โดย... จิรวัฒน์ พรหมพร jirawat@book.co.th แผนกสนับสนุนฝ่ายทรัพยากร อิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา

1. Journal Citation Reports โดย... จิรวัฒน์ พรหมพร jirawat@book.co.th แผนกสนับสนุนฝ่ายทรัพยากร อิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา บริษัท บุ๊ค โปรโมชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ปรับปรุงครั้งล่าสุด 29/08/54

2. Journal Citation Reports คืออะไร? • เสมือนเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินคุณภาพวารสารในแง่มุมของการอ้างอิงโดยใช้ข้อมูลทางสถิติการอ้างอิงเป็นสำคัญ • เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Thomson Reuters

3. Journal Citation Reports แบ่งออกเป็น Science Edition • ครอบคลุมวารสารประมาณ 8,000 ชื่อ • ตัวอย่างกลุ่มสาขาประกอบไปด้วย • Agriculture • Biochemistry and molecular biology • Immunology • Materials sciences • Mathematics • Physics • Zoology

4. Social Science Edition • ครอบคลุมวารสารประมาณ 2,600 ชื่อ • ตัวอย่างกลุ่มสาขาประกอบไปด้วย • - anthropology - business • - communication - criminology and penology • - economics - education • - ethics - history • - information science and library science • - psychology - social science

5. รูปแบบการทำงาน Journal Citation Reports แบ่งออกเป็น Journal Citation Reports on Web Journal Citation Reportson CD

6. เมื่อไหร่ถึงต้องใช้ Journal Citation Reports • การสอนในหลักสูตร • ช่วยให้นักศึกษาได้เข้าใจถึงแนวทางหรือวีธีการเลือก ค้นหา และประเมินวารสารที่เหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ • การเขียนผลงานวิชาการ • เกณฑ์การตัดสินว่าวารสารใดที่เหมาะสมในการตีพิมพ์ผลงานวิชาการและทำไมต้องเป็นวารสารนี้ • การวิจัย • เกณฑ์การตัดสินว่าวารสารใดควรจะเลือกอ่านก่อนเป็นลำดับต้นๆ • พิจารณาตามแนวการอ้างอิงเพื่อใช้บ่งชี้ถึงทิศทางการวิจัยในปัจจุบัน

7. ปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบการพิจารณาวารสารปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบการพิจารณาวารสาร Journal Impact Factor Immediacy Index Cited Half Life 5 Year Journal Impact Factor

8. วิธีการคำนวณ  ผลรวมของจำนวนครั้งที่รับการอ้างอิงของบทความซึ่งตีพิมพ์ในสองปี หารด้วย ผลรวมของจำนวนบทความที่ตีพิมพ์ทั้งหมดสองปีล่าสุด วารสาร A มีค่า Impact Factor เท่ากับ 2.5 หมายความว่า  วารสาร A ได้รับการอ้างอิงเฉลี่ย2.5 ครั้งต่อบทความ Journal Impact Factor ค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งที่ได้รับการอ้างอิงต่อบทความจากวารสารที่ตีพิมพ์ในสองปีล่าสุด Impact Factor (2010) ตัวอย่าง

9. Journal Impact Factor นำมาใช้อย่างไร • เลือกวารสารตีพิมพ์: • วารสารที่มีอัตราการอ้างอิงสูงนั้น หมายถึง บทความของคุณก็มีโอกาสมากที่จะได้รับการอ้างอิงเช่นกัน • วารสารที่มีคนเข้ามาอ่านมากนั้น หมายถึง บทความของคุณก็จะได้รับอ่านจากเหล่านักวิจัยมากเช่นกัน

10. Journal Immediacy Index ค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งที่ได้รับการอ้างอิงต่อบทความจากวารสารที่ตีพิมพ์ในปีปัจจุบันหรือปีของ JCR เช่น เฉพาะปี 2010 Immediacy Index (2010) วิธีการคำนวณ ผลรวมของจำนวนครั้งที่รับการอ้างอิงของบทความซึ่งตีพิมพ์ในปีปัจจุบัน หารด้วย ผลรวมของจำนวนบทความที่ตีพิมพ์ทั้งหมดในปัจจุบัน ตัวอย่าง วารสาร A มีค่า Immediacy Index เท่ากับ 2.5 หมายความว่า  วารสาร A ได้รับการอ้างอิงเฉลี่ย 2.5 ครั้งต่อบทความในปีปัจจุบัน

11. Journal Immediacy Index นำมาใช้อย่างไร • เมื่อต้องการให้ผลงานวิจัยเข้าถึงผู้อ่านได้เร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ • ให้ผลงานวิจัยเป็นที่รู้จักโดยเร็ว • แบ่งปันความรู้ต่อสังคม

