60 likes | 183 Vues
โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ ( Carpel Tunnel Syndrome).
E N D
โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (Carpel Tunnel Syndrome) • สาวๆ เชื่อหรือไม่คะว่าโรคนี้พี่เตยก็เป็นค่ะ!! T______T อาการของโรคนี้คือปวดร้าวบริเวณข้อมือ ฝ่ามือ และนิ้วมือ บางคนอาจมีอาการชา กำมือแน่นๆ ไม่ได้ หยิบจับของแล้วทำร่วงหล่นตลอด สาเหตุของโรคนี้เกิดจากท่าทางการวางมือขณะที่เราจับเมาส์และแป้นคีย์บอร์ดค่ะ ด้วยความเคยชินทำให้สาวๆ หลายคนวางมือในท่า “กระดกข้อมือ” ค้างไว้เวลาใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการข้อมืออักเสบขึ้นได้
อาการปวดหลัง (Back Pain) • อาการปวดหลังมักเกิดจากการนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน รวมถึงท่านั่งที่ไม่สบายเวลาใช้คอมพิวเตอร์ด้วยค่ะ สาวๆ หลายคนชอบนั่งไขว่ห้างเวลาใช้คอมพิวเตอร์ สาวๆ รู้รึเปล่าเอ่ยว่าท่านั่งไขว่ห้างเนี่ยทำให้ปวดหลังสุดๆ เลย (แต่เตยพี่ก็ชอบนั่งไขว่ห้างเวลาเล่นคอมเหมือนกันนะ -..-) ถ้าไม่อยากปวดหลัง เราต้องเริ่มกันที่ท่านั่งที่ถูกต้องในการใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ • ท่านั่งในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง* เท้าทั้งสองข้างต้องวางแนบสนิทบนพื้น* ไหล่ต้องปล่อยสบาย ไม่ยกไหล่หรือห่อไหล่ขณะใช้คอมพิวเตอร์* เวลาใช้คอมพิวเตอร์ต้องไม่ก้มหน้ามากเกินไป ควรอยู่ในระยะ 50-70 องศา* ควรลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบถและเป็นการพักสายตา* หลังต้องแนบชิดกับพนักพิงเก้าอี้ และนั่งให้เต็มก้น ไม่ควรนั่งแค่ครึ่งเดียวหรือหมิ่นเหม่* ปรับระดับความสูงของเก้าอี้ให้พอดีกับระดับโต๊ะคอมพิวเตอร์ ไม่ให้สูงเกินไปหรือเตี้ยเกินไป
โรคเกี่ยวกับสายตา (Computer Vision Syndrome) • เวลาที่เราต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีใครมีอาการตาพร่าหรือปวดตาบ้างมั้ยคะ?? พี่เตยมีอาการปวดตาเวลาที่ใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไปค่ะ บางคนอาจมีอาการน้ำตาไหล ปวดศีรษะ และตาแดงร่วมด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าเราใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไป! จริงๆ แล้ว เราควรพักสายอย่างน้อยทุกๆ หนึ่งชั่วโมงด้วยการนั่งหลับตาซักพัก (แต่อย่าแอบหลับนะ ^^’’) หรือลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาซักสิบนาทีแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การจัดท่านั่งและระยะการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์คือสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะใช้คอมพิวเตอร์อย่างไรไม่ให้ปวดตา ??1. ปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอดี ไม่จ้าเกินไป2. ควรนั่งใช้คอมในที่ที่มีแสงสว่างมากพอ บางคนชอบปิดไฟในห้องนอน แล้วเล่นคอมพิวเตอร์ ในห้องมืดๆ ทำแบบนี้เสียสายตามากๆ เลยค่ะ T^T3. กระพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงลูกตา ทำให้ไม่เคืองตาค่ะ4. อย่าลืมเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เมื่อรู้สึกเคืองตา ปวดตา หรือแสบตา ให้พักสายตาทันที อย่า ฝืนทำงานต่อ5. ตาที่มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องห่างจากหน้าจอประมาณ 45-70 เซนติเมตร6. ปรับขนาดตัวหนังสือบนหน้าจอให้เหมาะสม ไม่เล็กเกินไป เพราะจะทำให้เราต้องเพ่งตามอง และอาจทำให้ปวดตาได้ค่ะ
อาการปวดหัว (Headache Problems) • อาการปวดหัวมักเกิดขึ้นบ่อยๆ กับคนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ สาเหตุหลักๆ มักเกิดจากความเครียด การมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน แสงหน้าจอคอมพิวเตอร์สว่างมากเกินไป รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นได้ทั้งสิ้น ถ้าเราจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เราต้องมีวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันอาการปวดหัวค่ะ
โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) • นอกจากปัญหาของความเครียดและอาการปวดหัวแล้ว ปัญหาการนอนไม่หลับจากการใช้คอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่หลายคนเป็นอยู่แต่อาจจะไม่รู้ตัวค่ะ มีการวิจัยแล้วพบว่าความสว่างของหน้าจอมีผลต่อการนอนไม่หลับด้วย! จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่การใช้คอมพิวเตอร์ แต่รวมถึงการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่างๆ ด้วย