1 / 68

การพัฒนาและส่งเสริมพลังงานทดแทน

การพัฒนาและส่งเสริมพลังงานทดแทน. ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก 18 สิงหาคม 2546. สถานการณ์พลังงานในประเทศไทย. การจัดหาและการใช้พลังงานของประเทศ. ประมาณการปี 2546-2550. ปี 2545. หน่วย : พันบาร์เรลต่อวัน. 1,518. อุตสาหกรรม. CAGR 5%. 35%. 39%. 3%. ขนส่ง. 4%. 22%. 15%.

Télécharger la présentation

การพัฒนาและส่งเสริมพลังงานทดแทน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การพัฒนาและส่งเสริมพลังงานทดแทนการพัฒนาและส่งเสริมพลังงานทดแทน ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก 18 สิงหาคม 2546

  2. สถานการณ์พลังงานในประเทศไทยสถานการณ์พลังงานในประเทศไทย

  3. การจัดหาและการใช้พลังงานของประเทศการจัดหาและการใช้พลังงานของประเทศ ประมาณการปี 2546-2550 ปี 2545 หน่วย : พันบาร์เรลต่อวัน 1,518 อุตสาหกรรม CAGR 5% 35% 39% 3% ขนส่ง 4% 22% 15% ครัวเรือน /พาณิชย์ เกษตร 31% พลังน้ำ ถ่านหิน/ลิกไนต์ ในประเทศ 41% ก๊าซธรรมชาติ 59% น้ำมัน 51% นำเข้า ปริมาณ 1,207 พันบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.8%

  4. การจัดหาและการใช้น้ำมันของประเทศการจัดหาและการใช้น้ำมันของประเทศ ปี 2545 ประมาณการปี 2546-2550 หน่วย : พันบาร์เรลต่อวัน 748 ไฟฟ้า CAGR 4% อุตสาหกรรม 7% 14% ครัวเรือน /พาณิชย์ 11% 7% 65% 7% ขนส่ง 20% เกษตร ก๊าซหุงต้ม เบนซิน 10% น้ำมันเครื่องบิน/ก๊าด ในประเทศ 15% 45% ดีเซล 85% นำเข้า เตา 14% ปริมาณ 617 พันบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.0%

  5. National Champion • Secure Sources of Supply : Domestic / Regional / Global • Trading Hub / Stock Piling / Southern Sea Board • Alternative Fuel : Fuel Cell / Renewable Energy • Natural Gas Base Petrochemical • TAGP • Total Energy Services • Power Generation • Distribution Network & Market • Gas to Liquid • LNG • etc. Projection History 12% 2% Renewable 4% Wood/ Charcoal 12% Hydro 2000 2030 18% 3% UNIT : KBD Lignite /Coal 5% Indigenous 52% Indigenous 35% 10% 12% Import 48% Import 65% 16% LNG 5% Pipe Gas 1% 17% Import 49% 14% 25% Indigenous 51% 5% 8% Import 24% 27% 12% Oil Indigenous 76% 24% 6% 37% 17% 39% Import 100% 10% Indigenous 15% 41% 11% 48% 28% 53% Import 85% 34% Energy Demand in 2030

  6. ความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทน

  7. ความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทน *ประเทศไทยมีการบริโภคน้ำมันเบนซินประมาณ 7,300 ล้านลิตร/ปี (20 ล้านลิตร/วัน) และน้ำมันดีเซลอีกประมาณ 16,000 ล้านลิตร/ปี (44 ล้านลิตร/วัน) * ต้องนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งน้ำมันดิบและสำเร็จรูปจากต่างประเทศ เป็นหลักคิดเป็นร้อยละ 85 ของปริมาณการจัดหาทั้งหมด มีมูลค่าถึง 300,000 ล้านบาท/ปี

  8. ความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทน (ต่อ) *ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นจากวิกฤติการณ์น้ำมัน *ความต้องการพึ่งตนเองและสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน *ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ *ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม

  9. E – ENERGY OPTIONS / ALTERNATIVES THE E - CHALLENGES

  10. The E - Challenges E - End of Cheap Oil E - Environment (Climate Change/GHG/Kyoto Protocol) E - Energy Source: Diversification (Abundant and clean, local resources for local needs) E - Energy Security: Short, medium & long-term

