1 / 69

โอกาสทำกำไรในหุ้นบนความผันผวนของตลาดโลก

โอกาสทำกำไรในหุ้นบนความผันผวนของตลาดโลก. 1 มีนาคม 2555 วิวัฒน์ เตชะพูลผล. คาดแนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลกระวังขึ้นทำ Peak เดือน มี.ค. 55 แล้วลงถึงเม.ย. 55 ( By Technical Analysis ).

cain
Télécharger la présentation

โอกาสทำกำไรในหุ้นบนความผันผวนของตลาดโลก

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. โอกาสทำกำไรในหุ้นบนความผันผวนของตลาดโลกโอกาสทำกำไรในหุ้นบนความผันผวนของตลาดโลก 1 มีนาคม 2555 วิวัฒน์ เตชะพูลผล

  2. คาดแนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลกระวังขึ้นทำ Peak เดือน มี.ค. 55 แล้วลงถึงเม.ย. 55 ( By Technical Analysis ) • เศรษฐกิจดีกว่าคาดUnemployment Rate ลงเหลือ 8.30 % ในเดือนม.ค. 55 อาจออก QE 3ใน Q2/ 2555 – คาด DOWJONES จะขึ้นจากแนวรับ 12,650จุด ขึ้นทำ Peak ที่ 13,300 จุด • ECB เพิ่มวงเงิน QE เช่นเดียวกันกับ BOJ เพิ่ม QE อีก 10 เป็น 65 ล้านล้านเยน คาด Euro Zone 10 จาก 17ประเทศ จะเกิด Recession ในปี 2012 ระวัง มี.ค. และ เม.ย. 55 จะมีหนี้ครบกำหนดก้อนโตกลุ่ม PIIGS ธนาคารใหญ่ต้องเพิ่มทุนให้เสร็จก่อน ปลาย มิ.ย. 2555 • คาดจีนจะ Soft Landing และลด RRR ลงเรื่อย ๆ จากปัจจุบันที่ 21.00 % • คาดตลาดหุ้นจีน ( Shanghai Composite ) จะ Bottom Out จากแนวรับ 2,350จุดขึ้นทดสอบแนวต้าน 2,600 จุด เนื่องจาก ตลาดหุ้นจีนเป็นขาลงมาตลอด 3 ปีสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นระยะยาวคือต้องขึ้นเหนือ 2,600 จุด ไปได้ 3,000 จุด • คาดเศรษฐกิจไทยโตปีนี้ 4.5 – 5.0 % ( ปี2011 โต 0.0 % ) Headline & Core Inflation ปีนี้ ลงเหลือ 3.5 & 2.2 % ( ลง 0.2 – 0.3 %)คาดคง Policy Rate ที่ 3.0 % คาด SET ขึ้นสูงสุดไตรมาส 3 ปีนี้ที่ 1,180 หรือ 1,300 จุด Source: Federal Reserve, US Department of the Treasury, European Central Bank (ECB), People Bank of China (PBoC), Bank of Japan (BoJ), International Monetary Fund (IMF), World Bank, Bloomberg Finance LP, foreign research houses, TISCO Economic Strategy Unit (ESU) 2

  3. การใช้หนี้ของประเทศในยุโรป (โดยเฉพาะกลุ่ม PIIGS) ในเดือน มี.ค. นี้ มีวงเงินรวมที่ต้องใช้คืนหนี้ที่ 8.8 หมื่นล้านยูโร ภายใต้เศรษฐกิจยุโรปที่เข้าสู่ภาวะถดถอย จึงคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลก Peak ชั่วคราว เดือน มี.ค.55 จำนวนหนี้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนของกลุ่ม PIIGS (Greece, Portugal, Ireland, Italy และ Spain)

  4. U.S. unemployment rate decreased to 8.3 % ( Jan 2012 ) EURO Area unemployment rate = 10.40 % ( December 2011 )

  5. China :Soft Landing

  6. Asia: Inflation peaked

  7. คาดปีนี้ จะเป็นปีทองของตลาดหุ้นจีน ( CHINA – H Share ) มี เป้าหมายที่ 2800 – 3000 จุด ( Up side = 15 – 23 % )

  8. GOLD Chart - update

  9. GOLD as Safe Haven มาตรการ QE (Quantitative Easing) : จากการศึกษาพบว่า ทุก ๆ ครั้งที่มีการอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางทุก ๆ USD100bn. จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย USD35-45/ounce

  10. GOLD as Safest Currency การถือครองของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ

  11. GOLD as Commodities ( US & Yen Carry Trade ) แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและยุโรปที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำไปตลอด 2 ปีนี้ เป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ

  12. 1800 1750

  13. 26,000 25,300

  14. ทองคำโลกปี 2012 : เมื่อระดับราคาทองคำโลกลงสู่แนวรับ $ 1,750 & 1,710 / Ounce ( ทองคำไทยแนวรับ บาทละ 25,300 & 25,800 บาท ) จะมีแรงซื้อเข้ามาจากคุณสมบัติ Safe haven& Safest Currency ดึงดูดให้หลายธนาคารกลางในเอเชีย และนักลงทุนเข้าซื้อทองคำ ปัจจัยหนุนราคาทองคำโลกในปี 2012 = สภาพคล่องสูง + ดอกเบี้ยต่ำ + วิกฤติ Euro ธนาคารกลางหลายประเทศ ส่งสัญญาณเพิ่มวงเงิน QE ทั้ง ECB+ BOJ และ FED คงอัตราดอกเบี้ยที 0-0.25 % อีก 2 ปี นอกจากนี้ โอกาสที่มาตรการ QE 3 จะถูกนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในปี2012 ( การปรับลดงบประมาณการใช้จ่ายภาครัฐส่งผลกระทบกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ ) ผลักดันราคาทองคำในฐานะSafe Haven และ Safest Currencyปรับขึ้นได้ คาดไตรมาส 3 ปี 2012 ราคาทองคำโลกจะขึ้นทดสอบ High ของปีนี้ที่ US$ 1,920 / Ounce ( ทองคำไทยที่บาทละ 27,200 บาท )

  15. World Stocks Index Chart – Up Date 20

  16. 13,300

  17. BOJ เพิ่ม QE อีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 65 ล้านล้านเยน หนุน Yen Carry Trade

  18. Almost 2 Year Low

  19. BOI ประกาศเงินเฟ้อลดลง เตรียมลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

  20. Almost 2 Year Low

  21. Almost 2 Year Low

  22. มอร์แกน สแตนเลย์ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในไทย,ฟิลิปปินส์ ( เพิ่มน้ำหนักใน ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย )

  23. มอร์แกน สแตนเลย์ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในไทย,ฟิลิปปินส์ ( เพิ่มน้ำหนักใน ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย )

  24. มอร์แกน สแตนเลย์ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในไทย,ฟิลิปปินส์ ( เพิ่มน้ำหนักใน ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย )

  25. มอร์แกน สแตนเลย์ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในไทย,ฟิลิปปินส์ ( เพิ่มน้ำหนักใน ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย )

  26. Target = 1,180 High ปี 2011 = 1,148 แนวรับ 1 = 1,130 แนวรับ 2 = 1,100

  27. Currency Chart - update 35

  28. เม็ดเงินส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน Bond สหรัฐ ฯ แต่บางส่วนไหลออกเข้าสินทรัพย์เสี่ยง

  29. SET INDEX – ไตรมาส 1-2

  30. แนวโน้ม SET INDEX เดือน มี.ค. 55 คาด SET ขึ้นต่อในเดือน มี.ค. 55 ทดสอบแนวต้าน 1,180 จุด แต่ต้องระวังจะเป็น Peak ชั่วคราว ก่อนลงปรับฐานประมาณ 50 จุด ในเดือน เม.ย. 55

  31. คาดเป้าหมาย SET กลางปี 55 = 1,160 จุด EPS Growth ของตลาด และ Forward PER SET Forward PER และค่าเฉลี่ยในอดีต

  32. คาดเป้าหมาย SET กลางปี 55 = 1,160 จุด เป้าหมาย SET ปี 55 = 1,160 จุด ปัจจัยภายนอกก็มีแนวโน้มดีกว่าคาด 1. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ – เยอรมนี ดีกว่าคาด ส่วนจีน Soft Landing 2. อัตราดอกเบี้ย สหรัฐ ฯ – ยุโรป – ญี่ปุ่น ยังไม่ขึ้นถึงปลายปี 2013 หนุน USD & YEN Carry Trade เข้าหุ้นเอเชีย และทองคำ 3. การเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) = 16% ในปี 55 และ 11% ในปี 56 ส่วนหนึ่งมาจากฐานที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในปี 54 และการลดภาษีเป็น 23% ในปี 55 และ 20% ในปี 56 เป้าหมาย SET = 1,160 จุด อิงค่าเฉลี่ย Forward PER 10 ปี ที่ 10.9 เท่า และใช้ EPS EPS Growth ในช่วงปี 55-56F ที่ 14%สอดคล้องกับการเติบโตของ EPS เฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่ 13%

  33. กราฟแสดงการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศ & SET + 84,800 + 35,670 - 9,500 + 45,275

  34. กราฟแสดงการซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบัน & SET ระวังแรงขายจาก LTF & Trigger Fund - 15,600 - 3,800 - 29,000 - 12,640

  35. 1,160 Fundamental Value ; เป้าหมาย SET สิ้นปี 55 = 1,160 จุด อิงจากค่าเฉลี่ย Forward PER 10 ปี ที่ 10.9 เท่า ซึ่งอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS Growth) ในช่วงปี 55-56F ที่ 14% ต่อปี สอดคล้องกับ EPS Growth เฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ 13% ต่อปี

More Related