1 / 67

วิชาหลักการจัดการ รหัสวิชา 3200-1003 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง

วิชาหลักการจัดการ รหัสวิชา 3200-1003 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง. สื่อการเรียนการสอน. เป็นเรื่องทั่วไปผู้เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง. บทที่ 6 การ จัดการ งาน บุคคล. บรรยายโดย อาจารย์สุเทพ ชุมนิรัตน์. Staffing การจัดคนเข้าทำงาน. การบริหารทรัพยากรมนุษย์.

burt
Télécharger la présentation

วิชาหลักการจัดการ รหัสวิชา 3200-1003 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. วิชาหลักการจัดการ รหัสวิชา3200-1003 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สื่อการเรียนการสอน

  2. เป็นเรื่องทั่วไปผู้เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเองเป็นเรื่องทั่วไปผู้เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง

  3. บทที่ 6 การจัดการงานบุคคล บรรยายโดย อาจารย์สุเทพ ชุมนิรัตน์

  4. Staffing การจัดคนเข้าทำงาน

  5. การบริหารทรัพยากรมนุษย์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ผู้บริหาร สนใจ มนุษย์ ในสภาพ 1. มนุษย์ในสังคม 2. มนุษย์ที่กำลังปฏิบัติงานในองค์การ 3. มนุษยที่ต้องพ้นจากองค์การ

  6. ความหมายการจัดการงานบุคคล (Staffing) การจัดการงานบุคคลเกี่ยวข้องกับการจัดคนลงไปในงานเป็นการจัดเตรียมและรู้จักใช้ทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดดังคำกล่าวที่ว่า“Put the right man on the right job”ซึ่งหมายถึงการจัดสรรคนให้เหมาะกับงานหรือการรู้จักใช้คนให้ทำงานในสิ่งที่ตรงตามความสามารถตรงตามความถนัดของแต่ละคนอันจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดขององค์การ

  7. หมายถึง ศิลปะในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำงานในองค์การ มอบหมายงาน พัฒนาบุคคลและให้พ้นจากงาน โดยคำนึ่งถึงประสิทธิภาพของผลผลิตหรือบริการขององค์การเป็นสำคัญ หลักในการบริหารงานบุคคล แบ่งเป็น 2 ระบบคือ การจัดคนเข้าทำงาน/การบริหารงานบุคคล

  8. 1. ระบบคุณธรรม Merit System ใช้หลักเกณฑ์1.1 หลักความเสมอภาค เช่น มีสิทธิสอบได้ทุก1.2 หลักความสามารถ เช่น คัดเลือกผู้มีความสามารถสูงไว้ก่อน1.3หลักความมั่นคง เช่น ถ้าไม่ผิดวินัย ก็ไม่ถูกลงโทษให้ออก อยู่จนเกษียณ1.4หลักความเป็นกลางทางการเมือง เช้า ห้ามข้าราชการเป็นกรรมการบริษัท

  9. 2. ระบบอุปถัมภ์ Patronage System ยึดถือพวกพ้อง เครือญาติ หรือผู้มีอุปการคุณ

  10. ความสำคัญของการจัดบุคคลความสำคัญของการจัดบุคคล การที่องค์การมีการจัดบุคคลด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ 1. การจัดบุคคลหรือการจัดคนลงไปในงานเป็นการกำหนดให้บุคคลได้ปฏิบัติงานในองค์การหรือในหน่วยงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ 2.  การจัดบุคคลเป็นเทคนิคสำคัญอย่างหนึ่งในการจัดการงาน 3.  การจัดบุคคลจะอาศัยหลักการและวิธีการโดยเฉพาะเพื่อที่จะให้คนมีความรู้ความสามารถเหมาะสมมาปฏิบัติงาน

  11. 1. การวิเคราะห์งาน 2.การวางแผน ทรัพยากรมนุษย์ 3.การสรรหา 4.การคัดเลือก 5.การบรรจุ 6.ค่าตอบแทน 7.การประเมินผล การปฏิบัติงาน 8.การธำรงรักษา ขอบข่ายการบริหารทรัพยากรมนุษย์

