1 / 22

ประชากรและการสุ่มตัวอย่าง ในงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว

ประชากรและการสุ่มตัวอย่าง ในงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว. ดร.ไพศาล กาญจนวงศ์. เนื้อหา. ความหมายของประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เหตุผลของการมีกลุ่มตัวอย่าง เทคนิคการเลือกกลุ่มตัวอย่าง การสุ่มตัวอย่าง วิธีการสุ่มตัวอย่าง ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง ลักษณะของกลุ่มตัวอย่างที่ดี.

bin
Télécharger la présentation

ประชากรและการสุ่มตัวอย่าง ในงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ประชากรและการสุ่มตัวอย่างในงานวิจัยด้านการท่องเที่ยวประชากรและการสุ่มตัวอย่างในงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว ดร.ไพศาล กาญจนวงศ์

  2. เนื้อหา • ความหมายของประชากรและกลุ่มตัวอย่าง • เหตุผลของการมีกลุ่มตัวอย่าง • เทคนิคการเลือกกลุ่มตัวอย่าง • การสุ่มตัวอย่าง • วิธีการสุ่มตัวอย่าง • ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง • ลักษณะของกลุ่มตัวอย่างที่ดี

  3. ความหมายของประชากรและกลุ่มตัวอย่างความหมายของประชากรและกลุ่มตัวอย่าง • ประชากร (population)หมายถึง กลุ่มของสิ่งมีชีวิต หรือไม่มีชีวิตใดๆ ที่นำมาศึกษา มีคุณลักษณะร่วมกัน เช่น นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ • ประเภทของประชากรมี 2 ประเภทได้แก่ • ประชากรที่มีจำกัด หมายถึง ประชากรที่สามารถนับจำนวนได้ครบถ้วน • ประชากรที่มีจำนวนไม่จำกัด หมายถึง ประชากรที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ครบถ้วน

  4. ความหมายของประชากรและกลุ่มตัวอย่างความหมายของประชากรและกลุ่มตัวอย่าง • กลุ่มตัวอย่าง (sample) หมายถึง บางส่วนของประชาการที่ผู้วิจัยเลือกขึ้นมาเป็นตัวแทนในการศึกษา หมายถึง การมีคุณสมบัติต่างๆ ครบถ้วน เท่าเทียมกัน

  5. เหตุผลของการมีกลุ่มตัวอย่างเหตุผลของการมีกลุ่มตัวอย่าง • ค่าใช้จ่าย • เวลา และแรงงาน • สะดวก • ความถูกต้องเม่นยำและเชื่อมั่น • ความลึกซึ้ง

  6. เทคนิคการเลือกกลุ่มตัวอย่างเทคนิคการเลือกกลุ่มตัวอย่าง • การเลือกโดยไม่ใช้หลักทฤษฏีความน่าจะเป็น (non probability sampling) • การเลือกโดยใช้หลักทฤษฏีความน่าจะเป็น (probability sampling)

  7. การเลือกโดยไม่ใช้หลักทฤษฏีความน่าจะเป็น (non probability sampling) • โดยความบังเอิญ (Accidental Sampling) จากสมาชิกของกลุ่มประชากรเป้าหมายเท่าที่จะหาได้ • แบบโควต้า หรือโดยกำหนดสัดส่วน (Quota Sampling) เป็นกลุ่มตัวอย่างโดยจำแนกประชากรออกเป็นส่วน ๆ ตามระดับของตัวแปรที่จะรวบรวม • อย่างเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นตัวอย่างโดยใช้ ดุลยพินิจของผู้วิจัยในการกำหนดสมาชิก ของกลุ่มประชากรที่จะมาเป็นสมาชิกในกลุ่มตัวอย่าง • แบบใช้ความสะดวก (Accessible Sampling) เป็นตัวอย่างโดยถือเอาความสะดวกหรือง่ายต่อการรวบรวมข้อมูลเป็นสำคัญ

  8. ข้อจำกัดแบบ non-pob. • ข้อจำกัดของการสุ่มตัวอย่างที่ไม่คำนึงถึงความน่าจะเป็นในการสุ่ม       1. ผลการวิจัยที่ได้ไม่สามารถสรุปอ้างอิงไปสู่กลุ่มประชากรทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์       2. กลุ่มตัวอย่างที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้วิจัย และองค์ประกอบบางตัวที่ ไม่สามารถควบคุมได้ และไม่มีวิธีการทางสถิติใดที่จะมาคำนวณค่าความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการสุ่ม (Sampling error)

  9. การเลือกโดยใช้หลักทฤษฏีความน่าจะเป็น (probability sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random Sampling) การสุ่มตัวอย่างโดยวิธีนี้สมาชิกของกลุ่มประชากรทุก ๆ หน่วยมีโอกาสเท่า ๆ กัน และเป็นอิสระต่อกัน ได้แก่ จับฉลาก ใช้ตารางเลขสุ่ม • การสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ (Systematic Sampling) เป็นเทคนิคการสุ่มตัวอย่าง ที่ง่ายกว่าการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย การสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบนี้ต่างจากการสุ่มแบบง่ายที่ว่า สมาชิกแต่ละหน่วยที่ได้รับเลือกไม่ได้เป็นอิสระต่อกันอย่างแท้จริงเหมือนกับการสุ่มแบบง่าย

