520 likes | 590 Vues
ความปลอดภัยของระบบจราจรภายในมหาวิทยาลัย นเรศวร ส่วนหนองอ้อ. ความปลอดภัยของระบบจราจรภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนหนองอ้อ. นสพ. ธัญญนีย์ เรืองบัณฑิต นสพ. บุญฤทธิ์ บุศยศักดิ์ นสพ. บุษราคัม ธีระไพรพฤกษ์. Review Literature.
E N D
ความปลอดภัยของระบบจราจรภายในมหาวิทยาลัย นเรศวร ส่วนหนองอ้อ
ความปลอดภัยของระบบจราจรภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนหนองอ้อ นสพ. ธัญญนีย์ เรืองบัณฑิต นสพ. บุญฤทธิ์ บุศยศักดิ์ นสพ. บุษราคัม ธีระไพรพฤกษ์
Review Literature • งานวิจัยของนิสิตแพทย์ ปี 6:พบว่าอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่ เกิดในอายุ 15 -24 ปี และเป็นนักเรียน - นักศึกษา พบในช่วง 19.00 - 22.59 น. และ วันเสาร์ มากที่สุด • พุทธชินราชเวชสาร:พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในอายุ 20 -40 ปี และเป็นนักเรียน - นักศึกษาที่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย พบในช่วง 17.00 - 18.59 น. และ วันเสาร์ - อาทิตย์ มากที่สุด
Review Literature • ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ : ในปี 2541 มีอุบัติการณ์ 120 ราย / แสนประชากร , ข้อมูลปี 2536 - 2540 พบว่าเพศชายมีอัตราตายสูงกว่าเพศหญิง , เดือนที่เกิดอุบัติเหตุมาก คือ ต.ค. - ธ.ค. และ มี.ค. - เม.ย. เนื่องจากเป็นช่วงที่มีเทศกาลบ่อย , อัตราตายพบมากในภาคกลาง และอุบัติการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
Review Literature • งานวิจัยของนิสิตแพทย์ ปี 6เกี่ยวกับการสวมหมวกนิรภัย: พบว่าประชากร 59.4 % สวมหมวกนิรภัยในเวลาที่ ตำรวจออกตรวจจับ และ ทุกคนเห็นด้วยว่า การสวมหมวกนิรภัย ช่วยลดความรุนแรงและอัตราตายจากอุบัติเหตุได้
หลักการและเหตุผล • จากวรรณกรรมที่กล่าวมาพบว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดกับนักเรียน - นักศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ และอุบัติเหตุภายใน ม.นเรศวร ส่วนหนองอ้อเกิดขึ้นเป็นประจำรวมทั้งยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายใน มน. มาก่อน คณะผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาทัศนคติด้านความปลอดภัยของนิสิต พฤติกรรมการขับขี่ ฯลฯ นำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงระบบจราจรภายใน มน. และให้นิสิตปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นต่อไป.
คำถามหลัก / คำถามรอง • คำถามหลัก:ทัศนคติด้านความปลอดภัยในการขับขี่ยานพาหนะภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร • คำถามรอง: 1. อุบัติการณ์ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในและบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัยนเรศวร มีมากน้อยเพียงใด 2. ตำแหน่งที่มักจะเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร 3. พฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาอัตราการเกิดอุบัติเหตุภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร 2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร 3. เพื่อศึกษาทัศนคติด้านการขับขี่และความปลอดภัยของระบบจราจรภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร 4. เพื่อศึกษาตำแหน่งที่มักจะเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร 5. เพื่อศึกษาทัศนคติของผู้บริหารในด้านระบบโครงสร้างและความรับผิดชอบเกี่ยวกับเส้นทางการจราจรภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร
Expected outcome • เป็นแนวทางในการที่จะเสริมสร้างระบบการจราจรภายใน มหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนหนองอ้อ ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น.