  12. การวิเคราะห์งาน ( Job Analysis) องค์การ สภาพแวดล้อม กำหนดงาน ผลผลิต พฤติกรรม ความพึงพอใจ Feedback

  13. กระบวนการในการวิเคราะห์งานกระบวนการในการวิเคราะห์งาน 1.การระบุขอบเขตของงาน 2.พัฒนาแบบสอบถาม 3.รวบรวมสารสนเทศ Job Description Job Specification Job Standards

  14. การวางแผนกำลังคน( Human Resource Planning ) ความต้องการมนุษย์ว่าต้องการบุคคลประเภท ใด ระดับใด จำนวนเท่าใด เมื่อใด ประกอบ 2 ส่วน 1. การคาดการณ์ 2. การกำหนดแผนปฏิบัติ

  15. การวางแผนกำลังคน Manpower Planning • หมายถึง กระบวนการที่กำหนดหรือระบุ ความต้องการกำลังคน รวมทั้งวิธีการที่จะทำให้ได้มาซึ่งกำลังคนตามที่ต้องการ เพื่อการปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์และแผนขององค์การที่วางไว้ การวางแผนกำลังคนจะช่วยให้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อจะได้มีคนไว้ทำงานในทุกตำแหน่งและทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวางแผนกำลังคนทำให้เราเชื่อมั่นว่า เรามีคนที่เหมาะสมพร้อมไว้เสมอที่จะบรรจุเข้าทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งที่สำคัญ ๆ

  16. การวางแผนกำลังคนเป็นเรื่องเกี่ยวกับ........การวางแผนกำลังคนเป็นเรื่องเกี่ยวกับ........ • การกำหนดความต้องการใช้บุคคลในองค์การจำนวนเท่าใด • ภาระงาน/กิจกรรม/หน้าที่มีอะไรบ้าง • กำหนดแผนงาน/แผนกงาน/ระดับความรู้ความสามารถของบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่ง/กำหนดโครงสร้างองค์การ/กำหนดรายละเอียดของงานแต่ละแผนก/จัดบุคคลเข้าไปปฏิบัติงาน

  17. สมัครใจลาออก ตาย กำลังคนของ หน่วยงานต่าง ๆ ในองค์การ • แผนภูมิแสดงความเคลื่อนไหว ของบุคคลากรในองค์การ เลื่อนชั้นขึ้นไป บรรจุใหม่ ย้ายออกไป เลื่อนชั้นเข้ามา ลดขั้นออกไป ย้ายเข้ามา เกษียณ ลดเข้ามา ออกเพราะครบสัญญา พักงาน

  18. การวางแผนกำลังคนที่ดี ต้องทราบสาระดังนี้ • ภาระงาน Workload หน้าที่ความรับผิดชอบชั่วโมงงาน • การออกแบบงาน Job Design เป็นการออกแบบโครงสร้างงานต่างๆ ทั้งองค์การว่ามีกลุ่มงานอะไรบ้าง • การวิเคราะห์งาน Job Analysis วิเคราะห์งานแต่ละตำแหน่ง กำหนดคุณลักษณะที่จำเป็นแต่ละตำแหน่ง เช่น ความสำคัญของงาน ระดับความเป็นอิสระ ตัวบ่งชี้ผลลัพธ์ของงาน ความรู้ความสามารถและทักษะที่จำเป็น เพื่อกำหนดรายละเอียดของตำแหน่ง Job Description และคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง Job Specification

  19. ขั้นตอนการจัดคนลงไปในงาน ขั้นตอนการจัดคนลงไปในงาน 1.กำหนดความต้องการบุคคล 2.กำหนดตำแหน่งเพื่อทำใบพรรณนางานหรือใบแสดงหัวข้องาน 3.ลงมือทำใบพรรณนางาน (Job Description or JD.) ประกอบด้วย 3.1หน้าที่งานและความรับผิดชอบของตำแหน่ง 3.2เงื่อนไขของการจ้างงานค่าจ้างเงินเดือนชั่วโมงทำงาน 3.3ลักษณะงานทางเทคนิคของตำแหน่ง

