1 / 51

กลุ่มงานเภสัชกรรม

กลุ่มงานเภสัชกรรม. 30 พฤษภาคม 2551. กลุ่มงานเภสัชกรรม. บริบท ให้บริการทางเภสัชกรรมอย่างมีคุณภาพ ให้บริการจ่ายยาแก่ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ป่วยที่ศูนย์สุขภาพชุมชน (PCU)

noelle-bell
Télécharger la présentation

กลุ่มงานเภสัชกรรม

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. กลุ่มงานเภสัชกรรม 30 พฤษภาคม 2551

  2. กลุ่มงานเภสัชกรรม บริบท • ให้บริการทางเภสัชกรรมอย่างมีคุณภาพ • ให้บริการจ่ายยาแก่ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในตลอด 24ชั่วโมง และผู้ป่วยที่ศูนย์สุขภาพชุมชน (PCU) • ให้บริการทางเภสัชกรรมแก่ผู้ป่วย ให้สามารถใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ได้รับผลการรักษาที่ดี และเป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการ • ให้บริการข้อมูลด้านยาแก่บุคลากรสาธารณสุข และบุคคลทั่วไป • ทำงานเชื่อมประสานกับวิชาชีพอื่นๆ เพื่อให้เกิดระบบยาในโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ

  3. อัตรากำลัง เภสัชกร 14คน เจ้าพนักงานเภสัชกรรม 6 คน ลูกจ้างประจำ 7 คน ลูกจ้างชั่วคราว 10 คน รวม 37 คน

  4. ขอบเขตของงาน • งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอก • งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยใน • งานบริหารเวชภัณฑ์ • งานผลิตยา • งานบริการผสมยาเคมีบำบัดและการบริบาลทางเภสัชกรรมแก่ผู้ป่วยมะเร็ง ระบบยา

  5. ระบบยาโรงพยาบาลโพธารามระบบยาโรงพยาบาลโพธาราม

  6. งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอกงานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอก • จำนวนผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 754คน/วัน • ระบบการทำงาน • เภสัชกรคัดกรองใบสั่งยา • เภสัชกรส่งมอบยาให้แก่ผู้ป่วยทุกราย • ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในคลินิกต่างๆ แบบสหสาขาวิชาชีพ • ความดันโลหิตสูง • เบาหวาน • วาร์ฟาริน • ได้รับยาสูดพ่น • ได้รับยาต้านไวรัส / ยารักษาวัณโรค

  7. งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยในงานบริการจ่ายยาผู้ป่วยใน • จำนวนเตียง 340เตียง : 16หอผู้ป่วย • ระบบการทำงาน • เภสัชกรเห็นคำสั่งแพทย์โดยตรง (copy order) • จัดทำ patient drug profile • ระบบกระจายยาราย 3 วัน (ยาเม็ด) และทุกวัน (ยาฉีด) • มีระบบจัดการยาที่ผู้ป่วยนำมาจากบ้าน • เชื่อมประสานในการตรวจสอบข้ามวิชาชีพ (cross check)

  8. งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยในงานบริการจ่ายยาผู้ป่วยใน • ระบบการทำงาน (ต่อ) • พัฒนารูปแบบการจ่ายยาเพื่อช่วยในการบริหารยา • จัด-จ่ายยาให้แก่หอผู้ป่วยเป็นรายคน • ฉลากยาฉีดตามจำนวน dose • สนับสนุนข้อมูลยาเพื่อการบริหารยาบนหอผู้ป่วย • การเตรียมและความคงตัวของยาต้านจุลชีพ • การเก็บรักษาและการกำหนดอายุยาที่เปิดใช้ได้หลายครั้ง • การจัดการการแพ้ยา • การใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ฯลฯ

  9. งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยในงานบริการจ่ายยาผู้ป่วยใน • ระบบการทำงาน (ต่อ) • ร่วมทำงานใน patient care team ของทุกสาขาเพื่อการดูแลผู้ป่วย • การให้คำแนะนำการใช้ยาแก่ผู้ป่วยกลับบ้าน • สำรวจระบบสำรองยาบนหอผู้ป่วย และร่วมกันกำหนดรายการยาสำรองที่เหมาะสม

  10. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา (Medication Error) เหตุการณ์ใดๆ ที่สามารถป้องกันได้ ที่อาจเป็นสาเหตุ หรือนำไปสู่ การใช้ยาที่ไม่เหมาะสม หรือเป็นอันตรายแก่ผู้ป่วยแบ่งได้เป็น • ความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา และการคัดลอกคำสั่งใช้ยา (prescribing and transcribing error) • ความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา (dispensing error) • ความคลาดเคลื่อนในการให้ยา (administration error)

  11. ความคลาดเคลื่อนทางยาประจำปีงบประมาณ2550ความคลาดเคลื่อนทางยาประจำปีงบประมาณ2550 งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอก

  12. ความคลาดเคลื่อนทางยาประจำปีงบประมาณ2550ความคลาดเคลื่อนทางยาประจำปีงบประมาณ2550 งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยใน

  13. ความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยาความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา OPD ปีงบประมาณ 2550 IPD ปีงบประมาณ 2550 การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error)

  14. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา (Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา (ต่อ) ประเภทของความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา ปีงบประมาณ2550* *ข้อมูลงานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอก

  15. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา (Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา (ต่อ) • การจัดการ • แจ้งองค์กรแพทย์เพื่อร่วมกันหาแนวทางลดความคลาดเคลื่อน • การเขียนใบสั่งยาด้วยชื่อสามัญ • ไม่ใช้ตัวย่อที่ไม่เป็นสากล • การระบุความแรงให้ชัดเจนในยาที่มีหลายความแรง • เภสัชกรคัดกรองใบสั่งยาตั้งแต่จุดแรก • ปรับระบบโปรแกรมการบันทึกใบสั่งยา • การบันทึกใบสั่งยาด้วยชื่อสามัญ

  16. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา (Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา (ต่อ) ผลการดำเนินงานหลังปรับเปลี่ยนระบบคัดกรอง ปีงบประมาณ 2551 *ดำเนินการคัดกรองอย่างเต็มรูปแบบ งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอก

  17. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอก

  18. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา (ต่อ) งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยใน

  19. Category การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) ประเภทของความคลาดเคลื่อนตามระดับความรุนแรง(NCC MERP)งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยนอก

  20. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) ประเภทของความคลาดเคลื่อนตามระดับความรุนแรง (NCC MERP)งานบริการจ่ายยาผู้ป่วยใน คิดเป็นร้อยละ (%)

  21. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) การวิเคราะห์สาเหตุความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา ความคลาดเคลื่อนจากการ key ใบสั่งยา • ชื่อยาเขียนคล้ายกัน (sound alike) * ข้อมูลประจำปีงบประมาณ 2550

  22. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) ความคลาดเคลื่อนจากการจัดยา • ชื่อยาเขียนคล้ายกัน (sound alike) • ชื่อยาเดียวกันแต่คนละความแรง • ยามีลักษณะคล้ายกัน (look alike) * ข้อมูลประจำปีงบประมาณ 2550

  23. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา (ต่อ) • การจัดการ • แจ้งเตือนรายชื่อยาที่ key ผิดบ่อยติดไว้ที่หน้างาน • จัดทำรายการยาที่มีชื่อและรูปลักษณะคล้ายกัน (look alike & sound alike) • อบรมความรู้เรื่องความคลาดเคลื่อนทางยา และความรู้ด้านยา • จัดทำป้ายชื่อยาที่มีหลายความแรงให้แตกต่าง • จัดวางยาที่มักจัดสลับกันบ่อยให้ห่างกัน และสุ่มตรวจสอบการจัดเก็บยา • แก้ไขฉลากยาที่มีความแรงต่างกันให้เห็นเด่นชัดและมีความแตกต่าง เช่น PCM 325 mgและ PCM 500 mg

  24. รายการยาที่มีชื่อคล้ายกัน (sound alike)

  25. รายการยาที่มีรูปลักษณะคล้ายกัน (look alike)

  26. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา (Medication Error) • จัดทำป้ายชื่อยาที่มีหลายความแรงให้แตกต่าง • แก้ไขฉลากยาที่มีความแรงต่างกันให้เห็นเด่นชัดและมีความแตกต่าง

  27. OPD IPD การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) ความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา (ต่อ)ผลการดำเนินงานหลังปรับเปลี่ยนระบบ ปีงบประมาณ 2551 * นักศึกษาร่วมฝึกปฏิบัติงานจัดยา

  28. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา (Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา (ต่อ) ผลการดำเนินงานหลังปรับเปลี่ยนระบบ ปีงบประมาณ 2551

  29. ข้อมูลประจำปีงบประมาณ 2551 (6 เดือน) การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการให้ยา ความคลาดเคลื่อนในการให้ยา ปีงบประมาณ2550

  30. การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา(Medication Error) • ความคลาดเคลื่อนในการให้ยา • การจัดการเพื่อช่วยลดความคลาดเคลื่อนในการบริหารยาบนหอผู้ป่วย • ปรับระบบการกระจายยาราย 3 วัน • Cross check ระหว่างวิชาชีพ และ double check ระหว่างทีมดูแลผู้ป่วย • การจัดการยาที่ผู้ป่วยนำมาจากบ้าน • ร่วมกันกำหนดรายการยาและตรวจสอบระบบสำรองยาบนหอผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ • จัด-จ่ายยาเป็นรายคน ทำให้การตรวจสอบยาบนหอผู้ป่วยสะดวกและถูกต้องยิ่งขึ้น

