410 likes | 786 Vues
บทที่ 6. นโยบายของรัฐในการพัฒนาการเกษตร. หัวข้อบรรยาย. 6.1 การค้าระหว่างประเทศและนโยบาย 6.2 ทรัพยากร - สิ่งแวดล้อมและนโยบาย 6.3 สินค้าสาธารณะและทางเลือกของประชาชน 6.4 นโยบายการพัฒนาเกษตร. 6.1 การค้าระหว่างประเทศและนโยบาย.
E N D
บทที่ 6 นโยบายของรัฐในการพัฒนาการเกษตร
หัวข้อบรรยาย 6.1 การค้าระหว่างประเทศและนโยบาย 6.2 ทรัพยากร-สิ่งแวดล้อมและนโยบาย 6.3 สินค้าสาธารณะและทางเลือกของประชาชน 6.4 นโยบายการพัฒนาเกษตร
6.1 การค้าระหว่างประเทศและนโยบาย • ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศสมัยใหม่อธิบายว่าการค้าเกิดจากความได้เปรียบในการผลิตสินค้าของแต่ละประเทศด้วยต้นทุนที่ต่างกัน • ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ต่างกัน (โดยเฉพาะทรัพยากรแรงงานและทุนที่เป็นปัจจัยสำคัญของการผลิต) • เพราะต้นทุนการผลิตต่างกันทำให้ราคาสินค้าในแต่ละประเทศต่างต่างกัน เป็นที่มาของความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ (comparative advantage)
Y B C A Y02 X01 X การผลิตเพื่อบริโภคในประเทศและการค้า • ถ้าไม่มีการค้าประเทศจะผลิตและบริโภคที่ A • การมีการค้าทำให้เปลี่ยนการผลิตจาก A ไป B และบริโภคที่ C ทำไห้ได้รับความพึงพอใจเพิ่มขึ้น
Y Y ประเทศ ก ประเทศ ข A Y01 B Y02 X01 X X01 X ก. ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ • ไม่มีการค้าระหว่างประเทศ ราคาสินค้าในแต่ละประเทศจะต่างกัน • ในประเทศ ก ราคา X ถูกกว่า ส่วนในประเทศ ข ราคา Y ถูกกว่า
Y Y ประเทศ ก ประเทศ ข C Y1 I Y3 M A E Y4 H Y2 B X1 X2 X X3 X4 X ก. ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ(ต่อ) • เมื่อมีการค้าระหว่างประเทศราคาสินค้าจะปรับตัวจนได้ดุลยภาพ • ในประเทศ ก ราคา X แพงขึ้น ราคา Y ถูกลง และตรงข้ามในประเทศ ข
ก. ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ (ต่อ) • ในกรณีที่มี 2 ประเทศ (ก และ ข) และสินค้า 2 ชนิด (X และ Y) ในตัวอย่างข้างต้น • ประเทศ ก ผลิตและส่งออกสินค้า X และ นำเข้าสินค้า Y ในขณะที่ประเทศ ข ทำในทางตรงกันข้าม และได้ดุลซึ่งกันและกัน • ถ้า ณ ราคาที่กำหนดนั้น ประเทศ ก ต้องการส่งออกสินค้า X มากกว่าที่ประเทศ ข ต้องการซื้อ และต้องการนำเข้าสินค้า Y มากกว่าที่ประเทศ ข จะเสนอขายให้ การค้าระหว่างสองประเทศนี้จะเป็นอย่างไร?
