาก การเลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ส่วนมาก จะดูที่ยี่ห้อ กับการรับประกันหลังการขายเพราะฮาร์ดดิสก์นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานหนักที่สุดในเครื่อง คอมพิวเตอร์ ดังนั้นการรับประกันจึงมักเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ซึ่งจะมีการรับประกันตั้งแต่่1 ปี, 3 ปี และ 5 ปี ตามแต่ละยี่ห้อและชนิดของฮาร์ดดิสก์ นอกจากฮาร์ดดิสก์แบบ Ultra 160 SCSI ที่นิยมใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับสูงๆ อย่างเครื่อง Server แล้ว ฮาร์ดดิสก์สำหรับ เครื่อง คอมพิวเตอร์ ทั่วไปก็จะมีให้เลือกอยู่ 3 แบบ คือ • ATA/100 • ATA/133 • SATA 150

23. ตัวอย่างฮาร์ดดิสก์

24. จอมอนิเตอร์ (Monitor) นับว่าเป็น อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ ในส่วนอุปกรณ์ Outputสำคัญ มากเพราะถ้ามอนิเตอร์มีคุณภาพดี จะทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมภาพที่ คุณภาพดีด้วย และการใช้งาน เครื่อง คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานๆ จอมอนิเตอร์ที่ดียังเป็นการช่วยในการถนอมสายตาของผู้ใช้อีกด้วย มอนิเตอร์ที่มีขายในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น3 แบบใหญ่ๆ คือ • แบบ CRT • แบบ LCD • แบบ LED • แบบ Touch screen

25. ตัวอย่างจอมอนิเตอร์

26. แลน และโมเด็ม (LAN & Modem) อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ สองประเภทนี้นับว่าเป็นสองอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อการใช้งานในยุคปัจจุบันได้อย่างมากทีเดียว เพราะทั้งสอง อุปกรณ์ จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนช่องทางในการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ส่วนของ แลน ส่วนมาก การ์ดแลน มักจะถูกติดตั้งแบบออนบอร์ดมากับเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ ซึ่งก็มีทั้งความเร็ว 10/100Mbps และ 10/100/1000Mbps หรือถ้าไม่มีก็สามารถซื้อหามาติดตั้งเพิ่มเติมได้ ซึ่งก็จะมีให้เลือกใช้ทั้งแบบติดตั้งภายใน และแบบติดตั้งภายนอก แต่ควรใช้แบบติดตั้งภายในกับสล็อตPCIมากกว่า

27. ตัวอย่างโมเด็ม

28. กราฟิกการ์ด กราฟิกการ์ดเป็นส่วนประกอบที่ใช้การส่งสัญญาณข้อมูลให้กับมอนิเตอร์เพื่อทำให้เกิดภาพ มีข้อแนะนำในการเลือกดังนี้ • ประเภท : การ์ดแสดงผลที่นิยมมี 2 ประเภท คือ - AGP มีความเร็วที่ 266 MB/s ซึ่งในปัจจุบันได้มีการลดความสำคัญลงเพราะมีสล็อกที่เร็วกว่ามาแทน - PCL Express เป็นมาตรฐาน

29. ตัวอย่างกราฟิกการ์ด

30. การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ • 1. การดูแลรักษาแป้นพิมพ์ (Keyboard) • - ทำความสะอาดโดยการปัดฝุ่นเป็นประจำ • - ห้ามทำน้ำหกบนแป้นพิมพ์

31. การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ • 2.การดูแลรักษาจอภาพ • 1. อาจซื้อ filter ช่วยในการกรองแสงเพื่อที่เวลาใช้จะได้ไม่แสบตาหรือลดความสว่างแสงที่หน้าจอให้เหมาะสม2. สามารถทำความสะอาดจอภาพได้โดยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดให้แห้ง เช็ดจอภาพให้สะอาด3. หลังจากใช้งานแล้วให้ใช้ผ้าคลุมจอภาพทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นละออง4. ไม่ควรเปิดจอนานๆถ้าไม่ใช้งานเพราะอาจทำให้เสื่อมเร็วถ้าจำเป็นต้องเปิดจอทิ้งไว้ ควรตั้งโปรแกรม Screen Saver เพื่อช่วยรักษาจอภาพ

32. การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ • 3.การดูแลรักษาเมาส์ (Mouse)5.การดุแลรักษาเครื่องพิมพ์ (Printer) • - วางเมาส์ไว้ที่แผ่นรองเมาส์ เมื่อใช้งานทุกครั้ง • - ทำความสะอาดบริเวณลูกกลิ้งของเมาส์ • - อย่าเคาะเมาส์แรง ๆ กับพื้น

33. การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ • 4.การดูแลรักษาตัวเครื่อง (Case) • - ควรให้เครื่องอยู่บริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ • - อย่าทำน้ำหรืออาหารหกใส่ตัวเครื่อง • - ปิดเครื่องพิมพ์ทุกครั้งหลังจากใช้งาน • - เมื่อกระดาษติดให้ค่อยๆ ดึงกระดาษออกมา

34. การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ • 6.การดูแลรักษาแผ่นดิสก์ (Diskette) • - ห้ามนำแผ่นดิสก์ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ในขณะที่กำลังอ่านข้อมูล • - ไม่ควรนำแผ่นดิสก์ไปไว้ในที่ที่มีความชื้น หรืออุณภูมิสูง • - ไม่ควรนำแผ่นดิสก์เข้าใกล้กับวัตถุที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็ก • - ไม่ควรขีดหรือเขียนสิ่งใดลงบนแผ่นดิสก์ ถ้าจะต้องเขียนให้เขียนลงบนป้ายชื่อที่มีไว้สำหรับปิดบนแผ่นดิสก์

35. การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ • 7.การดูแลรักษาแผ่นซีัดีี (CD) • - ควรเก็บแผ่นซีดีไว้ในกล่อง เพื่อป้องกันฝุ่นละออง • - ไม่ควรขีดเขียนบนแผ่นซีดีเพราะจะทำให้เป็นลอยและใช้งานได้ • - ไม่ควรใช้มือจับบริเวณด้านหน้าของแผ่นซีดี • - ไม่ควรงอแผ่นซีดี อาจจะทำให้แผ่นซีดีมีโอกาสแตกหักได้ง่าย

36. การรับประกันสินค้า • ฮาร์ดิสก์ • การรับประกันฮาร์ดดิสก์ มีระยะเวลาในการรับประกันอยู่ที่ 1 ปี 3ปี หรือ5ปี ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต การรับประกันโดยทั่วไปไม่ครอบคลุมถึงฮาร์ดดิสก์ไหม้ เพราะเสียบแหล่งจ่ายไฟผิดขั้ว หรือเสียบเพราะทำหล่นหรือกระแทกอย่างแรง

37. การรับประกันสินค้า • เมนบอร์ด • ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันขั้นต่ำ1ปี แต่ถ้าเป็นเมนบอร์ดที่มีชื่อเสียงจะมีการรับประกันถึง3ปี ซึ่งมีราคาสูงกว่าเล็กน้อยแต่ก็คุ้มค่าซึ่งจะรับประกันในกรณีที่เสียจากการใช้งานตามปกติเท่านั้น ไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดของเราเองเช่น ไหม้ เนื่องจากเสียบแหล่งจ่ายไฟผิดขั้ว เสียบการ์ดลงไปอย่างแรงทำให้เมนบอร์ดหักหรือลายวงจรขาด เป็นต้นโดยทั่วไปถ้าเมนบอร์ดเสียภายในเวลา1เดือนร้านจะเปลี่ยนให้ใหม่(Clamed) ถ้าเสียหายหลังจากนั้นทางร้านจะส่งซ่อมโรงงาน และให้เรามารับกลับเมื่อซ่อมเสร็จแล้ว

38. การรับประกันสินค้า • ซีพียู(CPU) • การรับประกันจะอยู่ที่1-3ปี ถ้าเป็นบริษัทใหญ่อย่างเช่น Intelหรือ AMD จะมีการรับประจะมีเวลาอยู่ที่ประมาณ 3 ปี แต่ถ้าเป็นบริษัทย่อยอื่นๆเวลาการรับประกันจะอยู่ที่ประมาณ1ปีตามปกติแล้วซีพียูมักจะเสียหายยากกว่าอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ นอกจากเราจะทำการโอเวอร์คล็อกมาเกินไปจนทำให้เกิดความร้อนสูง หรือในกรณีที่เราเสียบขาของซีพียูลงไปในช่อง Slot  หรือ Socket ผิดด้าน จะทำให้ซีพียูไหม้ ซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันเช่นเดียวกับเมนบอร์ด

