1 / 16

ลุ่มน้ำวัง ที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ลุ่มน้ำ ภูมิอากาศ ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน

สำนักโครงการขนาดใหญ่ กรมชลประทาน. ลุ่มน้ำวัง ที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ลุ่มน้ำ ภูมิอากาศ ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน - ตารางเปรียบเทียบน้ำท่า-น้ำฝน ในกลุ่มลุ่มน้ำ ทรัพยากรดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน พื้นที่ทำการเกษตร. พื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทาน การประเมินความต้องการน้ำ

Télécharger la présentation

ลุ่มน้ำวัง ที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ลุ่มน้ำ ภูมิอากาศ ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สำนักโครงการขนาดใหญ่ กรมชลประทาน ลุ่มน้ำวัง • ที่ตั้ง • ลักษณะภูมิประเทศ • พื้นที่ลุ่มน้ำ • ภูมิอากาศ • ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน - ตารางเปรียบเทียบน้ำท่า-น้ำฝน ในกลุ่มลุ่มน้ำ • ทรัพยากรดิน • การใช้ประโยชน์ที่ดิน • พื้นที่ทำการเกษตร. • พื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทาน • การประเมินความต้องการน้ำ • ปัญหาของลุ่มน้ำ • ด้านภัยแล้ง • แนวทางแก้ไข ส่วนอำนวยการและติดตามประเมินผล

  2. 7. ลุ่มน้ำวัง ที่ตั้ง ลุ่มน้ำวังตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดลำปาง และตาก ลักษณะลุ่มน้ำวางตัวตามแนวเหนือ-ใต้ ทิศเหนือของลุ่มน้ำติดกับลุ่มน้ำโขงและลุ่มน้ำกก ทิศใต้และทิศตะวันตกติดกับลุ่มน้ำปิง และทิศตะวันออกติดกับลุ่มน้ำยม รูปที่ 7-1 แสดงที่ตั้ง ลุ่มน้ำวัง

  3. ลักษณะภูมิประเทศ ลุ่มน้ำวังเป็นลุ่มน้ำขนาดเล็ก ลักษณะภูมิประเทศเทือกเขาล้อมรอบตลอดแนวทางทิศตะวันตกของลุ่มน้ำ คือเทือกเขาขุนตาล ส่วนทิศตะวันออก คือเทือกเขาผีปันน้ำ และมีพื้นที่ราบลุ่มสลับกับที่ราบแคบๆตามหุบเขา และมีความยาวของลุ่มน้ำสั้นกว่าลุ่มน้ำอื่นๆ ในภาคเหนือ แม่น้ำวังมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาฝีปันน้ำไหลผ่านหุบเขา ที่บริเวณอำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง แล้วไหลลงทางทิศใต้เข้าสู่ที่ราบแคบๆ ตามหุบเขาและไหลสู่ที่ราบในจังหวัดตาก ก่อนจะบรรจบกับแม่น้ำปิงที่จังหวัดตาก รูปที่ 7-2 สภาพภูมิประเทศในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำวัง

  4. พื้นที่ลุ่มน้ำ ลุ่มน้ำวัง มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 10,792 ตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็น 7 ลุ่มน้ำ ตามตารางที่ 7-1 และรูปที่ 7-3 แสดงลุ่มน้ำย่อย ตารางที่ 7-1 ขนาดของพื้นที่ลุ่มน้ำย่อย 7.02 7.03 7.04 7.05 7.06 7.07 7.08 รูปที่ 7-3 แสดงลุ่มน้ำย่อย พื้นที่ลุ่มน้ำวัง

  5. ภูมิอากาศ ข้อมูลภูมิอากาศที่สำคัญของลุ่มน้ำนี้ ได้แสดงไว้แล้วตามตารางที่ 7-2 ซึ่งแต่ละรายการจะเป็นค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด และค่าเฉลี่ยเป็นรายปี ตารางที่ 7-2 แสดงข้อมูลภูมิอากาศที่สำคัญ