  11. The E - Challenges E - Energy Efficiency & Conservation Energy Management / Energy Technology E - Economic Viability/ Financial Support E - Economy of Scale E - Evolution & Innovation of Technology (R & D: From “Knowledge” to “Innovation” Capability Build-Up/Technology Transfer)

  12. The E - Challenges E - Experience-sharing/Partnership - All sectors (E – Energy Model / Lessons learnt / Best Practices) E - Expand community/public participation E - Economic opportunities E - Energy Distribution/Energy Services (Rural Development/Income Generation/Social Development)

  13. The E - Challenges E - Enhanced efforts to multiply benefits E - Encouragement, Support & Commitment from Government (E – Establish Policy, Goals & Concrete Actions) E - Eliminate all threats/obstacles/barriers (Policy/Regulatory/Technical/Eco./Fin./Legal/Human/Org.)

  14. The E - Challenges E - Economic growth and sustainability E - Establish the Goal for RE: REACH OUT TO RENEWABLES OUR ENERGY, OUR FUTURE

  15. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทยความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย

  16. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทยความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย * มีพืชผลทางการเกษตรหลายชนิดสามารถนำมาผลิตเชื้อเพลิงทดแทนได้ วัตถุดิบผลิตเอทานอล : จากการศึกษาพบว่าประเทศไทยมีพืชที่ เหมาะสมเหลือบริโภค สามารถนำมาผลิต เอทานอลได้ถึง 3 ล้านลิตร/วัน คือ

  17. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) • - มันสำปะหลัง มีความเหมาะสมมากที่สุดเนื่องจากผลผลิตในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีไม่ต่ำกว่าปีละ 20 ล้านตัน เพราะพื้นที่การเพาะปลูกจำนวนไม่น้อยกว่า 6.5 ล้านไร่ ไม่สามารถนำไปปลูกพืชอื่นที่เหมาะสมกว่าได้ โดยผลผลิตจำนวนนี้จะถูกนำไปใช้ทำอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมแป้งอย่างละ 8 ล้านตัน จึงมีวัตถุดิบส่วนเกิน 4 ล้านตัน ที่สามารถนำไปผลิตเอทานอลได้ถึง 2.2 ล้านลิตร/วันเมื่อนำไปผสมกับน้ำมันเบนซินด้วยสัดส่วนร้อยละ10 จะได้แก๊สโซฮอล์ถึง 20 ล้านลิตร/วัน สามารถทดแทนการใช้เบนซินได้ทั้งหมด

  18. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) - กากน้ำตาล เนื่องจากมีผลผลิตไม่มากนักเพียง2.5 ล้านตัน/ปี ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและอาหารสัตว์ จึงมีเหลือเพื่อการส่งออกเพียง 1 ล้านตัน/ปีสามารถผลิตเอทานอลได้ประมาณวันละ 800,000 ลิตร แต่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดแคลนวัตถุดิบและจะคุ้มค่าต่อการลงทุนมากขึ้น หากเป็นการผลิตต่อเนื่องหรือต่อยอดกับโรงงานน้ำตาลหรือโรงงานสุราเพื่อจะได้ใช้ Facilities ร่วมกันได้ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง

  19. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) การผลิตเอทานอล 99.5% ของประเทศไทยในปัจจุบัน หน่วยงาน กำลังผลิต/วัน โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา 500 ลิตร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) 1,500 ลิตร องค์การสุรา กรมสรรพสามิต 1,000 ลิตร

  20. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย(ต่อ)ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย(ต่อ) รายชื่อผู้ได้รับอนุมัติจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอลเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 8 ราย ชื่อผู้ประกอบการ ที่ตั้งโรงงาน กำลังผลิต วัตถุดิบ (ลิตร/วัน) 1. บจ. พรวิไล อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป อยุธยา 25,000 กากน้ำตาล / เทรดดิ้ง (ต่อยอด) มันสำปะหลัง 2. บจ. ไทยอะโกร เอ็นเนอร์ยี่ นครสวรรค์ 150,000 กากน้ำตาล 3. บจ. อินเตอร์เนชั่นแนล ก๊าซโซฮอล์คอร์ประยอง 500,000 มันสำปะหลัง 4. บจ. แสงโสม นครปฐม 100,000 กากน้ำตาล (ต่อยอด)

