1 / 16

สัมมนาชีววิทยา สมุนไพรไพล

สัมมนาชีววิทยา สมุนไพรไพล. เสนอ อาจารย์ดอเลาะ ดาลี. ไพล  Zingiber cassumunar Roxb. มหัศจรรย์ของสมุนไพรไพล. ความสำคัญและที่มา.

rumer
Télécharger la présentation

สัมมนาชีววิทยา สมุนไพรไพล

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สัมมนาชีววิทยาสมุนไพรไพลสัมมนาชีววิทยาสมุนไพรไพล เสนอ อาจารย์ดอเลาะ ดาลี

  2. ไพล Zingiber cassumunar Roxb มหัศจรรย์ของสมุนไพรไพล

  3. ความสำคัญและที่มา • ไพลเป็นไม้ล้มลุก ส่วนที่ใช้ คือ เหง้าใช้ทั้งเหง้าสดและเหง้าแห้ง และสกัดเอาน้ำมันไพลผสมกับน้ำมันสมุนไพรอื่นหรือผสมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว นม ทำเป็นเครื่องสำอาจ โลชั่นบำรุงผิว และครีมแก้อาการเคล็ดขัดยอก แก้เหมื่อย แก้อาการปวดบวม ต่างๆ • ไพล เป็นสมุนไพรที่นิยมนำมาสกัดเอาน้ำมันไพลแล้วผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นมาทำเป็นเครื่องสำอาจ ครีมบำรุง ผสมน้ำผึ้งและดอกอันชั้นกลายเป็นแชมพู ทำเป็นครีมแก้เคล็ดขัดยอก แก้เหมื่อย แก้อาการปวดบวมของข้อเท้า พืชสมุนไพรไพลมีประโยชน์มากหมาย สรรพคุณหลากหลาย

  4. ความหมายของสมุนไพร • สมุนไพร หมายถึง “พืชที่ใช้ทำเป็นเครื่องยา” ส่วน ยาสมุนไพร หมายถึง “ยาที่ได้จากส่วนของพืช สัตว์ และแร่ ซึ่งยังมิได้ผสมปรุง หรือ แปรสภาพ” ส่วนการนำมาใช้ อาจดัดแปลงรูปลักษณะของสมุนไพรให้ใช้ได้สะดวกขึ้น เช่น นำมาหั่นให้มีขนาดเล็กลง หรือ นำมาบดเป็นผง • สมุนไพรนอกจากจะนำมาใช้ประโยชน์เป็นยารักษาโรคแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านอื่นๆอีก เช่นนำมาบริโภคเป็นอาหาร อาหารเสริมสุขภาพ เครื่องดื่ม สีผสมอาหาร และสีย้อม ตลอดจนใช้ทำเครื่องสำอางอีกด้วย

  5. คุณสมบั ติของสมุนไพร 1. ทำลายหรือยับยั้งเชื้อโรค 2. ส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันโรค 3. บรรเทาอาการเจ็บป่วย และปรับสภาพร่างกายให้เป็นปกติ 4. มีผลข้างเคียงหรือตกค้างน้อยมาก เนื่องจากเป็นสารธรรมชาติ

  6. สมุนไพรแบ่งตามหลักวิชาออกเป็น 2 สาขา • สมุนไพรแผนโบราณ • สมุนไพรแผนปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1. สมุนไพรไทยแผนโบราณ 2.สมุนไพรจีนแผนโบราณ

  7. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับไพลความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับไพล • ชื่อวิทยาศาตร์ :Zinggiber cassummunar Roxb. Zingiber montanum (Koenig) Link ex • ชื่อท้องถิ่นปูลอย, ปูเลย, มิ้นสะล่าง, ว่านไฟ • ชื่อสามัญ : ปูลอย ปูเลย ไพล มิ้นสะล่าง ว่านไฟ • ชื่ออื่นๆ : ปูเลย (ภาคเหนือ), ว่านไฟ (ภาคอีสาน) พันเลย (Phan-loei)เขมร ปันเลย (Phan-loei) • ชื่อวงศ์ : Zingiberaceae

  8. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ • ไม้ล้มลุก สูง 0.7-1.5 ม. มีเหง้าใต้ดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีเหลืองแกมเขียวมีกลิ่นเฉพาะ แทงหน่อหรือลำต้นเทียมขึ้นเป็นกอประกอบด้วยกาบหรือโคนใบหุ้มซ้อนกันใบเดียวเรียงสลับ รูปขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 3.5-5.5 ซม. ยาว 18-35 ซม. ดอกช่อ แทงจากเหง้าใต้ดิน กลีบดอกสีนวล ใบประดับสีม่วง ผลเป็นผลแห้ง รูปกลม

  9. ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ • เหง้าไพลที่ใช้เป็นยาควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี จะมีน้ำมันหอมระเหยประมาณ 0.8 % ซึ่งมีองค์ประกอบ หลักเป็นสารกลุ่ม terpenoid และ phenylbutanoid เช่น a-pinene , sabinene, a-terpinene, terpinen-4-o1 เป็นต้น และมีสารสีเหลือง ชื่อ curcumin ไพลเป็นยาลดการอักเสบ แก้เคล็ด ขัดยอก แก้ปวด โดยทำการศึกษาทางด้านเภสัชวิทยาของ น้ำมันไพล พบว่า มีผลลดการอักเสบได้ • ครีมไพลสามารถรักษาอาการ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และอาการเคล็ดขัดยอกได้ และนอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำคั้นจากเหง้าไพลมีฤทธิ์ ทำให้ปลายประสาทชา จึงทำให้ลดอาการปวดเมื่อยได้

