1 / 18

SEO ? ...? SEO …SEO ?

SEO ? ...? SEO …SEO ?. เทคนิคการทำเว็บไซต์ห้องสมุดให้ติดอันดับต้น ในผลการค้นของ Search Engine 16 มีนาคม 2555. SEO ? ...? SEO …SEO ?. การปรับปรุง ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ Search Engine เพื่อให้ได้รับการจัดอันดับผลการค้นที่ดีขึ้น. SEO = Search Engine Optimization.

mandy
Télécharger la présentation

SEO ? ...? SEO …SEO ?

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. SEO?...? SEO…SEO ? เทคนิคการทำเว็บไซต์ห้องสมุดให้ติดอันดับต้น ในผลการค้นของ Search Engine 16 มีนาคม 2555

  2. SEO?...? SEO…SEO ? การปรับปรุง ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ Search Engine เพื่อให้ได้รับการจัดอันดับผลการค้นที่ดีขึ้น SEO = Search Engine Optimization

  3. ทำไมต้องทำ SEO

  4. ทำไม สบ. ต้องทำ SEO ผลการค้นสารสนเทศในเว็บห้องสมุด มสธ. ด้วย Search Engine อยู่ในลำดับที่ไม่ดีนัก มี Title tag ไม่ครบทุกเพจ ทำ Meta tag สำคัญๆ ไม่ครบ ใช้ Keywords ไม่ถูกต้อง เหมาะสม เนื้อหาที่นำเสนอมีการกระจายตัวของ Keywords ไม่เหมาะสม ไม่มีการปรับปรุงหน้าเว็บเพจ สารพัด Link ที่มีในเว็บ ไม่เหมาะสม ฯลฯ

  5. ผู้ใช้จำนวนมากกว่า 42% จะคลิกในอันดับที่ 1 ของหน้าผลการค้น • ผู้ใช้อีก 12% จะคลิกในอันดับที่ 2 ของหน้าผลการค้น • ส่วนอันดับที่ 3 ก็จะประมาณ 8.5% • อันดับที่ 4 ก็จะเป็นประมาณ 6% • อันดับที่ 5 ก็ประมาณ 5% • ส่วนอันดับ 7-10 จะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 3% • และมีผู้ใช้งานเพียง 10% เท่านั้นที่จะคลิกไปที่หน้าที่ 2 ของผลการค้น สิ่งควรรู้ก่อนทำ SEO ทำไมต้องติดอันดับต้นๆ ยิ่งอันดับอยู่ต้นๆ เท่าใด ยิ่งทำให้ผู้ใช้งานพบเห็น และคลิกเข้ามามากขึ้นเป็นเงาตามตัว

  6. 1. ประเภทของ Search Engine Search Engine แบ่งตามรูปแบบโครงสร้าง 1) Directories Search Engine มีโครงสร้างแบบฐานข้อมูล ที่เก็บข้อมูลแบบ รวมหลายๆ link เข้าไว้ด้วยกัน เช่น Yahoo Directory 2) Meta Search Engine เก็บข้อมูลจากหลายๆ Search Engine มาประมวล ไว้ในระบบของตนเอง แล้วนำผลที่ได้มาแสดงต่อผู้ใช้อีกต่อหนึ่ง 3) Crawler Based Search Engine จะมีแมงมุมหรือโรบอทไต่ไปเก็บข้อมูล จากเว็บที่แมงมุมเข้าไปถึง นำไปประมวลผลและจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ ตนเอง เช่น Google 4) Human/Social Search Engine อาศัยผู้ใช้งานด้วยกันค้นหาข้อมูลให้ผู้ใช้ คนอื่น โดยใช้การมีส่วนร่วมของสังคมในการจัดอับดับและแสดงผล สิ่งควรรู้ก่อนทำ SEO รู้จัก Search Engine ให้ดีก่อน

  7. 1) Major Search Engine เป็นกลุ่มที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด เช่น Google, Yahoo, MSN/live เป็นต้น การทำ SEO จึงมุ่งเน้นที่ 3 ค่ายนี้ เป็นหลัก 2) Minor Search Engine เป็นกลุ่ม search engine ที่มีคนมาร่วมกันเพิ่ม ข้อมูลได้แก่ Open Directory Project หรือ ODP และ LookSmart 3) Niche Search Engine เป็นกลุ่มของ search engine เฉพาะทาง ได้แก่ Technorati สิ่งควรรู้ก่อนทำ SEO 2. การแบ่งกลุ่มของ Search Engine เพื่อให้ง่ายต่อการทำ SEO

  8. สิ่งควรรู้ก่อนทำ SEO 3. การทำงานของ Search Engine สถาปัตยกรรมของ Search Engine ประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) เว็บครอว์เลอร์ เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่สำรวจ หรือท่องเว็บไซต์เพื่อรวบรวมเว็บ เพจใหม่ๆ หรือเว้บเพจที่เพิ่งมีการปรับปรุงเนื้อหาให้ได้มากที่สุด 2) ส่วนจัดทำดรรชนี เป็นการจัดทำหรือสร้างศัพท์ดรรชนีจากคำสำคัยที่ปรากฎใน เว็บต่างๆ ที่เว็บครอว์เลอร์ไปกวาดมา 3) ฐานข้อมูล เป็นที่จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาจากกระบวนการจัดทำดรรชนี ซึ่ง search engine จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการค้นสารสนเทศ 4) กลไกการค้นหา เป็นส่วนของ search engine ที่ทำหน้าที่ประมวลข้อคำถาม ของผู้ใช้และค้นหาเรื่องที่เข้ากับข้อคำถาม 5) ส่วนต่อประสานผู้ใช้ เป็นส่วนของ search engine ที่ทำหน้าที่ติดต่อกับผู้ใช้ ทั้งในขั้นการค้นและการแสดงผล

