3.05k likes | 7.49k Vues
การเขียนรายงานเชิงวิชาการ. โดย คุณครู เพ็ญวดี ค้าสุวรรณ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี. รายงานเชิงวิชาการ. การศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล การประมวลความรู้ ทฤษฏี หลักวิชาการ และประสบการณ์ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล การนำเสนอเนื้อหาอย่างมีระบบ
E N D
การเขียนรายงานเชิงวิชาการการเขียนรายงานเชิงวิชาการ โดย คุณครู เพ็ญวดี ค้าสุวรรณ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
รายงานเชิงวิชาการ • การศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล • การประมวลความรู้ ทฤษฏี หลักวิชาการ และประสบการณ์ • การวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล • การนำเสนอเนื้อหาอย่างมีระบบ • การใช้ ภาษาวิชาการ • การอ้างอิงตามแบบแผน
ตัวอย่างรายงานเชิงวิชาการ • รายงานการศึกษา • รายงานการวิเคราะห์ • รายงานทางเทคนิค • รายการวิจัย • กรณีศึกษา
การเขียนรายงานจากค้นคว้า • เป็นการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง • สำคัญ จำเป็นสำหรับการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา • ฝึกให้คิดอย่างมีเหตุผล • ฝึกความสามารถในการใช้ภาษา
การค้นคว้าด้วยตนเอง การศึกษาหาความรู้ นอกจากครูจะเป็นผู้บอกแล้ว เราสามารถหาความรู้จากแหล่งอื่นๆได้อีก เช่น จากหนังสือ บทความในวารสาร หนังสือพิมพ์ ซีดีรอม ชมนิทรรศการ ฟังวิทยุ สื่อต่างๆ ฯลฯ
รายงาน (report) • เป็นการเขียนของ นักเรียนที่เรียบเรียงขึ้นจากการศึกษาค้นคว้า ในเรื่องต่างๆ ตามหัวข้อที่กำหนด เพื่อเสนอต่อผู้สอน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนวิชานั้นๆ • ผู้เขียนจะต้องเขียนรายงานตามรูปแบบที่กำหนดไว้ • รายงานที่ดีควรใช้เป็นแหล่งค้นคว้าของผู้อื่นได้
วัตถุประสงค์ของการทำรายงานวัตถุประสงค์ของการทำรายงาน • ส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง • เพิ่มพูนความรู้ และประสบการณ์ทางวิชาการอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง • พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์อย่างมีระบบ • พัฒนาทักษะการศึกษาค้นคว้าและการเขียนรายงานทางวิชาการ
ขั้นตอนการทำรายงาน 1. เลือกเรื่องและตั้งชื่อเรื่อง 2. สำรวจแหล่งความรู้ ค้นหาข้อมูลอย่างคร่าวๆ 3. วางโครงเรื่อง 4. ค้นคว้าตามโครงเรื่อง อ่านและจดบันทึก 5. วิเคราะห์ สังเคราะห์ เรียบเรียงเนื้อเรื่อง และเขียนการอ้างอิง 6. เขียนบรรณานุกรม 7. ทำส่วนประกอบของรายงาน 8. ตรวจสอบความถูกต้องและจัดทำรูปเล่ม
การกำหนดเรื่องของรายงานการกำหนดเรื่องของรายงาน อาจารย์ผู้สอนกำหนดให้ เรื่องที่เลือกเองได้ (ผู้เขียนรายงานมีอิสระแต่เรื่องที่เลือกทำควรมีขอบเขตเนื้อหาที่มีความสอดคล้องกับรายวิชาที่เรียน)