  6. ปริมาณน้ำฝน ลุ่มน้ำวังมีปริมาณฝนผันแปรตั้งแต่ 900 มิลลิเมตร จนถึง 1,400 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณน้ำฝนทั้งปีเฉลี่ยประมาณ 1,098.6 มิลลิเมตร ลักษณะการผันแปรของปริมาณฝนรายเดือนเฉลี่ยได้แสดงไว้ ตามตารางที่ 7-3 และมีลักษณะการกระจายของปริมาณน้ำฝนของลุ่มน้ำย่อยต่างๆ ตามรูปที่ 7-4 ตารางที่ 7-3 ปริมาณน้ำฝนและน้ำท่าเฉลี่ยรายเดือน รูปที่ 7-5 ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายเดือนในแต่ละลุ่มน้ำย่อย รูปที่ 7-4 ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือนในแต่ละลุ่มน้ำย่อย ปริมาณน้ำท่า ลุ่มน้ำวัง มีพื้นที่รับน้ำทั้งหมด10,792 ตารางกิโลเมตร และมีปริมาณน้ำท่าตามธรรมชาติเฉลี่ยประมาณ 1,617.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามตารางที่ 7-3 หรือมีปริมาณน้ำท่ารายปีเฉลี่ยต่อหน่วยพื้นที่รับน้ำฝน 4.75 ลิตร/วินาที/ตารางกิโลเมตร ตามรูปที่ 7-5 แสดงปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายเดือนในแต่ละลุ่มน้ำย่อย

  7. ตารางเปรียบเทียบ ปริมาณน้ำฝน - ปริมาณน้ำท่า

  8. ทรัพยากรดิน พื้นที่ลุ่มน้ำวัง สามารถจำแนกชนิดของดินตามความเหมาะสมของการปลูกพืช ออกได้เป็น 4 ประเภท ซึ่งมีลักษณะการกระจายของกลุ่มดิน ตามรูปที่ 7-6 และแต่ละประเภทกลุ่มดินจะมีจำนวนพื้นที่ ตามตารางที่ 7-4 ตารางที่ 7-4 รูปที่ 7-6 การแบ่งกลุ่มดินจำแนกตามความเหมาะสมใช้ปลูกพืช

  9. 1) พื้นที่ทำการเกษตร.................... 24.76 % พืชไร่................................ 52.07 % ไม้ผล-ไม้ยืนต้น.................... 5.10 % ปลูกข้าว............................ 42.53 % อื่นๆ................................... 0.30 % รูปที่ 7-7 การทำเกษตร 2) ป่าไม้.............................................. 67.90 % เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า................. 1.85 % อุทยานแห่งชาติ...........................22.08 % พื้นที่ป่าอนุรักษ์............................76.07 % รูปที่ 7-8 พื้นที่ป่าไม้และเพื่อการอนุรักษ์ 3) ที่อยู่อาศัย.......................................2.32 % 4) แหล่งน้ำ.........................................0.72 % 5) อื่นๆ...............................................4.31 % รูปที่ 7-9 การใช้ประโยชน์จากที่ดิน

  10. ลุ่มน้ำวังมีพื้นที่การเกษตรทั้งหมดประมาณ 2,672.08 ตารางกิโลเมตร และมีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก 1,096.99 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็น 41.05% พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกข้าว 760.06 ตารางกิโลเมตร (69.28%) พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชผัก 0.26 ตารางกิโลเมตร (0.04%) พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชไร่ 251.91 ตารางกิโลเมตร (22.96%) พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกไม้ผล-ไม้ยืนต้น 84.75 ตารางกิโลเมตร( 7.72%) พื้นที่ที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก ส่วนใหญ่จะอยู่ตอนกลางของพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยเฉพาะบริเวณสองฝั่งลำน้ำของแม่วัง ซึ่งรวมแล้วประมาณร้อยละ10.06ของพื้นที่ทั้งลุ่มน้ำ ในการทำการเกษตร พบว่าการใช้พื้นที่ปลูกพืช ส่วนใหญ่การปลูกพืชไร่และพืชผักบนพื้นดินที่ไม่มีความเหมาะสม แต่การปลูกข้าวและไม้ผล-ไม้ยืนต้นได้ปลูกบนพื้นดินที่มีความเหมาะสมดีอยู่แล้ว รูปที่ 7-10 การใช้ประโยชน์ที่ดินหลักด้านการเกษตร

  11. พื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทานพื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทาน พื้นที่ที่มีศักยภาพสำรับการพัฒนาระบบชลประทานในลุ่มน้ำวัง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตอนกลางของพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยเฉพาะบริเวณสองฝั่งของลำน้ำของแม่น้ำวัง โดยมีพื้นที่ประมาณ 511.60 ตารางกิโลเมตร และคิดเป็นร้อยละ 46.64 ของพื้นที่การเกษตรที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก หรือร้อยละ 19.15 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด ตารางที่ 7-5 ตารางเปรียบเทียบพื้นที่การเกษตรกับพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาระบบชลประทาน

  12. การประเมินความต้องการน้ำ การประเมินความต้องการน้ำ จากการศึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม ได้คาดคะเนอัตราการเจริญเติบโตของประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและนอกเขตเมือง รวมทั้งความต้องการน้ำสำหรับการขยายตัวของภาคอุสาหกรรม ช่วงปี 2544-2564 สรุปได้ตามรูปที่ 7-11 ชลประทาน ปริมาณน้ำ (ล้าน ลบ.ม.) รักษาระบบนิเวศ อุตสาหกรรม อุปโภค - บริโภค รูปที่ 7-11 สรุปแนวโน้มปริมาณความต้องการน้ำแต่ละประเภท

  13. ปัญหาของลุ่มน้ำ ●ด้านอุทกภัย สภาพการเกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำนี้ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ∶- 1) อุทกภัยที่เกิดในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนและลำน้ำสาขาต่างๆ เกิดจากการที่มีฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากจากต้นน้ำลงมามาก จนลำน้ำสายหลักไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ประกอบกับมีสิ่งกีดขวางจากเส้นทางคมนาคมขวางทางน้ำ และมีอาคารระบายน้ำไม่เพียงพอ พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำได้แก่ อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง 2) อุทกภัยที่เกิดในพื้นที่ราบลุ่ม จะเกิดบริเวณที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มและแม่น้ำสายหลักตื้นเขิน มีความสามารถระบายน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ได้แก่ บริเวณอำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง อำเภอบ้านตาก และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก

  14. ปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาที่เกิดจากภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำให้พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานเกิดความแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคและการเกษตร รวมทั้งการใช้น้ำในกิจกรรมอื่นๆ ด้วย ตามข้อมูล กชช.2ค. ปี 2542 หมู่บ้านในลุ่มน้ำนี้มีทั้งหมด 705 หมู่บ้าน พบว่า มีหมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำ 467 หมู่บ้าน (ร้อยละ 66.24) แยกเป็นหมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร 266 หมู่บ้าน (ร้อยละ 37.73) กับหมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำทั้งเพื่อการอุปโภค-บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร 201 หมู่บ้าน (ร้อยละ 28.51) หมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปาง 431 หมู่บ้าน หรือคิดเป็นร้อยละ92.29 ของหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้วทั้งหมด หมู่บ้านที่มีน้ำอุปโภค-บริโภค แต่ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร หมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร รูปที่ 7-11 แสดงลักษณะการกระจายตัวของหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง

  15. แนวทางการแก้ไข ปัญหาการเกิดอุทกภัย และภัยแล้งในลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก มีลักษณะคล้ายกับพื้นที่ลุ่มน้ำอื่นๆ คือการผันแปรของปริมาณน้ำฝน ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งในช่วงที่ฝนทิ้งช่วง ในทางกลับกันเมื่อมีฝนตกหนักก็ทำให้เกิดน้ำไหลหลากท่วมพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตร การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงมีแนวทางแก้ไขในภาพรวมโดยสรุปดังนี้ 1) การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดเล็กในพื้นที่ตอนบนของลำน้ำสาขาที่สำคัญ ได้แก่ น้ำนึง น้ำแม่ตุ๋ย เพื่อเก็บกักน้ำและชะลอปริมาณน้ำหลากในช่วงที่ฝนตกหนัก และปล่อยน้ำที่เก็บกักลงทางท้ายน้ำในช่วงฤดูแล้ง เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้พื้นที่สองฝั่งลำน้ำ 2) การก่อสร้างระบบส่งน้ำและกระจายน้ำให้พื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งและอยู่ไม่ห่างจากลำน้ำสายหลักมากนัก โดยอาจดำเนินการในลักษณะก่อสร้างฝาย/ประตูระบายน้ำ พร้อมระบบคลองส่งน้ำ/ระบบสูบน้ำ และส่งน้ำด้วยท่อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง 3) การขุดลอกลำน้ำสายหลักในช่วงที่ตื้นเขินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ 4) การปรับปรุงฝาย ประตูระบายน้ำ สะพาน ท่อลอดถนน และอาคารอื่นๆที่กีดขวางทางน้ำและเป็น อุปสรรคต่อการระบายน้ำให้มีความสามารถในการระบายน้ำที่พอเพียงและเหมาะสมกับสภาพทางน้ำ 5) ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขตตัวเมืองและพื้นที่โดยรอบให้เป็นไปตามผังเมืองที่วางไว้และควบคุมการรุกล้ำแนวคลองและลำน้ำสาธารณะ 6) ส่งเสริมการขุดสระน้ำประจำไร่นา ขุดบ่อน้ำตื้น/บ่อบาดาล ก่อสร้างถังเก็บน้ำ สำหรับพื้นที่ที่อยู่ ห่างไกลจากแหล่งน้ำตามสภาพความเหมาะสมของพื้นที่

More Related