MANAGEMENT

1. MANAGEMENT

2. ส่วนประกอบขององค์กร • กลุ่มบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป • รวมกันเข้าและทำงานร่วมกัน • บรรลุถึงจุดประสงค์ร่วมอันเดียวกัน

3. การจัดการและแนวความคิดทางการจัดการการจัดการและแนวความคิดทางการจัดการ • การบริหาร (ADMINISTRATION) • กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการกำหนด นโยบายและแผนงาน • การจัดการ (MANAGEMENT) • กระบวนการของการนำเอานโยบายและ • แผนงานไปปฏิบัติ

4. ทำไมองค์กรจึงเป็นสิ่งจำเป็นทำไมองค์กรจึงเป็นสิ่งจำเป็น 1. ช่วยทำให้บุคคลบรรลุถึงเป้าหมายที่บุคคลเพียงคนเดียวยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่ จะบรรลุถึงได้ 2. เป็นสถานที่ที่รวบรวมความรู้ 3. เป็นแหล่งอาชีพที่สำคัญ

5. Man Money Materials Management Machines Market ทรัพยากรทางการจัดการ

6. ทรัพยากรทางการจัดการ Efficiency (ประสิทธิภาพ) การบรรลุถึงเป้าหมายที่กำหนดด้วยความพึงพอใจขององค์การ Effectiveness (ประสิทธิผล) การบรรลุถึงเป้าหมายที่กำหนด

7. ศาสตร์ หรือ ศิลป์ ศาสตร์ (SCIENCE) =ความรู้ที่ได้จัดระบบมาแล้ว คุณลักษณะที่สำคัญของศาสตร์ คือ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (หลักและเหตุผล) ในการพัฒนาความรู้ ดังนั้น “ศาสตร์” ประกอบด้วย 1. แนวความคิด 2. ทฤษฎี 3. ความรู้ที่สะสมจากการพัฒนา 4. การทดลอง 5. การวิเคราะห์

8. ศิลป์ (ART) ความรู้ทางด้านพฤติกรรม (Behavioral Knowledge) เป็นเทคนิคในการใช้ปฏิบัติเพื่อให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ศาสตร์ หรือ ศิลป์

9. ศาสตร์ (Science) เพราะ การจัดการเป็น สาขาของความรู้ที่ สามารถอธิบายได้ อย่างมีระบบว่า ทำไมอย่างไร บุคคลจึงทำงาน ร่วมกัน ศิลป์(Art) เพราะ การจัดการเป็นการเกี่ยวข้องกับ ทักษะบุคคล การจัดการเป็นศาสตร์ หรือ ศิลป์ ? การจัดการเป็นทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” การจัดการเป็นทั้ง“ศาสตร์”และ “ศิลป์”

10. แนวความคิดทางการจัดการแนวความคิดทางการจัดการ ยุคที่ 1 ยุคก่อนการจัดการ แบบวิทยาศาสตร์ ยุคที่ 2 ยุคการจัดการ แบบวิทยาศาสตร์ ยุคที่ 3 มนุษย์สัมพันธ์ ยุคที่ 4 ยุคการจัดการ สมัยใหม่

11. ยุคที่1 ยุคก่อนการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ • (Pre-Scientific Management Period) • ยุคก่อนปี ค.ศ. 1880 • คนงานตกอยู่ในอำนาจของหัวหน้า/เจ้านาย • ความสัมพันธ์มีลักษณะเป็น“นาย กับ บ่าว แนวความคิดทางการจัดการ

12. แนวความคิดทางการจัดการแนวความคิดทางการจัดการ • ยุคที่2 ยุคการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ • (Scientific Management) • ระหว่างปี ค.ศ. 1880-1980 Frederick W. Taylor “บิดาของการบริหารงานแบบวิทยาศาสตร์” Time and Motion Study

13. 1. พัฒนาวิธีปฏิบัติงานอย่างมีหลักเกณฑ์แทนวิธีปฏิบัติแบบเก่าซึ่งอาศัยประสบการณ์ 2. ควรคัดเลือกและฝึกหัด สอน พัฒนาคนงาน อย่างมีหลักเกณฑ์ หลักพื้นฐานของการจัดการ (ตามหลักเกณฑ์ของ Taylor)

14. หลักพื้นฐานของการจัดการ (ตามหลักเกณฑ์ของ Taylor) 3. ควรร่วมมือกับคนงานเพื่อ ให้เกิดความมั่นใจ 4. จัดให้มีการแบ่งงานรับผิดชอบ ระหว่างฝ่ายรับผิดชอบและฝ่าย แรงงาน

15. Frederick W. Taylor • เสนอรูปแบบการจ่ายค่าจ้างแบบ • “A PIECE RATE SYSTEM” • เขียนหนังสือ “Shop Management” และ “The Principles of Scientific Management”

