1 / 34

NIDA Macro Forecast แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงการเมืองและเศรษฐกิจโลก

24 ธันวาคม 2 556. NIDA Macro Forecast แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงการเมืองและเศรษฐกิจโลก. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุทธนา เศรษฐปราโมทย์ คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. Key Assumptions. Key Assumptions.

loe
Télécharger la présentation

NIDA Macro Forecast แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงการเมืองและเศรษฐกิจโลก

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. 24ธันวาคม2556 NIDA Macro Forecast แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงการเมืองและเศรษฐกิจโลก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุทธนา เศรษฐปราโมทย์ คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

  2. Key Assumptions

  3. Key Assumptions • การใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะรายจ่ายด้านการลงทุนชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปี 2556 ตามปัญหาในการเบิกจ่ายงบประมาณ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในไตรมาสที่ 4/2556 การเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะทำให้การชะลอตัวของการเบิกจ่ายงบประมาณต่อเนื่องยังปี 2557 • ดังนั้น จากเดิมที่คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่องยังปี 2557 จึงไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันทำให้สมมุติฐานเกี่ยวกับการใช้จ่ายภาครัฐปรับลดลงทั้งในปี 2556 และ 2557 เมื่อเทียบกับปี 2555

  4. Key Assumptions • มูลค่าการค้าโลกชะลอตัวลงในปี 2556(คาดว่าจะขยายตัว 2%) ต่อเนื่องจากปี 2555 (ขยายตัว 0.4%) โดยการขยายตัวร้อยละ 2 นี้จะสูงกว่าช่วง 3 ไตรมาสแรกซึ่งขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 0.5แต่คาดว่ามูลค่าการค้าโลกจะฟื้นตัวในปี 2557 ตามการดีขึ้นของเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรป ทำให้คาดว่ามูลค่าการค้าโลกในปี 2557จะเติบโตใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต (10%) • ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในปี 2557 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าราคาน้ำมันในช่วงไตรมาสที่ 4/2557 จะอยู่ระดับประมาณ 128 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าระดับในปี 2556 อยู่ร้อยละ 25

  5. NIDA MACRO FORECAST: 2556 - 2557

  6. GDP Component: 2013-2015

  7. GDP Growth Outlook: 2556-2557 • เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวร้อยละ 2.7 (YoY Seasonal Adjusted data) ซึ่งลดลงจากครึ่งแรกของปีซึ่งขยายตัวร้อยละ 4.2 แต่การส่งออกเริ่มอยู่ในระดับทรงตัวและกระเตื้องขึ้นจากไตรมาสที่ 2 เล็กน้อย • คาดว่าแนวโน้ม GDP Growth ในไตรมาสที่ 4 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (อัตราการขยายตัวร้อยละ 0) • ปัจจัยด้านอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวตามปัญหาการเมืองรวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนภาครัฐ

  8. GDP Growth Outlook: 2556-2557 ดังนั้น NIDA Macro Forecast ประมาณการว่า • เศรษฐกิจในปี 2556 จะขยายตัวร้อยละ 2.7ลดลงจากค่าพยากรณ์ครั้งที่ผ่านมาเมื่อเดือนมิถุนายนซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 4.3 และการพยากรณ์ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 3.7 • เศรษฐกิจในปี 2557 จะขยายตัวร้อยละ 4.4ลดลงจากค่าพยากรณ์ครั้งที่ผ่านมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 4.9 โดยปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของรายจ่ายภาครัฐ และการชะลอตัวของรายรับทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะในไตรมาสที่ 1/2557

  9. GDP Growth Component: 2556-2557 • ในปี 2557 คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวร้อยละ 5.0 ฟื้นตัวจากในปี 2556 ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.0 หากความวุ่นวายทางการเมืองคลี่คลาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ • นอกจากนี้การลงทุนก็มีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าในปี 2556 ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.5 โดยในปี 2557 คาดว่าการลงทุนจะขยายตัวประมาณร้อยละ 7.4 หากปัญหาการเมืองเริ่มคลี่คลาย จะทำให้โครงการลงทุนที่ชะลอตัวไปในปี 2556 ตามเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการเมืองมีความไม่แน่นอนปรับตัวเพิ่มขึ้น