  21. รายชื่อผู้ได้รับอนุมัติจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอลเป็นเชื้อเพลิง (ต่อ) ชื่อผู้ประกอบการ ที่ตั้งโรงงาน กำลังผลิต วัตถุดิบ (ลิตร/วัน) 5. บจ. ไทยง้วน เอทานอล ชัยภูมิ 130,000มันสำปะหลัง 6. บจ. น้ำตาลขอนแก่น ขอนแก่น 85,000 กากน้ำตาล / มันสำปะหลัง 7. บจ. อัลฟา เอนเนอร์จี นครสวรรค์ 212,000 มันสำปะหลัง 8. บจ. ไทยเนชั่นแนล พาวเวอร์ ระยอง 300,000 มันสำปะหลัง ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย(ต่อ)

  22. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) วัตถุดิบผลิตไบโอดีเซล (Bio-Diesel):จากการศึกษา โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ความเพียงพอของปริมาณวัตถุดิบและต้นทุนในการสกัดน้ำมันดิบพบว่า ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่เหมาะสมที่สุด รองลงมา คือน้ำมันมะพร้าวนอกจากนี้รัฐบาลยังได้ให้การสนับสนุนตามมติ ครม. สัญจรภาคใต้ที่จังหวัดสงขลาโดยอนุมัติงบประมาณดูแลสินค้าเกษตร 7,349 ล้านบาท โดยเน้นปาล์มน้ำมัน ยางพาราและผลไม้ เป็นหัวหอกนำร่อง ทั้งนี้แผนระยะยาวให้เน้นสายพันธุ์ที่มีคุณภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ รวมทั้งวางแผนทำอุตสาหกรรมครบวงจร

  23. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย(ต่อ)ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย(ต่อ) ภาครัฐให้การส่งเสริมและสนับสนุน ดังนี้ ่ แก๊สโซฮอล์ : - จัดตั้งคณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติ - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดแผนการผลิตอ้อยและ มันสำปะหลัง ปี 2545-2549 - ยกเว้นภาษีสรรพสามิตเอทานอลหน้าโรงงานและในส่วนที่เติม ในแก๊สโซฮอล์ตลอดไป - ให้ราคาจำหน่ายต่ำกว่าเบนซิน 95 โดยความแตกต่างของ ราคาอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 บาท/ลิตร

  24. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) - ลดหย่อนอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน - กำหนดคุณภาพแก๊สโซฮอล์เป็นการเฉพาะ (เริ่มใช้ 21 ต.ค.45) - ยกเลิก MTBE ในเบนซิน 95 โดยการใช้กลไกด้านการตลาด ที่ได้ กำหนดราคาจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ให้ต่ำกว่าเบนซิน 95 ซึ่งจะทำให้ เกิดการเลิกใช้ MTBE โดยอัตโนมัติ

  25. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) - หากจำเป็น ให้จัดตั้งกองทุนรักษาระดับราคาเอทานอล - ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้และ ร่วมกันใช้ โดยให้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สนับสนุนงบประมาณ

  26. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) - กำหนดมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม ได้แก่ 1. ให้ราชการ&รัฐวิสาหกิจ เตรียมเลือกใช้เป็นอันดับแรก 2. ส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และ โรงกลั่นน้ำมัน 3. ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอล ของผู้ประกอบการขนาดย่อยและขนาดกลางเพื่อให้มี แหล่งผลิตเชื้อเพลิงจากผลผลิตทางการเกษตร กระจาย อยู่ทั่วไปของประเทศ

  27. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย (ต่อ) น้ำมันพืชที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล : - ให้ ปตท. จำหน่ายดีเซลปาล์มบริสุทธิ์ที่มีคุณสมบัติเป็นไป ตามข้อกำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซลหมุนเร็วของรัฐ - ยกเว้นภาษีสรรพสามิตในส่วนของน้ำมันพืชที่ผสมในดีเซล - ยกเว้นเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเงินเก็บเข้า กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของน้ำมันพืชใน ส่วนที่ผสมในดีเซล

  28. ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย(ต่อ)ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนของประเทศไทย(ต่อ) - ให้มีการศึกษาวิจัยเพิ่ม ดังนี้ ๐ คุณภาพดีเซลปาล์มบริสุทธิ์ที่ไม่มีผลเสียต่อ เครื่องยนต์และให้มลพิษไม่มากกว่าน้ำมันดีเซล ๐ ผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ๐ ลดค่าใช้จ่ายตลอดขั้นตอนการผลิต ๐ นโยบายการใช้น้ำมันพืชเป็นเชื้อเพลิง * เทคโนโลยีในการผลิตไม่ยุ่งยากซับซ้อน * มีความต้องการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

  29. การพัฒนาและส่งเสริมเชื้อเพลิงทดแทนของ ปตท.