Study designs 1. Descriptive Retrospective study :โดยทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนหนองอ้อ ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 - 31 ธันวาคม 2543 จากรายงานของหัวหน้า ร.ป.ภ. และอุบัติเหตุบริเวณรอบๆมหาวิทยาลัย ( ต.ท่าโพธิ์ ) จากรายงานอุบัติเหตุของสถานีตำรวจภูธร พิษณุโลก
Study designs 2. Crossectional study :ทำการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับ มุมมอง ทัศนคติ พฤติกรรมในการขับขี่ ฯลฯ ใช้การแจกแบบสอบถามกับนิสิตเพื่อให้ได้ตัวแทนที่ดี จะเลือกกลุ่มเป้าหมายด้วย multistage quota sampling ซึ่งเริ่มแบ่งจากคณะ ลงไปเป็นชั้นปี และเพศตามลำดับ ในสัดส่วนที่เทียบกับจำนวนนิสิตแต่ละคณะ
Target Population • Inclusion criteria :นิสิตปริญญาตรี มหาวิทยาลัยนเรศวร ( ส่วนหนองอ้อ ) ทุกคณะ ทุกชั้นปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน , n = 304 คน • Exclusion criteria :นิสิต คณะและชั้นปีที่ไม่ได้มีการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน เช่น คณะแพทยศาสตร์ ชั้นปี 4 - 6 , คณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปี 3 - 4 เป็นต้น
ผลการวิจัย • Descriptive Retrospective study
ตารางแสดงจำนวนอุบัติเหตุ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2541 - 31 ธันวาคม 2543
อุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ตั้งแต่ 1 มกราคม 2541 - 31 ธันวาคม 2543 มีจำนวน 52 ราย • ปี 2541 = 16 ราย จากจำนวนนิสิต 7976 คน คิดเป็นอัตราการเกิดอุบัติเหตุ 201 ราย / แสน ประชากร • ปี 2542 = 11 ราย จากจำนวนนิสิต 8120 คน คิดเป็นอัตราการเกิดอุบัติเหตุ 136 ราย / แสน ประชากร • ปี 2543 = 25 ราย จากจำนวนนิสิต 8346 คน คิดเป็นอัตราการเกิดอุบัติเหตุ 300 ราย / แสน ประชากร
กราฟแสดงจำนวนอุบัติเหตุจำแนกตามเดือนที่เกิดเหตุกราฟแสดงจำนวนอุบัติเหตุจำแนกตามเดือนที่เกิดเหตุ
กราฟแสดงจำนวนอุบัติเหตุจำแนกตามวันที่เกิดเหตุกราฟแสดงจำนวนอุบัติเหตุจำแนกตามวันที่เกิดเหตุ
กราฟแสดงจำนวนอุบัติเหตุจำแนกตามเวลาที่เกิดเหตุกราฟแสดงจำนวนอุบัติเหตุจำแนกตามเวลาที่เกิดเหตุ
จำนวนคู่กรณี แยกตามเพศ :( เฉพาะอุบัติเหตุ ใน ม.นเรศวร ) • เพศชายเกิดอุบัติเหตุมากกว่าเพศหญิง ในทุกช่วงปี
ประเภทยานพาหนะของคู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุประเภทยานพาหนะของคู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
รูปแบบการเกิดอุบัติเหตุรูปแบบการเกิดอุบัติเหตุ
ตำแหน่งที่เกิดเหตุ ( ใน ม.น. ) / ช่วงเวลา • ตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด ( ภายใน มน. ) คือ แยกคณะเภสัชฯ และ แยกคณะมนุษย์ฯ / ศึกษาฯ ในช่วงเวลา 09.01 - 12.00 น. • ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด 15.01 - 18.00 น. รองลงมาเป็น 09.01 - 12.00 น. และ 12.01 - 15.00 น. ตามลำดับ
ตำแหน่งที่เกิดเหตุ ( รอบ ม.น. ) / ช่วงเวลา • ตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด ( รอบ มน. ) คือสี่แยกบายพาสท่าโพธิ์ - ม.น. ในช่วงเวลา 00.01 - 03.00 น.รองลงมาเป็นหน้าร้านฟ้าไทยฟาร์ม และ แยกบางระกำ-สะพานข้าม แม่น้ำน่าน • ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด คือ12.01 - 15.00 น. และ 18.01 - 21.00 น. รองลงมาเป็น09.01 - 12.00 น.
