1 / 28

พระวาจา ทรง ชีวิต

พระวาจา ทรง ชีวิต. กันยายน 2008. " จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่ สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน " ( ลก. 6, 27-28). จงรักศัตรู นี่เป็นคำที่แรง เป็นคำที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนความคิด และปรับเปลี่ยนชีวิตของเราจากหน้ามือเป็นหลังมือ.

Télécharger la présentation

พระวาจา ทรง ชีวิต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. พระวาจา ทรง ชีวิต กันยายน2008

  2. "จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่ สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน"(ลก. 6, 27-28)

  3. จงรักศัตรู นี่เป็นคำที่แรง เป็นคำที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนความคิด และปรับเปลี่ยนชีวิตของเราจากหน้ามือเป็นหลังมือ

  4. เรามาพิจารณากันให้ชัดๆ เราทุกคนต่างมี ศัตรูกันด้วยทั้งนั้น ไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง

  5. ศัตรูของฉันอาจเป็นเพื่อนบ้าน หรือหญิงคนนั้นที่ชอบอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น เราไม่ชอบ แต่ก็มักพบกันบ่อยๆในลิฟต์ เราพยายามเลี่ยง ไม่อยากเจอ

  6. ศัตรูของคุณ ก็อาจเป็นญาติคนนั้น ที่เมื่อสามสิบปีก่อนเคยข่มเหงคุณพ่อของคุณ และจากนั้นเป็นต้นมา คุณก็ไม่ยอมพูดจาด้วย

  7. หรืออาจเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่คุณ ไม่อยากมองหน้าตั้งแต่เขาเป็นสาเหตุทำให้คุณถูกครูทำโทษ

  8. หรือคนที่อาจเคยเป็นแฟนของคุณในอดีต แต่เขาสลัดทิ้งคุณไปคบหากับคนอื่น

  9. หรือว่าเขาอาจเป็นพนักงานขายของที่มาหลอกลวงต้มตุ๋นคุณ หรือว่าเป็นพวกนักการเมืองบางคน ที่เรามองว่าเป็นศัตรู เพราะเขามีความคิดเห็น ไม่เหมือนกับเรา

  10. หรือยิ่งไปกว่านั้นอีก มีคนบางกลุ่มที่เกลียดชังพระศาสนจักร มองว่าพระสงฆ์ นักบวช เป็นศัตรู พระคาร์ดินัล วัน ทวน

  11. ทั้งหมดนี้ และอื่นๆอีกมากมายที่เรามองว่าเป็นศัตรู เป็นคนที่เราต้องรัก

  12. เพราะพระเยซูเจ้าทรงบอกเราเช่นนี้ว่าเพราะพระเยซูเจ้าทรงบอกเราเช่นนี้ว่า ต้องรักเชียวหรือ ใช่แล้ว เป็นคนที่เราต้องรัก เพราะมิใช่แค่เพียงว่าเราต้องเปลี่ยนความเกลียดชังให้เป็นความรู้สึกดีๆเท่านั้น หามิได้ แต่เราต้องทำมากกว่านั้นมากนัก

  13. "จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน"

  14. เราจะเห็นว่า พระเยซูเจ้าต้องการให้เราเอาชนะความชั่วด้วยความดี ต้องการให้เราแสดงความรักอย่างเป็นรูปธรรม เราคงแปลกใจว่าทำไมพระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องจากเรามากอย่างนี้

  15. ความจริงก็คือว่า พระองค์ต้องการให้เราปรับปรุงชีวิตของเราให้ละม้ายคล้ายกับชีวิตของพระบิดาเจ้าสวรรค์ พระองค์ "โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ส่องแสงเหนือคนดีและคนชั่ว ทรงโปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม"

  16. จุดสำคัญอยู่ที่ว่า เรามิได้อยู่ในโลกคนเดียว เรามีพระบิดาเจ้า และเราต้องเป็นเหมือนพระองค์

  17. ในขณะที่เรายังอยู่ในความมืดมน พระองค์ทรงรักเราก่อน ด้วยการประทาน พระบุตรของพระองค์เพื่อเรา พระบุตรนี้ยอมสิ้นพระชนม์ อย่างทารุณ เพื่อเราแต่ละคน ยิ่งกว่านั้น พระองค์มีสิทธิ์เรียกร้องจากเรา เพราะเหตุว่าในขณะที่เรายัง เป็นศัตรู

  18. "จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน... "