  31. ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ (High Alert Drug) เป็นยาที่มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงกับผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญหรือทำให้เสียชีวิต หากมีการใช้อย่างคลาดเคลื่อน ระบบการจัดการ • คณะทำงานร่วมกันระหว่างแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร • วางแนวทางการจัดการยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และเฝ้าระวัง • การสั่งใช้ยา, การบริหารยา, การติดตามการใช้ยา • กำหนดรายการยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และการติดตามอย่างใกล้ชิด • เชื่อมโยงข้อมูล และร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการพัฒนา • จัดทำคู่มือแนวทางการจัดการยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ • อบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

  32. ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ (High Alert Drug) ระบบการจัดการ • การจัดหายา • กำหนดเกณฑ์ในการจัดซื้อ,จัดหา ให้มีรูปลักษณะต่างกัน และมีความแรงเดียว • การเก็บรักษายา • จัดวางยาที่ต้องระมัดระวังสูงแยกจากยาทั่วไป และมีป้ายชื่อยาและกล่องใส่ยาแตกต่างจากยาทั่วไป ทั้งในห้องยาและหอผู้ป่วย • หอผู้ป่วยสำรองยาที่ต้องระมัดระวังสูงเฉพาะรายการที่จำเป็น และไม่สำรองอิเล็คโตรไลท์ความเข้มข้นสูง เช่น KClมีระบบตรวจสอบในทุกเวร • การจัดเตรียมยา • ภาชนะบรรจุยาฉีดมีสัญลักษณ์ที่เป็นจุดสังเกตว่าเป็นยาที่ต้องระมัดระวังสูง • บนฉลากยาระบุสัญลักษณ์ที่เป็นจุดสังเกตว่าเป็นยาที่ต้องระมัดระวังสูง คือ สัญลักษณ์ “ ** ”

  33. ระบบการจัดการภายในห้องยาระบบการจัดการภายในห้องยา • ป้ายชื่อยาและกล่องใส่ยามีความแตกต่างจากยาทั่วไป และแยกเก็บ • มีสัญลักษณ์แสดงว่าเป็นยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษที่ภาชนะบรรจุยา

  34. ระบบการจัดการภายในห้องยาระบบการจัดการภายในห้องยา • ระบบคอมพิวเตอร์ ในขั้นตอนการ keyจะแสดงรายชื่อยาที่เห็นเด่นชัด • ฉลากยามีสัญลักษณ์แสดงว่าเป็นยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ “ ** ”

  35. ระบบการจัดการบนหอผู้ป่วยระบบการจัดการบนหอผู้ป่วย • แยกจัดเก็บยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษจากยาทั่วไป เป็นสัดส่วน • แผ่นพลิกความรู้เรื่องยาและการติดตาม

  36. ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ (High Alert Drug) ระบบการจัดการ • การสั่งใช้ยา • เขียนสั่งยาอย่างชัดเจน หลีกเลี่ยงการสั่งยาในลักษณะสัดส่วน • การถ่ายทอดคำสั่ง • หลีกเลี่ยงการรับคำสั่งทางโทรศัพท์ • สร้างจุดสังเกตในโปรแกรมการสั่งยา • การจ่ายยา • เภสัชกรส่งมอบยาด้วยตนเอง ประกอบการบริบาลทางเภสัชกรรม เช่น คลินิกวาร์ฟาริน และผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด • การบริหารยาและการติดตามกำกับยา • พยาบาลบันทึกการติดตามลงในแบบบันทึกทางการพยาบาลสำหรับยาที่ต้องระมัดระวังสูง

  37. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction) การติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ระบบการจัดการ • ทีมสหสาขาวิชาชีพทำงานร่วมกัน • แพทย์, พยาบาล, เภสัชกร • มีระบบคัดกรองการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ ในทุกหน่วยบริการ • มีระบบเตือนในทุกจุด (sticker เตือน, ป้ายเตือนที่เตียง, pop-up เตือน) • สรุปข้อมูลรายงานนำเสนอต่อผู้เกี่ยวข้อง • การแพ้ยาซ้ำ • การแพ้ยาในกลุ่มเดียวกัน • การเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง

  38. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction) สรุปรายงานการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ปีงบประมาณ 2550 • รายการยาที่พบการเกิดอาการไม่พึงประสงค์มากที่สุด *อาการไม่พึงประสงค์ที่พบทั้งหมด 77ราย ปีงบประมาณ 2550 *ไม่มีการแพ้ยาซ้ำ

  39. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction) • อาการไม่พึงประสงค์ที่พบ *SJS 3 ราย จากยา Allopurinol2, Carbamazepine1 • ช่วงอายุของผู้ป่วยที่พบการเกิดอาการไม่พึงประสงค์