  30. การพัฒนาและส่งเสริมเชื้อเพลิงทดแทน ของ ปตท. กลุ่มแอลกอฮอล์ ๐ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ๐ น้ำมันดีโซฮอล์ กลุ่มพืชน้ำมัน ๐ น้ำมันปาล์มดิบ ๐ น้ำมันดีเซลปาล์ม (บริสุทธิ์) ๐ ไบโอดีเซล

  31. กลุ่มแอลกอฮอล์

  32. ความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทยความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทย พ.ศ. 2528 : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ศึกษาการผลิต แอลกอฮอล์จากอ้อย เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน พ.ศ. 2529 : โครงการฯสามารถผลิตเอทานอล 95% ปตท. สนับสนุนงานติดตามศึกษาวิจัยและพัฒนา ตลอดจนสร้างสถานีบริการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ ในสวนจิตรลดา

  33. ความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทยความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทย พ.ศ. 2528-30 : ปตท. และบริษัท สองพลอย จำกัด ทดลองจำหน่ายน้ำมันผสม พิเศษระหว่างเอทานอลกับน้ำมันเบนซินในอัตราส่วน 15: 85 ใน สถานีบริการ 3 แห่ง ได้แก่ สวัสดิการกรมศุลกากร กรมวิชาการ เกษตร และ สนง. ใหญ่ ปตท. ไม่พบความผิดปกติในการใช้งาน เพียงแต่มีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี เพียง 5-6 คัน ที่ภายในถังน้ำมันมีสนิมจะถูกะล้างแก๊สโซฮอล์ทำให้เกิดการอุด ตันใส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้เครื่องยนต์เดินไม่สะดวก ปตท. ได้แก้ไขโดยการถอดล้างหรือเปลี่ยนใหม่ให้ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชมเชยว่า อัตราเร่งดีสตาร์ทง่าย แต่ต้องหยุดลงเนื่องจากราคาเอทานอลสูงกว่า น้ำมันเบนซิน

  34. ความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทยความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทย • พ.ศ. 2530-33: ปตท.ศึกษาวิจัยการลดสารตะกั่วในน้ำมันเบนซิน ด้วย MTBE และเอทานอล กระทั่งสามารถ ยกเลิกการใช้สารตะกั่วผสมในเบนซิน • พ.ศ. 2537: โครงการ ขยายการผลิตเอทานอลเพื่อนำไปผสม กับเบนซินรรมดาในอัตราส่วน 1:4 ทดลองใช้ กับรถยนต์ในโครงการฯ

  35. ความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทยความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทย พ.ศ. 2538: ปตท. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ฯ ปรับปรุงคุณภาพเอทานอลให้มี ความบริสุทธิ์ 99.5% นำมาผสมกับเบนซินธรรมดาในอัตราส่วน 1:9 เป็น “แก๊สโซฮอล์” ใช้กับรถยนต์ พ.ศ. 2540: ปตท. ร่วมมือกับ JICA (Japan International Cooperation Agency) ศึกษาการใช้แก๊สโซฮอล์ในรถยนต์ โดยทำการทดลอง ทั้งในห้องปฏิบัติการและภาคสนาม

  36. ความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทยความเป็นมาของน้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ในประเทศไทย พ.ศ. 2543: ปตท. ร่วมมือในโครงการพลังงานสะอาด อากาศบริสุทธิ์ กับ ขสมก. และ รสพ. ได้ทดลองใช้น้ำมันผสมระหว่าง เอทานอลกับน้ำมันดีเซล ในอัตราส่วน 15:85 และ สารเติมแต่งประเภท Emulsifier กับรถของ ขสมก. จำนวน 6 คัน 11 ม.ค. 44: ปตท. เปิดจำหน่าย “แก๊สโซฮอล์” ให้กับประชาชนอีกครั้ง ที่สถานีบริการ ปตท. สนญ. 26 มี.ค. 45: ปตท. - สวทช. - ฟอร์ด - Lubrizol - Bosch ได้ร่วมลงนาม ในโครงการวิจัยและพัฒนาเชื้อเพลิงไบโอเอทานอล สำหรับรถยนต์ดีเซลในประเทศไทย

