540 likes | 893 Vues
การผลิตสับปะรดและการดูแลรักษา ทวีศักดิ์ แสงอุดม สถาบันวิจัยพืชสวน. ในโครงการการจัดการความรู้ เรื่อง เทคโนโลยีการผลิตสับปะรดผลสดเพื่อการค้าในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง สำนักวิจัยและพัฒนาการเษตรเขตที่ ๘ ณ โรงแรมเอเซี่ยนหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จ . สงขลา วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔. หัวข้อการนำเสนอ.
E N D
การผลิตสับปะรดและการดูแลรักษาทวีศักดิ์แสงอุดมสถาบันวิจัยพืชสวนการผลิตสับปะรดและการดูแลรักษาทวีศักดิ์แสงอุดมสถาบันวิจัยพืชสวน ในโครงการการจัดการความรู้เรื่องเทคโนโลยีการผลิตสับปะรดผลสดเพื่อการค้าในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง สำนักวิจัยและพัฒนาการเษตรเขตที่๘ ณโรงแรมเอเซี่ยนหาดใหญ่อำเภอหาดใหญ่จ. สงขลา วันที่๒๓สิงหาคม๒๕๕๔
หัวข้อการนำเสนอ • สถานการณ์การผลิตสับปะรดของโลกและของไทย • ประเด็นปัญหา • ยุทธศาสตร์สับปะรดแห่งชาติปี 2553-2557 • ชุดโครงการวิจัยสับปะรดกรมวิชาการเกษตร ปี 2554-2558 • การผลิตสับปะรดของไทย
สถานการณ์การผลิตสับปะรดของโลกและของไทยสถานการณ์การผลิตสับปะรดของโลกและของไทย • ความสำคัญ - ปัจจุบันสับปะรดเป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีส่วนแบ่ง 25% ของปริมาณผลผลิตผลไม้เมืองร้อนของโลก - ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสับปะรดอันดับหนึ่งของโลก
พื้นที่เก็บเกี่ยวสับปะรดของประเทศสำคัญปี2546-2550พื้นที่เก็บเกี่ยวสับปะรดของประเทศสำคัญปี2546-2550 ที่มา: FAO 2008 หน่วย : พันไร่
ผลผลิตสับปะรดของประเทศที่สำคัญปี2546-2550ผลผลิตสับปะรดของประเทศที่สำคัญปี2546-2550 ที่มา: FAO 2008 หน่วย : ล้านตัน
ผลผลิต/ไร่ ของประเทศที่สำคัญปี2546-2550 ที่มา: FAO 2008 หน่วย : ตัน
การผลิตสับปะรดของไทยปี 2553 • พื้นที่ปลูก 601,090 ไร่ • พื้นที่เก็บเกี่ยว 583,200 ไร่ • ผลผลิต 1,924,659 ตัน • ผลผลิต/ไร่ 3.39 ตัน • ร้อยละ 26 บริโภคสดภายในประเทศ ร้อยละ 4 ส่งออกผลสด ร้อยละ 70 ใช้ป้อนโรงงานแปรรูป • แหล่งปลูกสำคัญ 13 จังหวัด ประจวบฯ ระยอง เพชรบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี ชุมพร ตราด หนองคาย ลำปาง นครพนม ฉะเชิงเทรา
สถานการณ์ด้านราคา • สับปะรดโรงงาน ในช่วง 5 ปี(2548-2552) ราคาที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้นจาก 3.69 บาท/กก. ในปี 2548 เป็น 4.70 บาท/กก. ในปี 2552 และ 5.51 บาท/กก.ในปี 2553 • สับปะรดบริโภคสด ในช่วง 5 ปี(2548-2552) ราคาที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย/ปี 9.73 คือเพิ่มขึ้นจาก กก..ละ 5.08 บาท/กก. ในปี 2548 เป็น 6.50 บาท/กก. ในปี 2552 และ 7.70บาท/กก.ในปี 2553
ประเด็นปัญหา ภาคการผลิต • ขาดพันธุ์สับปะรดที่ให้ผลผลิตสูง คุณภาพดีและทนทานต่อโรค • การระบาดของโรคเหี่ยว • ขาดแคลนแรงงาน • ต้นทุนการผลิตสูง • พื้นที่ปลูกลดลงเนื่องจากการปรับเปลี่ยนพืชปลูก