  20. 4.จัดงานตามใบพรรณนาแล้วนำมาจับคู่หรือทำให้เข้า4.จัดงานตามใบพรรณนาแล้วนำมาจับคู่หรือทำให้เข้า กันได้กับคุณสมบัติของผู้ที่จะมาทำงาน 5.ขั้นวิเคราะห์งาน (Job Analysis or JA.) ว่าใน หน่วยงานไหนทำอะไรควรใช้คนกี่คน 6.ระดมสรรหาได้มาแล้วคัดเลือก 7.ฝึกอบรมปฐมนิเทศแล้วทดลองงานหรือบรรจุตำแหน่ง 8.ติดตามผลงานประเมินผลงาน (Job Evaluation or JE.) แล้วเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง 9. พัฒนาและยกระดับคุณภาพทรัพยากรมนุษย์

  21. การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) วิธีการที่จะให้ได้มาซึ่งข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงาน คุณสมบัติของพนักงานที่ต้องการ (Job Specification) มีข้อความเกี่ยวกับคุณสมบัติของคนที่จำเป็น สำหรับการทำงานนั้นซึ่งมักประกอบด้วย การระบุถึง -การศึกษา -ประสบการณ์ -การอบรม -การใช้ดุลยพินิจ -ความคิดริเริ่ม -การใช้แรงกาย -ความชำนาญทางด้านร่างกาย -ความรับผิดชอบ -ความสามารถเชิงติดต่อสื่อความ -ลักษณะอารมณ์ - ความสามารถของโสตประสาทที่ต้องมีเป็นพิเศษ เช่นการใช้สายตา, การรับฟังเป็นต้น คำบรรยายลักษณะงานหรือพรรณนางาน (Job Description) มีข้อความต่างๆที่เกี่ยวกับ -ชื่อตำแหน่งงาน -ที่ตั้งของงาน -ประสบการณ์ -เนื้อหาของงานโดยย่อ (จัดทำในเรื่องเอกสาร, ทะเบียนแฟ้ม) -การอบรม -ภาระหน้าที่ -เครื่องจักรอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ทำงาน (บรรยายวิธีการใช้งานเครื่องจักรอุปกรณ์เครื่องมือ) - วัตถุอุปกรณ์วัตถุดิบและเอกสารที่ใช้ -การต้องบังคับบัญชาคนอื่น หรืออยู่ภายใต้ การบังคับบัญชาของใคร -สภาพแวดล้อมของงาน -ภัยอันตรายที่เกี่ยวข้องกับงาน

  22. การสรรหาและการคัดเลือก 1.   การสรรหาบุคคล (Recruitment)กรรมวิธีการแสวงหาบุคคลที่ เหมาะสม 1.1  ระบบการสรรหาบุคคล (Recruitment System) สามารถทำได้ ดังนี้ 1.1.1    ระบบอุปถัมภ์“ระบบเล่นพรรคเล่นพวก” วิธีนี้ จะทำให้ขวัญของพนักงานเสียไม่มี ความเชื่อมั่นในการทำงานในองค์การจึง ทำให้การจงรักภักดีต่อองค์การมีน้อย

  23. 1.1.2    ระบบคุณธรรมโดยพิจารณาความรู้1.1.2    ระบบคุณธรรมโดยพิจารณาความรู้ ความสามารถประสบการณ์และปัจจัยอื่นๆเข้า มาช่วยในการตัดสินใจ รับพนักงานเข้ามาทำงาน - หลักความรู้ความสามารถ - หลักความเสมอภาค - หลักความมั่นคง - หลักความเป็นกลางทางการเมือง

  24. การสรรหา ( Recruitment ) การจูงใจให้ผู้สมัครงานมาสมัครกับองค์การให้มากที่สุด โดยการหาคนดี มีความรู้ มีความสามารถ มาปฏิบัติงานในองค์การ ( Positive Process )

  25. แหล่งในการสรรหา ภายใน 1.หัวหน้าคัดเลือก 2.รับสมัครบุคคลภายใน

  26. Walk in Write in Advertising กรมแรงงาน สถาบันการศึกษา สำนักงานจัดหางาน บริษัทคู่แข่ง การแนะนำ ภายนอก

  27. การคัดเลือก ( Selection ) • การพิจารณาผู้สมัครจำนวนมากให้เหลือจำนวนตามที่องค์การต้องการ ( Negative Process )

