1 / 10

ตลท.จับมือ BOI ปั๊ม บจ.ใหม่ ผุดมาตรการเว้นภาษีไร้ลิมิต

N. S. P. “ เกาหลีฟีเวอร์ ” รัฐบาลจัดให้ ( FTA). ข้อควรระวังการตรวจสอบข้อมูลรายงานเรือ (Manifest). เรือยังไม่ออกทำไมแก้ใบขนไม่ได้. ตลท.จับมือ BOI ปั๊ม บจ.ใหม่ ผุดมาตรการเว้นภาษีไร้ลิมิต. การค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย. MD Says.

leigh
Télécharger la présentation

ตลท.จับมือ BOI ปั๊ม บจ.ใหม่ ผุดมาตรการเว้นภาษีไร้ลิมิต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. N S P “เกาหลีฟีเวอร์” รัฐบาลจัดให้ (FTA) ข้อควรระวังการตรวจสอบข้อมูลรายงานเรือ (Manifest) เรือยังไม่ออกทำไมแก้ใบขนไม่ได้ ตลท.จับมือ BOI ปั๊ม บจ.ใหม่ ผุดมาตรการเว้นภาษีไร้ลิมิต การค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย MD Says

  2. ปัจจุบันนี้เป็นยุคเกาหลีฟีเวอร์เฟื่องฟู แทบทุก ๆ อย่างที่เราได้รับอิทธิพลและเลียนแบบมาจากประเทศเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น ดารา นักร้อง การแต่งกาย การทำศัลยกรรม หนัง ละคร อาหาร หรือแม้กระทั่งการท่องเที่ยว ทำให้ไทยขาดดุลการค้าจากชาติเกาหลีมากขึ้นเรื่อย ๆ เกาหลีเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 9 ของไทย เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 9 โดยไทยนำเข้าจากเกาหลีเป็นลำดับที่ 6 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 สินค้าที่ไทยส่งออกไปเกาหลี มาก 5 อันดับแรกได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ประเทศไทย ได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้ากับประเทศเกาหลีแล้ว เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2552 และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ ตุลาคม 2552 ศกนี้ ในชั้นนี้กรมการค้าต่างประเทศอยู่ในขั้นเตรียมการในการให้บริการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ฟอร์ม AK FTA การบริการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า และการจัดสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับ กฎเกณฑ์ เงื่อนไขการได้สิทธิพิเศษทางภาษี เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ทันทีหลังจากความตกลงมีผลบังคับใช้  และจะทำให้การขาดดุลการค้าต่อเกาหลีลดลง ทั้งนี้ ผู้ส่งออกที่ประสงค์จะเตรียมการขอใช้สิทธิ FTA ส่งออกไปเกาหลี สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ หรือ http://www.dft.go.th S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  3. S ปัญหาที่ผู้นำเข้ามักพบ คือเรื่องข้อมูลการรายงาน หรือ Manifest ที่ไม่ตรงกับเอกสารของผู้นำเข้า S.N.P.NEWS ฉบับนี้ข้อควรระวังและวิธีแก้ไขเพื่อความรวดเร็ว และไม่เสียค่าปรับ ดังนี้ 1. หากพบว่าทางการบินไทย หรือ BFS ส่งข้อมูลไม่ตรงกับเอกสารนำเข้า ซึ่งตรงกับข้อมูลของลูกค้า ก็สามารถ ให้ทางการบินไทยแก้ไขได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ทั้งนี้ ต้องภายใน 48 ชม. เท่านั้น 2. กรณีที่ชื่อผู้นำเข้าผิดเล็กน้อย รวมถึงผิดแต่สามารถสื่อความหมายได้เหมือนเดิม เช่น INTL = International หรือ MFG = Manufacturing หรือผิดที่ตัวอักษร เช่น C เป็น O หรือ E เป็น F แบบนี้เจ้าหน้าที่จะผ่อนผันให้ โดยไม่มีค่าปรับ กรณีที่ผิดมาก จะสื่อความหมายเดิมไม่ได้ หรือเป็นคนละชื่อกันเลย ก็จะต้องเสียค่าปรับ 3. ใบเสร็จค่าปรับ 1,000 บาท ที่ออกเป็น TG หรือ BFS นั้น ไม่สามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนได้ เพราะเป็นไปตามกฎหมายศุลกากร มาตรา 38 ที่ว่า นายเรือยื่นเอกสารเป็นเท็จ ก็ต้องปรับนายเรือ ดังนั้นทางออกทางหนึ่งที่จะช่วยผู้นำเข้าได้คือ กรมฯ จะเพิ่มหมายเลข HAWB ไว้ในใบเสร็จเป็นชื่อตัวแทน แล้ว C/O ชื่อผู้นำเข้า แต่เป็นปัญหาด้วยช่วงตัวอักษรที่ให้ไว้เพียง 70 ตัวอักษรเท่านั้น ดังนั้นในเบื้องต้นจะให้วงเล็บ HAWB ไว้ก่อน N P ต่อหน้า 2

