E N D
การทำงานของเราในกว่า 100 ประเทศนั้นนับเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่จุดมุ่งหมายเรานั้นเข้าใจง่าย คือ การลดควายากจน กว่า 20 ปีที่มาแล้วที่เราได้เปลี่ยนเป้าหมายรวมไปถึงวิธีการทำงานของเรา ประเด็นใหม่ๆ ที่อยู่ในการจัดการของเราได้แก่เรื่องความเท่าเทียมกันของหญิงและชาย เรื่องการพัฒนาโดยชุมชนเพื่อชุมชน และสิทธิและบทบาทของชนกลุ่มน้อยในด้านการพัฒนา การสนับสนุนของเรารวมไปถึงการบริการทางสังคมเช่น สุขอนามัย โภชนาการ การศึกษา เงินสำรองเลี้ยงชีพ นั้นสูงขึ้นจากร้อยละ 5 ในปีพ.ศ. 2523 เป็นร้อยละ 22 ในปี 2546 วันนี้ประเทศต่างๆ ได้เข้ามาหาธนาคารโลกพร้อมแผนงานที่จะช่วยเหลือคนยากจน และเราได้ร่วมทำงานกับประเทศเหล่านั้นในวีถีทางใหม่
การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนา ธนาคารโลกได้ให้เงินกู้ราว 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาซึ่งมีประมาณ 157 โครงการในทั้งหมด 83 ประเทศ ธนาคารโลกทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลในประเทศต่างๆ หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ ประเทศผู้บริจาค ภาคประชาสังคมและหุ้นส่วนอื่นๆ ในการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้เด็กโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงและเด็กที่ด้อยโอกาสสามารถเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาได้ ข้อความ
การแพร่ระบาดของเชื้อ เอช ไอ วี/เอดส์ ทำให้ประเทศพัฒนาที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมที่สั่งสมมาตลอด 50 ปี ต้องหยุดชะงัก ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ธนาคารโลกในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนโครงการ ยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ซึ่งเป็นองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการกับการแพร่ระบาดของเชื้อเอช ไอ วี/เอดส์ ได้ใช้เงินกว่า 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐในการต่อสู้กับการแพร่กระจายของเชื้อเอช ไอ วี/เอดส์ ทั่วโลก ธนาคารโลกยังเป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโครงการต่อสู้กับโรคเอดส์ในประเทศกำลังพัฒนา ธนาคารโลกให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนด้านการเงินกับทุกประเทศที่มีกลยุทธ์ในการจัดการกับโรคเอดส์ที่มีประสิทธิภาพ
คอร์รับชันเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดต่อการพัฒนา คอร์รับชันทำให้คนส่วนน้อยรวยขึ้นจากการดึงเอาค่าใช้จ่ายของสังคมทั้งหมดมาใช้ ทิ้งให้คนจนต้องทนทุกข์จากผลสืบเนื่องมาจากการที่คนส่วนน้อยเหล่านั้นเอาทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อคนจนไปใช้ นับแต่ปีพ.ศ. 2539 ธนาคารโลกได้ทำโครงการต่อสู้คอร์รับชันและสร้างธรรมาภิบาลในเกือบ 100 ประเทศที่กำลังพัฒนา โครงการเหล่านี้มีตั้งแต่การอบรมนักข่าวในการสืบสวนและเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินและที่มารายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง เป็นต้น
จากความริเริ่มของโครงการประเทศที่มีหนี้สินมากที่สุดและยากจนที่สุด (heavily indebt poor countries- HIPC) ธนาคารโลกได้มีส่วนในการลดภาระหนี้สินของประเทศที่ยากจนที่สุด ปัจจุบันมี 27 ประเทศที่ได้รับการช่วยเหลือ โดยมีมูลค่า 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐในการจัดการกับปัญหานี้ใน 20 ปี และส่วนหนึ่งของการริเริ่มคือ ประเทศเหล่านี้ใช้เงินกองทุนของรัฐบาลเพื่อปลดหนี้ในโครงการต่างๆ ที่ช่วยลดความยากจน
ความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเป้าหมายของธนาคารโลกเพื่อลดความยากจน นับแต่ปีพ.ศ. 2541 ธนาคารโลกได้แสดงความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมและนำไปสู่การเป็นองค์การระหว่างประเทศที่ให้การสนับสนุนเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโครงการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ปกป้องสัตว์ป่านานาชนิด พืชพันธุ์ไม้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ กลยุทธ์ในการจัดการสิ่งแวดล้อมนั้นได้มุ่งเน้นถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ การอนุรักษ์ป่าไม้ ทรัพยากรน้ำ การจัดการกับปัญหามลพิษและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงประเด็นอื่นๆ
ธนาคารโลกได้เข้าร่วมกับหุ้นส่วนในการพัฒนาหลายองค์การในการต่อสู้เพื่อขจัดความยากจนทั่วโลกตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา อาทิ ร่วมกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ให้เงินสนับสนุนกลุ่มที่ปรึกษาสำหรับการวิจัยทางการเกษตรระหว่างประเทศ (Consultative Group on International Agricultural Research - CGIAR) ซึ่งพัฒนาให้เกิดวิทยาการที่ก้าวหน้าที่สุดอันจะช่วยลดจำนวนผู้หิวโหยและยากจน พัฒนาโภชนาการและสุขภาพของผู้คน และปกป้องสิ่งแวดล้อม
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาที่พวกเขาต้องได้รับบริการโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน แต่มันเป็นเพียงความฝันที่อาจจะเกินจริงสำหรับผู้คนในอีกหลายส่วนของโลก โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องง่ายๆ แค่การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อย่าง ท่อส่งก๊าซ คลองชลประทาน การจัดการน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภคบริโภคเท่านั้น หากแต่รวมไปถึงการจัดการสิ่งจำเป็นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น การพัฒนาชุมชนแออัด หรือ การจัดการเชื่อมถนนไปยังพื้นที่กันดารห่างไกล
ภาคประชาสังคมไม่ได้มีอิทธิพลเพียงแต่ในเรื่องการอภิปรายในเรื่องนโยบายในการพัฒนาระดับนานาชาติแต่ยังเป็นช่องทางที่สำคัญในการให้บริการสังคมและโครงการพัฒนาใหม่ๆ ภาคประชาสังคมยังเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการที่ธนาคารโลกให้การสนับสนุน จากร้อยละ 21 ของโครงการในปี พ.ศ. 2533 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 72 ในปี พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังให้เงินสนับสนุนแบบให้เปล่าแก่องค์การเหล่านี้เพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม การให้บริการสังคม และสนับสนุนการพัฒนาชุมชน
ธนาคารโลกได้ทำงานอย่างแข็งขันใน 40 ประเทศที่ฟื้นตัวจากความขัดแย้งอย่างรุนแรง ธนาคารทำงานร่วมกับหุ้นส่วนทั้งที่เป็นภาครัฐและเอกชนในระดับประเทศและนานาชาติ เพื่อช่วยเหลือพลเมืองที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม อันก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างสันติขึ้นมาอีกครั้ง และยังป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้อีก การทำงานของธนาคารมีขอบเขตคลอบคลุมตั้งแต่การเริ่มต้นฟื้นฟูทางด้านเศรษฐกิจ การซ่อมแซมและบูรณะสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากสงครามเพื่อกู้สนามระเบิด รวมไปถึงโครงการให้ความช่วยเหลือแก่คนด้อยโอกาสอาทิเช่น หญิงหม้าย และ เด็ก
จากการที่ได้พูดคุยกับคนยากจนกว่า 60,000 คนจาก 60 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงการทำงานในแต่ละวันของธนาคารโลกได้แสดงให้เห็นว่า ความยากจนไม่ใช่เป็นแต่เพียงเรื่องของรายได้ที่ไม่พอเพียง ยังรวมไปถึงการขาดเสรีภาพในการแสดงออก ทางเลือก และ โอกาส ธนาคารได้พยายามเข้าถึงการลดปัญหาความยากจนโดยให้คนจนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาและสร้างโอกาสให้พวกเขาได้สามารถเพิ่มการจัดการชีวิตให้ดีขึ้นโดยการเข้าถึงข้อมูลและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจได้ดีขึ้น ปัจจุบันธนาคารให้การสนับสนุนโครงการที่ผลักดันจากชุมชนเป็นจำนวนเงินมากกว่า 2 พันล้านเหรียญ