หลักของการเลือกเรื่องหลักของการเลือกเรื่อง • ลักษณะของเรื่อง- ตั้งประเด็นปัญหา จากสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก - ผู้ทำมีความรู้ ความชำนาญ หรือ ประสบการณ์- มีคุณค่า น่าสนใจ ทันสมัย- มีประโยชน์- หาเอกสารข้อมูลได้ง่าย และมากพอ • ขอบเขตขอบเรื่อง - ไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป - เหมาะสมกับเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างขอบเขตของเรื่องตัวอย่างขอบเขตของเรื่อง กว้างมาก การเลี้ยงปลา กว้าง การเลี้ยงปลาสวยงาม แคบ การเลี้ยงปลากัด ......................................................... กว้างมาก สมุนไพร กว้าง สมุนไพรกับการรักษาโรค แคบ สมุนไพรกับการรักษาโรคเอดส์
วิธีการกำหนดขอบเขตของเรื่องให้แคบลงวิธีการกำหนดขอบเขตของเรื่องให้แคบลง ใช้แง่มุมที่เหมาะสมของเรื่องปัญหาของสังคม ปัญหายาเสพติด ปัญหาโสเภณีเด็ก ปัญหาชุมชนแออัดเด็ก การให้ภูมิคุ้มกันสำหรับเด็ก เพลงกล่อมเด็กปุ๋ย การทำปุ๋ยหมักปลา การเลี้ยงปลาสวยงาม
วิธีกำหนดขอบเขตของเรื่อให้แคบลงวิธีกำหนดขอบเขตของเรื่อให้แคบลง • ใช้ยุคหรือสมัยเป็นตัวกำหนด เพลงกล่อมเด็กในสมัยปัจจุบัน • ใช้ขอบเขตภูมิศาสตร์กำหนด การเลี้ยงโคนมทางภาคใต้ • ใช้กลุ่มบุคคลเป็นตัวกำหนด ปัญหายาเสพติดในเด็กมัธยมต้นการ เมืองไทยในทรรศนะนักธุรกิจ • ใช้ บางประการ แนวโน้ม แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2550
การหาหัวข้อเรื่อง ประเด็น/คำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน อ่านจากเอกสารต่างๆ ที่อาจารย์ผู้สอนแนะนำให้ค้นคว้าเพิ่มเติม ขอคำแนะนำจากบรรณารักษ์บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า การรับรู้สารสนเทศจากสื่อต่างๆ ค้นหาหัวข้อจากสารานุกรมทั่วไปและสารานุกรมเฉพาะวิชา
การเลือกเรื่องจะง่ายและคล่องตัวการเลือกเรื่องจะง่ายและคล่องตัว หนังสือพิมพ์ วารสาร หนังสือ อินเตอร์เน็ต จะได้เรื่องราว ข้อมูลและแง่คิดกว้าวขวางขึ้น สามารถจะเลือกหยิบเอามากำหนดเป็นเรื่องที่จะเขียนได้ อ่าน
ข้อสังเกตการตั้งชื่อเรื่องข้อสังเกตการตั้งชื่อเรื่อง ชื่อเรื่อง กำหนดทิศทาง ขอบเขตของเรื่อง อาจตั้งตามจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดหรือปัญหาสำคัญ โดยใช้คำที่กะทัดรัด และเหมาะสม ชื่อเรื่องสั้น ขอบเขตรายงานยาว ประเพณีไทย ชื่อเรื่องยาว ชอบเขตรายงานสั้น ประเพณีแต่งงานชาวเขาในภาคเหนือ
การค้นคว้าเพื่อวางโครงเรื่องการค้นคว้าเพื่อวางโครงเรื่อง • การระดมความรู้ • ต้องมีหัวข้อเรื่องที่ต้องการศึกษา • ต้องรู้จักเครื่องมือในการค้นหาสารสนเทศ Opac,Google • รวบรวมสารสนเทศเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการศึกษา • เตรียมวางโครงเรื่อง • วางโครงเรื่อง