16. มนุษย์ = Economic Man จูงใจได้ด้วย “เงิน” ขยันมาก มาก ขยันน้อย น้อย “A PIECE RATE SYSTEM” 1. สำหรับผลผลิตที่ยังไม่ถึงมาตราฐาน 2. สำหรับผลผลิตที่เท่ากับหรือสูงกว่ามาตราฐาน Frederick W. Taylor

17. 1. ให้ความสำคัญด้านศาสตร์ไม่ใช่กฎที่ไม่แน่นอน 2. มีการประสานงานร่วมกันมากกว่าความขัดแย้ง 3. เน้นผลผลิตสูงสุดแทนที่จะจำกัดการผลิต 4. จัดให้มีการคัดเลือก ฝึกอบรม และ การบรรจุคนงาน 5. มีการพัฒนาพนักงานให้มีความสามารถเท่าที่จะทำได้ สรุปแนวความคิดด้านการจัดการ แบบวิทยาศาสตร์ของ Taylor ได้ดังนี้

18. Henry Gantt 1. ประดิษฐ์แผนผังเปรียบ เทียบการทำงานที่เกิดขึ้นจริง กับแผนที่วางไว้ 2. คิดแผนการจ่ายโบนัส 3. สนับสนุนให้ฝ่ายบริหารมีความรับผิดชอบ ในการฝึกอบรมคนงานให้มีความชำนาญ บุคคลสำคัญที่สนับสนุน Taylor Gantt Chart

19. Frank and Lillian Gilbert บุคคลสำคัญที่สนับสนุน Taylor Frank = หลักการที่เกี่ยวข้องกับ ประ สิทธิภาพ Lillian = หลักการเกี่ยวกับการคัด เลือก การบรรจุ และการ ฝึกอบรมพนักงาน

20. Henri Fayol • ได้รับการยกย่องเป็นผู้บุกเบิก • “แนวความคิดเกี่ยวกับการจัดการเชิงบริหาร” • (Administrative Management) Fayol ให้ความสนใจกับผู้บริหารระดับสูงขององค์การ Taylor ให้ความสนใจกับคนงานระดับล่าง ศึกษาระบบเฉพาะของงาน

21. Management Functions 1. การวางแผน (Planning) 2. การจัดองค์การ (Organizing) 3. การสั่งการ (Directing) 4. การประสานงาน (Coordination) 5. การควบคุม (Controlling)

22. 1. การแบ่งงานกันทำ 2. อำนาจหน้าทีและความรับผิดชอบ 3. ระเบียบวินัย 4. เอกภาพในการบังคับบัญชา 5. เอกภาพในการอำนวยการ 6. ประโยชน์ส่วนบุคคลเป็นรองจากประโยชน์ส่วนรวม 7. ค่าตอบแทน หลักการจัดการ 14 ข้อของ Fayol

23. 8. การรวมอำนาจ 9. การจัดสายบังคับบัญชา 10. การจัดลำดับ 11. ความเสมอภาค 12.ความมั่นคงในการทำงาน 13. ความคิดริเริ่ม 14. ความสามัคคี หลักการจัดการ 14 ข้อของ Fayol

24. แนวความคิดทางการจัดการแนวความคิดทางการจัดการ • ยุคที่3 ยุคการจัดการแบบแนวความคิด • มนุษยสัมพันธ์ (Human Relations) • ระหว่างปี ค.ศ. 1930-1950 George Elton Mayo

25. Elton Mayo บิดาของการจัดการแบบมนุษยสัมพันธ์ แบ่งการทดลองเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 : ศึกษาผลกระทบของสภาวะแวดล้อม ของการทำงาน ระยะที่ 2 : ทดสอบผลกระทบของตัวแปรต่างๆ (การสัมภาษณ์) ระยะที่ 3 : การสังเกต Hawthorne Experiment

26. Taylor = Organization w/o Man Mayo = Man w/o Organization มนุษย์ไม่สามารถที่จะจูงใจด้วยตัวเงินอย่างเดียว Social Man Hawthorne Experiment Economic Man พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ขวัญกำลังใจ ค่านิยม อารมณ์ ความรู้สึก

27. เทคนิคการเป็นผู้นำที่ดีเทคนิคการเป็นผู้นำที่ดี ขึ้นอยู่กับ “ความสามารถ” ไม่ใช่ “อำนาจหน้าที่” เน้นเรื่องการประสานงาน ความเข้าใจซึ่งกันและกัน บรรลุเป้าหมาย Mary Parker Follett ปัญหาพื้นฐาน คือ “การประสานงานของกลุ่ม” หลักการประสานงาน (Coordination) 1. เริ่มจากการวางแผนและการจัดทำนโยบาย 2. ติดต่อโดยตรงกับผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบ 3. เป็นความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันกับปัจจัยทุกด้าน 4. เป็นกระบวนการต่อเนื่อง

