1 / 68

CHAPTER 4

CHAPTER 4. E-commerce แบบ B2C . E-commerce แบบ B2C . การค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์. E- Commerce สำหรับอุตสาหกรรมบริการ. การตลาดอิเลคทรอนิกส์. การโฆษณาบนเว็บ. E- Commerce สำหรับอุตสาหกรรมบริการ.

adelie
Télécharger la présentation

CHAPTER 4

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. CHAPTER 4 E-commerce แบบ B2C

  2. E-commerce แบบ B2C • การค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ E- Commerce สำหรับอุตสาหกรรมบริการ • การตลาดอิเลคทรอนิกส์ • การโฆษณาบนเว็บ

  3. E- Commerce สำหรับอุตสาหกรรมบริการ • การนำระบบ E-Commerce ไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมบริการ เช่น อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการเดินทาง การประกันภัย การซื้อขายหุ้น การประกันชีวิต ฯลฯ • บริการธนาคารอิเลคทรอนิกส์ (E-Banking ) • บริการชำระเงินออนไลน์ (Online Bill-Payment Service) • บริการตลาดนัดแรงงาน (Electronic Job Market) • บริการการเดินทางและการท่องเที่ยวออนไลน์ (Travel and Tourism Service Online) • บริการ E-learning เช่น การเรียนรู้ผ่านเว็บ • บริการสื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์และหนังสืออิเลคทรอนิกส์ (Online Publishing)

  4. E- Commerce สำหรับอุตสาหกรรมบริการ - บริการอิเลคทรอนิกส์รูปแบบอื่น ที่นำ E-Commerce ไปประยุกต์ใช้งาน เช่น ** บริการให้คำแนะนำและปรึกษาออนไลน์ (Online Advice and Consulting Service) ** บริการดูแลสุขภาพ (Health care Service) ** บริการไปรษณีย์ออนไลน์ (Stamps Online Service)

  5. การตลาดอิเลคทรอนิกส์ • คือ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด โดยใช้สื่ออิเลคทรอนิกส์เป็นเครื่องมือ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงก่อนทำ E-Marketing * พฤติกรรมของผู้บริโภคออนไลน์ * กระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

  6. กลยุทธ์ในการทำ E-Marketing • กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาด E-Commerce • การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด • การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า • การกำหนดราคา • การจัดช่องทางการจำหน่ายสินค้า • การวิจัยตลาด (Marketing Research) • เทคโนโลยีเหทืองข้อมูล (Data Mining) • การกรองข้อมูล (Filtering)

  7. กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาด E-Commerce • พิจารณาจาก “ลักษณะขององค์กร” และ “วิธีดำเนินธุรกิจ” • Click – Pure-play • Click –and- Mortar --- Mixed Play ธุรกิจสามารถเข้าสู่ E-Commerce ได้ 4 แบบ • การเป็นผู้นำรายแรก (First Move) องค์กรจัดตั้งใหม่ • การสร้างพันธมิตร ( Alliances) • การเป็นผู้ตามอย่างรวดเร็ว (Fast Follower) • การขยายธุรกิจเพิ่ม (Brand Extender)

  8. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดการกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด • สามารถจำแนกตลาดออกเป็น 4 ระดับ • การตลาดรวม (Mass Marketing) ไม่แบ่งกลุ่มลูกค้า มีขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยาก ผลิตสินค้าที่มีแบบและราคาเดียวกันจำนวนมากๆ ผ่านสื่อที่สามารถเข้าถึงลูกค้าปริมาณมากๆในครั้งเดียว • การตลาดทางตรง (Direct Marketing) ลูกค้าหลายกลุ่ม ผลิตสินค้าหลายแบบ ราคาขายเพียงราคาเดียวสำหรับสินค้าแต่ละแบบ โฆษณาสินค้าผ่าน E-mail หรือ โทรศัพท์ • การตลาดเฉพาะ (Micromarketing or Niche Marketing) คล้ายตลาดทางตรง แบ่งลูกค้าอย่างละเอียด เลือกผลิตสินค้าที่มีความชำนาญหรือทราบความต้องการของลูกค้าป็นอย่างดี • การตลาดส่วนบุคคล (Personalize or One-to-One Marketing) เป็นการตลาดที่แบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างสมบูรณ์ สนองตอบความต้องการลูกค้าเป็นรายบุคคลลูกค้ามีอิสระในการเลือกซิ้อสินค้า ** หัวใจสำคัญของการตลาดส่วนบุคคล คือ ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า (User Profile)