ก. ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ (ต่อ) • คำตอบ: จะเกิดการปรับตัวให้ราคาสินค้า X ลดต่ำลง และ/หรือราคาสินค้า Y เพิ่มสูงขึ้น ปริมาณการค้าสินค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศก็จะปรับตัวจนได้ดุลกันในที่สุด • เป็นไปตามกฎอุปสงค์และอุปทาน • ส่วนที่เรียกว่า Trade Triangle จะต้องเท่ากัน • ให้นักศึกษาลองหัดวาดรูปในกรณีประเทศทั้งสองมีทรัพยากรเท่ากันแต่มีรสนิยมต่างกันดูด้วยตนเอง
ประเทศ ก ประเทศ ข PX PX S2 S1 P02 P0 P0 P01 D2 D1 X X X1 X01 X2 X3 X02 X4 กรณีพิจารณาสินค้าเพียงชนิดเดียว
ข. นโยบายการค้าระหว่างประเทศ • การใช้ภาษีศุลกากร (Tariff) • ภาษีนำเข้า และภาษีส่งออก (Import and Export Tariff) • การควบคุมปริมาณโดยตรง • โควตานำเข้าหรือส่งออก (Import or Export Quota) • การควบคุมการส่งออกโดยสมัครใจ (Voluntary Export Restrictions) • นโยบายอื่นๆ • มาตรฐานสินค้า การบรรจุภัณฑ์ ความปลอดภัย มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน ต้นกำเนิดสินค้า Local Contents ฯลฯ
ข. นโยบายการค้าระหว่างประเทศ (ต่อ) • นโยบายการค้าระหว่างประเทศสมัยใหม่ • ระเบียบการค้าขององค์กรการค้าโลก (WTO) • กำหนดให้ใช้ได้เฉพาะภาษีศุลกากร • ต้องเปิดตลาดขั้นต่ำ => โควตาภาษี • การลดการอุดหนุน • ข้อตกลงการค้าเสรี (Free Trade Area) • หนทางสู่การค้าเสรี (การค้าเสรีเฉพาะกลุ่มสมาชิก) • การหันไปใช้นโยบายที่ไม่ใช่ภาษี เน้นสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยของอาหาร => ประเทศด้อยพัฒนาเสียเปรียบ
ต่างประเทศ ประเทศ ก PX PX S1 Sf1 Sf P02 Pd Pd P0 Pe D1 Ded1 X X XiT Xi X1 X01 X2 X3 X4 นโยบายภาษีนำเข้า (Import Tariff) (กรณีประเทศใหญ่)
ประเทศ ก PX S1 P02 H G Pd P0 J M I N K L D1 X X1 X01 X2 X3 X4 การเปลี่ยนแปลงของสวัสดิการทางสังคม • Consumers’ Surplus ลดลง = PdP0NH • Producers’ Surplus เพิ่มขึ้น =PdP0MG • ภาษีที่รัฐเก็บได้ = GKLH • Deadweight Loss =GMI + HJN • ภาระภาษีที่ต่างประ-เทศรับ =IKLJ • ประเทศมีผลได้ถ้า Deadweight Loss < ภาระภาษีที่ต่างประเทศรับ
ต่างประเทศ ประเทศ ก PX PX S1 P02 Sf1 Pd Pd Sf P0 Pe D1 Ded1 X X XiT Xi X1 X01 X2 X3 X4 นโยบายภาษีนำเข้า (Import Tariff) (กรณีประเทศเล็ก)
ต่างประเทศ ประเทศ ก PX PX S1 Sf1 Sf P02 Pd Pd P0 Pe D1 Ded1 X X XiT Xi X1 X01 X2 X3 X4 นโยบายโควตาการนำเข้า (Import Quota)(กรณีประเทศใหญ่)
ต่างประเทศ ประเทศ ก PX PX S1 Sf1 P02 Pd Pd Sf P0 Pe D1 Ded1 X X XiT Xi X1 X01 X2 X3 X4 นโยบายโควตาการนำเข้า (Import Quota)(กรณีประเทศเล็ก)
6.2 ทรัพยากร-สิ่งแวดล้อมและนโยบาย • เศรษฐศาสตร์ทรัพยากร (Resource Economics) • การนำเอาหลักวิชาการเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม • การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของมนุษย์ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Environment ) • ผลสะท้อนกลับจากสิ่งแวดล้อมสู่การทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจของมนุษย์ • เศรษฐศาสตร์ทรัพยากรครอบคลุมถึง • การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม • ผลกระทบต่อภายนอก (Externalities) • สินค้าสาธารณะ (Public Good)
