1 / 26

สารที่มีค่าลดทอนเหมือนกัน

34. สารที่มีค่าลดทอนเหมือนกัน . จัดว่าอยู่ในสภาวะที่สอดคล้องกัน. มีแนวโน้มที่จะมีสมบัติคล้ายคลึงกัน. จากหลักของสภาวะที่สอดคล้อง และค่าวิกฤตต่างๆ จะสามารถหาค่า P, V และ T ได้. 35. Compressibility factor, Z. Reduced pressure, P r.

khan
Télécharger la présentation

สารที่มีค่าลดทอนเหมือนกัน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. 34 สารที่มีค่าลดทอนเหมือนกัน • จัดว่าอยู่ในสภาวะที่สอดคล้องกัน • มีแนวโน้มที่จะมีสมบัติคล้ายคลึงกัน จากหลักของสภาวะที่สอดคล้อง และค่าวิกฤตต่างๆ จะสามารถหาค่า P, V และ T ได้

  2. 35 Compressibility factor, Z Reduced pressure, Pr ความสัมพันธ์ระหว่างcompressibility factorกับตัวแปรลดทอนสำหรับแก๊สต่าง ๆ

  3. 36 ใช้สมการของแก๊สอุดมคติ PV = RT เพื่อ กำหนดอุณหภูมิ ที่ P ต่ำ แก๊สจะมีPV 0เมื่อ T ต่ำกว่า -273 oC เล็กน้อย อุณหภูมิสัมบูรณ์ (ABSOLUTE TEMPERATURE) มาตราอุณหภูมิของแก๊สอุดมคติ ( Ideal Gas Temperature Scale)

  4. 37 อุณหภูมินี้เป็นขีดจำกัดล่างของมาตราอุณหภูมิ เรียกว่า อุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero temperature) เนื่องจากไม่สามารถทำให้ แก๊สมีอุณหภูมิลดลง ถึงศูนย์องศาสัมบูรณ์ได้ จึงใช้ อุณหภูมิที่จุด ร่วมสาม (triple point temperature, Tt ) ของน้ำ ในการหาอุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์

  5. 38 C E Pressure (atm) B Tt = 273.15 oC A (oC) Temperature (o C) แผนภาพวัฏภาคของน้ำ T(K) = t ( oC) + 273.15

  6. 39 สมการของสถานะสำหรับแก๊สจริง (EQUATION OF STATE FOR REAL GAS) Van der Waals เสนอว่า 1. ความดันของแก๊ส เกิดจากการที่โมเลกุลของแก๊ส เคลื่อนที่ชนผนังภาชนะ ถ้าแก๊สมีแรงดึงดูด ระหว่างโมเลกุล ความดันแก๊สที่วัดได้จะน้อยกว่า ความดันของแก๊สอุดมคติ เนื่องจาก

  7. 40 ความดันที่ลดลง ต n2 V2 Pideal = Preal+ a n2 V2 (1) แรงที่ชนผนังภาชนะลดลง ต ความเข้มข้นของโมเลกุล (n / V) (2) จำนวนครั้งของการชนลดลง ต ความเข้มข้นของโมเลกุล (n / V) a = ค่าคงที่ ขึ้นกับแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุล

  8. 41 2. แก๊สอุดมคติไม่มีปริมาตรโมเลกุล แต่แก๊สจริง มีปริมาตรโมเลกุล ปริมาตรส่วนหนึ่งของภาชนะ จะมีโมเลกุลของแก๊สอยู่ ถ้าใส่โมเลกุลใหม่เข้าไป จะเคลื่อนที่ได้เฉพาะช่องว่างที่เหลือ ปริมาตรที่โมเลกุลใหม่ไม่สามารถเคลื่อนที่เข้าไปได้ เรียกว่าปริมาตรที่ถูกกีดกัน (excluded volume, b ) Videal = Vreal- nb

  9. 42 (P+ a n2 )( V - nb ) = nRT V2 IDEAL GAS EQUATION : PV = nRT VAN DER WAALS EQUATION:

  10. 43 ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอุดมคติ (KINETIC THEORY OF IDEAL GASES) ทฤษฎีนี้อาศัยข้อสมมุติดังนี้ 1. แก๊สอุดมคติประกอบด้วยโมเลกุลที่มีมวล แต่ไม่มี ปริมาตร 2. โมเลกุลของแก๊สเคลื่อนที่ตลอดเวลา ทุกทิศทาง อย่างไม่เป็นระเบียบ โดยการเคลื่อนที่แบบเลื่อนที่ (translation motion)ของโมเลกุลเท่านั้นที่มีผลต่อ ความสัมพันธ์ของ P, V, T, n

  11. 44 Translation kinetic energy = 1 mv2 2 3. ไม่มีแรงดึงดูด / แรงผลักระหว่างโมเลกุล ดังนั้น การชนกันของโมเลกุล จึงไม่มีการรับ / สูญเสีย พลังงาน เรียกว่า การชนแบบยืดหยุ่น (elastic collision)

  12. 45 KINETIC PRESSURE EQUATION: P = 1 Nomv2 = 2 Etrans 3 V 3 V KINETIC TEMPERATURE EQUATION: T = mv2 = 2 Etrans3k 3 R