  10. สรรพคุณและวิธีใช้ 1.ใช้เหง้าสด 4 - 5 แว่น ตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ เติมเกลือครึ่งช้อนชา ใช้รับ ประทานหรือฝนกับน้ำปูน ใสรับประทาน 2.ใช้เหง้าแห้งบดเป็นผง 1/2 ถึง 1 ช้อนชา ชงน้ำร้อนดื่ม แก้ท้องอืด  ท้องเฟ้อ 3.ใช้เหง้าไพลแก่สามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อย และเคล็ดขัดยอกได้ เพราะมีน้ำมันหอมระเหยที่สามารถลดอาการอักเสบ และลดอาการปวดได้เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะแห่ง 4.ใช้น้ำมันสกัดจากเหง้าไพล ทานวดแก้ปวดบวม

  11. 5.ใช้เหง้าไพลสด ตำคั้นน้ำทาบริเวณที่ปวดเมื่อย ขัดยอก เหง้าไพลสด ตำละเอียดผสมเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ทั่ว แล้วนำมาห่อผ้าทำเป็นลูกประคบ อังไอน้ำให้ความร้อน ประคบบริเวณที่ปวดเมื่อย เช้า-เย็น จนกว่าจะหาย 6. ใช้เหง้าสดหรือแห้งบดเป็นผงให้กิน แก้อาการท้องร่วง บิด ขับลม สมานแผลในลำไส้ ขยายหลอดลม รักษาโรคหอบหืดอ่อนๆ ลดการเกร็งของลำไส้

  12. การขยายพันธุ์ • ต้องเตรียมเหง้าพันธุ์ที่หัวพันธุ์มีอายุมากกว่า 1 ปี มีตาสมบูรณ์ ไม่มีโรคแมลงเข้าทำลาย ปล่อยให้หัวพันธุ์พักตัวในระยะเวลาหนึ่ง แล้วทำการแช่ใน Indole acetic acid (IAA) ที่ระดับความเข้มข้น 250 ppm เป็นเวลา 24 ชม. จะช่วยกระตุ้นให้หัวไพลงอกได้เร็วขึ้น จะทำให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น โดยแบ่งหัวพันธุ์ให้มีน้ำหนัก 100 กรัม/หัว มีตา 3-5 ตา และชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีป้องกันเชื้อราก่อนปลูก อัตราการใช้พันธุ์/ไร่ ปริมาณหัวพันธุ์ที่ใช้ 960 กิโลกรัมต่อไร่

  13. การปลูก • สามารถทำได้ 2 วิธี คือ 1. ปลูกโดยใช้เหง้า ตัดเป็นท่อน ๆ ชุบด้วยสารเคมีป้องกันเชื้อรา ทิ้งไว้สักครู่ แล้วทำการปลูกลงในแปลงที่เตรียมไว้ ระยะระหว่างต้นและระหว่างแถว 25x27 เซนติเมตร และกลบดินให้มิด หนาประมาณ2-3 ซม. คลุมด้วยฟางหรือใบหญ้าคาตากแห้ง หนาประมาณ 2 นิ้ว รดน้ำทันที 2. ปลูกโดยใช้เหง้าเพาะให้งอกก่อน โดยทำการเพาะเหง้าที่ตัดเป็นท่อน ๆ ในกระบะทราย ให้แทงยอด แตกใบประมาณ 2-3 ใบ จึงย้ายลงปลูกในแปลงปลูก

  14. การเก็บเกี่ยว • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงวันที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไพลจะใช้ระยะเวลานาน 2-3 ปี เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ในการนำไพลไปสกัดน้ำมัน จะได้ปริมาณน้ำมันมาก และมีคุณภาพ เก็บหัวไพลช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม จะสังเกตเห็นต้นไพลแห้งและฟุบลงกับพื้น ห้ามเก็บหัวไพลขณะที่เริ่มแตกหน่อใหม่ เพราะจะทำให้ได้น้ำมันไพลทีมีปริมาณและคุณภาพต่ำ

  15. วิธีการเก็บเกี่ยว • ใช้จอบ เสียมขุด หรือนิยมใช้อีเทอร์ (อีจิก) ขุดเหง้าไพลขึ้นมาจากดิน (ต้องระวังไม่ให้เกิดแผลหรือรอยช้ำกับเหง้า) เขย่าดินออก ตัดรากแล้วนำไปผึ่งลมให้แห้ง เก็บผลผลิตบรรจุกระสอบพร้อมที่จะนำไปสกัดน้ำมันไพล

  16. จัดทำโดย นางสาวยูวารี แลสารี รหัส 404652005 โปรแกรมชีววิทยาประยุกติ์ กลุ่มที่ 13 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ขอบคุณค่ะ

More Related