ภาคการตลาด • การตลาดขาดความสมดุลกับการผลิต บางปีผลผลิตมากราคาต่ำ • ขาดความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและผู้ส่งออก มีการขายตัดราคากันเอง • การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระหว่างเกษตรกรและโรงงาน ยังไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง • เกษตรกรรายย่อยขาดอำนาจการต่อรอง • ระบบการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านการผลิตและการตลาดไม่ทั่วถึง • การกำหนดราคาและมาตรฐานการรับซื้อสับปะรดสดไม่แน่นอน
ด้านการแปรรูป • ปริมาณผลผลิตป้อนโรงงานแต่ละเดือนไม่แน่นอน • ขาดแคลนแรงงาน • ภาวะค่าเงินบาทแข็งตัว ทำให้สินค้าราคาแพง • ผู้ประกอบการแปรรูปบางรายไม่สามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้ ด้านการจัดการ • ขาดหน่วยงานในการประสานการดำเนินงานระหว่างภารัฐ เกษตรกรและภาคเอกชน
ยุทธศาสตร์สับปะรดแห่งชาติปี 2553-2557 • คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการยุทธศาสตร์สับปะรด ปี 2553-2557 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 • วิสัยทัศน์ ประเทศไทยรักษาความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการผลิตการส่งออกสับปะรดและผลิตภัณฑ์สับปะรดที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน
พันธกิจ • พัฒนาเทคโนโลยีการปลูกสับปะรด • พัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรด ทั้งสับปะรดสดและสับปะรดแปรรูป • สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงที่เข้มแข็งระหว่างเกษตรกร โรงงานแปรรูปสับปะรด และส่วนราชการ • ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสับปะรด • พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับสับปะรด
เป้าหมาย 1 การผลิต 1) รักษาระดับพื้นที่ให้ผลผลิตสับปะรดในเขตเกษตรเศรษฐกิจ สำหรับสับปะรดไม่ให้เกิน 6 แสนไร่ต่อปี 2) เพิ่มผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่จาก 3.9 ตัน ในปี 2551 เป็น 6 ตัน ในปี 2557 3) เพิ่มผลผลิตรวมจาก 2.3 ล้านตัน ในปี 2551 เป็น 3.0 ล้านตัน ในปี 2557
2 การใช้ในประเทศ 1) เพิ่มการบริโภคสับปะรดภายในประเทศจาก 0.25 ล้านตัน ในปี 2551 เป็น 0.60 ล้านตัน ในปี 2557 2) เพิ่มความต้องการใช้สับปะรดเพื่อการแปรรูปจาก 1.55 ล้านตัน ในปี 2551 เป็น 2.40 ล้านตัน ในปี 2557 3 การส่งออก 1) เพิ่มมูลค่าส่งออกสับปะรดสดจากประมาณ 45 ล้านบาท ในปี 2551 เป็น 110 ล้านบาท ในปี 2557 2) เพิ่มมูลค่าส่งออกสับปะรดแปรรูปจากประมาณ 25,945 ล้านบาท ในปี 2551เป็น 30,000 ล้านบาท ในปี 2557
1 ยุทธศาสตร์ด้านการผลิต 1 ส่งเสริมการปลูกสับปะรดในพื้นที่ที่เหมาะสม 1) กำหนดเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับปลูกสับปะรด 2) จดทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด 3) ตรวจวิเคราะห์ดินและน้ำในพื้นที่ปลูกสับปะรด 2 พัฒนาความรู้ความสามารถเรื่องสับปะรดแก่เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด 1) ฝึกอบรมเกษตรกรหลักสูตรการปลูกสับปะรดตามระบบ GAP 2) จัดทำแปลงสาธิตการปลูกสับปะรดตามระบบ GAP 3) จัดทัศนศึกษาดูงาน การผลิต การแปรรูป และการตลาดสับปะรด 4) จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ความรู้เรื่องสับปะรด