  28. 1.Merit System - Equality -Competence -Security -Neutrality 2.Patronage System ระบบการคัดเลือก

  29. ขั้นตอนคัดเลือก รวมจดหมายสมัครงาน ให้กรอกแบบฟอร์มใบสมัคร กรองออกบางส่วน (บุคคลที่ไม่ต้องการ) กรองออกบางส่วน (บุคคลที่ไม่ต้องการ) สัมภาษณ์ขั้นต้น กรองออกบางส่วน (บุคคลที่ไม่ต้องการ) ทดสอบงาน (ถ้าจำเป็น) กรองออกบางส่วน (บุคคลที่ไม่ต้องการ) สัมภาษณ์เจาะลึก ตรวจสอบผู้รับรอง กรองออกบางส่วน (บุคคลที่ไม่ต้องการ) ตรวจโรค กรองออกบางส่วน (บุคคลที่ไม่ต้องการ) ฝึกอบรม และปฐมนิเทศ จ้างงาน

  30. วิธีการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานวิธีการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน • การสอบประวัติ (Past Record) • การสัมภาษณ์ (Interviewing) • การทดสอบ (Testing) • การตรวจร่างกาย (Physical Examination)

  31. การทดสอบ • ทดสอบเชาว์ปัญญา • ทดสอบการปฏิบัติงาน • ทดสอบด้านธุรกิจ • ทดสอบบุคลิกลักษณะ

  32. การบรรจุและการปฐมนิเทศ ( Placement and Orientation ) • การแนะนำให้พนักงานใหม่ได้ รู้จักกฏ ระเบียบ ผู้บังคับบัญชา การแบ่งสายงานในองค์การ

  33. การฝึกอบรมและพัฒนาบุคคลากรการฝึกอบรมและพัฒนาบุคคลากร • การฝึกอบรมเมื่อเข้าปฏิบัติงานใหม่ ๆ • การฝึกอบรมขณะปฏิบัติงาน

  34. การฝึกอบรมและการพัฒนาการฝึกอบรมและการพัฒนา การฝึกอบรม (Training) ผู้บริหารจะต้องมีการประเมินผลการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อพัฒนาความรู้และเพิ่มทักษะในการแก้ไขปัญหาต่างๆในการฝึกอบรมและการพัฒนาพนักงานสามารถทำได้หลายวิธีได้แก่

  35. 1. การให้คำแนะนำ 2.  การฝึกอบรม (Training) เป็นกระบวนการในการฝึกพฤติกรรมในการทำงานของพนักงานให้ความรู้และความชำนาญตามหน้าที่ ของงานที่ได้รับมอบหมาย 2.1   การฝึกอบรมโดยให้ลงมือปฏิบัติงาน (On-the- Job Training) 2.2   การสอนงาน (Coaching) เป็นการฝึกอบรมโดยให้ลงมือ ปฏิบัติงานเองเพื่อจะได้มีความเข้าใจยิ่งขึ้น 3.   การพัฒนาอาชีพ (Career Development) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเลื่อนตำแหน่งพนักงานให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ

  36. การบรรยาย การประชุมอภิปราย แสดงบทบาทสมมุติ กรณีตัวอย่าง การสาธิต ระดมสมอง เกมจัดการ อภิปรายเป็นคณะ เทคนิคในการฝึกอบรม

  37. การโยกย้าย เลื่อนตำแหน่ง และลดตำแหน่ง • การโยกย้าย Transfer (Rotate) • เพื่อให้รอบรู้ทุกงาน • เพื่อ Career Path • การเลื่อนตำแหน่ง Promotion • เลือกคนดีที่สุด ไม่ใช่ใกล้ชิดที่สุด • มีขบวนการคัดเลือกที่เป็นธรรมที่สุด เช่น ใช้คณะกรรมการ ศึกษาประวัติ ใช้ผลการประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติ • การลดชั้น Demotion