ผลการวิจัย • Crossectional study :
ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ภายในมหาวิทยาลัยความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ภายในมหาวิทยาลัย
พฤติกรรมการขับขี่ของผู้อื่นที่รู้สึกไม่พอใจพฤติกรรมการขับขี่ของผู้อื่นที่รู้สึกไม่พอใจ • 1. ไม่ให้สัญญาณไฟเมื่อเลี้ยว ชะลอ หรือจอด / ให้สัญญาณผิด • 2. ขับรถเร็ว • 3. ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด • 4. ไม่มีน้ำใจให้คนเดินข้ามถนน / ขับรถคุยกัน / ขับช้า ไม่ ชิดซ้าย / ไม่ให้ทางรถคันอื่น / หยุดรถกะทันหัน
การสวม / ไม่สวมหมวกกันน็อก ( เฉพาะผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 192 คน ) • สวม 11 คน ( 6 % ) • ไม่สวม 181 คน ( 94 % ) • สาเหตุที่สวม เพราะ1. เพื่อความปลอดภัย 2. ป้องกันอุบัติเหตุ 3. ถูกกฎ - ไม่ถูกตำรวจจับ • สาเหตุที่ไม่สวม เพราะ1.ขับรถระยะใกล้ ไม่สะดวก เกะกะ ล่าช้า 2.ขับช้าจึงไม่จำเป็น โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อย 3.กลัวหาย เก็บรักษายาก 4.ไม่ได้ขับมอเตอร์ไซด์ / ไม่มี / ไม่มีตำรวจจับ / คนส่วนมากไม่ใส่กัน
การออกกฎบังคับสวมหมวกกันน็อกภายในมหาวิทยาลัยการออกกฎบังคับสวมหมวกกันน็อกภายในมหาวิทยาลัย • เฉพาะผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ • เห็นด้วย 3% • ไม่เห็นด้วย 97 % • เฉพาะผู้ที่ไม่ได้ใช้รถจักรยานยนต์ • เห็นด้วย80 % • ไม่เห็นด้วย 19 % • ไม่ออกความเห็น 1 %
ไม่เห็นด้วย เพราะ 1.ขับระยะใกล้จึงไม่จำเป็น ควรบังคับความเร็วมากกว่า 2.ไม่สะดวก / เกะกะ / กลัวหาย / ยุ่งยากขณะใส่-ถอดเมื่อเปลี่ยนตึกเรียน 3.ไม่ชอบให้บังคับ / เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เห็นด้วย เพราะ 1. เพื่อความปลอดภัย 2. ลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น 3. ถูกกฎ - เป็นระเบียบ การออกกฎบังคับสวมหมวกกันน็อกภายในมหาวิทยาลัย
อุบัติเหตุในรอบ 30 วันที่ผ่านมา • ประสบเอง 1 ครั้ง = 15 ราย , ประสบเอง 3 ครั้ง = 1 ราย • พบเห็น 1 ครั้ง = 66 ราย , พบเห็น 2 ครั้ง = 30 ราย • พบเห็น 3 ครั้ง = 3 ราย • Incidence =18 cases / 304 คน / ใน 30 วัน • Rate = 5921 cases / แสน ประชากร / ใน 30 วัน = 71052 cases / แสน ประชากร / ปี
ตำแหน่งที่เกิดเหตุ / ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ • ตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ รอบหอพักหญิง ( ป้อม 4 ) และ แยกคณะมนุษย์ฯ/ศึกษาฯ • ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ 18.01 -21.00 น. , รองลงมา คือ 12.01 - 15.00 น. และ 15.01 - 18.00 น. • ช่วงเวลาที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ คือ 00.01 - 06.00 น.
ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุภายในมหาวิทยาลัย ( ในทัศนคติของนิสิต )
ตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ( ตามความเห็นของนิสิต ) • 1. แยกคณะมนุษย์ฯ ( วิทย์ฯเก่า ) / แยกคณะศึกษาศาสตร์ / แยกสนามกีฬา • 2. บริเวณหอพักหญิง / หลัง มน. • 3. แยกหน้าตึกมิ่งขวัญ / แยกคณะเภสัชศาสตร์ • เนื่องจาก: รถสัญจรเส้นนี้มาก แต่ไม่มีไฟจราจร , ขับตามใจตนเองและประมาท , ไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว ,กลางคืนไฟถนนไม่เพียงพอและมีรถคับคั่ง , ขับเร็ว
ระบบจราจรภายในมหาวิทยาลัย ( ในทัศนคติของนิสิต ) • มีความปลอดภัยเพียงพอ17.1 % • ไม่เพียงพอ 79.3 % • เนื่องจากตามทางแยกไม่มีไฟจราจร เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ไฟถนนบางตำแหน่งไม่เพียงพอ นิสิตไม่รู้ - ไม่เคารพกฎจราจร / ขับเร็ว / ประมาท / ไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว
ข้อเสนอแนะเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุภายในมหาวิทยาลัยข้อเสนอแนะเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุภายในมหาวิทยาลัย • 1. มีไฟจราจร - ป้ายจราจรตามทางแยกต่างๆที่อันตราย • 2. จำกัดความเร็ว ถ้าไม่ปฏิบัติตาม มีการตักเตือน - ลงโทษ • 3. เพิ่มไฟข้างถนนให้มากขึ้น • 4. กวดขันเรื่องการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว / จัดอบรมเรื่องกฎจราจร • 5. มีจราจร - รปภ. ดูแลตามแยกต่างๆ ในช่วงเวลาเปลี่ยนตึกเรียน • 6. เพิ่มจำนวนรถส้ม / รณรงค์ลดการขับขี่มอเตอร์ไซด์ • 7. จัดช่วงเวลาเปลี่ยนตึกเรียนไม่ให้ตรงกัน / จัดให้เรียนในตึกเดียวทุกวิชา • 8. ปลูกจิตสำนึกให้นิสิตทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจร
ทัศนคติของอาจารย์วิศวกรรม ( โยธา ) • ไฟข้างถนนในสายหลัก พอเพียงตามมาตรฐาน คือ 40 เมตร / 1 ต้น • ความปลอดภัยของระบบจราจรภายใน มน. จัดว่าค่อนข้างดีแล้ว • ทางโค้งภายในมหาวิทยาลัย เป็นการตั้งใจทำเพื่อให้ชะลอความเร็ว แต่ภายหลังมีการสร้างตึกคณะต่างๆเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดทางแยกตรงทางโค้ง ซึ่งทำให้อันตราย • ทางเข้า - ออก มหาวิทยาลัย มีน้อยเกินไป การจัดระบบ One - way system ไม่สามารถทำได้
ทัศนคติของอาจารย์วิศวกรรม ( โยธา ) • ป้ายบอกทางต้องจัดทำให้ใหญ่ขึ้น มองเห็นข้อความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดรถกะทันหัน • ควรมีไฟจราจรเพิ่มบริเวณแยกที่อันตราย • ควรมีการจับความเร็วของนิสิตที่ขับรถภายใน มน. ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ทราบความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ นำไปสู่การแก้ไข • ควรปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่ของนิสิตเป็นอันดับแรก โครงสร้างถนนจัดว่าปลอดภัยดี
ทัศนคติของอาจารย์วิศวกรรม ( โยธา ) • การจัดอมรมเกี่ยวกับกฎจราจรให้นิสิต ไม่น่าจะได้ผล ควรมี รปภ. ตามจุดต่างๆ คอยตักเตือน ทำโทษ เมื่อปฏิบัติไม่ถูกต้อง • ถนนคลองชลประทาน เป็นความรับผิดชอบของทางหลวง ต้องประสานงานขอความร่วมมือ เรื่อง สภาพถนนที่ไม่ดีและไฟถนนไม่เพียงพอ