  13. 46 V = ปริมาตรต่อโมลของแก๊ส Etrans= พลังงานจลน์ในการเลื่อนที่ของโมเลกุลใน 1 โมล m = มวลของ 1 โมเลกุล v = ความเร็วในการเคลื่อนที่ของโมเลกุล No = เลขอาโวกาโดร R = ค่าคงที่ของแก๊ส = 8.314 J K-1 mol -1 k = ค่าคงที่ของ Boltzmann = R / N0 = 1.381 x 10-23 J K-1 molecule-1

  14. 47 l = V 2 1/2pNd2 ระยะเสรีเฉลี่ย (Mean Free Path, l ) คือ ระยะทางเฉลี่ยระหว่างการชนกันของโมเลกุล d = เส้นผ่านศูนย์กลางของโมเลกุล

  15. 48 ถ E ถV = 0 นิยามที่สมบูรณ์ของแก๊สอุดมคติ แก๊สอุดมคติไม่มีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุล ดังนั้น พลังงานภายในจะไม่ขึ้นกับระยะทางระหว่างโมเลกุล IDEAL GAS EQUATION : IDEAL GAS EQUATION :PV = nRT แก๊สใดๆ ที่เป็นไปตามสมการทั้งสองนี้ จัดเป็น แก๊สอุดมคติ

  16. 49 พลังงานภายใน (Internal energy, E) คือ พลังงานที่มีอยู่ในสารนั้นๆ ได้แก่ 1. พลังงานทางไฟฟ้าที่เกิดจากแรงดึงดูดของ e- กับ นิวเคลียส และแรงผลักระหว่าง e- กับ e-( Eelect) 2. พลังงานจลน์ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของอนุภาค ( Etrans + Erot + Evib) 3. พลังงานนิวเคลียร์ของนิวเคลียส( Enuclear) E =Eelect +Etrans + Erot + Evib+ Enuclear

  17. 50 พลังงานภายใน ไม่สามารถวัดได้โดยตรง จะวัดได้แต่ DE

  18. 51 r M d = = 1 2 2 r M d 2 1 1 การแพร่ของแก๊ส (DIFFUSION OF GASES) การแพร่ของแก๊สเกิดขึ้นได้เร็ว โดยเกิดขึ้นที่ V, P, T, n คงที่

  19. 52 • เกิดจากความแตกต่างของ ศักย์เคมี (chemical potential)ทำให้โมเลกุลของแก๊สเคลื่อนที่โดย อิสระในทิศทางต่างๆ กัน จนศักย์เคมีเท่ากันหมด • ระบบที่เกิดการแพร่ ซึ่งถือว่าเป็นระบบโดดเดี่ยว ที่ V คงที่ จะเปลี่ยนไปอยู่ในภาวะสมดุล(S สูงสุด) ถ้าระบบถูกรบกวน และทำให้เกิดการแยกตัวของ แก๊ส ระบบจะกลับสู่ภาวะสมดุลซึ่งมีการกระจายตัว อย่างสม่ำเสมอได้เอง

  20. 53 D gMh E P p - = - = ln RT P RT 0 สูตรทางบารอเมตริก (The Barometric Formula) ความดันบรรยากาศจะแปรผันกับความสูง ถ้าจำนวนโมเลกุลแปรผันกับความสูง สมมุติว่าในแนวตั้งของบรรยากาศ มีอุณหภูมิ T คงที่

  21. 54 gMh DEp P ln = - = - P RT RT 0 DEp = การเปลี่ยนแปลงพลังงานศักย์ของโมเลกุล 1 โมล จาก h = 0 ถึง h โดยความดันเปลี่ยนจาก P0 P P0 ,P = ความดันที่ความสูง h = 0 และ h g = ค่าคงที่ของแรงโน้มถ่วง (gravitational constant) M = มวลโมเลกุล

  22. 55 DEp P ln = - P0 RT P = Poe- DE / RT p e = พลังงานศักย์เฉลี่ยของหนึ่งโมเลกุลที่ความสูง h = Ep / N0 R k = ค่าคงที่ของโบลต์ซมันน์ = N 0 = P0e-(e - e0) / kT

  23. 56 N = V N N 0 e- (e - e ) / kT = 0 V V 0 e- (e - e ) / kT = N N 0 0 T ที่คงที่P ต จำนวนโมเลกุลใน 1 หน่วยปริมาตร ถ้าหน่วยปริมาตรคงที่ BOLTZMANN EQUATION :

  24. การหาน้ำหนักโมเลกุลที่ถูกต้องการหาน้ำหนักโมเลกุลที่ถูกต้อง (Determination of Accurate Molecular Weights) 57 เมื่อ P0 ; Z = PV = 1 nRT PV = 1 w RT m wRT M = PV

  25. 58 wRT = M PV ถ้าเขียนกราฟระหว่างapparent molecular weight M = wRT / PVกับP ที่ P ต่ำๆ จะได้เส้นตรง ซึ่งเมื่อ ต่อไปยัง P = 0 จะได้น้ำหนักโมเลกุลที่ถูกต้อง ภาย ใต้สภาวะของแก๊สอุดมคติ

  26. 59 น้ำหนักโมเลกุลของไอของกรดแอซีติกในสถานะแก๊ส เป็นฟังก์ชันกับความดันแก๊ส กรดแอซีติกในสถานะแก๊ส ที่ความดันปานกลาง ประกอบด้วย โมเลกุลไดเมอร์ ( HOAc)2

More Related