การค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งการค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง • มีหัวข้อเรื่องที่จะค้น • ต้องคิดคำเพื่อนำไปใช้สืบค้น • ต้องเป็นคำที่สั้น กะทัดรัด ชัดเจน • คำที่ตรงตามเรื่องที่ต้องการทำ • คำที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่ต้องการทำ • คำที่สัมพันธ์กับเรื่องที่ต้องการทำ • คำที่ครอบคลุมกับเรื่องที่ต้องการทำ
การคิดหาหัวข้อเรื่องที่จะใช้ค้นคว้าการคิดหาหัวข้อเรื่องที่จะใช้ค้นคว้า • ต้องการทำรายงานเรื่อง มลพิษของคนเมืองหลวง • คำที่ตรงตามเรื่องที่ต้องการทำ เช่น มลพิษ • คำที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่ต้องการทำ เช่น สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ • คำที่สัมพันธ์กับเรื่องที่ต้องการทำ เช่น อากาศเสีย น้ำเสีย • คำที่ครอบคลุมกับเรื่องที่ต้องการทำ เช่น สาธารณสุข อนามัย สิ่งแวดล้อม
การคิดหัวข้อเรื่องที่จะใช้ค้นหาการคิดหัวข้อเรื่องที่จะใช้ค้นหา • ต้องการทำรายงานเรื่อง การเลี้ยงโคนทในภาคใต้ • คำที่ตรงตามเรื่องที่ต้องการทำ เช่น โคนท • คำที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่ต้องการทำ เช่น โคกระบือ • คำที่สัมพันธ์กับเรื่องที่ต้องการทำ เช่น โคนม การเลี้ยง • คำที่ครอบคลุมกับเรื่องที่ต้องการทำ เช่น ปศุสัตว์ ฟาร์มโคนม อุตสาหกรรมนมเนย
การสำรวจและรวบรวมแหล่งข้อมูล การสำรวจและรวบรวมแหล่งข้อมูล • เป็นการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานในการเขียนเรื่อง เพื่อดูว่ามีใครเคยเขียนเรื่องราวเหล่านั้นไว้บางหรือไม่ และมีข้อมูลเพียงพอที่จะทำรายงานได้หรือไม่ • รวบรวมข้อมูลจากเครื่องมือสืบค้น • เลือกข้อมูล • การอ่านเบื้องต้น • หาแนวคิด ขอบเขต • รวบรวมหัวข้อเรื่อง • คัดเลือกเอกสาร
ต้องรู้จักเครื่องมือในการสืบค้นสารนิเทศ ต้องรู้จักเครื่องมือในการสืบค้นสารนิเทศ • WebOPACช่วยให้ผู้ใช้ สืบค้นข้อมูล หนังสือ บทความวารสาร ที่ต้องการได้อย่างรวมเร็วได้อย่างสะดวก ครบถ้วนและสมบูรณ์ • นำหัวข้อเรื่องที่คิดไว้ ไปค้นจาก รายการหัวเรื่อง • รายการที่ต้องจด มาจากรายการ OPAC หนังสือ • เลขเรียกหนังสือ เพื่อนำไปค้นหาหนังสือ • รายการบรรณานุกรม เพื่อนำไปใช้เขียนบรรณานุกรม ผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์).//ชื่อหนังสือ/(พิมพ์ครั้งที่).//สถานที่////////พิมพ์:/สำนักพิมพ์.
บทความวารสาร • WebOPACช่วยให้ผู้ใช้ สืบค้นข้อมูล หนังสือ บทความวารสาร ที่ต้องการได้อย่างรวมเร็วได้อย่างสะดวก ครบถ้วนและสมบูรณ์ • บทความวารสาร จะให้เรื่องราว ความคิดแปลกใหม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียน • รายการที่ต้องจดมาจากรายการ OPAC บทความวารสาร • ผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์,/เดือน).//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสาร,/ปีที่,////////(ฉบับที่),/หน้า/เลขหน้าบทความ.
