860 likes | 1.88k Vues
ภัยร้ายใกล้ตัวผู้หญิง. มะเร็ง. ปากมดลูก. มะเร็งปากมดลูก. พบมากที่สุดในสตรีไทย 20.9 ต่อ ประชากร 1 แสนคน เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละปี ประมาณ 6,192 ราย เสียชีวิตประมาณ ร้อยละ 57 ระดับโลก ผป.รายใหม่ปีละประมาณ 466 , 000 ราย.
E N D
ภัยร้ายใกล้ตัวผู้หญิงภัยร้ายใกล้ตัวผู้หญิง มะเร็ง ปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก พบมากที่สุดในสตรีไทย 20.9 ต่อ ประชากร 1 แสนคน เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละปี ประมาณ 6,192 ราย เสียชีวิตประมาณ ร้อยละ 57 ระดับโลก ผป.รายใหม่ปีละประมาณ 466,000 ราย
อุบัติการณ์ของมะเร็งปากมดลูกของไทย(พ.ศ.2535-2537) จังหวัด ต่อประชากร 1 แสนคน เชียงใหม่ 25.7 ลำปาง 23.1 ขอนแก่น 18.0 สงขลา 15.8 กรุงเทพ 18.5 ประเทศไทย 20.9 อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ปี25545 ราย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้มะเร็งปากมดลูกมีอุบัติการณ์สูงสาเหตุสำคัญที่ทำให้มะเร็งปากมดลูกมีอุบัติการณ์สูง 1.ขาดการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ 2.ขาดงบประมาณ 3.ขาดความตระหนัก 4.ขาดความต่อเนื่องและจริงจังของนโยบาย สตรีไทยได้รับการคัดกรองไม่ถึงร้อยละ 5
สาเหตุสำคัญ การติดเชื้อ HPV ไวรัสเอชพีวี มีมากกว่า 100 ชนิด แต่ที่ทำให้เกิดโรคมีประมาณ 30-40 ชนิด แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มเสี่ยงต่ำไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง แต่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่หรือหูดที่กล่องเสียง ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงก่อมะเร็งต่างๆ ได้แก่มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด อัตราการถ่ายทอดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียวสูงถึงร้อยละ 50-65 ระยะเวลาเชื้อเข้าสู่ร่างกายจนก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ใช้เวลานานประมาณ 10-15 ปี
ปัจจัยเสี่ยงทางนรีเวชวิทยา(ฝ่ายหญิง) 1.มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย 2.ตั้งครรภ์หรือมีลูกหลายคน 3.ภูมิคุ้มกันต่ำ 4.สูบบุหรี่ 5.ใช้ยาสเตียรอยด์6.มีคู่นอนหลายคน7.ไม่เคยตรวจคัดกรองมาก่อน8.กินยาคุมกำเนิดนาน
ปัจจัยเสี่ยงจากทางฝ่ายชาย 1.เป็นมะเร็งอวัยวะเพศ 2.เคยมีภรรยาเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือ นอนกับคนที่เป็นมะเร็งปากมดลูก 3.เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 4.มีประสบการณ์ทางเพศตั้งแต่อายุน้อย 5.มีคู่นอนหลายคน
มะเร็งปากมดลูก แบ่งออกเป็น 1.ระยะก่อนเป็นมะเร็ง 2.ระยะลุกลาม 1.ระยะก่อนเป็นมะเร็ง มักไม่มีอาการ มองไม่เห็นรอยโรคที่ปากมดลูก ในรายที่มีอาการอาจมีดังต่อไปนี้ -เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด(ร้อยละ 80-90) -เลือดออกสดๆ บ่อย นาน ซีดมาก -กระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือน หรือออกหลังร่วมเพศ -ตกขาวปนเลีอดมีกลิ่นเหม็น
มะเร็งปากมดลูก แบ่งออกเป็น 2.ระยะลุกลาม -มะเร็งกระจายออกไปทางด้านข้าง กดท่อไต กดหลอดเลือดและหลอดน้ำเหลืองกดเส้นประสาท และกระดูก -มะเร็งกระจายไปทางด้านหน้า ไปยังกระเพาะปัสสาวะ -กระจายไปยังทวารหนัก -ซีด น้ำหนักลด ผอมแห้ง มีอาการยูรีเมีย มีอาการจากการ กระจายของมะเร็งไปที่อื่นๆ ( ปอด ตับ กระดูก )
การรักษา 1.การดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก -จี้ด้วยความเย็น -ผ่าตัดด้วยเลเซอร์ -LEEP -รังสีรักษา -เคมีบำบัด -หลายวิธีร่วมกัน 2.การดูแลแบบผู้ป่วยใน -ตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย -ตัดมดลูก
มะเร็งปากมดลูก ปากมดลูกปกติ รูปมะเร็งปากมดลูก (ต่อ)
การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีหลายวิธี 1. Conventional Papanicolaou test(แป๊บ สเมียร์)2. Liquid-based cytology - Thin Prep 3. Colposcopy4. HPV test5. VIA (วีไอเอ)