  4. หน้า 2 4. การรวม D/O กรณี Partial shipment จะไม่มีค่าปรับแต่อย่างใด 5. กรณีนำเข้าในนามบุคคล ที่อาจจะมีชื่อไม่ครบ หรือชื่อสลับระหว่างชื่อ กับนามสกุล หรือตัวหน้าเป็นชื่อย่อ แล้วตามด้วย นามสกุล หากสื่อได้ว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ก็สามารถผ่อนผันการปรับได้ 6. กรณีผ่านมากับ BFS และเป็น Shipment ผ่านธนาคารทาง BFS จะไม่มีช่อง Notify ที่เป็นชื่อผู้นำเข้าเหมือน TG กล่าวคือไม่สามารถตรวจสอบชื่อผู้นำเข้าได้ เพราะ BFS มีช่องทางเดียวคือ Consignee ซึ่งเป็นชื่อธนาคาร ที่ผ่านมาอาจจะมีค่าปรับ แต่จากนี้ไป หากเกิดกรณีอย่างนี้ ให้ BFS เป็นผู้ดำเนินการ Amend should be ให้ โดยไม่มีค่าปรับ และ BFS กำลังแก้ไขในระบบให้มีการตรวจสอบชื่อผู้นำเข้าในช่อง Notify ต่อไป 7. กรณีที่เครื่องลงวันศุกร์ตอนกลางคืน และไม่สามารถแก้ไข Manifest ได้ภายใน 48 ชม. แต่จะมาแก้ไขวันจันทร์ ซึ่งเลยเวลา 48 ชม.ไปแล้ว ก็ต้องดูว่าเข้าข่ายตามที่กล่าวมาข้างต้นหรือไม่ ซึ่งถ้าหากผิดมาก ก็ยังคงมีค่าปรับต่อไป แต่ทางสำนักขอให้ทาง TAFA ทำหนังสือถึงกรมฯ ผ่านทางสำนักฯ เพื่อขอขยายเวลา 48 ชม.ออกไป เพื่อผ่อนผันสินค้านำเข้าช่วงวันศุกร์วันเสาร์ วันอาทิตย์ และสินค้าในกรณี MISSING AWB S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  5. เมื่อวันที่ 21/08/52 ที่ผ่านมามีผู้ส่งออกรายหนึ่งทำการส่งออกโดยวิธีการนำตู้เข้ามาบรรจุที่โรงงาน ซึ่งเมื่อทางผู้ส่งออกบรรจุเสร็จทางผู้ส่งออกก็ได้ให้ตู้สินค้ามาคืนที่ท่าเรือตามปกติ โดยที่ตู้สินค้านั้นมาถึงที่ท่าเรือคลองเตยเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 21/08/52 แต่พอเวลา 17.00 น. ทางผู้ส่งออกก็ได้โทรศัพท์มาที่บริษัทว่า ราคาต่อหน่วยของสินค้านั้นผิด ทางผู้ส่งออกจะขอแก้ไขใบขน เมื่อทางบริษัทได้รับเรื่องจากผู้ส่งออกแล้วทางบริษัทก็ได้เช็คสถานะของใบขนปรากฏว่าตอนนี้สถานะของใบขนเป็น  STATUS 03  ณ.ตอนนี้แก้ไขใบขนไม่ได้แล้วต้องให้สถานะของใบขนเป็น  STATUS 04 ก่อนถึงจะแก้ไขใบขนได้ แต่ทางผู้ส่งออกก็ได้สอบถามอีกว่า เรือยังไม่ออกเลยนะ ทำไมแก้ใบขนไม่ได้ ทางบริษัทก็ได้ตอบกับผู้ส่งออกว่า ตอนนี้แก้ใบขนไม่ได้จริงๆเพราะใบขนตอนนี้เป็น STATUS 03 ทางบริษัทไม่สามารถที่จะเข้าไปแก้ไขหรือยกเลิกใบขนอะไรได้เลยเพราะตู้สินค้าได้ผ่านเข้าเขตการท่าเรือและทางเจ้าหน้าที่ได้รับบรรทุกแล้วทำให้ตอนนี้จึงไม่สามารถแก้ไขใบขนได้เลย จะแก้ไขได้ต้องเป็น STATUS 04 ก่อน ทางผู้ส่งออกเมื่อได้ทราบข้อมูลตามที่บริษัทแจ้ง ทางผู้ส่งออกก็เข้าใจและยอมรอให้ใบขนสินค้าเป็น STATUS 04 ก่อนถึงจะดำเนินการแก้ไขต่อไป S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  6. ตลาดหลักทรัพย์ผนึกกำลัง บีโอไอ ผุดมาตรการส่งเสริมลงทุนยกเว้นภาษีไม่จำกัดวงเงิน ล่อใจบริษัทไทยและต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในตลาดเพิ่มอีก 50 แห่ง เพื่อขยายไซส์มาร์เกตแคป วางเงื่อนไขต้องยื่นขอก่อนปี 2555 ล่าสุด เตรียมบุกนิคมในชลบุรี ประเดิมโรดโชว์บริษัทต่างแดนตุลาคมนี้มาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ กับการระดมทุนใน ตลท.และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ถือว่าเป็นความร่วมมือครั้งแรก โดยบริษัทจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่จำกัดวงเงิน หากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็มเอไอจากเดิมที่จำกัดไว้ไม่เกินขนาดการลงทุนในโครงการ และคาดว่า จะมีบริษัทเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จำนวน 50 แห่งบริษัทที่ต้องการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะต้องยื่นขอรับสิทธิประโยชน์กับบีโอไอภายในปี 2555 แต่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อใดก็ได้เมื่อมีความพร้อม ซึ่งมาตรการนี้จะให้สิทธิประโยชน์แก่บริษัทที่ยังไม่ได้เข้าจดทะเบียน และต้องการที่จะเข้าจดทะเบียนในอนาคต เพราะ ต้องการสนับสนุนให้มีบริษัทใหม่ๆเข้ามาดจดทะเบียนมากขึ้นขณะเดียวกัน ในโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมแล้ว แม้มีรายได้แล้วก็สามารถขอรับสิทธิเพิ่มเติมตามมาตรการนี้ได้ แต่ ณ วันยื่นขอ จะต้องยังมีสิทธิการยกเว้นภาษีเงินได้เหลืออยู่ ทั้งระยะเวลาและวงเงินที่ได้รับสิทธิ และบริษัทใดบริษัทหนึ่งสามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการนี้ได้โดยไม่จำกัดจำนวนโครงการมาตรการส่งเสริมการลงทุนนี้จะเอื้ออำนวยให้กิจการทุกประเภทที่บีโอไอให้การส่งเสริมการลงทุนและต้องการนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดทุนได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 8 ปี ในลักษณะไม่จำกัดวงเงิน ไม่จำกัดสัดส่วน ไม่จำกัดจำนวนโครงการจากเดิมที่ถูกจำกัดไว้ไม่เกินขนาดการลงทุนในโครงการ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555 แต่ไม่มีผลบังคับใช้กับบริษัทที่จดทะเบียน ตลท.หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ อยู่แล้ว ก่อนวันที่ยื่นขอรับการส่งเสริม S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  7. ตามที่มีการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Ministers Meeting) หรือ AEM ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 12-16 สิงหาคม 2552 และมีการลงนามในข้อตกลงระหว่างอาเซียนกับอินเดีย ซึ่งจะมีผลบังคบใช้ในวันที่ 14 มกราคม 2553 โดยแบ่งสินค้าออกเป็น ดังนี้ 1.    สินค้าปกติ (Normal Track: NT1) ครอบคลุมสินค้าร้อยละ 71 ของพิกัดศุลกากร 6 หลัก เริ่มลดภาษีวันที่ 1 มกราคม 2553 และทยอยลดเป็น 0% ในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 2.    สินค้าปกติ (Normal Track: NT2) ครอบคลุมสินค้าร้อยละ 9 ของพิกัดศุลกากร 6 หลัก เริ่มลดภาษีวันที่ 1 มกราคม 2553 และทยอยลดเป็น 0% ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 โดยผ่อนผันให้ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียนลดภาษีช้าลง 5 ปี 3.    สินค้าอ่อนไหว (Sensitive Lias: SL1) เริ่มลดภาษีวันที่ 1 มกราคม 2553 และทยอยลดเป็น 0% ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ผ่อนผันให้คงภาษีของสินค้าอ่อนไหวที่อัตราฐาน 5% ได้ไม่เกิน 50 รายการ นอกนั้นจะต้องลดภาษีครั้งแรกในวันที่ 1 มกราคม 2553 ให้เหลือ 4.5% และลดอีกครั้งในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ให้ภาษีเหลือ 4% ต่อหน้า 2