  9. การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า • การสร้างความเป็นส่วนตัว (Personalization) • การตลาดโดยได้รับการยินยอม (Permission Marketing) เป็นกลยุทธ์ในการขอความยินยอมหรือการอนุญาตจากลูกค้าก่อนี่จะส่งข้อมูลหรือโฆษณาสินค้าไปให้ • การใช้บริการ Affiliate (Affiliate Marketing) เพื่อให้ลูกค้าค้นหาหรือเข้าถึงเว็บไซต์ขององค์กรได้สะดวก องค์กรใช้บริการ Affiliate โดยการฝากลิงค์ของเว็บไซต์ไว้กับพันธมิตรทางการค้า และจ่ายค่านายหน้าเป็นผลตอบแทนกับบริษัทตามจำนวนครั้งที่มีการธุรกรรมจริง(Pay- for- Preformance)

  10. การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า (ต่อ) • การให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการผลิต และปรับแต่งสินค้า (Customization and Customer Co-Production) วิธีเสนอขายแบบสั่งผลิต ที่ลูกค้าสามารถปรับแต่งสินค้าตามสไตล์ของตนเอง • การจัดการข้อมูล (Transactive Content) • การบริการลูกค้า (Customer Service) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรสามรถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ทันท่วงทีโดยผ่านเครื่องมือ • บริการตอบปัญหาที่พบบ่อยครั้ง ทำงานร่วมกับ Search Engine รวมถึงบริการอีเมล์ • ระบบสนทนาแบบ Real Time • ระบบตอบสนองการทำงานแบบอัตโนมัติ

  11. การกำหนดราคา • กลยุทธ์การกำหนดราคาในธุรกิจ E-Commerce ที่นิยม • บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (Free) • การผลิตสินค้าหลายรุ่น (Versioning) • การขายเป็นแพ็กเกจ (Bundling) • การเสนอราคาได้หลายครั้ง (Dinamic Pricing)

  12. การจัดช่องทางการจำหน่ายสินค้า การวิจัยตลาดผ่านระบบออนไลน์(Marketing Research) • เทคโนโลยีเหมืองข้อมูล (Data Mining) • เก็บข้อมูลเพื่อทำวิจัยตลาดส่วนบุคคลใช้วิธี ดังนี้ • สอบถามข้อมูลจากลูกค้าโดยตรง ส่งอีเมล์ วิธีพูดคุยผ่านห้องสนทนา การโหวตเพื่อจัดอันดับความนิยมผ่านระบบออนไลน์ • สังเกตจากพฤติกรรมของลูกค้า (Observation) โดยใช้เครื่องมือ • - Transaction Log บันทึกข้อมูลการทำงานบนเว็บของผู้ใช้เอาไว้ • - Clickstream Behavior วิเคราะห์พฤติกรรมการคลิกลิงค์เชื่อมโยงจากเพจหนึ่งไปยังอีกเพจหนึ่ง หรือจากการลิงค์เว็บไซด์ • - Web Mining เป็นการทำเทคนิคเหมืองข้อมูล ใช้วิเคราะห์ช่วงเวลา กลุ่มผู้ใช้และลิงค์ที่เข้าไปใช้บริการ

  13. การวิจัยตลาดผ่านระบบออนไลน์(Marketing Research) • คาดเดาความต้องการของลูกค้า โดยคาดเดาสินค้าและบริการที่ลูกค้าชื่นชอบด้วยตนเอง ดดยพิจารณาจากข้อมูลทั่วไปของลูกค้า และใช้เทคนิค “การกรองข้อมูล Filtering)” เพื่อเปรียบเทียบ จัดกลุ่ม และกำหนดความต้องการของลูกค้า ข้อจำกัดการทำวิจัยตลาดผ่านระบบออนไลน์ • ต้นทุนด้านเทคโนโลยี • ระบบเครือข่าย • ด้านกฏหมายและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ • ไม่สามารถสังเกตพฤติกรรมหรือทราบความรู้สึกของผู้ตอบแบบสอบถามในขณะนั้นจริง ๆ ทำให้ผลการวิจัยเชื่อถือยาก

