610 likes | 1.02k Vues
การประยุกต์การสอน IS ในโรงเรียนมาตรฐานสากล กับขั้นตอนการสอนด้วยบันได 5 ขั้น (QSCCS). By… Pakamas Bunphueak Ph.D. ความเชื่อ. การพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ที่จะ เกิดขึ้น เพื่อ ปรับตนเองในปัจจุบัน ให้พร้อมรับกับสิ่งที่จะตามมาในอนาคต.
E N D
การประยุกต์การสอน IS ในโรงเรียนมาตรฐานสากลกับขั้นตอนการสอนด้วยบันได 5 ขั้น (QSCCS) By…PakamasBunphueakPh.D
ความเชื่อ การพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเพื่อปรับตนเองในปัจจุบัน ให้พร้อมรับกับสิ่งที่จะตามมาในอนาคต 1. มนุษย์มีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ผู้สอนจึงต้องใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย 2. ผู้เรียนควรเป็นผู้กำหนดองค์ความรู้ของตนเอง ไม่ใช่นำความรู้ไปใส่สมองผู้เรียน แล้วให้ผู้เรียนดำเนินรอยตามผู้สอน 3. โลกยุคใหม่ต้องการผู้เรียนซึ่งมีวินัย มีพฤติกรรมที่รู้จักยืดหยุ่น หรือปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม 4. เนื่องจากข้อมูลข่าวสารในโลกจะทวีเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ทุกๆ 10 ปี โรงเรียนจึงต้องใช้วิธีสอนที่หลากหลาย โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ กัน 5. ให้ใช้กฎเหล็กของการศึกษาที่ว่า “ระบบที่เข้มงวดจะผลิตคนที่เข้มงวด” และ “ระบบที่ยืดหยุ่นก็จะผลิตคนที่รู้จักการยืดหยุ่น”
การพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเพื่อปรับตนเองในปัจจุบัน ให้พร้อมรับกับสิ่งที่จะตามมาในอนาคต ความเชื่อ 6. สังคม หรือชุมชนที่มั่งคั่ง ร่ำรวยด้วยข้อมูลข่าวสาร ทำให้การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายๆ สถานที่ 7. การเรียนรู้แบบเจาะลึก (deep learning) มีความจำเป็นมากกว่าการเรียนรู้แบบผิวเผิน 8.การสอนที่จัดว่ามีประสิทธิภาพ ต้องการครูที่มีคุณสมบัติมากกว่าการเป็นผู้ทำหน้าที่สอน 9. การศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียน (schooling) กับ การศึกษา (education) อาจไม่ใช่เรื่องเดียวกัน 10. โลกอนาคตจะให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาที่บ้าน (Home – based education) มากขึ้น
1. ผู้เรียนเป็นผู้จัดการเรื่องการเรียนรู้ของตนเอง 2. การเรียนรู้จะใช้ระบบเครือข่าย 7. ระบบการประเมินจะหลากหลายมากขึ้น 3. หลักสูตรจะถูกจัดแยกเป็นประเภท(catalogue curriculum) (full time/รร./บ้าน) (flexi– time schooling plan) การจัดการศึกษาในอนาคต 6. ครูมีบทบาทในฐานะเป็น C&M 4. มีแผนการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (personal learning plan) 5. การเรียนรู้จากคอมพิวเตอร์จะเข้ามามีบทบาทมาก
L N R ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ สาระวิชาหลัก • ภาษาแม่ และภาษาโลก • ศิลปะ • วิทยาศาสตร์ • ภูมิศาสตร์ • ประวัติศาสตร์ • คณิตศาสตร์ • เศรษฐศาสตร์ • รัฐ และความเป็นพลเมืองดี
Them สำหรับศตวรรษที่ 21 • ความรู้เกี่ยวกับโลก • ความรู้ด้านการเงิน เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ และการเป็นผู้ประกอบการ • ความรู้ด้านการเป็นพลเมืองดี • ความรู้ด้านสุขภาพ • ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม • ความริเริ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรม • การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา • การสื่อสารและการร่วมมือ
ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี • ความรู้ด้านสารสนเทศ • ความรู้เกี่ยวกับสื่อ • ความรู้ด้านเทคโนโลยี • ทักษะชีวิตและอาชีพ • ความยืดหยุ่นและปรับตัว • การริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง • ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม • การเป็นผู้สร้างหรือผลิต (productivity) และความรับผิดรับชอบเชื่อถือได้ (accountability) • ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (responsibility)
ครูเพื่อศิษย์ต้องฝึกฝนตนเองให้มีทักษะในการเป็นผู้สอนงาน (Coaching)และเป็นพี่เลี้ยง(Mentoring) หรือ“คุณอำนวย” (facilitator) ในการเรียนรู้แบบ PBL (Project-Based Learning)ของศิษย์ ครูต้องเลิกเป็น “ผู้สอน” ผันตัวเองมาเป็นโค้ช หรือ พี่เลี้ยง ของการเรียนของศิษย์ที่ส่วนใหญ่เรียนแบบ PBL
Coach Coachee Are you Ready มีสถานที่เหมาะสม มีเวลาพอเหมาะกับเรื่องที่จะสอน มีข้อมูล (เนื้อหา,เกณฑ์การประเมิน,ข้อมูล นร.) มีอารมณ์ (ดี) มีสุขภาพดี