  19. เจอร์รี่เป็นเด็กผิวดำจากรัฐวอชิงตัน เขาได้เจริญชีวิตพระวาจาตอนนี้ เนื่องจากเขาเรียนเก่งมากจึงได้รับเลือกให้เข้าเรียนในชั้นพิเศษร่วมกับเด็กๆผิวขาว แต่การเรียนเก่งไม่อาจทำให้เขาได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆเด็กผิวขาว

  20. เด็กผิวขาวต่างพากันรังเกียจเขาเพราะเขาผิวดำ วันคริสต์มาสมาถึง พวกเด็กๆต่างจัดของขวัญแลกเปลี่ยนกันโดยไม่ให้เจอร์รี่เข้าร่วมกลุ่มด้วย และแน่นอน เจอร์รี่ร้องไห้

  21. แต่เมื่อเขากลับบ้าน เขาคิดถึงคำของพระเยซูเจ้าที่ว่า "จงรักศัตรู" ดังนั้น ด้วยความเห็นชอบของแม่ เขาซื้อของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมชั้นทุกคน และแจกให้กับ "เพื่อนผิวขาว" ทุกคนด้วยความรัก

  22. "จงรักศัตรู... จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน"

  23. เอลิซาเบทเป็นเด็กหญิงชาวเมืองฟลอเรนซ์ เช้าวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังเดินขึ้นบันไดหน้าวัดเพื่อร่วมมิสซา ทันใด กลุ่มเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเธอแถวหน้าวัดต่างพากันหัวเราะเยาะเธอ เธอรู้สึกเจ็บใจ อยากตะโกนโต้ตอบ แต่ตรงข้าม เธอกลับยิ้มให้ และเมื่อเธออยู่ในวัด เธอสวดให้พวกเขา

  24. ตอนเธอออกจากวัด เด็กกลุ่มนั้นต่างพากันถามเธอว่า ทำไมเธอทำตัวดีอย่างนั้น เธอบอกพวกเขาว่า เธอเป็น คริสตชน ดังนั้น เธอจะต้องรักในทุกสถานการณ์ เธอพูดกับพวกเขาด้วยความมั่นใจ อาทิตย์ต่อมา เธอพบว่าการเป็นประจักษ์พยานของเธอได้ผล ตอนที่เธอเข้าวัด เธอพบว่าเด็กกลุ่มนั้นก็เข้าวัด และนั่งที่นั่งแถวหน้าสุด

  25. นี่เป็นตัวอย่างให้เราเห็นว่าเด็กๆเอาจริงเอาจังกับพระวาจาของพระเจ้าเพียงไร เหตุนี้พวกเขา จึงเป็น “ผู้ใหญ่“ ในสายพระเนตรของพระองค์

  26. เราก็เช่นกัน เราอาจต้องเริ่มแก้ไขสถานการณ์บางอย่างในชีวิตของเรา นี่เป็นเรื่องจำเป็น เพราะเรารู้ดีว่าพระเจ้าจะตัดสินเราในแบบที่เราตัดสินคนอื่น เราเองเป็นคนที่ให้มาตรการกับพระเจ้า เพื่อทรงใช้ตัดสินตัวเราเอง เราสวดภาวนาดังนี้มิใช่หรือว่า "โปรดยกโทษข้าพเจ้า เหมือนที่ข้าพเจ้ายกโทษให้ผู้อื่น" เพราะฉะนั้น จงรักศัตรู นี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะเยียวยาความแตกแยก ทำลายกำแพงขวางกั้นระหว่างเรา และเพื่อเสริมสร้างกลุ่มคริสตชน

  27. คุณรู้สึกว่ายากรึ เจ็บปวดรึ เพียงแค่คิดก็ทำให้ คุณนอนไม่หลับรึ จงทำใจให้กล้าเถิด ยังไม่ถึงกับโลกพังทลายหรอก เราเพียงแต่ออกแรงทำในส่วนของเราส่วนเดียว อีกเก้าสิบเก้าส่วนพระเจ้าจะทรงทำเพิ่มให้ แล้วจิตใจของเราจะประสบความปิติยินดีอย่างที่สุด

  28. "จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่ สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน" “แผ่นพับพระวาจาทรงชีวิต” (พฤษภาคม 1978)พระวาจาทรงชีวิตประจำเดือนจัดพิมพ์โดยคณะโฟโคลาเร กราฟฟิก โดยAnna Lolloด้วยความร่วมมือจากFr. Placido D’Omina (ซิชิลี – ประเทศอิตาลี)

More Related