  14. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketing) • หลักการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ • พฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดอีเลกทรอนิกส์ • การตลาดของพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ

  15. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ 6 P Principles of e-Marketing • Product and Packaging • Price • Place • Promotion • Personalization • Privacy

  16. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Product and Packaging • ปัญหาสำคัญของสินค้าออนไลน์ (แบบไทยๆ) • ไม่เป็นที่รู้จักในตลาดโลก • คนไทยเคยชินกับการรับจ้างผลิต • ขาดชื่อเสียงในตรายี่ห้อสินค้า • ค่าขนส่งมีราคาสูงมาก • สินค้าส่วนใหญ่ไม่ตรงกับความต้องการ • ไม่รู้ว่าจะขายอะไร • ผู้ซื้อไม่สามารถเห็นและทดลองสินค้าได้ก่อนตัดสินใจ Assignment : วิพากษ์วิจารณ์เว็บสินค้าไทยในมุมมองทางการตลาด

  17. แนวทางของกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ออนไลน์แนวทางของกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ออนไลน์ วิจัยความต้องการสินค้าในตลาดโลก: เครื่องมือค้นหา , เว็บสำรวจ-วิจัย , เว็บคู่แข่ง,วิธีอื่นๆ สำหรับธุรกิจที่ประกอบการอยู่ก่อนแล้ว สำหรับธุรกิจใหม่ที่ยังไม่ได้เริ่มต้น คัดเลือกสินค้าที่เหมาะสม กับความต้องการในตลาดและเคลื่อนย้ายสินค้าได้ง่าย Soft Goods (Content Provider) ; Games , Software , Music , Graphic , Information , Research , Seminar Online , Knowledge , Courseware , Consulting (ทนาย ดูหมอ คำปรึกษาเรื่องสุขภาพ ฯลฯ) Services ; Tour , Travel , Hotel , Restaurant , Rental , Spa Uniqueness ; ควรเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์มากๆ มีขายแห่งเดียวในโลกหรือสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ณ ที่แห่งนั้นเท่านั้น In trend ; สินค้าหรือบริการที่อยู่ในกระแสความนิยม เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพ บริการ เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น สปา ชีวจิต สินค้าแฟชั่น สินค้าที่รัฐบาลส่งเสริมการส่งออก การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Product and Packaging

  18. Travel Hotel Airlines Car Rental Food Cloth Tour Car Used Goods Book Computer Games Software CD/VDO/DVD Second-hand cars are now eBay’s biggest category! Research Online Buy Offline Feel Quality Retailers are the top performers online ‘X-Mas season!’ Virtual Fun There are plenty of ways to amuse yourself online More Internet than TV! From Hobby To Business Unlimited Opportunities!

  19. การคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมการคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสม เป็นสินค้าที่เปลี่ยนจาก”โมเลกุล”เป็น”อีเล็กตรอน” (From physical thing to digital thing) มี Option ให้เลือกมากและประกอบเองได้ (Customization) ปรับเปลี่ยน Update ให้ทันสมัยได้ สามารถผลิตเองได้ โดยไม่ต้องจ้าง มีความชอบส่วนตัวเป็นชีวิตจิตใจ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Product and Packaging

  20. แนวทางของกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ออนไลน์ (ต่อ) กลยุทธ์อื่นๆ สินค้าที่เลือกไม่ควรมีจำหน่ายในช่องทางปกติ วางตำแหน่งทางการตลาดของธุรกิจให้ชัดเจนและมีความแตกต่างจากเว็บอื่น (Position it , Different or Die) ระบุวัตถุประสงค์การใช้งานผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน สินค้าที่ขายบนเว็บได้มักเป็นการขายปลีก และต้องขนส่งในระยะทางไกล จึงควรพัฒนาบรรจุภัณฑ์ควบคู่กันไปด้วย พิจารณามาตรฐานความปลอดภัยของแต่ละประเทศ การตลาดอีเล็กทรอนิกส์ Product and Packaging http://www.plara.velocall.com