Coaching Or Mentoring • ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ • กำหนดเป้าหมายเล็กๆ • เรียนรู้ร่วมกัน • ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ • ให้ทางเลือก / คำแนะนำ • ความสัมพันธ์ระยะยาว • มีเป้าหมายใหญ่ • ระบบพี่ใหญ่ ดูแลน้องเล็ก • เป็นผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ • ให้ความรู้ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
เครื่องมือที่ใช้ในการ Coaching & Mentoring - การให้ข้อมูลป้อนกลับ- การถามคำถามปลายเปิด- การท้าทายให้ทำงาน- การรับฟัง - การบอก- การสอน- การแนะนำ ครูมีการหนุนนำอย่างต่อเนื่อง ทั้ง C&M มุ่งให้เกิด การเปลี่ยนแปลง ดูคลิป Derek
S : Serve C : Construct C : Communicate Q : Question S : Search ศักยภาพทักษะผู้เรียนยุคใหม่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Development) Coachingการสอนงาน Mentoringการเป็นพี่เลี้ยง Counselingการให้คำปรึกษา
ครูเป็นพี่เลี้ยงMentor สูงกว่ามาตรฐาน ครูเป็นผู้สอนงานCoach ผลงานนักเรียน ตรงตามมาตรฐาน ต่ำกว่ามาตรฐาน ครูเป็นผู้ให้คำปรึกษาCounselor
คุณครูลงมือปฏิบัติด้วยความสุข ด้วยการ (C&M) Coaching& Mentoring โดยใช้ขั้นตอนการสอน 5 ขั้น QSCCS เพื่อดูความสามารถนักเรียน (LNR) Literacy Numeracy Reasoning
กระบวนการการเรียนรู้ตามบันได 5 ขั้น C&M 33 5. บริการสังคมและจิตสาธารณะ (Public Service) L N R 4. สื่อสารและนำเสนอ (Effective Communication) 3.การสรุปองค์ความรู้ (KnowledgeFormation) 2. สืบค้นความรู้ (Searching for Information) 1. ตั้งคำถาม/สมมุติฐาน (Hypothesis Formulation)
เรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Serve) S เรียนรู้เพื่อการสื่อสาร(Learning to Communicate) C เรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) C S เรียนรู้การแสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) Q เรียนรู้การตั้งคำถาม (Learning to Question)
การจัดการเรียนรู้ตามบันได 5 ขั้น ผู้สอนสามารถจัดได้ในทุกกลุ่มสาระฯ ตามบันได 5 ขั้น เช่น เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน L N R
เรียนรู้การตั้งคำถาม Q : Learning to Question
เรียนรู้การตั้งคำถาม Q : Learning to Question ใช้เทคนิค 5 w 1 HWho ใคร (ในเรื่องนั้นมีใครบ้าง)What ทำอะไร (แต่ละคนทำอะไรบ้าง)Where ที่ไหน (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นอยู่ที่ไหน)When เมื่อไหร่ (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำเมื่อวัน เดือน ปี ใด)Why ทำไม (เหตุใดจึงได้ทำสิ่งนั้น หรือเกิดเหตุการณ์นั้นๆ)How อย่างไร (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำเป็นอย่างไรบ้าง)
เรียนรู้การตั้งคำถาม Q : Learning to Question
เรียนรู้การตั้งคำถาม Q : Learning to Question 5W1H ในหลักของวิชา IS คือ ===================== What=สร้างขึ้นจากอะไร Where=เอาข้อมูลมาจากแหล่งไหน (www) When=up date เมื่อไหร่ Why=สร้างขึ้นมาทำไม Who=ใครเป็นผู้สร้าง How=เชื่อถือได้หรือไม่
เรียนรู้การแสวงหาสารสนเทศ S : Learning to Search องค์กรที่จัดให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้โดยตรง แหล่งอื่นที่ไม่ได้บริการโดยตรง แหล่งสืบค้นOnline ห้องสมุด , พิพิธภัณฑ์ หอจดหมายเหตุ , และหอศิลป์ บุคคล สถานที่ เหตุการณ์ อินเตอร์เน็ต
เรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (C: Learning to Construct) แหล่งกำเนิดขององค์ความรู้ - ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบุคคลอื่น - ความรู้เกิดจากประสบการณ์การทำงาน - ความรู้ที่ได้จากการวิจัยทดลอง - ความรู้จากการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ - ความรู้ที่มีปรากฏอยู่ในแหล่งความรู้ภายนอกโรงเรียนและนักเรียนได้นำมาใช้
เรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (C : Learning to Communicate) 1. การนำเสนอข้อมูลโดยรายงานวิจัย /บทความ (Text Presentation) 2. การนำเสนอโดยตาราง ( Tabular Presentation ) 3.การนำเสนอด้วยกราฟหรือแผนภูมิ ( Graphical Presentation ) 4. การนำเสนอด้วยวาจา 5. การนำเสนอคลังความรู้ KM ในเว็บไซต์
เรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (S : Learning to Serve) ทำเป็นนิทรรศการ/โครงงาน ฯลฯ
เรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (S : Learning to Serve) ทำเป็นแผ่นพับประชาสัมพันธ์
เรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (S : Learning to Serve) นำเสนอผ่านสื่อ Online /Socialmedia
ผลที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียนL : Literacy (ทักษะการรู้หนังสือ อ่านออก เขียนได้) N : Numeracy (ทักษะพื้นฐานด้านการคิดคำนวณ)R : Reasoning (ทักษะการใช้เหตุผล)