28. สร้างระบบความร่วมมือ ทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย ร่วมแรงร่วมใจ ประสิทธิภาพ +ประสิทธิผล วัตถุประสงค์ ส่วนบุคคล Chester Irving Barnard

29. แนวความคิดทางการจัดการแนวความคิดทางการจัดการ ยุคที่4 ยุคการจัดการสมัยใหม่(Modern Mgt) เทคนิคเชิงปริมาณ(Quantitative Technique) = ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์มาศึกษาข้อมูลเชิงปริมาณต่างๆเพื่อตัดสินใจในองค์การ

30. แนวความคิดทางการจัดการแนวความคิดทางการจัดการ ยุคที่4 ยุคการจัดการสมัยใหม่(Modern Mgt) แนวความคิดด้านระบบ(System Approach) = กลยุทธ์การศึกษาส่วนต่างๆของ ระบบที่มีความสัมพันธ์กัน (การเข้าใจภาพรวมขององค์การ)

31. A B C D E Good แนวความคิดทางการจัดการ ยุคที่4 ยุคการจัดการสมัยใหม่(Modern Mgt) Herbert A. Simon = บิดาแห่งทฤษฎีการตัดสินใจ

32. ผู้บริหารระดับกลาง Middle Manager ผู้บริหารระดับสูง Top Manager เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ Workers ผู้บริหารระดับล่าง First-Line Manager ผู้จัดการและระดับชั้นของผู้จัดการ ผู้จัดการ คือ บุคคลที่ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างกิจกรรมต่างๆขององค์การ ระดับชั้นของผู้จัดการ

33. สูง กลาง ต้น เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน ระดับชั้นของผู้บริหาร

34. ผู้ว่าการ กลาง รองผู้ว่าการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สูง ต้น เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน

37. การศึกษา รัฐบาล องค์การ ธุรกิจ Type of organi- zation กิจ Level of management กรรมการ ผู้จัดการ สูง อธิการบดี รัฐมนตรี กลาง รอง อธิการบดี รองรัฐมนตรี ผู้จัดการ ผู้ว่าราชการ ปลัด ต้น หัวหน้าภาค Supervisor ตัวอย่างระดับชั้นของผู้บริหาร

38. Management Skills First Line Top Middle Conceptual Skills Human Skills Technical Skills เข้าใจภาพรวมและระบบต่างๆภายในบริษัทและแก้ปัญหาทั้งภายในและภายนอก การติดต่อสื่อสาร และการทำงาน ร่วมกับผู้อื่นได้ดี ความชำนาญในเทคนิคเฉพาะทาง

39. Conceptual Skills สูง กลาง Human Skills ต้น Technical Skills

40. Luther Gulick & Lyndall Urwick POSDCORB หน้าที่การจัดการ (The Functions of Management) Luther Gulick & Lyndal Urwick P = Planning CO = Coordinating O = Organizing R = Reporting S = Staffing B = Budgeting D= Directing

41. หน้าที่การจัดการ (The Functions of Management) Henri Fayol P = Planning O = Organizing C = Commanding C = Coordinating C = Controlling Harold D.Koontz P = Planning O = Organizing S = Staffing D = Directing C = Controlling

42. PLANNING CONTROLLING ORGANIZING STAFFING DIRECTING หน้าที่ของการจัดการ

43. การวางแผน • การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ • การค้าหาหนทางและวิธีที่จะบรรลุเป้าหมาย • การจัดคนเข้าทำงาน • การคัดเลือกพนักงาน • การอบรมและพัฒนาคน • การสั่งการ • การจูงใจและชักนำคนให้ทำงานตามวัตถุประสงค์ • การปรับสภาพการทำงานของคนกับงานให้เข้ากันได้ การควบคุม วัดผลงานที่คืบหน้าไป ประเมินขนาดความสำเร็จของงานเทียบกับเป้าที่ตั้งไว้ • การจัดองค์กร • การออกแบบโครงสร้างองค์กร • การออกแบบตำแหน่งงานต่างๆ ปรับแบบการบริหาร ปรับการคัดเลือกคนหรือโยกย้ายหรือ อบรม ปรับปรุงตำแหน่งงานหรือ ปรับโครงสร้างใหม่ การปรับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ หรือการวางแผนรอบใหม่

44. การจูงใจและชักนำให้พนักงานทำตามวัตถุประสงค์การจูงใจและชักนำให้พนักงานทำตามวัตถุประสงค์ ปรับสภาพของพนักงานกับงานให้เข้ากันให้ได้ • การออกแบบ • โครงสร้างองค์การ • การออกแบบ • ตำแหน่งงานต่างๆ การวัดและประเมินผลงาน กับแผนงานที่กำหนด พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไข Staffing การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ การค้นหาหนทางที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ การคัดเลือกพนักงาน การอบรมและพัฒนา Directing Controlling Organizing Planning หน้าที่การจัดการ (The Functions of Management)