หนังสืออ้างอิง • พจนานุกรม ศึกษาความหมายของเรื่องที่จะต้องการค้นคว้าทำให้เข้าใจเรื่องราวที่ต้องการทำรายงานได้ถูกต้อง • สารานุกรม จะให้ข้อมูลที่เป็นความรู้พื้นฐาน โดยดูว่าเรื่องที่ต้องการค้นคว้าได้แบ่งหัวข้อเรื่องไว้อย่างไร ทำให้ทราบเค้าโครงเรื่องย่อๆ ทำให้สามารถกำหนดขอบเขตและหัวข้อในโครงเรื่องให้สัมพันธ์กันได้ • ผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์).//ชื่อบทความ.//ชื่อสารานุกรม/(เล่มที่ใช้.)////////หน้า/เลขหน้าบทความ).//สถานที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์.
สารสนเทศอื่นๆ • จุลสาร กฤตภาค รวมทั้งโสตทัศนวัสดุ • เมื่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ • เมื่อพบข้อมูล หรือ บทความไม่ว่าจะเป็นจาก หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สารานุกรม ฐานข้อมูล ฯลฯ ที่คิดว่ามีเนื้อหาตรงหรือเกี่ยวข้อง ให้จัดรายละเอียด ตามแบบบรรณานุกรม เพื่อนำไปใช้สืบค้นข้อมูลต่อไป
วิธีเลือกข้อมูล • คุณวุฒิของผู้แต่ง เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ • คุณค่าของเอกสาร เลือกฉบับพิมพ์ล่าสุด หรือแหล่งต้นตอ • ความทันสมัยและน่าเชื่อถือ ทั้งเนื้อหาข้อมูลและสถิติเป็นปัจจุบัน ไม่ล้าหลัง และบอกแหล่งที่มาซึ่งเชื่อถือได้
การอ่านเบื้องต้น • เป็นการอ่านเอกสารที่รวบรวมมาได้อย่างคร่าวๆ เพื่อหาหัวข้อเรื่องและเนื้อหาที่ต้องการจากเอกสารว่ามีหัวข้อที่น่าจะใช้เป็นโครงเรื่องได้หรือไม่ ดูจาก • คำนำ • สารบัญ • ดรรชนีท้ายเล่มของหนังสือนั้นๆ • ใช้เครื่องมือช่วยค้น • คัดเลือกเอกสารที่ต้องการ และจดบันทึกหัวข้อเรื่องไว้เพื่อวางโครงเรื่อง
โครงเรื่อง • เค้าโครงเรื่องงานเขียน เปรียบเสมือนพิมพ์เขียว ของการก่อสร้าง • แนวคิดหรือหัวข้อสำคัญ • แนวทางเก็บรวบรวมข้อมูล • ช่วยให้รายงานมีเอกภาพ สารัตถภาพ และ สัมพันธภาพ • ช่วยเน้นย้ำประเด็นสำคัญได้อย่างเหมาะสมและมีเนื้อหาได้สัดส่วนไม่ให้ “ข้อมูลพาไป” • ช่วยให้เนื้อหาครบถ้วน สมบูรณ์ตามหัวข้อขอบเขตประเด็นสำคัญที่กำหนด • ช่วยให้รายงานมีความน่าอ่าน เข้าใจง่าย เพราะจัดความรู้ความคิด อย่างเป็นระบบ
วางโครงเรื่อง เลือกหัวข้อเรื่องที่จะเหมาะสมจะใช้เป็นโครงเรื่องจากที่จดไว้ จัดกลุ่มหัวข้อที่เลือกแล้วให้เป็นหมวดหมู่ สัมพันธ์กัน ปรับหัวข้อเรื่องที่เลือก และจัดกลุ่มให้เหมาะสม เรียงลำดับก่อนหลังตามความสำคัญ รวมกลุ่มหัวข้อเรื่องเป็นหมวดหมู่ ใช้รูปแบบหัวข้อเรื่องเดียวกันโดยตลอด ปรับชื่อรายงานให้สัมพันธ์ สอดคล้องกับโครงเรื่อง
หัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสารหัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสาร • นิตยา มหาผล. (2538) มลพิษทางอากาศ. ใน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน(พิมพ์ครั้งที่ 4 ).(เล่มที่ 15. หน้า 213-242).กรุงเทพฯ: โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน. • ผลของการเปลี่ยนแปลงของสารมลพิษ • ผลกระทบของสารมลพิษที่มีต่อร่างกายคนและสัตว์ • ผลกระทบของสารมลพิษที่มีต่อพืช • แหล่งกำเนิดของมลพิษในอากาศ • การควบคุมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน • การควบคุมมลพิษที่เป็นฝุ่นละออง • การควบคุมสารมลพิษที่เป็นก๊าซ • การควบคุมและป้องกันมลพิษ
หัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสารหัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสาร • พัฒนา มูลพฤกษ์. (2546).อนามัยสิ่งแวดล้อม(พิมพ์พ532อ ครั้งที่ 3 ฉบับปรับปรุงใหม่).กรุงเทพฯ: ซิกม่า ดีไซน์ กราฟฟิก. • ความสำคัญของอากาศ • แหล่งกำเนิดของสารพิษทางอากาศ • ที่มนุษย์สร้าง • โดยธรรมชาติ • ประเภทของสารเจือปนในอากาศ • ผลเสียของการเกิดมลพิษทางอากาศ • การควบคุมและป้องกันมลพิษทางอากาศ • มาตรฐานคุณภาพอากาศ
หัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสารหัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสาร 363.7392 นพภาพร พานิช และวัลภา สอนดี. (2547). ระบบบำบัดมลพิศอากาศ. กรุงเทพฯ: ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับมลพิษอากาศ ประเภทของแหล่งกำเนิดสารมลพิษอากาศ แหล่งกำเนิดตามธรรทชาติ แหล่งกำเนิดที่เป็นกิจกรรมของมนุษย์ ประเภทของสารมลพิษอากาศ ผลกระทบของสารมลพิษอากาศ สถานการณ์มลพิษอากาศในประเทศไทย กฎหมายมลพิษจากอุตสาหกรรม การควบคุมฝุ่นละออง
หัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสารหัวข้อเรื่องที่ค้นได้จากเอกสาร • สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา,คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม.(2542). มลพิษทางอากาศ. ค้นเมื่อ เมษาย 14,2549,จาก http://www.riss.ac.th/envi/air.HTML • ความหมายมลพิษทางอากาศ • แหล่งกำเนิดสารมลพิษทางอากาศ • ระบบภาวะมลพิษทางอากาศ(air pollution system) • ปรากฏการณ์เรือนกระจก • การเกิดรูรั่วของโอโซน • การประเมินผลกระทบด้านคุณภาพอากาศ • การควบคุมบำบัด • การตรวจวัดคุณภาพอากาศ
จัดกลุ่มหัวข้อเรื่องที่เลือกจัดกลุ่มหัวข้อเรื่องที่เลือก
ปรับหัวข้อเรื่องที่เลือกและจัดกลุ่มให้เหมาะสมปรับหัวข้อเรื่องที่เลือกและจัดกลุ่มให้เหมาะสม • ความหมายของมลภาวะทางอากาศ • แหล่งกำเนิดของสารมลภาวะทางอากาศ • แหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ • แหล่งกำเนิดที่เป็นกิจกรรมของมนุษย์
โครงเรื่อง: มลภาวะทางอากาศของกรุงเทพมหานคร • ความหมายของมลภาวะทางอากาศ (4) • แหล่งกำเนิดของสารมลภาวะทางอากาศ (1,2,3,4) • มลภาวะจากยานยนต์ • มลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรม • มลภาวะจากธรรมชาติ • ผลกระทบของมลภาวะทางอากาศ (1,2,3) • ต่อคน • ต่อสัตว์ • ต่อพืช • การตรวจวัดและสภาพมลภาวะทางอากาศในกรุงเทพมหานคร • การควบคุมและป้องกันมลภาวะทางอากาศ(1,2,3)
