1 / 44

ปรัชญาและแนวคิด การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชน ( Philosophy and Concepts of HCRD ) 02190611 ผศ.น.ท.ดร.สุมิตร สุวรรณ

ปรัชญาและแนวคิด การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชน ( Philosophy and Concepts of HCRD ) 02190611 ผศ.น.ท.ดร.สุมิตร สุวรรณ. ยุคความทันสมัย . เกิดขึ้นราวปี ค . ศ .1950 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้ยื่นข้อเสนอฟื้นฟู ประเทศในทวีปยุโรป เรียกว่า “ Marshall Plan ”.

talia
Télécharger la présentation

ปรัชญาและแนวคิด การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชน ( Philosophy and Concepts of HCRD ) 02190611 ผศ.น.ท.ดร.สุมิตร สุวรรณ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ปรัชญาและแนวคิด การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชน (Philosophy and Concepts of HCRD) 02190611 ผศ.น.ท.ดร.สุมิตร สุวรรณ

  2. ยุคความทันสมัย • เกิดขึ้นราวปี ค.ศ.1950 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 • สหรัฐอเมริกาได้ยื่นข้อเสนอฟื้นฟู ประเทศในทวีปยุโรป เรียกว่า “Marshall Plan”

  3. ทฤษฎี/แนวคิดการพัฒนา กระแสหลัก • ทฤษฎีความทันสมัย (Modernization Theory) กระแสรอง/กระแสวิพากษ์ • ทฤษฎีการพึ่งพา (Dependency Theory) • ทฤษฎีมาร์กซิสต์ (Marxist Theory)

  4. ทฤษฎีความทันสมัย (Modernization Theory) • นักวิชาการ : • Sir Karl Popper • Adam Smith • Rostow • Keynesian • Truman • Marshall • Alex Inkeles • Fred N.Riggs • T.R.Batten • Daniel Lerner

  5. Modernization Theory Truman ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ.1945–1953

  6. Modernization Theory • อุดมคติ : • เศรษฐกิจแบบทุนนิยม (Capitalism) • การเมืองแบบประชาธิปไตย (Democracy) • สังคมเมือง (Urbanization) • อุตสาหกรรม (Industrialization) • การแข่งขัน (Competition)

  7. Modernization Theory แนวคิดหลัก : • สังคมมีความเจริญไม่เท่ากัน • สังคมไม่ควรยึดติดในประเพณีมากนัก • ประเทศที่ร่ำรวยต้องช่วยประเทศยากจน ทั้งด้านทุน เทคโนโลยี วิชาการ • ทำให้เป็นอุตสาหกรรม • หลุดพ้นจากความยากจน การพัฒนา=ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

  8. Modernization Theory เกณฑ์วัดอัตราการพัฒนา : ทางเศรษฐกิจ- GNP, GDP, NI ทางสังคม-จำนวนคนรู้หนังสือ - พลเมืองที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง - จำนวนโทรศัพท์ รถยนต์ - เครื่องใช้ไฟฟ้า ทางการเมือง-การปกครองระบอบประชาธิปไตย

  9. Modernization Theory • ลักษณะคน :เป็นเจ้าของกิจการหรือบริษัท • ยึดถือประเพณีแต่ไม่ใช่ทาส • ตำแหน่งได้มาจากการทำงาน • ยึดถือความสามารถมากกว่าชาติกำเนิด • มุ่งอนาคต • มีเหตุผล • ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี • มุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว

  10. Modernization Theory • Alex Inkeles : Modern Man • เปิดรับประสบการณ์ใหม่ • มีความพร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง • ยอมรับความหลากหลายที่ต่างออกไป • แต่ไม่ขาดจุดยืนของตัว • เมื่อสงสัยอะไรต้องแสวงหาข่าวสาร • หรือความจริงให้ได้ • มองอนาคตและปัจจุบัน มากกว่าอดีต • มนุษย์สามารถเอาชนะธรรมชาติได้

  11. Modernization Theory • มีการวางแผนที่ดี • มีความเชื่อมั่นว่าจะทำได้ • ให้คุณค่าด้านทักษะทางเทคนิค • ความรู้มากขึ้นค่าตอบแทนก็จะสูงขึ้น • ให้คุณค่าการศึกษาแบบทางการ/การเข้าโรงเรียน • เคารพเกียรติของผู้อื่น • เป็นคนที่มีเหตุผล

  12. Modernization Theory การศึกษา • การสร้างทักษะที่จำเป็น • การสร้างคนให้มีความรู้เพื่อตอบสนองการผลิต • การสร้างความทันสมัย การศึกษา=ในระบบโรงเรียน (Formal Education)