  10. การเลือกโดยใช้หลักทฤษฏีความน่าจะเป็น (probability sampling)(ต่อ) • การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Sampling) คือ แบ่งกลุ่มประชากรออกเป็นชั้นย่อย ๆ (Strata) เสียก่อนโดยมีหลักในการจัดแบ่งชั้นภูมิให้ภายในชั้นภูมิแต่ละชั้นมีความเป็น เอกพันธ์ (Homogeneous) หรือมีลักษณะที่เหมือนกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ระหว่างชั้นภูมิให้มีความเป็นวิวิธพันธ์ (Heterogeneous) หรือมีความแตกต่างกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหลังจากที่จัดแบ่งชั้นภูมิเรียบร้อยแล้วจึงสุ่มตัวอย่างจากแต่ละชั้นภูมิ • การสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) คือวิธีการสุ่มตัวอย่างที่หน่วยของกลุ่มคือกลุ่มของสมาชิกของกลุ่มประชากร มีหลักคือ ให้สมาชิกภายในกลุ่มแต่ละกลุ่มมีลักษณะของความเป็นวิวิธพันธ์ หรือมีลักษณะหลากหลาย และให้ระหว่างกลุ่มมีลักษณะเป็นเอกพันธ์

  11. การเลือกโดยใช้หลักทฤษฏีความน่าจะเป็น (probability sampling)(ต่อ) • การสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้น (Multistage sampling) เป็นการสุ่มตัวอย่างที่ประกอบด้วยหลายขั้นตอน โดยเริ่มจากกลุ่มประชากรมาจนถึงขั้นของการเลือกสมาชิกเข้าสู่กลุ่มตัวอย่าง เทคนิคการสุ่มตัวอย่างที่ใช้ในแต่ละขั้นตอนนั้นอาจจะเหมือนกันหรือต่างกันก็ได้

  12. การสุ่มตัวอย่าง (random sampling) • หมายถึง การเลือกตัวอย่างเพื่อมาเป็นตัวแทนในการศึกษาโดยสมาชิกของกลุ่มตัวอย่างที่เลือกขึ้นมานั้นมีโอกาสได้รับเลือกเท่าๆ กัน

  13. ขั้นตอนการสุ่มตัวอย่างขั้นตอนการสุ่มตัวอย่าง การสุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 7 ขั้นตอนคือ • วิเคราะห์จุดมุ่งหมายของการวิจัย • ให้คำจำกัดความของประชาการ • กำหนดหน่วยของตัวอย่าง • กำหนดขอบเขตของประชากร • ประมาณขนาดของกลุ่มตัวอย่าง • กำหนดวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง • ได้กลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเหมาะสม

  14. ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง • ขนาดเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ?

  15. ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง ความผิดพลาด ถ้ากลุ่มตัวอย่างมีขนาดเล็ก ความผิดพลาดจะมีมาก ถ้ากลุ่มตัวอย่างใหญ่ ความผิดพลาดจะน้อย มาก จุดที่ขนาดของกลุ่มตัวอย่างไม่มีผล ขนาดกลุ่มตัวอย่าง น้อย ใหญ่ เล็ก

  16. ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง • ดังนั้นใช้ขนาดใหญ่ไว้ก่อนเพื่อให้เกิดความเม่นยำในการวิจัย แต่ทั้งนี้อาจมีองค์ประกอบต่อไปนี้ • กำหนดระดับความถูกต้องเม่นยำ • ขอบเขตของประชากร • การเปรียบเทียบคุณลักษณะของประชากร และวิธีการทางสถิติที่ใช้ • วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง • ประเภทของงานวิจัย • อื่นๆ เงิน เวลาและบุคลากร

  17. ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง • ใช้เกณฑ์จำนวนประชากร ใช้วิธีการประมาณการตามจำนวนประชากร • ใช้สูตรคำนวน ใช้ในการคำนวนหาขนาดกลุ่มตัวอย่างตามสูตรทางสถิติ • ใช้ตารางสำเร็จ ใช้ตารางสำเร็จที่คำนวณได้จากสูตร เช่น ตารางของเครซี่และมอร์แกน(R.V.Krejcie & D.W.Morgan)

  18. ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง • ใช้เกณฑ์จำนวนประชากร ใช้วิธีการประมาณการตามจำนวนประชากร

  19. n = N 1+Ne2 e คือความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้เกิดขึ้นในรูปของสัดส่วน n = N 1+Ne2 = 1,800 = 327 1+1,800(.05) 2 จะต้องเลือกตัวอย่าง 327 คน • การใช้สูตรในการคำนวณ ตัวอย่าง ถ้าประชากรที่ศึกษามี 1,800 คน และต้องการให้เกิดความคลาดเคลื่อน ในการสุ่มตัวอย่างร้อยละ 5 ขนาดของกลุ่มตัวอย่างควรเป็นเท่าไร

  20. ตัวอย่าง ในการสำรวจความคิดเห็นของนิสิตคณะครุศาสตร์ที่มีต่อวิชาชีพครู ถ้าต้องการให้เกิดความผิดพลาด 2% ที่ระดับความเชื่อมั่น 90% ควรสอบถามนิสิตคณะครุศาสตร์กี่คน e = 0.02 Z = 1.645 n = Z2 4 e2 = (1.645) 2 = 1691.265 4 (0.02) 2 จะต้องสอบถามจากนิสิต 1691 คน

  21. ใช้ตารางสำเร็จ ใช้ตารางสำเร็จที่คำนวณได้จากสูตร เช่น ตารางของเครซี่และมอร์แกน(R.V.Krejcie & D.W.Morgan)

  22. ลักษณะของกลุ่มตัวอย่างที่ดีลักษณะของกลุ่มตัวอย่างที่ดี • มีคุณลักษณะสอดคล้องครอบคลุมคุณลักษณะทุกประการของประชากร • ขนาดพอเหมาะ

More Related