รวบรวมเอกสารเพิ่มเติมรวบรวมเอกสารเพิ่มเติม • ให้ดูข้อมูลที่รวบรวมไว้แล้วว่ามีรายการใดที่ใช้ไม่ได้ • ข้อมูลที่คัดเลือกแล้วครอบคลุมหัวข้อทั้งหมดและเพียงพอที่จะนำมาเรียบเรียงเป็นรายงานหรือไม่ • หากพบว่าบางหัวข้อยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ • สืบค้นสารสนเทศเพิ่มเติม • คัดเลือกเอกสารเพิ่มเติมให้ตรงตามโครงเรื่องที่วางไว้ทุกหัวข้อเพื่อให้ได้ข้อมูลครอบคลุมทุกหัวข้อ
ตัวอย่างโครงเรื่องโรคอ้วนตัวอย่างโครงเรื่องโรคอ้วน • อยากอ้วน • โรคอ้วน • ปัญหาคนอ้วน • สาเหตุของความร้อน • ความอ้วนเป็นโรค • จะทราบได้อย่างไรว่าท่านอ้วนหรือไม่ โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง โรคอ้วน ความอ้วน • ความหมายของความอ้วน • สาเหตุของความอ้วนความผิดปกติของร่างกาย • อาหารและนิสัยการรับประทานอาหาร • โทษของความอ้วน • การลดความอ้วน • ลดด้วยวิธีบริหารร่างกาย • ลดด้วยวิธีควบคุมอาหาร • ลดด้วยวิธีใช้ยาลดความอ้วน โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง:ผลไม้ตัวอย่างโครงเรื่อง:ผลไม้ • วิถีการตลาดผลไม้ของไทย • การบรรจุหีบห่อ • หลักการเลือกซื้อผลไม้ • การเก็บรักษาผลไม้ • คุณภาพของผลไม้ • ประโยชน์ของผลไม้ในทางโภชนาการ โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง: ผลไม้ • ผลไม้ไทย • ความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ไทย • คุณค่าของผลไม้ไทย • คุณค่าด้านเศรษฐกิจ • คุณค่าด้านโภชนาการ • การเลือกซื้อผลไม้ • การเก็บรักษาผลไม้ โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง: การเลี้ยงสุนัข • สุนัขในบ้าน • ประเภทของสุนัข • ลักษณะหลังอานของสุนัขที่นิยมเลี้ยง • ลักษณะของสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง • โรคต่างๆในสุนัข • ปัญหาสำคัญในการเลี้ยงสุนัข • เราคุมกำเนิดสุนัขกันอย่างไร • ความรับผิดชอบของเจ้าของผู้เลี้ยง โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง: การเลี้ยงสุนัข โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู • ประเภทของสุนัข • สุนัขเพื่อนเล่น • สุนัขเฝ้าบ้าน • สุนัขใช้งาน • ลักษณะของสุนัขบางพันธุ์ • พันธุ์ไทยหลังอาน • พันธุ์ปักกิ่ง • ปัญหาจากการเลี้ยงสุนัข • อาหารและการบำรุงรักษา • การฝึกสุนัข • โรคของสุนัขและการป้องกันรักษา • การคุมกำเนิดและการบำรุงพันธุ์สุนัข