ผลกระทบต่อภายนอก ( Externalities) • ผลของการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กระทบต่อบุคคลอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้นๆ • ผลกระทบในแง่เสียหาย เช่น มลพิษ เสียหายต่างๆ • ผลกระทบในแง่ดี เช่น การศึกษา การปรับปรุงการขนส่งส่วนบุคคล • กิจกรรมแต่ละอย่างอาจก่อให้เกิดผลดีและผลเสียพร้อมๆกัน • การสร้างโรงงานแปรรูปสร้างการจ้างงาน แต่ก็ปล่อยมลพิษ
MSC MSC1 MPC MSC0 MSB = MPB MPC1 MPC0 MPB’ ปริมาณสารเคมี X1 X0 X2 ก. กรณีผลกระทบทางเสียหาย
คำอธิบาย • เอกชนเผชิญต้นทุนและผลได้เพิ่ม คือ MPC และ MPB ตามลำดับ • สังคมเผชิญกับต้นทุนและผลได้เพิ่มคือ MSC และ MSB = MPB (เอกชนอยู่ในสังคม) • เอกชนต้องการใช้สารเคมีในระดับ X1ในขณะที่สังคมต้องการให้ใช้เพียงระดับ X0 • การจัดการ ต้องลดระดับ MPB ลงมาให้ตัดกับ MPC ที่ X0
MPC MPC’ MSB1 MSB0 MSB MPB1 MPB MPB0 Y1 Y0 การปลูกป่า ข. กรณีผลกระทบในแง่ดี
คำอธิบาย • เอกชนเผชิญต้นทุนและผลได้เพิ่ม คือ MPC และ MPB ตามลำดับ • สังคมเผชิญกับต้นทุนและผลได้เพิ่มคือ MSC = MPC และ MSB (เอกชนอยู่ในสังคม) • เอกชนต้องการปลูกป่าในระดับ Y1ในขณะที่สังคมต้องการให้ปลูกในระดับ Y0 • การจัดการ ต้องลดระดับ MPC ลงมาให้ตัดกับ MPB ที่ Y0 หรือ ชดเชยผลประโยชน์ (บางกรณีทำได้ยาก) ให้เท่ากับ MSB
สรุปการจัดการปัญหาผลกระทบต่อภายนอกสรุปการจัดการปัญหาผลกระทบต่อภายนอก • ประเด็นของปัญหา • ความไม่สามารถเรียกเก็บต้นทุนและผลประโยชน์ของผลกระทบต่อภายนอกได้ของผู้ทำกิจกรรม นั่นคือ • ผู้ทำประโยชน์ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทน (ทั้งหมด) • ผู้สร้างผลเสียไม่ได้จ่ายต้นทุนที่เขาได้ก่อขึ้น (ทั้งหมด) • แนวทางการจัดการแก้ปัญหา • กิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลเสีย • การเก็บภาษี/ค่าบริการหรือควบคุมโดยตรง • การลดความช่วยเหลือ/ลดการอุดหนุน • การกำหนดข้อบังคับ (ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร)
สรุปการจัดการปัญหาผลกระทบต่อภายนอก(ต่อ)สรุปการจัดการปัญหาผลกระทบต่อภายนอก(ต่อ) • แนวทางการจัดการแก้ปัญหา(ต่อ) • กิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลดี • การจ่ายเงินอุดหนุน/การให้ทุน • การลดภาษี/ให้สิทธิพิเศษต่างๆ • การใช้ข้อบังคับ (ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร)
6.3 สินค้าสาธารณะ (Public Goods) • สินค้าสาธารณะมีอุปสงค์ (Demand)และอุปทาน(Supply)แต่ไม่มีตลาดซื้อขาย • ลักษณะสินค้าสาธารณะ (Public Goods) 1) ไม่สามารถกีดกับการบริโภคได้ 2) ไม่มีการแข่งขันระหว่างผู้บริโภค 3) การผลิตแบ่งแยกไม่ได้ 4) ต้นทุนส่วนเพิ่มเท่ากับศูนย์
ตัวอย่างสินค้าสาธารณะตัวอย่างสินค้าสาธารณะ • สินค้าสาธารณะแท้ เช่น • การป้องกันประเทศ • การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ • สินค้าที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสินค้าสาธารณะ เช่น • การส่งเสริมเกษตร • ถนน • ชลประทาน • สถานที่ท่องเที่ยว/ผักผ่อนหย่อนใจ ฯลฯ
บทบาทของรัฐในกิจกรรมทางเศรษฐกิจบทบาทของรัฐในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ • กิจกรรมทางเศรษฐกิจในระบบเสรีนิยม/ทุนนิยมถูกกำหนด/ปรับดุลโดยกลไกราคา • มือที่มองไม่เห็น (invisible hand) หรือกลไกราคาจะทำหน้าที่ได้ดีในสภาพการแข่งขันสมบูรณ์ • เงื่อนไข full laissez-faire (อิสรเสรีโดยสมบูรณ์) นำมาซึ่งความมีประสิทธิภาพ แต่ทำให้ขาดคุณธรรม/จริยธรรม • คนมีเงินได้สินค้าไปบริโภคจนล้นเหลือ • คนยากจน (ส่วนใหญ่) ไม่ได้รับบริการ/สินค้าที่จำเป็นเพื่อยังชีพ
บทบาทของรัฐในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (ต่อ) • สินค้าบางอย่างที่จำเป็นอาจไม่ถูกผลิตเนื่องจากต้นทุนสูงและไม่สามารถกีดกันการบริโภคได้ใน full laissez-faire economy • การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้ full laissez-faire economy อาจนำมาซึ่งการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน • การผลิตเครื่องจักรกลทดแทนแรงงานคนทำให้ค่าจ้างคนจนต่ำลง • ความต้องการความมั่นใจ/ความสงบเรียบร้อยการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ • ความมีเสรีของประชาชนกับความต้องการที่ถูกต้อง (merit wants) • พลังต่างๆ เหล่านผักดันให้จำเป็นต้องมีภาครัฐเข้ามาควบคุม • รัฐบาลควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจระดับต่ำสุดกับ laissez-faire
บทบาทของรัฐในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (ต่อ) • บทบาทขั้นพื้นฐานของรัฐบาล • การถ่ายโอนรายได้ในรูปการเก็บภาษีและใช้จ่ายเงินของภาครัฐ • สร้างสวัสดิการขั้นต่ำเพื่อมาตรฐานการดำรงชีพขั้นต่ำ • สร้างบริการสาธารณะที่จำเป็น (สินค้าสาธารณะ) • สร้างความเป็นธรรมในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ • การควบคุมกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ • รัฐมีบาบาทเป็นผู้บริโภครายใหญ่ • รัฐบาลทำงานตามความต้องการของประชาชนผ่านกระบวนการประชาธิปไตย
G E0 G1 C1 C G E1 E2 G1 E3 C ทางเลือกของสังคมและประชาชนกับการจัดการสินค้าสาธารณะ • ประชาชนสามารถเลือกบริโภคสินค้าเอกชน (private goods: C) และสินค้าสาธารณะ (public goods: G) • ความมี/ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล • การเพิ่ม/ลดบทบาทของรัฐตามความต้องการของประชาชน G2 C1 C2
การจัดการสินค้าสาธารณะการจัดการสินค้าสาธารณะ • รัฐบาลเป็นผู้กำหนดปริมาณและชนิดของสินค้าสาธารณะ • รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยมาจากประชาชน • ความต้องการและทางเลือกของประชาชนถูกสะท้อนออกมาในรูปผลของการเลือกตั้ง • ในทางปฏิบัติ ประชาชนสมารถมีส่วนในการจัดการสินค้าสาธารณะได้หลายทาง แต่ท้ายที่สุดนักการเมืองจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร
นโยบายคือ การดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งที่สังคมยอมรับ/ต้องการ/คาดหวัง ทำไมต้องพัฒนาการเกษตร ความสำคัญของการเกษตร เกษตรกรมีฐานะยากจน เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ ความเป็นธรรม นโยบายเกษตรที่ใช้ การปฏิรูปที่ดินและการจัดรูปที่ดิน การจัดหารสินเชื่อเกษตร การจัดหาปัจจัยการผลิต การปรับปรุงตลาดสินค้าเกษตร การปรับปรุง/ตัดถนน การปรับปรุงองค์กรตลาด การส่งเสริมองค์กรเกษตรกร 6.4 นโยบายพัฒนาการเกษตร