  8. หน้า 2 4.    สินค้าอ่อนไหว (Sensitive SL2) ครอบคลุมสินค้า 4% ของรายการ  SL1 ที่จะนำมาลดภาษีเหลือ 0% ในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 5.    รายการสินค้าอ่อนไหวสูง (Highly sensitive list: HSL) ไทยจะลดภาษีสินค้าอ่อนไหวสูงจำนวน 14 รายการให้เหลือ 25.50% 6.    รายการสินค้าที่ไม่นำมาลดภาษี (Negative List: NL) ไทยมีรายการสินค้าที่ไม่พร้อมที่จะนำมาลดภาษีระหว่างกัน 489 รายการ โดยจะมีการหารือเพื่อมานำมาลดภาษี หลังจากความตกลงมีผลบังคับใช้แล้ว ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียน  ประกอบด้วย 10 ประเทศ คือ   ไทย  มาเลเซีย  อินโดนีเซีย  ฟิลิปปินส์  สิงคโปร์  บรูไน  กัมพูชา  ลาว  พม่า  เวียดนาม กฎแหล่งกำเนิดสินค้า เกณฑ์การเปลี่ยนแปลงพิกัดศุลกากรระดับประเภทพิกัดย่อย 6 หลัก (CTSH) รวมกับมูลค่าการผลิตภายในอาเซียน (RVC) ไม่น้อยกว่า 35% หรือมีถิ่นกำเนิดตามเกณฑ์เฉพาะสินค้า (PSRs) ซึ่ง PSRอยู่ระหว่างการเจรจา  ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดสินค้าและรูปแบบการลดภาษีได้ที่ http://www.aseansec.org/22563.htm กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  9. S มาตรการรองรับการยกเลิกภาษีสรรพสามิต แอร์        จะสังเกตได้ว่า สภาพอากาศ บ้านเราในช่วงนี้ เริ่มมีฝนตกชุกขึ้นทุกวัน อากาศก็ร้อนมากขึ้น ในบางวันช่วงเช้า แดดออกจัด ท้องฟ้าปลอดโปร่ง พอตกเย็น กลับมีเมฆและฝนตกหนักอย่างน่ากลัว หลายๆครั้งทำให้รู้สึกว่าสภาพอากาศบ้านเมืองเรา หรือแม้แต่โลกของเรา ยังคงแปรปรวนไม่หยุด เรื่องนี้คงเป็นผลพวงมาจากการที่เราใช้ทรัพยากรไปอย่างสิ้นเปลือง และประชาชนไม่ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสารบางอย่างของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ สารพิษจากควันรถยนต์ วันนี้อยากจะขอกล่าวถึงสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองเรา ซึ่งโดยปกติสินค้าเหล่านี้มักจะจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และต้องเสียภาษีสรรพสามิตอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยใช้ภาษีสรรพสามิตเป็นตัวสกัดกั้น สินค้าหรือบริการที่ฟุ่มเฟือย เช่น สถานอาบอบนวด ค่าบริการสนามกอล์ฟ เหล้า บุหรี่ รวมถึง แอร์ที่ใช้ตามบ้านเรือน เพื่อจำกัดค่าใช้จ่ายของประเทศเราที่จะต้องเสียไปกับสินค้าประเภทนี้ และยังช่วยในการลดปัจจัยที่จะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองเราด้วย N P ต่อหน้า 2

  10. หน้า 2 แต่มาถึงวันนี้รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกภาษีสรรพสามิตสำหรับแอร์ขนาดไม่เกิน 72,000 BTU ซึ่งจะทำให้ แอร์ที่ใช้ในบ้านเรือน ราคาถูกลง ด้านหนึ่งก็เป็นผลดีต่อประชาชน เพราะเนื่องจาก แอร์ก็ถือว่ามีความจำเป็นสำหรับประเทศไทยปัจจุบัน และจะตีความว่า”ไม่ฟุ่มเฟือย” ลำบาก แต่อีกด้านหนึ่ง การใช้แอร์ที่มากขึ้นก็ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ดีการที่รัฐบาลยกเลิกภาษีสรรพสามิตสำหรับแอร์อาจจะเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่จะตามมาสำหรับการใช้แอร์ที่มากขึ้น ในเรื่องของมลภาวะนั้น รัฐบาลเตรียมมาตรการรองรับไว้อย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นคำถามที่ทางรัฐบาลจะต้องมองให้เห็นถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ในผลประโยชน์ของประชาชน และอาจจะเป็นของบุคคลบางกลุ่มด้วยหรือไม่ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

More Related