ตัวอย่างโครงเรื่อง: หนังสือพิมพ์ • ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์ • หนังสือพิมพ์กับการพัฒนาประเทศ • หนังสือพิมพ์ของเรา • หนังสือพิมพ์คืออะไร โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง: หนังสือพิมพ์ • ความหมายของหนังสือพิมพ์ • ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์ • หนังสือพิมพ์ของเรา • หนังสือพิมพ์กับการพัฒนาประเทศ โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง: วัตถุมีพิษ • พิษภัยของวัตถุมีพิษทางการเกษตร • อันตรายจากการใช้วัตถุมีพิษในการปรายศัตรูพืช • แนวทางการควบคุมเคมีภัณฑ์อันตราย • ผู้ป่วยหมดสติจาการได้รับสารพิษ • โรคอันเนื่องมาจากการประกอบอาชีพจากสารเคมี โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
ตัวอย่างโครงเรื่อง: วัตถุมีพิษ • ความหมายของวัตถุมีพิษ • ประเภทขอวัสดุ • อันตรายจากวัสดุมีพิษ • มลภาวะของสิ่งแวดล้อม • โรคอันเนื่องมากจากการสะสมของวัตถุมีพิษ • อาการอันเนื่องมาจากการได้รับวัตถุมีพิษ • การควบคุมวัตถุมีพิษ โครงเรื่องนี้ผิดอย่างไร ลองปรับดู
สรุปการวางโครงสร้าง • จะเขียนเรื่องใด ให้หาความรู้ในเรื่องนั้นก่อนวางโครงเรื่อง เพื่อเป็นการปูพื้นความรู้ • ชื่อเรื่อง ตั้งให้มีขอบเขตของเนื้อหาพอเหมาะไม่แคบหรือกว้างจนเกินไป • เลือกสรรประเด็นหรือสาระของเรื่องตั้งเป็นหัวข้อของโครงเรื่อง • การให้เลขกำกับหัวข้อของโครงเรื่อง ใช้ระบบเดียวกันโดยตลอด • ตำแหน่งของหัวข้อเรื่อง : • ชื่อเรื่องอยู่กลางหัวกระดาษ • หัวข้อใหญ่อยู่ชิดเส้นขอบหน้า(เส้นคั่นหน้า) • หัวข้อรองย่อหน้า 5-7 ตัวอักษร • หัวข้อยิ่งย่อย ย่อหน้ายิ่งลึก
การรวบรวมข้อมูลและเนื้อหาการรวบรวมข้อมูลและเนื้อหา รูปแบบของบัตรบันทึก หัวข้อเรื่อง เป็นสิ่งแรกที่จะต้องบันทึก ใช้ตามหัวข้อในโครงเรื่อง เอกสารที่ใช้ค้นคว้า ดูว่าใช้เอกสารประเภทใด ให้ลงรายการบรรณานุกรมตามแบบฟอร์มของเอกสารประเภทนั้น หน้าที่ค้นคว้า หน้าที่มีข้อมูลของหัวข้อเรื่องที่บันทึกปรากฏอยู่ เนื้อหาสาระที่บันทึก เก็บความจากเอกสาร ตรงหัวข้อเรื่องหรือไม่ มีแก่นและส่วนขยายแก่น ครบถ้วนหรือไม่หากมีความคิดเห็น แงคิดข้อสังเกต หรือพบสิ่งขาดตกบกพร่องใดๆ ควรบันทึกเสริมไว้ด้วยและทำเครื่องหมายให้ทราบว่าเป็นของผู้บันทึก ชื่อห้องสมุดที่ค้นคว้า
การรวบรวมข้อมูลและเนื้อหาการรวบรวมข้อมูลและเนื้อหา • บัตรบันทึกแผ่นหนึ่งๆ ใช้บันทึกเพียงหัวข้อเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น • หัวข้อเรื่องเดียวกัน ถ้าบันทึกจากเอกสารต่างเล่มกันให้ใช้บัตรบันทึกแยกแผ่นกัน • เอกสารเล่มเดียวกัน แต่บันทึกต่างหัวข้อกันให้ใช้แยกบัตรบักทึกกัน • ถ้าบัตรบันทึกมีเนื้อหาที่ไม่พออาจใช้หน้าหลัง คว่ำบัตรกลับหัวลง การบันทึกหน้าหลังจะกลับหัวกับด้านหน้าเพื่อให้สะดวกเวลาใช้งาน • หากมีความคิดเห็น ข้อสังเกต หรือข้อวิเคราะห์ วิจารณ์ เกิดขึ้นในระหว่างการเก็บความ ก็ควรบันทึกเสริมไว้ท้ายบัตรแผ่นนั้นด้วย แต่ควรทำหมายเหตุให้ทราบว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้บันทึกเอง