  10. Inflation Outlook: 2556-2557 • เงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปี 2556 ชะลอตัวลงโดยเฉพาะในช่วงเดือน มิ.ย.- ต.ค. ซึ่งโดยเฉลี่ยช่วง ม.ค.- พ.ย. อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.24 • คาดว่าทั้งปี 2556 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 2.3 และ 2.4 ในปี 2557 • ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำต่อเนื่องเช่นเดียวกันโดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.17 และ 1.4 ในปี 2556 และ 2557 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ร้อยละ 0.5 – 3.0, ค่ากลางของร้อยละ 1.75)

  11. International Trade: 2556 - 2557

  12. International Trade Outlook: 2556-2557

  13. International Trade: 2556 - 2557 • ในช่วงเดือน ม.ค.- ต.ค. มูลค่าการส่งออกของไทยอยู่ในระดับทรงตัว (หดตัวร้อยละ -0.02) คาดว่าในช่วงพ.ย. มูลค่าการส่งออกจะกระเตื้องขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการส่งออกของจีนในเดือน พ.ย. ที่ดีขึ้น แต่การดีขึ้นนี้จะยังเห็นไม่ชัดในช่วง พ.ย. –ธ.ค.56 โดยคาดว่าการขยายตัวของมูลค่าการส่งออก (US$) น่าจะขยายตัวร้อยละ 0.4 • ในปี 2557 คาดว่าการค้าโลกจะปรับตัวดีขึ้นจากเดิมคาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2 ในปี 2556 เป็นร้อยละ 10 ในปี 2557 ทำให้คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะขยายตัวประมาณร้อยละ 5.6 ในปี 2557 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2557

  14. International Trade: 2556 - 2557 • ด้านมูลค่าการนำเข้าคาดว่าจะทรงตัว (อัตราการขยายตัวร้อยละ -0.2) ในปี 2556 และขยายตัวร้อยละ 4.1 ในปี 2557 • ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าในปี 2556 จะขาดดุล ประมาณ 6.9 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 1.8 ของ GDP แต่ในปี 2557 ดุลบัญชีเดินสะพัดจะปรับตัวดีขึ้นเป็นเกินดุลตามการฟื้นตัวของการส่งออก

  15. Fiscal Policy Outlook: 2556-2557 • ในไตรมาสที่ 3/2556 ถึงแม้ว่าการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาครัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงต่อเนื่อง (ร้อยละ 7.4) แต่การลงทุนภาครัฐมีการปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว (ร้อยละ -16.2) ซึ่งต่างที่เคยคาดหมายไว้ว่าน่าจะมีการขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งแนวโน้มไตรมาสที่ 4/2556 การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มชะลอตัวในด้านการลงทุนตามความล่าช้าในการเบิกจ่ายในช่วงเดือน ต.ค.- พ.ย. ที่ผ่านมา และในเดือน ธ.ค. ปัญหาการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญที่น่าจะทำให้การใช้จ่ายภาครัฐ ชะลอตัวลงทั้งรายจ่ายด้านการบริโภคและการลงทุน • ส่วนแนวโน้มในปี 2557 มีความไม่แน่นอนสูงตามความไม่แน่นอนทางการเมืองโดยจะกล่าวถึงในส่วนการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง

  16. ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทยที่สำคัญในปี 2557 • ในปี 2557 ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยที่มาจากทั้งภายในและภายนอกประเทศประกอบด้วย 1. Domestic risk factor: • Political stability 2. International risk factor • US recovery **** Both domestic and international risk factor depends on the political situation in both Thai and US government ***

  17. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภายในประเทศไทยในปี 2557 • ปัญหาทางการเมืองในเดือน พ.ย. – ธ.ค. 2556 ไม่เพียงส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล และนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่เท่านั้น หากยังมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนในการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งหรือการปฎิรูปทางการเมือง ซึ่งผลของความไม่แน่นอนนี้เพิ่มความเสี่ยงทั้งในด้านทิศทางของการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดความวุ่นวายและความรุนแรงตามมา