3 ป้องกันการแพร่กระจายของโรคและแมลงเกี่ยวกับสับปะรด 1) รณรงค์ให้ความรู้เรื่องโรคและแมลงเกี่ยวกับสับปะรดแก่เกษตรกรผ่านสื่อต่าง ๆ 2) ฝึกอบรมเกษตรกร เรื่องโรคและแมลงเกี่ยวกับสับปะรด และการป้องกัน 3) จัดทำแปลงสาธิตการป้องกันโรคและแมลงเกี่ยวกับสับปะรด 4) ตรวจเชื้อโรคและแมลงเกี่ยวกับสับปะรด และผลิตต้นแม่พันธุ์ปลอดโรค ภายใต้การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการให้น้ำสับปะรด 1) จัดทำแปลงสาธิตระบบน้ำในแปลงสับปะรด 2) ฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องระบบการให้น้ำในสับปะรดแก่เกษตรกร 3) สนับสนุนแหล่งน้ำขนาดเล็ก และชลประทานระบบท่อในแหล่งปลูกสับปะรด
5 พัฒนาสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง 6 สร้างและพัฒนาเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด
7 วิจัยและพัฒนาการผลิตสับปะรด 1) วิจัยและพัฒนาพันธุ์สับปะรดปลอดโรค และให้ผลผลิตสูง รวมทั้งแจกจ่ายแก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง 2) การเขตกรรมการจัดการดินตามค่าวิเคราะห์สำหรับสับปะรด 3) การป้องกันโรคเหี่ยวสับปะรด 4) การปรับปรุงคุณภาพสับปะรดโรงงานและสับปะรดบริโภคสด ส่งออก
2 ยุทธศาสตร์ด้านการแปรรูป 2.1 พัฒนาโรงงานแปรรูปสับปะรดให้เข้มแข็ง 1) เพิ่มศักยภาพการผลิตของโรงงานแปรรูปสับปะรดไทย 2) ปรับปรุงระบบการผลิตและระบบประกันคุณภาพเพื่อสนับสนุนการจัดการ เครือข่ายโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมสับปะรดไทย 3) ยกระดับความปลอดภัยในการผลิตสับปะรดกระป๋อง 4) พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการทดสอบสับปะรดและผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก 2.2 วิจัยและพัฒนาการแปรรูปสับปะรด 1) ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากสับปะรด 2) การบรรจุภัณฑ์ 3) การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ฯ
3 ยุทธศาสตร์ด้านตลาด 1 เพิ่มปริมาณและมูลค่าการบริโภคสับปะรดสดในประเทศ 2 เพิ่มปริมาณและมูลค่าการบริโภคผลิตภัณฑ์สับปะรดในประเทศ 3 เพิ่มปริมาณและมูลค่าการส่งออกสับปะรดสดและผลิตภัณฑ์ 4 วิจัยตลาดสับปะรดสดและผลิตภัณฑ์ 1) วิจัยตลาดสับปะรดสดในประเทศและต่างประเทศ 2) วิจัยตลาดผลิตภัณฑ์สับปะรดในประเทศและต่างประเทศ 3) วิจัยพัฒนาระบบ Logistic ที่มีประสิทธิภาพ
4 ยุทธศาสตร์ด้านบริหารจัดการ 1 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเรื่องสับปะรด ทั้งระบบ 2 พัฒนาเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร 3 เชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสถาบันเกษตรกรกับโรงงาน แปรรูปสับปะรด
ชุดโครงการวิจัยสับปะรดกรมวิชาการเกษตร ปี 2554-2558 1.ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาสับปะรด - โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์สับปะรด - โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตสับปะรด - โครงการวิจัยการทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสับปะรด ในพื้นที่เกษตรกร