  37. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. โครงการความร่วมมือระหว่าง ปตท.-โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา (พ.ศ. 2538-44) การพัฒนาการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ : ๐ ทดสอบการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ (อัตราส่วนผสมของเอทานอล 99.9% : เบนซินธรรมดา = 1 : 9 (10%) กับรถในโครงการส่วนพระองค์ฯ ได้แก่ รถบรรทุกเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก รวมทั้งรถจักรยานยนต์สองและ สี่จังหวะและน้ำมันดีโซฮอล์/Diesohol E-15 (อัตราส่วนผสมของ เอทานอล 95% : ดีเซล = 14%+สาร Emulsifier) กับรถบรรทุก เครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กและรถไถแทรกเตอร์ เครื่องยนต์ KUBOTA ตลอดจนรถยนต์ดีเซลใช้สำหรับเก็บขยะ

  38. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) ๐ ผลการทดสอบ พบว่า ตลอดระยะเวลาการทดลองเป็นเวลากว่า 1 ปี ไม่พบความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเครื่องยนต์ สามารถทำให้มลพิษไอเสียของเครื่องยนต์เบนซินลดลงประมาณ 10% และลดควันดำได้ถึง 50%จากเครื่องยนต์ดีเซล แต่การสิ้นเปลืองมากขึ้นถึงเกือบ 10% สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล

  39. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) การพัฒนาการใช้น้ำมันดีเซลผสมแอลกอฮอล์ ๐ ทำการศึกษาการผลิตดีโซฮอล์ การผลิตเอทานอล รวมทั้งทดสอบการใช้ดีโซฮอล์กับรถแทรกเตอร์ ของโครงการส่วนพระองค์ฯ พบว่า ในช่วงแรกกำลังของรถตกลง เนื่องจากเป็นรถที่ใช้งานหนักต้องการกำลังที่สูง แต่หลังจากดัดแปลงระบบการจ่ายน้ำมันแล้ว ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา

  40. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์/ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) ๐ นอกจากนี้ ยังได้ทดสอบการใช้ดีโซฮอล์กับรถดีเซลขนาดใหญ่ ขสมก. พบว่า ทำให้มลพิษไอเสียลดลง ช่วยลดควันดำได้ถึง 30-40% แต่ก็สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นประมาณ 7-9%

  41. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) โครงการความร่วมมือระหว่าง ปตท.-JICA (ประเทศญี่ปุ่น) (พ.ศ. 2540-43) การพัฒนาการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสมแอลกอฮอล์ ๐ ปตท. ร่วมมือกับ JICA ศึกษาการใช้แก๊สโซฮอล์ โดยทำการทดลองทั้งในห้องปฏิบัติการและภาคสนาม ๐ ผลการศึกษาโดยภาพรวมสรุปได้ว่า การใช้แก๊สโซฮอล์ใน รถยนต์ทั้งแบบหัวฉีดและแบบคาร์บูเรเตอร์ สามารถลด ปริมาณมลพิษได้และไม่พบปัญหาแต่อย่างใด

  42. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) การวิจัยเปรียบเทียบการใช้น้ำมันเบนซินกับแก๊สโซฮอล์(พ.ศ. 2543-44) เบนซินออกเทน 95 VS แก๊สโซฮอล์ออกเทน 95 ในรถยนต์ ๐ ผลต่อปริมาณไอเสียและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 1. ปริมาณ HC ไม่แตกต่างกัน 2. แก๊สโซฮอล์ให้ปริมาณ NOXน้อยกว่าประมาณ 21.5 – 38.1 % อย่างมีนัยสำคัญ 3. แก๊สโซฮอล์ ให้ปริมาณ CO น้อยกว่าประมาณ 10.5 – 21.9 %อย่างมีนัยสำคัญ 4. แก๊สโซฮอล์ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ประมาณ 0.8 – 1.4% อย่างมีนัยสำคัญ