Pap smear (แป๊บ สเมียร์) เริ่มนำมาใช้เมื่อ ค.ศ.1928 โดย Dr.George Nicholas Papanicolaou ผลปกติ 1 ครั้ง มีความเสี่ยงลดลง 48% ผลปกติ 2-4 ครั้ง มีความเสี่ยงลดลง 69% ผลปกติ 5 ครั้งขึ้นไป มีความเสี่ยงลดลง 100%
วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap smear)(ต่อ) การเตรียมผู้รับบริการ 1. อธิบายให้ผู้รับบริการรู้ขั้นตอน 2. ให้ผู้รับบริการถ่ายปัสสาวะก่อนตรวจ 3. จัดให้อยู่ในท่า Lithotomy4. ปิดตาผู้รับบริการ
วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap smear)(ต่อ) การเตรียมเครื่องมือ 1. ถุงมือสะอาด 2. Speculum ขนาดต่าง ๆ 3. ถ้วยใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ สำลี 4. Long Packing forceps 5. Ayre spatula สำลีพันไม้ slide และขวดน้ำยาสำหรับ fix(95%ethyl alcohal) 6. สารหล่อลื่น
แนวทางการปฎิบัติในการทำPap smear 1.ห้ามผู้รับริการใช้สารหล่อลื่น หรือสวนล้างช่องคลอด 2.ควรเก็บเซลล์ก่อนสอดนิ้วเข้าช่องคลอด 3.ใช้ NSS เช็ด speculum ห้ามใช้สารหล่อลื่น 4.ต้องเห็นปากมดลูกชัดเจน 5.รีบนำ slide จุ่มใน 95%alchohol ทันที
รูปการตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap smear)
VIA (วีไอเอ)เป็นการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก และการรักษาโดยวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยการใช้น้ำส้มสายชู ป้ายปากมดลูกเพื่อดูความผิดปกติของปากมดลูก เพราะน้ำส้มสายชูจะทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่ผิดปกติของปากมดลูก ทำให้เห็นเป็นฝ้าสีขาว ขอบเขตชัดเจน และตำแหน่งที่แน่นอน สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (visual inspection with acetic acid = VIA)
VIA (วีไอเอ)(ต่อ) หลังจากป้ายน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้ 1 นาที ก็สามารถตอบได้ถ้าผิดปกติจะเห็นเป็นฝ้าสีขาว มีขนาดและขอบเขตชัดเจน หากความผิดปกตินั้นมีขนาดเล็ก เห็นขอบเขตชัดเจนก็จะรักษาด้วยการจี้เย็นทันที ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 13 นาที โดยไม่ต้องใช้ยาชา ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาล ไม่มีโรคแทรกซ้อน และไม่เจ็บปวด หลังจากได้รับการรักษาสตรีผู้นั้นจะได้รับการตรวจติดตามผลอีก 3 - 4 เดือนต่อมา และทุก ๆ 1 ปี
VIA (วีไอเอ)(ต่อ) สำหรับสตรีที่ได้รับการตรวจแล้วผลปกติจะต้องรับการตรวจซ้ำอีกภายใน 5 ปีต่อมา จะเห็นว่าการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกและการรักษาโดยการจี้เย็นใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ข้อดีคือรู้ผลและได้รับการรักษาทันที สำหรับสตรีที่มีความผิดปกติมีฝ้าขาวแต่เห็นขอบไม่ครบ หรือมีขนาดกว้างมาก จะได้รับการส่งต่อไปรักษาโดยวิธีอื่น
VIA (วีไอเอ)(ต่อ)สตรีที่ควรตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกโดยวิธีVIA(วีไอเอ) 1. อายุน้อยกว่า 45 ปี เพราะสามารถเห็นตำแหน่งที่จะเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ชัดเจน 2. มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย 3. แต่งงานแล้ว 4. มีบุตรหลายคน 5. มีคู่นอนหลายคน6. ไม่มีอาการผิดปกติ
VIA (วีไอเอ)(ต่อ)อายุที่ควรเริ่มตรวจและความถี่ของการตรวจ 1. อายุ 30 - 45 ปี 2. ควรตรวจซ้ำทุก 5 ปี หลังตรวจครั้งแรกมีผลปกติ
VIA (วีไอเอ)(ต่อ)การเตรียมตัวก่อนมาตรวจ 1. หลังประจำเดือนหมดประมาณ 7 วัน 2. งดการเหน็บยา 4 - 5 วัน 3. งดการมีเพศสัมพันธ์ 2 - 3 วัน
ภัยร้ายใกล้ตัวผู้หญิงภัยร้ายใกล้ตัวผู้หญิง มะเร็ง ปากมดลูก สวัสดี
VIA (วีไอเอ)(ต่อ)อาการและการปฏิบัติตัวหลังจี้เย็น1. จะมีตกขาวมากกว่าปกติ จนอาจต้องใช้ผ้าอนามัยเป็นเวลา 3 - 4 สัปดาห์ 2. งดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 2 - 3 สัปดาห์ 3. หากมีการปวดท้องน้อยให้รับประทานยาแก้ปวด 4. ถ้ามีเลือดออก ซึ่งไม่ใช่ประจำเดือน มีไข้ มีตกขาว มีกลิ่น หรือมีอาการปวดท้องน้อยมาก รับประทานยา แก้ปวดแล้วไม่หาย ควรไปพบแพทย์