นโยบายการปฏิรูป/จัดรูปที่ดินนโยบายการปฏิรูป/จัดรูปที่ดิน • การปฏิรูปที่ดิน (Land Reform) คือ การจัดสรรกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดินเสียใหม่ • การให้เอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดิน • การพัฒนาองค์กรเกษตรกรเพื่อพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม • การกระจายรายได้และสร้างความเป็นธรรม/ลดความเหลื่อมล้ำ • จูงใจให้มีการลงทุนพัฒนาที่ดิน • การจัดรูปที่ดิน (Land Consolidation) คือ การจัดสรรที่ดินเสียใหม่เพื่อให้การใช้ที่ดินมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นโยบายการจัดหาสินเชื่อนโยบายการจัดหาสินเชื่อ • เกษตรกรรายย่อยที่ยากจนมักขาดเงินทุนเพื่อการเกษตร • การมีเงินทุนจำกัดทำให้เกษตรกรขาดโอกาสการสร้างรายได้เพิ่ม • แหล่งสินเชื่อการเกษตรของไทย • ธ.ก.ส. - สหกรณ์การเกษตร • ธนาคารพาณิชย์ - สินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบท • กลุ่มออมทรัพย์ต่างๆ ในชุมชน - โครงการ กข.คจ. • กองทุนหมู่บ้าน - โครงการ SMEs • ฯลฯ
นโยบายการจัดหาปัจจัยการผลิตนโยบายการจัดหาปัจจัยการผลิต • ปัจจัยการผลิตที่มีราคาแพงและเพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนสูงและเพิ่มขึ้น • ปัจจัยการผลิตที่รัฐจัดหาให้ในราคาต่ำกว่าตลาด • การชลประทาน • ปุ๋ยเคมี • เมล็ดพันธุ์ • วัสดุการเกษตรอื่นๆ • สินเชื่อการเกษตร • เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ทำให้ราคาต่ำลง และผลผลิตมากขึ้น ส่งผลดีต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
ราคา Sf1 Sf2 P1 P2 Dc ปริมาณ Q1 Q2 ผลของการจัดหาปัจจัยการผลิตในราคาต่ำกว่าตลาด • การจัดหาปัจจัยการผลิตในราคาต่ำทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง • อุปทานเลื่อนไปทางขวา • ราคาต่ำลง & มีปริมาณสินค้าในตลาดมากขึ้น(ดังแสดงในรูปด้านขวามือ)
นโยบายการปรับปรุงระบบตลาดนโยบายการปรับปรุงระบบตลาด • เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบตลาด • การลดค่าใช้จ่ายทางการตลาด • การปรับปรุงการขนส่ง (ถนน ประสิทธิภาพของพาหนะขนส่ง) • การปรับปรุงการเก็บรักษา (คลังสินค้า ห้องเย็น) • การปรับปรุงวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว • ผลกระทบจากการปรับปรุงระบบตลาด • ราคาไร่นาสูงขึ้น ราคาที่ผู้บริโภคจ่ายลดลง และมีสินค้าในตลาดมากขึ้น
ราคา Sr Sr1 Sf Pr Pr1 Pf1 Pf Dc ปริมาณ Q1 Q2 ผลของการปรับปรุงระบบตลาด • การปรับปรุงระบบตลาดทำให้ต้นทุนการตลาดลดลง • ราคาที่ผู้บริโภคจ่ายลดลง • ราคาที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้น • มีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้น
นโยบายการปรับปรุงองค์กรการตลาดนโยบายการปรับปรุงองค์กรการตลาด • สภาการตลาด (Marketing Board) เป็นองค์การที่จะช่วยดูแลหน่วยธุรกิจการตลาดและพัฒนาตลาด สร้างความเป็นธรรมในการดำเนินกิจกรรมการตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด • ตลาดสินค้าล่วงหน้า (Future Exchange) เป็นเครื่องมือและกลไกช่วยลดความเสี่ยงด้านราคาผลผลิต • การสร้างองค์กรการตลาดใหม่ๆ เช่น สหกรณ์การเกษตร ตลาดกลางสินค้า ช่วยเพิ่มการแข่งขันและประสิทธิภาพการตลาด
นโยบายการส่งเสริม/พัฒนาองค์กรเกษตรกรนโยบายการส่งเสริม/พัฒนาองค์กรเกษตรกร • ผู้ประกอบการเกษตรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยที่ขาดอำนาจการต่อรอง • ความพยายามในการสร้างอำนาจการต่อรองของเกษตรกร ด้วยองค์กรเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร หรือกลุ่มอาชีพต่างๆ • องค์กรเกษตรกรช่วยเหลือกันเองในด้านการผลิตด้วย • การมีองค์กรเกษตรกรช่วยให้รัฐให้ความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น