  9. สิ่งควรรู้ก่อนทำ SEO 4. รู้จักเหล้าแมงมุม และโรบอทให้ดีๆ จากการที่ Crawler, Bots, Robots หรือ Spider ถือเป็นหัวใจสำคัญของ search engine รายใหญ่ๆ ในการเข้าไปเก็บข้อมูลภายในเว็บไซต์ Crawler เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อให้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ โดยอาศัยการวิ่งตาม link ต่างๆที่มีอยู่ตามหน้าเว็บจากที่หนึ่ง ไปอีกที่หนึ่ง แมงมุมเหล่านี้จะวิ่งเก็บหน้าเว็บต่างๆ อยู่เป็นประจำ แต่มันก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าหน้าใหนอัพเดทหรือไม่ ถ้าหน้าเว้บใดไม่อัพเดทเหล่าแมงมุมก็จะไม่เหลี่ยวแล ทำให้ผลการค้นอยู่ในลำดับที่ไม่ดีได้ง่ายๆ

  10. Google…Googleทำไมต้อง Google ข้อมูลจาก Truehits.net

  11. Google PageRang เป็นการให้คะแนนแก่หน้าเว็บใดเว็บหนึ่ง โดยการอาศัย link เป็นหลัก เมื่อหน้าเว็บ a.html ส่ง link ไปยังหน้าเว็บ b.html นั่นคือการที่ a โหวตให้คะแนน b หน้าเว็บ b.html ก็จะได้ 1 คะแนน และถ้ามีเว็บ c, d, e, f ส่ง link เข้า b.html อีก เว็บ b ก็จะมีคะแนนเพิ่ม 4 คะแนน ดังนั้น ถ้าเรา link เว็บไปยังหน้าเว็บที่มี Outbound link ออกไปมากๆ นั้น จะส่งผลต่อค่า PR (PageRang) ที่จะลดลงตามไปด้วยนั่นเอง นั่นแสดงว่าหน้าเว็บของเรานั้นไม่ควร link ไปยังหน้าเว็บที่มี link ออกมากๆ ด้วยนั่นเอง

  12. Google Bots เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์ที่รู้จักกันดีว่า Spider หรือ Bots โดยวิ่งไปตาม link ต่างๆ ที่พบเห็นและเก็บได้ สำหรับ Google แบ่งประเภทของ Bots ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูล ดังนี้ 1. Fresh Bots แมงมุมพวกนี้จะวิ่งไปตามเว็บต่างๆ บ่อยครั้งและมากกว่ากลุ่มอื่น มีหน้าที่เก็บเนื้อหาของเว็บใหม่ๆ link ใหม่ๆ เท่านั้น และจะเก็บเฉพาะ text file และ html file 2. Google Bots กลุ่มแมงมุมที่เก็บเนื้อหาปกติตามเว็บ เก็บทั้งเนื้อหาใหม่และเก่า ทั้ง text file และ html file 3. Deep Bots กลุ่มแมงมุมที่เข้าไปเก็บไฟล์ทุกประเภทที่พบเจอ ทั้งไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ และไฟล์ที่บีบอัดต่างๆ

  13. Google Sandbox เป็นโปรแกรมดักกรองเว็บไซต์ที่เกิดใหม่ให้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่เว็บที่ทำขึ้นมาเพื่อปั่นค่า PageRangโดยการดูดเก็บเว็บไซต์ขยะเหล่านั้นไว้ระยะหนึ่งก่อน อาจะเป็นปี เพื่อป้องกันไม่ให้การจัดอันดับของ Google เปลี่ยนแปลงไป เว็บขยะที่ว่านี้ คือเว็บปลอม ที่ผู้ออกแบบไปจดชื่อโดเมนหลายๆ ชื่อ แล้วส่ง link เข้าเว็บของตนเอง เพื่อต้องการอันดับและค่า PageRangสูงๆ นั่นเอง

  14. เป็นค่าคะแนนความน่าเชื่อถือ โดยใช้คนจริงๆ ตรวจสอบความถูกต้องของคะแนนที่ได้อย่างละเอียด ค่า PR นั้นอาจจะถูกยึดโยงกับปริมาณของ link หากมีมากๆ ก็จะได้ค่า PR มากขึ้นด้วย แต่ในมุมของค่า TR นั้น นอกจากจะมีจำนวนของ link มากๆ แล้ว link นั้นจะต้องมีคุณภาพด้วยนั่นเอง ไม่ใช่ link ขยะ หรือ link แย่ๆ Google TrustRank

  15. Hiltop Algorithm เป็นโปรแกรมที่มีหน้าที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของเนื้อหาระหว่างเว็บไซต์ที่ link เข้าหากัน ทำให้การคัดกรอง หรือการจัดอันดับของ Google มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น Google ได้พัฒนาระบบให้สามารถเรียนรู้ได้ว่าเนื้อหาในหน้าเว็บที่เก็บมานั้นเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง และยังสามารถบอกได้อีกด้วยว่า เนื้อหานั้นควรมี keywords อะไรบ้างและยังมีการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ต่างๆ ของเว็บไซต์ ที่เกี่ยวข้องกับ link นั้นๆ อีกมากมาย

More Related