1 / 17

ความเสี่ยงและการเตรียมรับมือการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพของประเทศไทย

ความเสี่ยงและการเตรียมรับมือการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพของประเทศไทย. โดย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค http :// beid . ddc . moph . go . th ณ 24 มิถุนายน 2554. Bioterrorism อาวุธชีวภาพ.

kevin-blake
Télécharger la présentation

ความเสี่ยงและการเตรียมรับมือการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพของประเทศไทย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ความเสี่ยงและการเตรียมรับมือการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพของประเทศไทยความเสี่ยงและการเตรียมรับมือการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพของประเทศไทย โดย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค http://beid.ddc.moph.go.thณ 24 มิถุนายน 2554

  2. Bioterrorism อาวุธชีวภาพ WHO ใช้ชื่อว่า “Deliberate use of biological agents” หรือ “กรณีเหตุการณ์การจงใจกระทำของมนุษย์ด้วยสารชีวะ” : อาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูง ทำให้คนจำนวนมากในพื้นที่กว้างได้รับบาดเจ็บ ป่วย และตาย จุลินทรีย์ที่สามารถนำมาผลิตเป็นอาวุธชีวภาพได้ ต้องมี คุณสมบัติผลิตง่าย ต้นทุนต่ำมีความคงทนในการผลิต เก็บรักษาไว้ได้นาน โดยไม่เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ และเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง

  3. ทำให้มีอัตราป่วยและอัตราตายสูงทำให้มีอัตราป่วยและอัตราตายสูง แพร่จากคนสู่คนได้ง่าย ใช้ปริมาณเชื้อน้อย แต่แพร่ได้มากทางการหายใจ การวินิจฉัยโรคได้ไม่เร็วนัก ไม่มีวัคซีน ทำให้เกิดความตื่นตระหนกได้มาก สามารถผลิตเชื้อได้เอง มีความคงตัวในสิ่งแวดล้อม มีฐานข้อมูลจากการวิจัยและการพัฒนามาก่อน สามารถใช้เป็นอาวุธได้ คุณลักษณะของเชื้อโรคที่อาจจะนำมาใช้ทำอาวุธชีวภาพ

  4. รายชื่อโรคที่ใช้เป็นอาวุธชีวภาพ(US CDC) Group A : Anthrax, Plague, Smallpox, Botulism, Tularemia, Viral Haemorrhagic Fever (อิโบลา ลาสสา มาบวร์ก จูนิน ) Group B : Q fever, Brucellosis, Glanders, VEE, Ricin, Clostridium perfringens, Staph. Enterotoxin B, Salmonella, Shigella, E.coli O 157 : H7, Vibrio chloerae, Cryptosporidium parvum Group C : Nipah virus, Hanta virus, Yellow fever, Tick-borne haemorrhagic fever, MDR-TB High potential

  5. BIOLOGICALANTHRAX 2002, USA • Risk factors in Thailand • Alliance with western countries • Local political/religious conflicts • Craze, mimicry

  6. Anthrax mail hoaxes,Thailand (16 Oct 01 - 22 Feb 02) Anthrax test results on 217 suspected letters/objects were all negative ! The confidence in public security was finally restored.

  7. กฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (International Health Regulation 2005) แนวทางของ WHO เรื่องของความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข (Global Health Security) การจงใจกระทำของมนุษย์ด้วยสารชีวะ หรือเหตุการณ์ จะกระทบต่อระบบสาธารณสุข ซึ่งสารชีวะถูกทำให้กระจายในวงกว้างหรือติดต่อได้ง่าย และต้องดำเนินการกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ระบบต่างๆ จะต้องมีการเตรียมพร้อมสู่การรองรับ สำหรับการอพยพคนหรือการส่งวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือวัคซีน บางกรณีการปฏิบัติการตอบโต้อาจต้องใช้รูปแบบพิเศษ การดำเนินการตอบโต้ที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดความเสี่ยงของการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยติดเชื้อ

  8. ภารกิจที่จำเป็นในการเตรียมพร้อมภารกิจที่จำเป็นในการเตรียมพร้อม • การจัดทำแผน คู่มือปฏิบัติงาน มาตรฐานงาน • การให้ข้อมูลข่าวสารและเฝ้าระวังโรค: ศูนย์ข้อมูล ระบบข้อมูล • การประสานงาน : คณะกรรมการและศูนย์ประสานงาน • การฝึกอบรม : ตำรวจ เจ้าหน้าที่ กสท. บุคลากร สธ. • การเตรียมเวชภัณฑ์ วัสดุ อุปกรณ์ : ยาปฏิชีวนะ ชุด & อุปกรณ์กันเชื้อ • การเตรียมปฏิบัติการ : หน่วยเฉพาะกิจเพื่อสอบสวนและควบคุมโรค • การให้สุขศึกษาแก่ประชาชน