ชุดโครงการวิจัยสับปะรดกรมวิชาการเกษตร ปี 2554-2558 2.ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตร สำหรับสับปะรด - โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องปลูกสับปะรดแบบพ่วงท้าย รถแทรคเตอร์ในระดับเกษตรกร - โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องลำเลียงผลสับปะรด
ชุดโครงการวิจัยสับปะรดกรมวิชาการเกษตร ปี 2554-2558 3.โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม ในการผลิตสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง
การผลิตสับปะรดของไทย • แหล่งปลูกสำคัญ 13 จังหวัด ประจวบฯ ระยอง เพชรบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี ชุมพร ตราด หนองคาย ลำปาง นครพนม ฉะเชิงเทรา
การปลูกสับปะรดในพื้นที่ต่างๆการปลูกสับปะรดในพื้นที่ต่างๆ
การผลิตสับปะรดบริโภคสดเพื่อการส่งออกการผลิตสับปะรดบริโภคสดเพื่อการส่งออก • การส่งออกสับปะรดสดปี 2553 • ปริมาณ 2,150 ตัน มูลค่า 27.9 ล้านบาท • - จากสถิติปี 2549-2553 อัตราเพิ่ม(%) • ปริมาณ – 20.75% มูลค่า –22.89 % • - พันธุ์สับปะรดของไทย: ปัตตาเวีย ตราดสีทอง นางแล ภูแล
ตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น(JTEPA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2550 โดยกำหนดโควตาส่งออกสินค้าสับปะรดสด น้ำหนักไม่เกิน 900 กรัมปลอดภาษีไปญี่ปุ่น 5 ปี ดังนี้
ประเด็นปัญหาการผลิตสับปะรดผลสดส่งออกประเด็นปัญหาการผลิตสับปะรดผลสดส่งออก • อายุการเก็บรักษาสั้น โดยจะเกิดอาการไส้สีน้ำตาลระหว่างการเก็บรักษาภายใต้สภาพอุณหภูมิต่ำ • พันธุ์สับปะรดของไทยในปัจจุบันยังไม่ทนทานต่อกการเก็บรักษาดังกล่าวโดยเฉพาะในกลุ่ม Queen • ขาดการพัฒนาพันธุ์ • ตลาดส่งออกเดิมถูกมาเลเซียแทนที่ และทางมาเลเซียมีการพัฒนาพันธุ์มาอย่างต่อเนื่องใช้พันธุ์ N 36 และขณะนี้มีการใช้พันธุ์ Tropical Gold หรือ MD2 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ(คุณศราวุธ เรืองเอี่ยม)
ปัจจัยสำคัญในการผลิตสับปะรดผลสดพื่อการส่งออกปัจจัยสำคัญในการผลิตสับปะรดผลสดพื่อการส่งออก • พันธุ์ • การจัดการก่อนการเก็บเกี่ยว • การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว • ระยะเวลาในการขนส่ง
ดัชนีมีการเก็บเกี่ยวผลสับปะรดดัชนีมีการเก็บเกี่ยวผลสับปะรด 1. นับอายุหลังการบังคับดอก ประมาณ 150-160 วัน 2. ลักษณะภายนอกของผล เช่น * สีของเปลือกผล * การสังเกตก้านผลเมื่อสับปะรดแก่ ก้านผลจะเหี่ยวเป็นร่องตามยาว * ตาย่อยของผลจะแบนราบ เรียกว่าตาเต็ม ร่องของตาย่อยตึงเต็มที่ ใบเลี้ยงบนตาย่อยเหี่ยว หรือเป็นสีชมพู * กลีบเลี้ยงใต้ผล เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีส้มน้ำตาล หรือเหี่ยวแห้ง * ใช้มือดีด หรือใช้ไม้เคาะฟังเสียง จะทึบหรือแปะ
ดัชนีมีการเก็บเกี่ยวผลสับปะรดดัชนีมีการเก็บเกี่ยวผลสับปะรด 3. คุณสมบัติภายในของผล ผลสับปะรดใกล้แก่จัดจะมีปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำ (Total Soluble Solids) สูงเพิ่มกว่าผลที่ยังดิบ ปริมาณกรด (Total Acidity) จะสูงสุดในระยะผลสุก 50% สำหรับสับปะรดส่งโรงงานสับปะรดกระป๋องควรมีความหวาน 12 องศาบริกซ์ ปริมาณกรด 0.5-0.6 เปอร์เซ็นต์