  38. การโยกย้าย ( Transfer ) • การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งจากตำแหน่ง หนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งแต่ค่าจ้าง หน้าที่ ความรับผิดชอบอยู่ระดับเดียวกัน

  39. สาเหตุของการโยกย้าย 1.พนักงานขอย้ายเอง 2.องค์การเห็นความเหมาะสม

  40. การเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง(Chang ofPosition) • Promotion การเลื่อนตำแหน่ง • Transfer การโยกย้าย • Demotion การลดขั้น • Lay off การงดจ้างชั่วคราว

  41. การเลื่อนตำแหน่ง ( Promotion ) • การมอบหมายงานให้บุคคลได้ทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นซึ่งเป็นการแสดงถึงความสำเร็จ/ความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน

  42. หลักเกณฑ์ในการเลื่อนตำแหน่งหลักเกณฑ์ในการเลื่อนตำแหน่ง • 1.Merit or Ability Factor สอบ • 2.Seniority /Experience อาวุโส+ประสบการณ์ • 3.Merit/Seniority ความรู้+อาวุโส • 4.Patronage System อุปถัมภ์

  43. การบริหารค่าตอบแทน คือการบริหารค่าตอบแทนที่ให้กับพนักงานซึ่งรวมถึงการจ่ายค่าจ้างแรงงานเงินเดือนผลประโยชน์ต่างๆเช่นสวัสดิการเรื่องการประกันภัยการลาหยุดการลาพักร้อนผลประโยชน์โบนัสค่ารักษาพยาบาลเป็นต้น

  44. ค่าตอบแทน ( Compensation ) • เงินเดือน( Salary) • ค่าจ้าง ( Wage) • สวัสดิการ ( Benefits)

  45. หลักเกณฑ์ในการกำหนดเงินเดือน/ค่าจ้างหลักเกณฑ์ในการกำหนดเงินเดือน/ค่าจ้าง • ระดับค่าจ้าง ตลาดแรงงาน • โครงสร้างของค่าจ้าง • การประเมินผลการปฏิบัติงาน • กรณีพิเศษ • ผลประโยชน์อย่างอื่น

  46. ผลประโยชน์ตอบแทน Compensation & Frings Benefits • องค์การจะต้องเตรียมจัดสรรผลประโยชน์ตอบแทนในรูปของค่าจ้าง หรือเงินเดือน หรือผลประโยชน์เกื้อกูลต่าง ๆ คือ • ค่าจ้างและเงินเดือน ชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ หรือชิ้นของงานเป็นค่าจ้าง ส่วนเงินเดือน เป็นเหมารายเดือน • ผลประโยชน์เกื้อกูล นอกเหนือจากค่าจ้างและเงินเดือน เช่น โบนัส สวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล ค่าคอมมิชชั่น ค่าเทอมบุตร ประกันชีวิต ประกันสังคม ฯลฯ

  47. การประเมินการปฏิบัติงาน( Performance Appraisal ) • การประเมินคุณค่าการทำงานของบุคคล ในระยะเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อปรับปรุงการทำงาน และพิจารณาความดีความชอบแก่ผู้ปฏิบัติงาน

  48. ข้อควรพิจารณาในการประเมินการปฏิบัติงานข้อควรพิจารณาในการประเมินการปฏิบัติงาน • 1.มาตรฐานการปฏิบัติงาน • 2.การวัดความก้าวหน้า • 3.การกำหนดผู้ประเมิน ( 360 องศา ) • 4.คุณสมบัติของผู้ประเมิน

  49. วิธีการประเมินการปฏิบัติงานวิธีการประเมินการปฏิบัติงาน 1.การจัดอันดับแบบกราฟ( Graphic Rating Scale ) -กำหนดรายการคุณลักษณะของการปฏิบัติงาน -กำหนดระดับความเข้มความถี่ -มี 2 แบบ แบบต่อเนื่อง แบบไม่ต่อเนื่อง

  50. ข้อดี -ง่ายต่อการใช้ -สามารถเปรียบเทียบคะแนนได้ • ข้อเสีย -มีแนวโน้มให้คะแนนสูง

More Related