39. การรับประกันสินค้า • หน่วยความจำหรือแรม (ram) • จะแบ่งออกเป็น2เกรด คือ เกรดดีจะมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน(Livetime Warranty) ประเภทนี้จะมีราคาแพงกว่าแรมชนิดอื่น ซึ่งมักจะเป็นแรมเกรดทั่วไปที่รับประกันเพียง1ปี แต่แรมชนิดทั่วไปนี้จะมีราคาถูกกว่าแรมเกรดดีมาก

40. การรับประกันสินค้า • ซีดีรอม(CD-ROM)  • จะมีรับประกัน1ปี แต่ถ้าหากเสียหาย หรือมีปัญหาก็ให้รีบส่งทางร้านภายใน15วัน ทางร้านจะเปลี่ยนสินค้าใหม่ ถ้าหลังจากนั้นคงต้องส่งเคลมประกันที่โรงงานและมารับกลับเองเมื่อซ่อมเสร็จ

41. การรับประกันสินค้า • การ์ดจอ และการ์ดเสียง (Video & Sound Card) • มีรับประกัน 1 ปี ส่วนใหญ่อุปกรณ์ประเภทนี้มักไม่เสียง่าย แต่จะมีปัญหาในเรื่องของการเสียบการ์ดไม่แน่น ทำให้ไม่มีภาพปรากฏบนหน้าจอเท่านั้น

42. การรับประกันสินค้า • แหล่งจ่ายไฟ(Power Supply) • รับประกัน1ปี ซึ่งแหล่งจ่ายไฟบางครั้งมีผลต่อการทำงานของเครื่องเช่นกัน

43. การรับประกันสินค้า • สินสินค้าประเภทอื่นมักมีใบรับประกันสินค้า แต่สินค้าประเภทคอมพิวเตอร์มักใช้สติ๊กเกอร์รับประกัน (Warranty Sticker) เพื่อยืนยันว่าสินค้านี้มาจากร้านของตนจริง โดยมีการกำหนดวันที่จำหน่าย และระยะเวลาในการรับประกันไว้ โดยทั่วไปสติ๊กเกอร์รับประกันจะมี 2 รูปแบบ

44. การรับประกันสินค้า • 1.สติ๊กเกอร์ที่กำหนดเวลาเริ่มต้นการรับประกัน ซึ่งเป็นแบบที่นิยมกันมากกว่าเพราะง่ายต่อการบันทึกวันเริ่มต้นรับประกันไป เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละชิ้นมีระยะเวลาในการรับประกันไม่เท่ากัน

45. การรับประกันสินค้า • 2.สติ๊กเกอร์กำหนดเวลาสิ้นสุดการรับประกัน รับเป็นรูปแบบสติ๊กเกอร์ที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ซื้อ เนื่องจากจะทราบเวลาสิ้นสุดการรับประกันสินค้าได้ อย่างชัดเจนจากการเขียนลงบนสติ๊กเกอร์นั้นแต่ทางร้านไม่นิยมใช้แบบนี้ เนื่องจากต้องระบุวันที่สิ้นสุดการรับประกันลงไป ซึ่งมีโอกาสที่จะเขียนผิดพลาดได้ง่าย วันสิ้นสุดการรับประกันในสินค้ามักมีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนไว้ว่า EXPIRE อยู่ด้วยเสมอ

46. รายชื่อ • นาย ภาณุพงศ์ จันทร์จวนสุข ม.6/6 เลขที่ 9 • นาย พงศ์พิชญ์ อุปกรณ์ศิริการ ม.6/6 เลขที่ 15 • นาย ฐวัสส์ จิรพิสิทธิ์กุล ม.6/6 เลขที่ 16 • นาย สุรศักดิ์ นครชัย ม.6/6 เลขที่ 19