  13. Modernization Theory T.R.Batten: Mature Man 1.รู้จักใช้ความคิดแบบมีจุดหมายปลายทาง 2.มีความสามารถคาดการณ์ภายหน้าได้ดี 3.สามารถทำงานสลับซับซ้อนได้ดี 4.ยินดีรับฟังและทำความเข้าใจความคิดเห็นของผู้อื่น 5.ชำนาญในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น

  14. Modernization Theory Fred N.Riggs- ลักษณะสังคมประเทศกำลังพัฒนา เป็นสังคมทวิลักษณ์ • เกษตรVSอุตสาหกรรม • ความเชื่อแบบดั้งเดิม VS วิทยาศาสตร์ • แบบแผนพฤติกรรมชาติกำเนิด VS ความสามารถ • บุคลิกภาพเป็นแบบอนุรักษ์ VS สมัยใหม่

  15. Modernization Theory Talcott Parsons- สังคมประเพณี 1. ความสัมพันธ์แบบเฉพาะตัว 2. สถานภาพยึดตามชาติวุฒิ 3. หน้าที่ไม่มีขอบเขตแน่นอน 4. ไม่มีเหตุผลใช้อารมณ์มาเข้าเกี่ยวข้อง 5. มุ่งประโยชน์ส่วนรวม

  16. Modernization Theory Talcott Parsons- สังคมสมัยใหม่ 1. ความสัมพันธ์แบบสากล 2. สถานภาพยึดตามคุณวุฒิ 3. หน้าที่มีขอบเขตแน่นอน 4. มีเหตุผลไม่ใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง 5. มุ่งประโยชน์ส่วนตน

  17. Modernization Theory กลยุทธ์การพัฒนา • ให้เอกชนเป็นผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมแทนรัฐ • เปลี่ยนฐานเศรษฐกิจจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรม • เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) และรายได้ต่อหัวของประชาชน (NI) • ใช้ทรัพยากรและความมั่งคั่งในชนบทเป็นปัจจัย ในการสร้างความเจริญให้แก่เมือง

  18. Modernization Theory • กลยุทธ์การพัฒนา • ใช้กลไกของตลาด เปิดการค้าเสรี • รัฐเป็นผู้ลงทุนในโครงการขั้นพื้นฐาน • รัฐกำหนดค่าจ้างแรงงานให้อยู่ในระดับต่ำ • รัฐจะต้องสร้างกำลังทหาร-ตำรวจให้เข้มแข็ง • การพัฒนาเริ่มจากรัฐบาล

  19. Modernization Theory Rostow : The Stage of Economic Growth 1. Traditional Society 2. Precondition for Take-off 3. Take-off Stage 4. Stage of High Mass Consumption 5. Beyond Consumption

  20. Modernization Theory สุธี ประศาสน์เศรษฐ์- ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อ 1.ลัทธิพัฒนานิยม-การพึ่งพาต่างประเทศ 2.ลัทธิบริโภคนิยม-การดำเนินชีวิตแบบชนชั้นสูง 3.ลัทธิความมั่นคง-การควบคุมของรัฐ

  21. Modernization Theory การพัฒนา (Development) หมายถึง... • การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic Growth) • การทำให้เป็นตะวันตก (Westernization) • การทำให้เป็นเมือง (Urbanization) • การทำให้เป็นอุตสาหกรรม (Industrialization)

  22. Modernization Theory เครื่องมือ/องค์กรทางการเงิน • ธนาคารโลก (World Bank) • ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนา (IBRD) • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) • ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB)

  23. ทฤษฎีการพึ่งพา (Dependency Theory) • เกิดขึ้นในราวปี ค.ศ.1960 • มีกำเนิดมาจากปัญหาความด้อยพัฒนา ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา

  24. Dependency Theory • นักวิชาการ : • Gunnar Frank • Seer • Cardoso • Santos • Nyerere • Wallerstein • Gandhi

  25. Dependency Theory • อุดมคติ: • การหลุดพ้นจากการพึ่งพา • จุดมุ่งหมาย : • ลดความไม่เท่าเทียมกัน • การว่างงาน • ความยากจน • การพึ่งตนเอง

  26. Dependency Theory แนวคิดหลัก : • สภาพด้อยพัฒนาเป็นผลมาจากการที่ ทรัพยากรและส่วนเกินทางเศรษฐกิจไหล (Drained) ไปสู่โลกเหนือ เนื่องจากลัทธิล่าอาณานิคม

  27. Dependency Theory แนวคิดหลัก : • การพึ่งพาระบบทุนนิยมทำให้กลายเป็น ประเทศบริวารทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ เป็นแหล่งวัตถุดิบ ตลาดสินค้าอุตสาหกรรม เป็นแหล่งขยายตัวการลงทุน