  21. การหีบห่อผลิตภัณฑ์ ความสำคัญของบรรจุภัณฑ์สินค้า บรรจุภัณฑ์นอกจากสร้างความโดดเด่นแก่สินค้าแล้ว ยังช่วยปกป้องสินค้าระหว่างการขนส่งได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์สินค้า ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการส่งออก หรือสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) www.sme.go.th, www.smethai.net ,www.dep.go.th เลือกผู้ให้บริการขนส่ง (Logistic Service Provider)Fedex, DHL, TNT, CTL, EMS, KPN, Davids พิจารณาค่าใช้จ่ายและความปลอดภัยในการให้บริการ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Product and Packaging

  22. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Product and Packaging • การสร้างตราสินค้า • ความสำคัญของตราสินค้า • ตราสินค้าสร้างการจดจำและระลึกถึงได้ง่าย • ตราสินค้าที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วสร้างความเชื่อมั่นได้รวดเร็ว • ผู้บริโภคร้อยละ 59 นิยมซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ที่คุ้นเคย ดังนั้น จึงควรสร้าง Brand ให้แก่เว็บไซต์เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำ • ชื่อเว็บไซต์ (URL) = ตราสินค้า • ชื่อเว็บเปรียบเสมือนตราสินค้า • ควรตั้งชื่อให้สื่อถึงสินค้าหรือบริการที่เสนอ • ตั้งชื่อที่ง่ายต่อการสะกดและจดจำ • ถ้าเป็นเว็บไทยๆ ใช้ .co.th ,.in.th • อย่าใส่สัญลักษณ์แปลกๆ และไม่ต้องเว้นวรรค • www.thainic.netเกี่ยวกับหลักการตั้งชื่อ Domain

  23. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Price online • การตัดสินใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการตั้งราคาสินค้าเพื่อการส่งออก • สินค้าอาจมีราคาถูกกว่าค่าขนส่ง เมื่อรวมกันแล้วอาจมีราคาแพงกว่าสินค้าในประเทศเป้าหมาย (ถ้าขายสินค้าที่ไม่แตกต่าง) • ในระยะยาวต้นทุนสินค้าของไทยอาจมีราคาแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากต้นทุนความเจริญของประเทศไทยที่สูงกว่า • ควรตัดสินใจในเรื่องราคาสินค้าออนไลน์อย่างไร • ราคาไม่ใช่จุดตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแบบออนไลน์ • ควรตั้งราคาให้เหมาะสมกับคุณภาพสินค้า • สินค้าขนาดเล็กน้ำหนักเบา ควรขายเป็นชุด • ควรคำนวณค่าขนส่งตามระยะทางประเทศเป้าหมายเข้าไปในราคาสินค้า • ในบางกรณีอาจต้องแยกราคาสินค้า ค่าขนส่ง และ ภาษีต่างๆ ออกจากกัน และแสดงบนหน้าเว็บเพจให้ลูกค้าเห็นได้ชัดเจน

  24. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Price online • กลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าออนไลน์ • ไม่ควรตั้งราคาต่ำเกินไปจนลูกค้าไม่มั่นใจ • ตั้งราคาสมเหตุสมผลกับคุณค่าสินค้า • ถ้าแพงกว่าคู่แข่งควรอธิบายได้ • ถ้าเป็นสินค้าเลียนแบบต้องราคาต่ำกว่า • ควรมีราคาหลายระดับให้เลือก • ควรให้ลูกค้ากำหนดราคาเองได้ (Price Customization) • ปรับราคาได้ตามความเหมาะสม • พัฒนาสินค้าเพื่อลดต้นทุนสม่ำเสมอ • อย่าลดราคาสินค้าจนคุณภาพลดลง • เพิ่มความหลากหลายในสินค้าแทนการลดราคา