  40. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction) • อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงที่พบ • รายการยาที่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง

  41. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction) ดัชนีชี้วัดที่สำคัญ งานติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา 6 *เป็นการแพ้ยาจากภายนอกโรงพยาบาล

  42. ระบบการจัดการ • ติดstickerเตือนทั้งผู้ป่วยที่แพ้ยาและได้รับอาการข้างเคียงที่รุนแรง • ระบบแจ้งเตือนการแพ้ยาในคอมพิวเตอร์

  43. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction) ระบบป้องกันการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ • แนวโน้มพบการแพ้ยาในผู้ป่วยบางกลุ่มมากขึ้น • ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ได้รับยาต้านไวรัส และยาCotrimoxazoleเพื่อป้องกันOI • ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ที่ได้รับยาAllopurinol • ผู้ป่วยที่ได้รับยากันชัก • วางแนวทางเพื่อป้องกัน • ให้เอกสารความรู้ในการเฝ้าระวังการเกิดอาการไม่พึงประสงค์แก่ผู้ป่วย • ติดตามการใช้ยาของผู้ป่วยประมาณ 6 เดือน • แลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมวิเคราะห์กรณีศึกษา เพื่อลดระดับความรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์ให้น้อยลง • ร่วมสร้างแนวทางป้องกันการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ป้องกันได้

  44. การเกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยา (Drug Interaction) ส่งผลต่อการรักษา และอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่เป็นอันตรายได้ ระบบการจัดการ • ร่วมกับแพทย์ในการกำหนดบัญชีรายการคู่ยาที่มีการเกิดปฏิกิริยาระหว่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

  45. การเกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยา (Drug Interaction) ระบบการจัดการ • ระบบแจ้งเตือนในคอมพิวเตอร์ เพื่อคัดกรองโอกาสเกิด DI • มีแนวทางจัดการร่วมกับแพทย์ พร้อมทั้งให้ความรู้แก่ผู้ป่วย

  46. การจัดการยาที่ผู้ป่วยนำมาจากบ้าน (Medication Reconciliation) ระบบการจัดการยาที่ผู้ป่วยนำมาจากบ้าน • การซักประวัติการใช้ยาของผู้ป่วย (ซื้อใช้เอง, จากคลินิก หรือ อาหารเสริม สมุนไพร) • ระบบการจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วย ให้ใช้ยาของ รพ. • ระบบการบริหารยาให้แก่ผู้ป่วย โดยเก็บยาเดิมไว้ก่อน • การพัฒนาแบบบัญชีรายการยากลับบ้านสำหรับผู้ป่วย

  47. งานบริหารเวชภัณฑ์ • มาตรการการคัดเลือกและจัดซื้อยา เชื่อมโยงข้อมูลกับ • การจัดการความคลาดเคลื่อนทางยา • การจัดการยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ • ติดตามข้อมูลยาที่ต้องติดตามความปลอดภัย (SMP) โดยประสานกับงานบริการจ่ายยาและ หอผู้ป่วย • จัดเก็บรักษายาอย่างเหมาะสม และให้ข้อมูลการจัดเก็บยาที่ถูกต้องกับหน่วยรับยา เพื่อประกันคุณภาพของยาที่จ่าย

  48. งานผลิตยา • การผลิตยาใช้ภายใน, ภายนอก และยาปราศจากเชื้อ • การผลิตยาเตรียมเฉพาะราย • มีระบบการแบ่งบรรจุยา ที่ช่วยลดความคลาดเคลื่อนทางยา โดยเชื่อมโยงข้อมูลกับงานบริการจ่ายยา • ร่วมทำงานในทีมเฝ้าระวังการติดเชื้อภายในโรงพยาบาล

  49. งานบริการผสมยาเคมีบำบัดและการบริบาลทางเภสัชกรรมแก่ผู้ป่วยมะเร็งงานบริการผสมยาเคมีบำบัดและการบริบาลทางเภสัชกรรมแก่ผู้ป่วยมะเร็ง • บริการผสมยาเคมีบำบัดเฉลี่ย 37 doses / เดือน • สืบค้นปัญหา และให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วย • มะเร็งเต้านม • มะเร็งลำไส้ใหญ่ • ร่วมดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดกับทีมแพทย์ และพยาบาล • ปรับระบบการดำเนินการให้เหมาะสม ได้มาตรฐาน • ปรับปรุงห้องเตรียมยาเคมีบำบัดให้เป็นสัดส่วน • ปรับเปลี่ยน preprint form ที่ระบุข้อมูลที่จำเป็นของผู้ป่วยอย่างครบถ้วน

  50. แผนพัฒนา • ระบบจัดการความคลาดเคลื่อนทางยาที่มีประสิทธิภาพ • ระบบยาที่มีคุณภาพ

More Related