12. Journal Cited Half Life • ช่วยประเมินช่วงอายุเฉลี่ยของการอ้างอิงบทความวารสาร • นักวิจัย • ถ้าต้องการให้ผลงานของตนเองยังคงได้รับการอ้างอิงอย่างต่อเนื่องและยาวนาน • บรรณารักษ์ • บริหารจัดการกับวารสารปีเก่า • จัดหาวารสารปีเก่าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

13. 5 Year Journal Impact Factor • วารสารอาจใช้เวลามากกว่า2 ปีในการตีพิมพ์เผยแพร่และได้รับการตอบรับ

14. สรุป • ตีพิมพ์ในวารสารที่มีค่าการอ้างอิงสูง • ใช้ค่า Impact Factor • ใช้ค่า 5 year Impact factor สำหรับสาขาที่ต้องการระยะเวลาที่ได้รับอ้างอิงที่นานกว่า เช่น Geology, Management Sociology • เพื่อเข้าถึงผู้อ่านและผลงานเข้าถึงนักวิจัยอย่างรวดเร็ว • ใช้ค่า Immediacy Index • ให้วารสารปีเก่าหรือบทความยังคงได้รับการอ้างอิงอยู่อย่างต่อเนื่อง • ใช้ค่า Cited Half Life

15. Homepage

16. Select a JCR edition and year 1 1. จากส่วน Select a JCR edition and year: เลือกฐานข้อมูลตามสาขาที่ต้องการ ได้แก่ JCR Science Edition, JCR Social Science Edition และเลือกปี JCR ที่ต้องการ เช่น 2010

17. Select an option 2 3 • 2. เลือกรูปแบบการเลือกผลลัพธ์จาก Select an option: • View a group of journals by เป็นการเรียกรายชื่อวารสารตามกลุ่ม ได้แก่ Subject Categoryตามกลุ่มสาขาวิชา Publisher ตามสำนักพิมพ์ และ Country/Territory ตามที่ตั้งของสำนักพิมพ์หรือที่ที่จัดพิมพ์วารสาร • Search for a specific journal เป็นการเรียกวารสารตามชื่อที่ต้องการเฉพาะ • View all journals แสดงวารสารทุกชื่อที่อยู่ในฐานข้อมูลตามสาขาที่เลือกตามข้อ 1 • 3. คลิกที่ปุ่ม Submit

18. Subject Category Selection เลือกสาขาวิชาที่ต้องการ สามารถเลือกได้มากกว่าหนึ่งสาขา โดยกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วคลิกเลือกสาขาวิชาที่ต้องการ จากนั้นคลิกปุ่ม Submit

19. Journal Summary List 1. สามารถจัดเรียงรายการผลลัพธ์ได้ใหม่ตามความต้องการจาก Sorted by 2. ประเภทข้อมูลจะแบ่งแยกตามคอลัมน์ดังนี้ - Abbreviated Journal Title รายชื่อวารสารแสดงเป็นชื่อย่อของวารสาร หมายเลข ISSN - Total Cites จำนวนรวมทั้งหมดของการอ้างถึงของปีใน JCR - Impact Factor แสดงค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งต่อบทความที่ได้รับการอ้างถึงในช่วงสองปี ตามปีใน JCR - 5-Year Impact Factor แสดงค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งต่อบทความที่ได้รับการอ้างถึงในช่วงห้าปี ตามปีใน JCR - Immediacy Index แสดงค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งต่อบทความที่ได้รับการอ้างถึงเพียงปีเดียวตามปีใน JCR - Articles จำนวนบทความที่พิมพ์ทั้งหมดของวารสารนั้นในรอบปีตามปีใน JCR - Cited Half-life จำนวนปีพิมพ์ย้อนหลังไปครึ่งหนึ่งของปีทั้งหมดของวารสารนั้นที่ได้รับการอ้างถึงจากวารสารอื่นหรือวารสารเดียวกันที่ตีพิมพ์อยู่ ณ ปีใน JCR 1 2

20. Journal Summary List เลือกจัดเรียงผลตามค่า Impact Factor แล้วคลิก Sort Again

21. Journal Summary List: by Impact Factor คลิกเลือกชื่อวารสารที่มีค่า Impact Factor ในลำดับที่ 1

22. Journal Information ข้อมูลโดยละเอียดของวารสาร

23. Journal Information วิธีการคำนวณเพื่อหาค่า Journal Impact Factor และ Journal Immediacy Index

24. Journal Information วิธีการคำนวณเพื่อหาค่า Journal Cited Half-Life

25. Journal Information จำแนกประเภทหรือชนิดของบทความที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร

26. Marked List 2 1 1 1. คลิกเครื่องหมายหน้าชื่อวารสารที่ต้องการ จากนั้นคลิกที่ Update Marked List 2. คลิกที่ปุ่ม Marked List เพื่อแสดงรายการที่จัดเก็บ

27. Marked List 3 3. เลือกจัดการเอกสารโดยคลิกที่ Save to File เพื่อบันทึกข้อมูลหรือ Format for Print เพื่อสั่งพิมพ์