  25. การตลาดอิล็กทรอนิกส์ Channel of Distribution (Place) • ที่อยู่ของเว็บไซต์หรือทำเลที่ตั้งร้านค้าออนไลน์ • ทำเลที่ตั้งร้านค้าแบบ e-Commerce ไม่ได้หมายถึงที่อยู่ของไฟล์เว็บเพจ แต่หมายถึงชื่อร้านค้าหรือชื่อเว็บไซต์ (URL , Domain name) ดังนั้นสิ่งที่แตกต่างจากช่องทางการจำหน่ายแบบการตลาดดั้งเดิม คือ e-Commerce จะต้องให้ความสำคัญของการตั้งชื่อเว็บไซต์ • Domain Name เสมือน Brand และที่ตั้งเว็บไซต์ที่ต้องมีเทคนิคที่ดีที่ง่ายต่อการจดจำ หรือ ค้นหา • ที่อยู่ของเว็บไซต์ หรือ โฮสต์ (Host or Web Server) คือที่อยู่ของไฟล์ htmและ Database สินค้า ของเว็บนั้น ซึ่งจะอยู่ที่แห่งใดก็ได้ในโลก Web EC Master ส่วนใหญ่จะเลือก Host ที่มีคุณภาพทางเทคนิคดี มีความเร็วต่อการตอบสนอง มี Option แบบ EC ให้เลือก ตลอดจนมีระบบความปลอดภัยที่ดี • ในช่วงเริ่มต้นของการสร้างเว็บ e-Commerce ควรเปิดโอกาสลูกค้าได้ ใช้ช่องทางจำหน่ายเดิมในการใช้บริการด้วย จนระยะหนึ่งเห็นว่าเหมาะสมจึง หันมาใช้ ช่องทาง EC อย่างสมบูรณ์แบบ

  26. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Promotion • การส่งเสริมการตลาดและการสื่อสารการตลาด • การส่งเสริมการตลาดคือสิ่งจำเป็นสำหรับเว็บไซต์ • รูปแบบการส่งเสริมการตลาด • การโฆษณา ประชาสัมพันธ์บนสื่ออีเล็กทรอนิกส์ เช่น Banner Advertising , Registration in Search Engine , Promotion by Shopping Mall • การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ผ่านเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง • การโฆษณา ประชาสัมพันธ์บนสื่อปกติ

  27. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Online Advertising • การโฆษณาออนไลน์เป็นที่นิยมในการสร้างภาพพจน์แก่เว็บไซต์ • ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาออนไลน์ • ขนาดของ Banner และการกำหนดมาตรฐานค่าโฆษณาที่กำหนดขึ้นโดย IAB ( www.iab.net ) • ประเภทของเว็บที่โฆษณา • (www.adres.internet.com )

  28. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Personalization • การให้บริการแบบเฉพาะเจาะจง • การให้บริการผ่านเว็บไซต์สามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนได้ • ให้บริการเฉพาะบุคคล เสมือนเป็นลูกค้าพิเศษ • สร้างบริการและเสนอขายสินค้าที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล • File Cookies and Customer Database • Data Mining • Cross Selling • Call Center • Customer Relation Management ; CRM

  29. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Personalization • Competitive advantage in use of e-Commerce • Automation of customer data capturing • name, address, sex, age, education, salary • telephone & mobile number , e-mail number • consumer behavior, • purchasing volume per period of time • ranking of product that customer willing to buy • Data processing to planning the marketing strategy • Classifying the customer to segment the target group • Easy to following the customer • Convenience for after sale service • Follow up the customer satisfaction • FAQ (Frequency of Ask & Question)

  30. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Privacy: การรักษาความเป็นส่วนตัว • ปัญหาด้านการละเมิดความส่วนตัวของผู้ใช้ที่พบบ่อย • การนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปเผยแพร่ (กระทำโดยเจตนา) • รายชื่อลูกค้า หมายเลขบัตรเครดิตของลูกค้า ที่อยู่ลูกค้า เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ • การส่งเอกสาร ข่าวสาร ไปยัง Email ของลูกค้ามุ่งหวังโดยไม่ได้รับอนุญาต (Spam) • ละเลยเรื่องความปลอดภัยในข้อมูลลูกค้า ข้อมูลถูกลักลอบขโมยโดยไม่ตั้งใจ • การแก้ปัญหาในปัจจุบัน • การร่างกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความเป็นส่วนตัว • การสร้างระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลในระบบ e-Commerce • ระบุนโยบายการรักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) บนเว็บไซต์ • การรวมตัวกันสร้างองค์กรกลางไม่แสวงหากำไรเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ ด้วยการให้สัญลักษณ์ความปลอดภัย เช่น TRUSTe , Verisign ,TrustMark (ของรัฐบาลไทย โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า)