ทัศนคติของหัวหน้าฝ่ายอาคารและสถานที่ทัศนคติของหัวหน้าฝ่ายอาคารและสถานที่ • ความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัย ประมาณ 70 % • งบประมาณจ้าง รปภ. มีน้อย ไม่สามารถเพิ่มจำนวน รปภ. มาดูแลเรื่องนี้ได้ • กำลังจัดทำถนน เชื่อม ถ.เอกาฯ เข้าศูนย์วิจัย คาดว่าจะรองรับความพลุกพล่านเมื่อศูนย์ฯเปิดบริการ • มีการดูแลตัดต้นไม้ที่บังทางแยก / ตั้งกรวยจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณแยกอันตราย
ทัศนคติของหัวหน้าฝ่ายอาคารและสถานที่ทัศนคติของหัวหน้าฝ่ายอาคารและสถานที่ • มีการทำป้ายจราจร ลดความเร็ว ทางแยก ฯลฯ ติดไว้ตามจุดต่างๆ • ควรปลูกฝังจิตสำนึกให้นิสิตรักสถาบัน ไม่ทำลายทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย เช่น กระจกมองทางโค้งถูกทุบ เมื่อติดตั้งได้แค่ 1-2 วัน • นิสิตวิศวกรรมศาสตร์และเกษตรศาสตร์ มีปัญหาเรื่อง เมาสุราแล้วขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ ว่ากล่าวตักเตือนก็ไม่เชื่อฟัง ส่วนคณะอื่นๆนั้นไม่มีปัญหา
ทัศนคติของหัวหน้าฝ่ายอาคารและสถานที่ทัศนคติของหัวหน้าฝ่ายอาคารและสถานที่ • นิสิตหญิงสวมกระโปรงยาว ทำให้พันล้อรถมอเตอร์ไซด์ มีอุบัติเหตุบ่อย ควรช่วยกันตักเตือน • การจัด One - way system พบว่านิสิตไม่ให้ความร่วมมือ เนื่องจากต้องขับในระยะไกลมากขึ้น - ไม่สะดวก • การปรับปรุงแก้ไขสิ่งต่างๆ ในมหาวิทยาลัย จะได้รับการพิจารณาอนุมัติจากผู้บริหาร ถ้าองค์การนิสิตเป็นผู้เขียนโครงการเสนอต่ออธิการบดี
วิจารณ์ • จากผลงานวิจัยพบว่า นิสิตส่วนใหญ่มีทัศนคติในด้านความปลอดภัยของระบบจราจร โดยที่ส่วนใหญ่ 79.3 % คิดว่าไม่เพียงพอ เนื่องจากรถสัญจรมาก ขับเร็ว ประมาท ไม่ให้สัญญาณไฟ • อุบัติการณ์การเกิดอุบัติเหตุที่ได้จากบันทึกในปี 2541 = 201 cases/แสนประชากร/ปี 2542 = 136 cases/แสนประชากร/ปี , 2543 = 300 cases/แสนประชากร/ปี เมื่อเทียบกับสถิติแห่งชาติในปี 2541 ( 120 )มีค่าสูงกว่า
วิจารณ์ • อุบัติการณ์ที่ได้จากแบบสอบถามซึ่งสำรวจในรอบ 30 วันจากนิสิต 304 คน พบว่ามีจำนวน 18 cases คิดเป็นอัตรา 71,052 cases/แสนประชากร/ปี เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลของสถิติแห่งชาติในช่วงอายุเดียวกันพบว่า มีอัตราตาย 33,132 cases/แสนประชากร/ปี • ตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ( ทั้งจากบันทึกของ รปภ. และข้อมูลจากแบบสอบถาม ) คือ แยกมนุษย์ฯ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีรถสัญจรมากและเป็นทางโค้งตรงทางแยก • พฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม คือ การไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว
บทสรุปและข้อเสนอแนะ • จากผลงานวิจัยได้สรุปทัศนคติและข้อเสนอแนะต่างๆที่นิสิตคาดหวังเพื่อให้เกิดการปรับปรุงระบบจราจรให้ดีขึ้น ได้แก่ • การมีไฟจราจรและป้ายจราจรบริเวณทางแยกที่อันตราย ยานพาหนะมาก • การเพิ่มไฟข้างถนนบริเวณที่แสงสว่างไม่เพียงพอ • การตักเตือน - ลงโทษ พฤติกรรมการขับขี่ของนิสิตที่ไม่เหมาะสม • จำกัดความเร็วในการขับขี่
บทสรุปและข้อเสนอแนะ • จากข้อเสนอแนะของนิสิต และคำกล่าวของหัวหน้าฝ่ายอาคารและสถานที่เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบต่างๆใน มน. คณะผู้วิจัยจึงมีแนวคิดว่าหากงานวิจัยฉบับนี้ได้ถูกนำเสนอต่ออธิการบดีและผู้ที่เกี่ยวข้อง อาจมีประโยชน์ในการกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลง-แก้ไขระบบจราจรภายในมหาวิทยาลัย ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น