  28. Dependency Theory แนวคิดหลัก : • ความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะเอารัดเอาเปรียบ เช่น การขายวัตถุดิบราคาถูก แต่กลับต้องซื้อสินค้าอุตสาหกรรมในราคาแพง โดยการถ่ายโอนบรรษัทข้ามชาติ

  29. Dependency Theory แนวคิดหลัก : • การพัฒนาและความด้อยพัฒนาไม่แยกจากกันเกิดในประเทศเดียวกันและระหว่างประเทศ • สภาพด้อยพัฒนาเป็นกระบวนการเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ

  30. Dependency Theory • ลักษณะสังคมที่พัฒนา : • การหลุดพ้น/ปลดเปลื้องภาวะการพึ่งพา • พึ่งตนเอง • การจัดระเบียบทางสังคม ไม่ใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

  31. Dependency Theory • ลักษณะคนที่พัฒนา : • ต้องพึ่งตนเอง (Self-Reliant) • มีจิตใจเพื่อสังคม (Socialist-Mine)

  32. Dependency Theory • แนวทางการพัฒนา : • การปฏิวัติแบบสังคมนิยม • การตัดความสัมพันธ์กับประเทศศูนย์กลาง • การพึ่งตนเองเป็นหลัก

  33. Dependency Theory • แนวทางการพัฒนา:Seers • ลดการพึ่งพาจากการนำเข้าทั้งอาหารและน้ำมัน • เปลี่ยนแปลงรูปแบบและรสนิยมในการบริโภค • กระจายรายได้และใช้นโยบายภาษี • รัฐอาจต้องเป็นเจ้าของกิจการทรัพยากรธรรมชาติ • ดำเนินนโยบายทางวัฒนธรรมเพื่อลดการพึ่งพา

  34. Dependency Theory • บทบาทการศึกษา : • การศึกษาในระบบโรงเรียนทำให้เกิดการพึ่งพา ต้องแบมือขอ เป็นบ่อเกิดความด้อยพัฒนา • การศึกษาต้องทำให้คนช่วยตัวเองได้ • การศึกษาควรแยกตามกลุ่มความสนใจ การศึกษาไม่ใช่แค่ในระบบโรงเรียน

  35. Dependency Theory การพัฒนา (Development) หมายถึง... • ไม่ใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ • การปฏิรูประเบียบสังคมให้มีความยุติธรรม • เอกราชของชาติ • อิสระจากการแทรกแซง/ครอบงำ

  36. ทฤษฎีมาร์กซิสต์ (Marxist Theory) • วัยหนุ่มเขียนหนังสือ Economic & Philosophic Manuscripts of 1844 • วัยสูงอายุเขียนหนังสือ Capital • ค.ศ.1970 การปฏิวัติในจีน...

  37. Marxist Theory Karl Marx : • การผลิตแบบทุนนิยมเป็นที่มาของ ความทุกข์ยากของกรรมกร • ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สำคัญน้อยกว่า เครื่องจักร • เจ้าของปัจจัยการผลิตยิ่งผลิตได้มาก ยิ่งสร้างความร่ำรวย แต่กรรมกรยิ่งจนลง

  38. Marxist Theory • นักวิชาการ : • คาร์ล มาร์ก(Karl Marx) • สตาลิน(Stalin) • เลนิน (Lenin) • ฮิตเลอร์(Hitler) • เหมาเจ๋อตุง(Mao Jer Tung) • คัสโตร(Castro)

  39. Marxist Theory • อุดมคติ : • การทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน • ไม่มีชนชั้น • เน้นเรื่องพลังมวลชนที่สามารถสร้าง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

  40. Marxist Theory แนวคิดหลัก : พยายามจัดสรรอำนาจ ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ทำสงครามประชาชน  แย่งชิงอำนาจรัฐ ปลุกระดมมวลชนขับไล่ จักรวรรดินิยม

  41. Marxist Theory สังคมที่พัฒนา : • ทุกอย่างเป็นของรัฐ • ไม่มีชนชั้น โดยสังคมจะเปลี่ยนผ่านจาก.. ประเพณี ขุนนาง เป็น ทุนนิยม สังคมนิยม และคอมมิวนิสต์

  42. Marxist Theory ลักษณะคนที่พัฒนา : • มีจิตสำนึก (Minded Man) • ถูกปลดปล่อย (Liberated Man)

  43. Marxist Theory บทบาทการศึกษา : • ต้องทำให้อ่านออกเขียนได้ • ยกระดับจิตสำนึกเพื่อความยุติธรรม

  44. Marxist Theory การพัฒนา (Development) ความก้าวหน้าขั้นสูงสุด ต้องทำลายล้างการจัดระเบียบทางสังคมแบบทุนนิยม

More Related