  31. Privacy : Truste

  32. เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า http://www.dbd.go.th/ http://www.thairegistration.com

  33. Who is online customer • ผู้ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เนตได้ ได้แก่ ผู้มีฐานะปานกลางถึงดี มีการศึกษา ทำงานในสำนักงาน เอกชน รัฐบาล และเป็นผู้ที่คำนึงถึงการบริโภคสินค้า • กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เนตเท่านั้นที่จะกลายเป็นผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ ผลสรุปในประเทศไทย ได้แก่ • กลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่มักเป็นผู้ชายและมากกว่าผู้หญิงสองเท่า • ส่วนใหญ่เป็นคนโสด วัยศึกษา หรือทำงานตอนต้น • ร้อยละ 90 กำลังศึกษาหรือจบการศึกษาระดับ ป.ตรี • ร้อยละ 68 อาศัยในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล • มีความรู้ทางภาษาอังกฤษดี โดยร้อยละ 66 อ่านภาษาอังกฤษได้ • มีผู้ที่เคยซื้อสินค้าออนไลน์ร้อยละ 20 ของกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เนต โดยอ้างเหตุผลว่าไม่สามารถจับต้องสินค้าได้และไม่มีบัตรเครดิต ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่ซื้อทางอินเตอร์เนต

  34. Who is online customer • พฤติกรรมกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เนต (ต่อ) • ชอบความกระชับ รวดเร็ว เข้าถึงสิ่งที่ตนต้องการได้ง่าย • ชอบลองของใหม่ และใช้ของฟรีก่อน (ทดลองใช้ก่อน) • ตื่นตัว ใจร้อน รีบเร่ง • ชอบศึกษาค้นคว้า • ชอบเสี่ยง มั่นใจว่าไม่เสียหายมากมาย • เปรียบเทียบข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ • ไม่ชอบความซ้ำซาก จำเจ • กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เนตจะเปลี่ยนมาเป็นผู้ซื้อสินค้าเพราะเหตุผลคือ... • On demand , Value , Convenience , Price • กลุ่มผู้ซื้อสินค้าจะกลับมาซื้ออีกครั้งด้วยเหตุผลคือ... • Efficient Consumer Response and Trust

  35. Type of online shoppers • Time-starved consumers • Shopping avoiders • New technologies • Time-sensitive materialists (Click & Mortar consumer) • Traditionals • Hunter-gatherers 20% • Brand Loyalists • Singles shoppers 16% Source: E.Turban, Electronic Commerce2002,Newjersey ; Pearsons,2002,p.89.

  36. ผลวิจัยในอเมริกาพบว่า ร้อยละ 81 ที่ซื้อทางอินเตอร์เนตเพราะความสะดวก และมีเพียงร้อยละ 33 เท่านั้นที่ซื้อเพราะราคาประหยัด ผู้บริโภคร้อยละ 59 นิยมซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ที่เคยซื้อเพราะมั่นใจในการบริการ การบริการที่รวดเร็ว และสั้น ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญต่อตรายี่ห้อมาก ผู้บริโภคยินดีจ่ายเงินแก่เว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยรู้จักแม้ว่าราคาสินค้าจะถูกกว่าก็ตาม ผู้บริโภคบนเว็บไซต์นิยมซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ที่ตนเคย ใช้บริการจากช่องทางปกติมาก่อน Online consumer behavior