  9. การประสานความร่วมมือพหุภาคีเพื่อแก้ปัญหาการใช้อาวุธชีวภาพการประสานความร่วมมือพหุภาคีเพื่อแก้ปัญหาการใช้อาวุธชีวภาพ สภาความมั่นคง แห่งชาติ กระทรวง กลาโหม กระทรวงมหาดไทย งานข้อมูลข่าวสาร การเฝ้าระวังการประสานความร่วมมือ พหุภาคีเพื่อแก้ปัญหาการใช้อาวุธชีวภาพ สอบสวน ชันสูตร ปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุ การรักษาพยาบาล เวชภัณฑ์ วัสดุ อุปกรณ์ ด้านอื่นๆ กระทรวง วิทยาศาสตร์ฯ กระทรวง สาธารณสุข หน่วยงาน ภาคเอกชน สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ องค์กรสาธารณประโยชน์

  10. แผนเตรียมพร้อม รับมือภัยคุกคาม จากอาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี แผนบรรเทาภัยจากอุทกภัย วาตภัย โคลนถล่ม แผนบรรเทาภัยจากอัคคีภัย แผนบรรเทาภัยจากโรคระบาดสัตว์ แผนบรรเทาภัยจากไฟป่า แผนป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน แห่งชาติ ๒๕๔๘ แผนบรรเทาภัยจากการคมนาคม ขนส่ง แผนบรรเทาภัยจากแผ่นดินไหว แผนบรรเทาภัยจากภัยแล้ง แผนบรรเทาภัยจากสารเคมี วัตถุอันตราย แผนบรรเทาภัยจากอากาศหนาว

  11. นโยบายความมั่นคงแห่งชาตินโยบายความมั่นคงแห่งชาติ แนวทางการอำนวยการ การเตรียมพร้อมต่อภัยคุกคามจากอาวุธชีวภาพ นโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ (สมช.) แผนการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553-2557 แนวทางการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข จากโรคติดต่ออุบัติใหม่ อาวุธชีวภาพ

  12. อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพอนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ Biological Weapons Convention - BWC • ห้ามรัฐภาคีพัฒนา ผลิต และสะสมอาวุธชีวภาพ และให้ทำลายอาวุธที่มีอยู่ในครอบครอง อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพถือเป็นความตกลงพหุภาคีด้านการลดอาวุธฉบับแรกของโลก • ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ เป็นลำดับที่ 38 โดยให้สัตยาบันเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518)

  13. คู่มือการสวมใส่ถอดเครื่องป้องกันร่างกายการส่วนบุคคลคู่มือการสวมใส่ถอดเครื่องป้องกันร่างกายการส่วนบุคคล การสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข ชุดสาธิตการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการฯ

  14. แนวทางปฏิบัติ กรณีพบจดหมายหรือพัสดุต้องสงสัยว่าอาจบรรจุอาวุธชีวภาพ

  15. แนวทางปฏิบัติ ผู้ป่วยที่น่าสงสัยว่าอาจเกิดจากอาวุธชีวภาพ โดยไม่ปรากฎเหตุการณ์แพร่เชื้อที่ชัดเจน

  16. สรุป • ประเทศจำเป็นต้องมีความพร้อมต่อภัยจากอาวุธชีวภาพ • ความพร้อมของประเทศ ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของโครงสร้างพื้นฐาน /บุคลากร ที่มีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ สาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม และ ความมั่นคง • ประสบการณ์การรับมือกับภัยคุกคามอาวุธชีวภาพ และโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ แสดงว่าประเทศมีศักยภาพและความพร้อม และต้องพัฒนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น • การปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพ ต้องทำในหลายมิติ เช่น นโยบาย การประเมินความเสี่ยง แผนเตรียมพร้อม การจัดองค์กร บุคลากร งบประมาณ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือพหุภาคี • การดำเนินนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายด้านความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญต่อความเสี่ยงและความพร้อมของประเทศ

  17. ขอบคุณครับ

More Related