ดัชนีของมาตรฐานสีสับปะรดดัชนีของมาตรฐานสีสับปะรด • No.0 หมายถึง ตาทั้งหมดจะเป็นสีเขียว ไม่มีสีเหลืองปน เหมาะสำหรับตัดผลส่งระยะทางไกลๆ เช่น ตลาดต่างประเทศ • No.1 หมายถึง ตาเหลืองไม่เกิน 20%(เปลือกสีเหลืองจางๆ ประมาณ 1-2 ตา) • No.2 หมายถึง ตาเหลืองไม่น้อยกว่า 20% แต่ไม่เกิน 40% (เปลือกสีเหลืองอยู่ระหว่าง 1/4 ของผล หรือประมาณ 2-3 ตา) • No.3 หมายถึง ตาเหลืองไม่น้อยกว่า 40% แต่ไม่เกิน 55% (เปลือกสีเหลืองอยู่ระหว่าง ¼-¾ของผล หรือประมาณ 3-4 ตา)
ดัชนีของมาตรฐานสีสับปะรดดัชนีของมาตรฐานสีสับปะรด • No.4 หมายถึง ตาเหลืองไม่น้อยกว่า 55% แต่ไม่เกิน 90% (เปลือกสีเหลืองอยู่ระหว่าง ½-¾ ของผล หรือประมาณ 4-6 ตา) • No.5 หมายถึง ตาเหลืองไม่น้อยกว่า 90% แต่ไม่เกินกว่า 20% ของตาจะมีสีส้ม (เปลือกสีเหลืองประมาณ ¾ ถึงเต็มผล) • No.6 หมายถึง 20-100% ของตามีสีน้ำตาลอมแดง (เปลือกสีเหลืองเต็มผล แต่จะมีลักษณะสีน้ำตาลอมแดง และเปลือกเริ่มเหี่ยวเล็กน้อย) • No.7 หมายถึง เปลือกสีน้ำตาลอมแดงและเริ่มแสดงอาการเน่า
การเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายผลสดการเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายผลสด • ตลาดภายในประเทศ - ทำการเก็บเกี่ยวเมื่อผลสับปะรดมีความสุก ตาเหลืองไม่น้อยกว่า 55% (เบอร์ 4-5) - การเก็บเกี่ยวต้องทำด้วยความปราณีต ไม่ให้ผลชอกช้ำ - การตัดต้องใช้มีดคมตัดให้เหลือก้านยาวติดผลประมาณ 10 เซนติเมตร ไม่หักจุก - หลังจากตัดใส่ภาชนะบรรจุ ลำเลียงใส่รถบรรทุกขนส่ง การจัดเรียงบน รถบรรทุกขนส่งให้เรียงผลเป็นระเบียบ
ข้อควรระวังในการเก็บเกี่ยวสับปะรดบริโภคสดข้อควรระวังในการเก็บเกี่ยวสับปะรดบริโภคสด • ไม่ควรวางผลสับปะรดตากแดดในแปลง • ผลที่สุกมากไม่ควรวางอยู่ชั้นล่าง เพราะจะชอกช้ำเสียหายได้ง่าย
การเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายผลสดการเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายผลสด • ตลาดต่างประเทศ - การเก็บเกี่ยวผลสับปะรดเพื่อส่งจำหน่ายต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเก็บผลแก่เขียว (เบอร์ 0) ตาทุกตามีสีเขียวไม่มีสีเหลือง - ดูได้จากการลอยน้ำ ผลจะลอยขนานกับน้ำ - ผลสับปะรดจะต้องมีน้ำหนักตามที่ตลาดรับซื้อต้องการ จุกตรง ไม่มีโรคแมลงติดไปกับผล
การเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายผลสดการเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายผลสด • ตลาดต่างประเทศ(ต่อ) - การขนส่งสับปะรดมายังโรงคัดบรรจุ - ระมัดระวังไม่ให้ผลชอกช้ำ - ไม่เรียงซ้อนทับกันมากชั้นเกินไป ควรมีไม้แบ่งแยกชั้น เพื่อไม่ให้ผลด้านล่างรับน้ำหนักมากเกินไป - การจัดเรียงจะเรียงตามนอนและสลับท้ายผลและจุกเป็นชั้นๆ
โรงคัดบรรจุ (Packing house) การทำความสะอาด (Cleaning) เก็บเกี่ยว (Harvesting การคัดเลือก (Sorting) เคลือบผิว(waxing) การคัดขนาด (Sizing,Grading การบรรจุหีบห่อ (Packaging การขนส่ง (Transportation) ขั้นตอนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวสับปะรดสดส่งออก
สรุป • การปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ • การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ผลผลิตต่อไร่ • การเพิ่มคุณภาพผลผลิต • การลดต้นทุนการผลิต • การเพิ่มปริมาณการส่งออกผลสดและผลิตภัณฑ์