  37. Business Model in e-Commerce • Brokerageธุรกิจที่หารายได้จากการเป็นตัวกลาง-นายหน้า • Advertisingธุรกิจที่หารายได้จากการโฆษณา • Infomediaryธุรกิจที่หารายได้จากการเป็นตัวกลางศูนย์กลางข้อมูล • Merchantธุรกิจที่หารายได้จากการค้าส่ง-ค้าปลีก สินค้า/บริการ • Manufacturer (Direct) ผู้ผลิตที่ใช้ internet ลดทอนคนกลาง • Affiliateธุรกิจที่หารายได้จากการเป็นพันธมิตรช่วยขาย • Communityสังคมเฉพาะกลุ่มของผู้ที่มีความสนใจ-ต้องการเหมือนกัน • Subscriptionธุรกิจที่หารายได้จากค่าสมาชิก • Infrastructureธุรกิจที่หารายได้จากบริการโครงสร้างพื้นฐาน Rappa, M. 2001. DigitalEnterprise.org/models เรียบเรียงโดยคุณใจรัตน์ จตุรภัทรพร นักวิชาการอิสระ

  38. ตัวอย่าง e-Commerce ประเภท Brokerage Website ที่มีรายได้จากค่าบริการในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางหรือนายหน้าทางธุรกิจ อาทิ ผู้หาตลาด หาผู้ซื้อ หาผู้ขาย จับคู่ผู้ซื้อ-ผู้ขาย อำนวยให้ผู้ซื้อพบสินค้าหรือบริการที่ต้องการ เป็นต้น • e-MarketPlace: Foodmarketexchange.com • Buy/Sell Fulfillment: CarsDirect.com • Demand Collection System: Priceline.com • Auction Broker: e-Bay.com • Transaction Broker: PayPal.com • Distributor: Questlink.com • Search Agent: DealTime.com • Virtual Mall: ChoiceMall.com

  39. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ e-Marketplace ศูนย์รวม/ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูล สินค้า บริการ และทำธุรกรรม online ระหว่างผู้ผลิตสินค้าและชุมชนในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจเดียวกัน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า B2B e-Marketplace ที่ประสบความสำเร็จจะต้องสามารถรวมกลุ่มผู้ขายและผู้ซื้อเข้าไว้ด้วยกันจำนวนมาก สร้างช่องทางใหม่ๆ ให้ผู้ขาย (multiple suppliers) ขณะเดียวกันสร้างกระบวนการสั่งซื้อให้ผู้ซื้อ (multiple buyers) ตัวอย่างได้แก่ Foodmarketexchange.com/ Thailand.com

  40. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Buy/Sell Fulfillment website ที่รับความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อพบว่ามีสินค้าหรือเงื่อนไขราคา ฯลฯ ของผู้ซื้อและผู้ขายใดเหมาะสมตรงกัน ก็จะทำการจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายให้เกิดการซื้อขายกัน และได้รับค่าบริการ transaction fee ตัวอย่างได้แก่ CarsDirect.com และ Respond.com

  41. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Demand Collection System “เอ่ยราคาที่คุณต้องการ” (name-your-price) กล่าวคือผู้ซื้อที่สนใจทำการแจ้งราคา (งบประมาณ) ที่สามารถซื้อสินค้าหรือบริการ อาทิ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม ทัวร์ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ซื้อบ้าน ฯลฯ และ website จะทำการจัดหาสิ่งที่ผู้ซื้อต้องการมาให้ในงบประมาณที่ผู้ซื้อแจ้งไว้ และคิดค่าบริการเป็นรายได้ ตัวอย่างได้แก่ Priceline.com

  42. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Auction Broker Website จัดทำระบบและกลไกให้ผู้ขายเสนอสินค้าและผู้ซื้อ (ทั้งบุคคลทั่วไปและผู้ค้า) แข่งขันราคากันจนผู้ขายพอใจและปิดการขาย นายหน้าจะได้ค่าคอมมิสชั่นจากผู้ขายและผู้ซื้อซึ่งมีกฎเกณฑ์และข้อเสนอที่หลากหลาย ตัวอย่างได้แก่ e-Bay.com

  43. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Transaction Broker website ในลักษณะตัวกลางบุคคลที่สาม รับผิดชอบเรื่องการชำระเงินให้แก่ผู้ขายและผู้ซื้อจาก website อื่นให้เข้ามาใช้บริการที่ website ของตนเองในฐานะตัวกลางภายนอกโดยสร้างกลไกการชำระเงินไว้พร้อมให้บริการแก่ผู้ขายและผู้ซื้อ ตัวอย่างได้แก่ www.paypal.com และ Escrow.com