  43. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) ๐ ผลต่อสมรรถนะและอัตราเร่ง 1. พบว่าให้กำลังสูงสุดที่ล้อที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ๐ ผลของแก๊สโซฮอล์ต่อวัสดุระบบจ่ายเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ 1. แก๊สโซฮอล์ มีผลต่อคุณสมบัติบางประการต่อวัสดุยาง มากกว่าเล็กน้อย แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน 2. มีผลต่อคุณสมบัติบางประการต่อวัสดุพลาสติกใกล้เคียงกัน 3. แก๊สโซฮอล์ ไม่มีผลต่อคุณสมบัติของโลหะยกเว้นสีพื้นผิว ของทองแดงและทองเหลือง แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน

  44. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) เบนซินออกเทน 91 VS แก๊สโซฮอล์ออกเทน 91ในรถจักรยานยนต์ ๐ รถจักรยานยนต์ 2 จังหวะ 1. กำลังของเครื่องยนต์ลดลงเล็กน้อยที่รอบสูง 2. ปริมาณ CO & HC ลดลง 3. ปริมาณ NOX & CO2สูงขึ้น 4. การประหยัดเชื้อเพลิงไม่แตกต่าง

  45. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) เบนซินออกเทน 91 VS แก๊สโซฮอล์ออกเทน 91ในรถจักรยานยนต์ ๐รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ 1. กำลังของเครื่องยนต์ไม่ด้อยกว่าน้ำมันเบนซิน 2. ปริมาณ CO & HC ลดลง 3. ปริมาณ NOX & CO2สูงขึ้น 4. การประหยัดเชื้อเพลิงดีกว่าน้ำมันเบนซิน 6%

  46. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) โครงการทดสอบการใช้ดีโซฮอล์ในเครื่องยนต์ดีเซล (พ.ศ. 2545-46) เป็นโครงการที่ ปตท. ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินโครงการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบ Performance และ Emission จากการใช้ดีโซฮอล์ ในรถยนต์ดีเซลขนาดเล็กก่อนและหลังการใช้งาน 50,000 กม.

  47. การวิจัยและพัฒนาแก๊สโซฮอล์ / ดีโซฮอล์ของ ปตท. (ต่อ) Collaborative Research and Development Project on Bio-Ethanol Fuel For Diesel Vehicles in Thailand (พ.ศ. 2545-46) (อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา) ปตท. - สวทช. - ฟอร์ด - Lubrizol - Bosch ได้ร่วมดำเนินโครงการฯ เพื่อศึกษา คุณสมบัติของน้ำมันดีโซฮอล์และการใช้กับรถยนต์ Ford Ranger และทดสอบทั้งในด้านประสิทธิภาพเครื่องยนต์และไอเสีย ความทนทานของเครื่องยนต์และชิ้นส่วน การสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพจารจรทั้งในเมืองและทางหลวง

  48. แก๊สโซฮอล์ของ ปตท. * แก๊สโซฮอล์ คือน้ำมันเบนซินผสมเอทานอล (99.5%) 10% และสารเติมแต่ง * มีคุณสมบัติตรงตามที่กระทรวงพลังงานกำหนดทุกประการ * ใช้ทดแทนน้ำมันเบนซิน 95 ได้โดยไม่ต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ * จำหน่ายที่สถานีบริการ สำนักงานใหญ่ ราคาถูกกว่า เบนซิน 95 ลิตรละ 50 สตางค์ และพร้อมที่จะขยาย เพิ่มขึ้น(ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล) เมื่อมีเอทานอลเพียงพอ * ช่วยประเทศชาติได้ ทั้งทางด้านปัญหามลพิษ ลดการนำเข้า น้ำมันเชื้อเพลิงและช่วยพยุงราคาสินค้าทางการเกษตร

  49. น้ำมันดีโซฮอล์ของ ปตท.(อีกก้าวหนึ่งที่กำลังวิจัยและพัฒนา) * ดีโซฮอล์ คือน้ำมันดีเซลผสมเอทานอล (99.5 %) ร้อยละ 7-10 และสารเติมแต่ง * ใช้ทดแทนน้ำมันดีเซล * ช่วยประเทศชาติได้ ทั้งทางด้านปัญหามลพิษ ลดการนำเข้า น้ำมันเชื้อเพลิงและช่วยพยุงราคาสินค้าทางการเกษตร

  50. กลุ่มพืชน้ำมัน

More Related