  18. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภายในประเทศไทยในปี 2557 • ดังนั้น ผลจากปัจจัยทางการเมืองปัจจุบันจึงส่งผลต่อเศรษฐกิจมหภาคในช่องทางต่อไปนี้ • การชะงักงันในการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะงบด้านการลงทุนตามการยุติของพรบ.กู้ยืม 2 ล้านล้านบาท และตามการเบิกจ่ายในโครงการลงทุนอื่นๆ ซึ่งจะมีความล่าช้าตามมา • การชะลอการใช้จ่ายของภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน โดยการลงทุนจะได้รับผลกระทบแรงกว่าเพราะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างๆ โดยตรง • การลดลงของนักท่องเที่ยวต่างประเทศซึ่งเป็นรายได้หลักของไทยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2556

  19. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภายในประเทศไทยในปี 2557 • ในการวิเคราะห์จะทำการประเมินผลจากความเสี่ยงของปัญหาการเมืองดังต่อไปนี้ • สถานการณ์ปกติ คาดว่าการเมืองจะเริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาสที่ 1/2557 โดยมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง และมีแนวทางในการปฎิรูปในช่วงนั้น - ผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลจะยังมีอยู่เนื่องจากมีความล่าช้าตามการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง - แต่ผลสืบเนื่องต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในปี 2557 จะมีอยู่ในวงจำกัด - ผลการวิเคราะห์ของสถานการณ์นี้จะสะท้อนในข้อสมมุติพื้นฐานและผลการพยากรณ์ดังกล่าวถึงข้างต้น

  20. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภายในประเทศไทยในปี 2557 • สถานการณ์รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ (Bad scenario) - สถานการณ์รุนแรงขึ้นและมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 1/2557 - ผลกระทบจากสถานการณ์นี้ไม่เพียงส่งผลต่อความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ แต่จะทำให้การเบิกจ่ายชะงักอย่างรุนแรง โดยกำหนดให้รายจ่ายเพื่อการบริโภคภาครัฐขยายตัวเพียงร้อยละ 2.0 และรายจ่ายเพื่อการลงทุนภาครัฐหดตัวร้อยละ -0.5 - นอกจากนี้ผลกระทบยังต่อเนื่องยังการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ชะงักงันต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2557

  21. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภายในประเทศไทยในปี 2557 • สถานการณ์ดีขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ (Good scenario) - สถานการณ์ยุติลงในไตรมาสที่ 1/2557 - รัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพในเวลาที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยกำหนดให้รายจ่ายเพื่อการบริโภคขยายตัวได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.8 และรายจ่ายเพื่อการลงทุนขยายตัวร้อยละ 10

  22. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภายในประเทศไทยในปี 2557 • ผลจากสถานการณ์ความเสี่ยงทางการเมืองทั้งด้านแย่และดี สามารถแสดงได้ดังข้อสมมุติประกอบการพยากรณ์ดังต่อไปนี้

  23. สถานการณ์ความเสี่ยงทางการเมืองในด้านแย่และดี

  24. แนวโน้มเศรษฐกิจภายใต้ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมืองแนวโน้มเศรษฐกิจภายใต้ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมือง • ในกรณีที่การเมืองแย่กว่าที่คาดการณ์จะส่งผลให้การขยายตัวของ GDP ในปี 2557 ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 3.3 จากการลดลงของการบริโภคและการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการลงทุนจะอยู่ในระดับติดลบทั้งภาครัฐและเอกชน ส่วนการบริโภคมีการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าปกติ (ร้อยละ 2) • ในกรณีที่การเมืองดีกว่าที่คาดการณ์จะส่งผลให้การขยายตัวของ GDP ในปี 2557 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากการการใช้จ่ายภาครัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เร็ว และผลกระทบไม่ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวลดลง

  25. ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกในปี 2557 • ในการวิเคราะห์จะทำการประเมินผลจากความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกดังต่อไปนี้ • สถานการณ์ปกติ คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2557 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยมูลค่าการค้าโลกจะขยายตัวประมาณร้อยละ 10 และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 117.8 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในช่วงปลายปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2556

  26. ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกในปี 2557 • สถานการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า - หากเศรษฐกิจโลก มีการฟื้นตัวช้าเนื่องจากการเศรษฐกิจสหรัฐฯ เกิดความชะงักงันในการฟื้นตัวเป็นช่วงๆ เช่นเดียวกับในปี 2556 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดตามมาจากปัญหาความขัดแย้งในรัฐสภาสหรัฐฯ ได้แก่ปัญหา Fiscal Cliff ในช่วงต้นปีและปัญหาเพดานหนี้สาธารณะในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากเกิดขึ้นอีกในปี 2557 จะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าลง ทำให้มูลค่าการค้าโลกเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 7 และราคาน้ำมันดิบในช่วงปลายปี 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 110 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในช่วงปลายปี 2557

  27. ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกในปี 2557 • สถานการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเร็ว - หากเศรษฐกิจโลก มีการฟื้นตัวเร็วเนื่องจากการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่นให้ฟื้นตัว จะทำให้มูลค่าการค้าโลกขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยจะส่งผลให้มูลค่าการค้าโลกเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13 และราคาน้ำมันดิบในช่วงปลายปี 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 140 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในช่วงปลายปี 2557

  28. ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกในปี 2557 • ผลจากสถานการณ์ความเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจโลกทั้งด้านแย่และดี สามารถแสดงได้ดังข้อสมมุติประกอบการพยากรณ์ดังต่อไปนี้

  29. สถานการณ์ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกในด้านแย่และดี

  30. แนวโน้มเศรษฐกิจภายใต้ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกแนวโน้มเศรษฐกิจภายใต้ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก • ในกรณีที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์จะส่งผลให้การขยายตัวของ GDP ในปี 2557 ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 3.6 จากการลดลงของปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการ ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าปกติ (ร้อยละ 4) • ในกรณีที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์จะส่งผลให้การขยายตัวของ GDP ในปี 2557 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากการปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ (ร้อยละ 8.1)

  31. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจโลกในปี 2557 • หากเกิดปัจจัยทั้งจากการเมืองและเศรษฐกิจโลกทั้งในด้านดีและและด้านแย่ (กำหนดตามที่กล่าวถึงข้างต้น) ข้อสมมุติประกอบการพยากรณ์จะแสดงได้ดังนี้

  32. ปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจโลกในปี 2557 • ผลการพยากรณ์ทั้งในกรณีที่แย่และดีที่สุดแสดงได้ดังนี้

  33. แนวโน้มเศรษฐกิจภายใต้ปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดแนวโน้มเศรษฐกิจภายใต้ปัจจัยเสี่ยงทั้งหมด • ในกรณีที่แย่ที่สุดทั้งจากปัญหาการเมืองภายในประเทศและเศรษฐกิจ คาดการณ์ว่าการขยายตัวของ GDP ในปี 2557 ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 2.5 • ในกรณีที่ดีที่สุด ทั้งจากปัญหาการเมืองภายในประเทศและเศรษฐกิจ คาดการณ์ว่าการขยายตัวของ GDP ในปี 2557 จะสามารถขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5.7

  34. Monetary Policy: 2556-2557 • ในปลายปี 2556 กนง.ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงิน (RP1) ในเดือน พย. เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาสที่ 3 • ในปี 2557 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินจะทรงตัวที่ระดับร้อยละ 2.25 เช่นกัน แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มกระเตื้องขึ้นเพราะแรงกดดันเงินเฟ้อยังมีอยู่ต่ำ โดยโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินมีได้ทั้งในด้านที่เพิ่มขึ้นและลดลงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจตามกรณีที่ดีและแย่ที่กล่าวถึงข้างต้น

More Related