  44. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Distributor website ในลักษณะจัดการ catalog ให้เชื่อมต่อกับทั้งสองฝั่ง ได้แก่ฝั่งบรรดาผู้ผลิตสินค้านั้นๆ และฝั่งบรรดาผู้ซื้อทั้งแบบผู้ซื้อรายใหญ่และผู้ซื้อรายย่อย โดย website จะอำนวยความสะดวกในเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติสินค้าและบริการ อีกทั้งอำนวยการแลกเปลี่ยนธุรกิจของทั้งผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับสิทธิและคู่ค้าพันธมิตร ตัวอย่างได้แก่ www.questlink.com

  45. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Search Agent เป็นตัวแทน (อาทิ software agent หรือ ‘robot’) ทำหน้าที่ค้นหาสินค้า บริการ ราคาที่ผู้ขายกำหนดไว้นำมาบริการแก่ผู้ต้องการซื้อ รวมถึงช่วยค้นหาข้อมูลที่ยากต่อการสืบค้นด้วย ตัวอย่างได้แก่www.dealtime.com

  46. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Virtual Mall เป็นแบบ hosts online merchants ทำหน้าที่แบบรวบยอดสมบูรณ์ตั้งแต่สร้างรูปแบบร้านค้ามาตรฐาน รับเก็บข้อมูล จัดสรรบริการชำระเงิน จัดส่งสินค้า และสร้างโอกาสและสายสัมพันธ์ทางการตลาดให้กับร้านค้าสมาชิกใน Mall โดย website แบบนี้จะมีรายได้จากค่าดำเนินการครั้งแรก ค่าบริการรายเดือน และรายได้ต่อธุรกรรมการซื้อต่อครั้ง ตัวอย่างได้แก่ www.ChoiceMall.comwww.ShoppingThai.com , www.veloshopping.com , www.quickwww.com

  47. ตัวอย่าง e-Commerce ประเภท Advertising Website ที่ทำหน้าที่กระจายข้อมูลข่าวสาร โฆษณาประชาสัมพันธ์ และอาจมีบริการเสริมอื่นๆ เช่น free email, chat, forums, text link, banner, bubble ads เป็นต้น เพื่อดึงดูดให้มีผู้เข้ามาเยี่ยมชม website มาก สร้าง traffic ให้สูงเพื่อขายพื้นที่ในการโฆษณาให้ได้ • Portal: yahoo.com • Personalized portal: MyYahoo! • Niche portal: iVillage.com • Classifieds: Match.com • Registered users: NYTimes.com • Query-based paid placement: Google.com ปัจจัยในความสำเร็จของธุรกิจในกลุ่มนี้ได้แก่การสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากธุรกิจในแนวเดียวกัน ในขณะที่สามารถควบคุมต้นทุนได้ตัวอย่างของธุรกิจที่หารายได้จากค่าโฆษณาที่ยังคงสามารถทำกำไรได้คือ Yahoo! ซึ่งเป็นเว็บท่า (Portal Site) ที่มีชื่อเสียงมานานและมีต้นทุนในการสร้างเนื้อหาน้อยเนื่องจากใช้วิธีการเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาของผู้อื่นนอกจากนี้ยังมีอีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือGreaterGood ซึ่งเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่หารายได้จากการแนะนำลูกค้าให้แก่เว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งคล้ายกับการหารายได้จากค่าโฆษณา

  48. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Portal เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยทั่วไปหมายถึง Search Engines ที่รวมเนื้อหาสาระข้อมูลและบริการที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ยิ่งมีผู้เข้ามาใช้บริการมาก ก็จะยิ่งมีรายได้จากการรับฝาก banner ads โฆษณาประชาสัมพันธ์ มากขึ้นไปเท่านั้น ตัวอย่าง ได้แก่ Yahoo.com

  49. ตัวอย่างของ e-Commerce แบบ Personalized Portal เป็น website ที่นำเสนอข้อมูลและขอบเขตที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความภักดีจากผู้ใช้บริการที่มีเวลาน้อยและต้องการเข้าถึงข้อมูลที่กลั่นกรองแล้ว ตรงประเด็นโดยรวดเร็ว ตัวอย่างได้แก่ MyYahoo!

More Related