1 / 106

5.1 มอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟส ( Single phase induction motor )

บทที่ 5 มอเตอร์เฟสเดียว. 5.1 มอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟส ( Single phase induction motor ). มอเตอร์หนี่ยวนำหนึ่งเฟส ส่วนมากเป็นมอเตอร์ขนาดเล็ก มักมีพิกัดกำลังเอาท์พุทต่ำกว่า 1 แรงม้า จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ มอเตอร์ที่มีขนาดพิกัดเป็นเศษส่วนของแรงม้า ”. 1.

chelsa
Télécharger la présentation

5.1 มอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟส ( Single phase induction motor )

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 5 มอเตอร์เฟสเดียว 5.1 มอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟส( Single phase induction motor ) มอเตอร์หนี่ยวนำหนึ่งเฟส ส่วนมากเป็นมอเตอร์ขนาดเล็ก มักมีพิกัดกำลังเอาท์พุทต่ำกว่า 1 แรงม้า จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า“มอเตอร์ที่มีขนาดพิกัดเป็นเศษส่วนของแรงม้า” 1

  2. มอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟสแบ่งออกได้ 3 แบบซึ่งแต่ละแบบจะแตกต่างกันที่วิธีการทำให้มอเตอร์เริ่มหมุนคือ - มอเตอร์แบบสปลิตเฟส หรือแบบแยกเฟส - มอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์ - มอเตอร์แบบเชดเดดโพล 2

  3. 5.1.1 หลักการของมอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟส ( Principle of single phase induction motor ) มอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟสไม่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กหมุนได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงไม่สามารถสร้างแรงบิดเริ่มหมุนให้เกิดขึ้นได้ 3

  4. หลักการของมอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟสหลักการของมอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟส ( Principle of single phase induction motor ) 4

  5. เฟสเซอร์แรงดันและกระแสของมอเตอร์สปลิทเฟสเฟสเซอร์แรงดันและกระแสของมอเตอร์สปลิทเฟส 5 Back

  6. 6

  7. . ก) ความสัมพันธ์ระหว่างเฟสของเส้นแรงแม่เหล็กจากสเตเตอร์ ( ) แรงคลื่นไฟฟ้าเมื่อโรเตอร์ถูกทำให้หมุน ซึ่งสัมพันธ์กับกระแสโรเตอร์ และเส้นแรงแม่เหล็กขวาง ข) รูปคลื่นสอดคล้องกับแผนภาพเฟสเซอร์ในรูป(ก.) (ค) ทิศทางชั่วขณะของ และ เส้นแรงแม่เหล็กรวมที่สอดคล้องกับมุนต่างเฟสของเส้นแรงแม่เหล็กทั้งสองในรูป ข. 7

  8. เนื่องจากอัตราส่วนของค่ารีแอตเตนท์ต่อค่าความต้านทานของ โรเตอร์มีค่าสูงมากจึงเป็นเหตุทำให้กระแสโรเตอร์และเส้นแรงแม่เหล็กขวางล้าหลังแรงคลื่นไฟฟ้าเป็นมุม 90 องศา จะสังเกตเห็นว่าแรงคลื่นไฟฟ้าเมื่อโรเตอร์ถูกทำให้หมุนจะอินเฟสกับสิ่งที่ทำให้มันเกิดขึ้นคือเส้นแรงแม่เหล็กจากสเตเตอร์ 8

  9. 5.1.2 มอเตอร์เหนี่ยวนำแบบสปลิทเฟส หรือแบบแยกเฟส( Split phase induction motor ) มอเตอร์แบบสปลิทเฟสเป็นมอเตอร์เหนี่ยวนำหนึ่งเฟสที่เก่าแก่มากแบบหนึ่งปัจจุบันยังมีความสำคัญอยู่มาก เพราะนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องใช่ไฟฟ้าภายในบ้านและสำนักงาน เช่น เครื่องซักผ้า โบลเวอร์ (Blowers) ปั้มแรงเหวี่ยง (Centrifugal pumps) เครื่องมือกลงานไม้ (woodworking tools) เครื่องจักรกลธุรกิจ (Business machines) เครื่องล้างขวด (Bottle washers) เครื่องดนตรีอัตโนมัติ (Automatic musical instruments) 9

  10. โครงสร้างและส่วนประกอบของมอเตอร์สปลิทเฟสโครงสร้างและส่วนประกอบของมอเตอร์สปลิทเฟส 10

  11. ส่วนประกอบ มีส่วนประกอบที่สำคัญดังนี้ สเตเตอร์ของมอเตอร์แบบสปลิตเฟสประกอบด้วยแกน สเตเตอร์ที่ทำด้วยเหล็กแผ่นลามิเนท มีร่องเป็นแบบกึ่งปิด โครงทำด้วยเหล็กหล่อหรือเหล็กเหนียวขดลวดที่พันไว้ในร่องของ สเตเตอร์มีสองชุด ( เป็นลวดทองแดงอาบด้วยฉนวนไฟฟ้า) คือขดลวดช่วย (Auxiliary winding) หรือขดสตาร์ท (Starting winding) และขดลวดหลัก(Main winding) หรือขดรัน (Running winding) แกนสเตเตอร์ที่ทำด้วยเหล็กแผ่นลามิเนทและโรเตอร์ของมอเตอร์แบบสปลิตเฟส 11

  12. สเตเตอร์ (Stator) แกนสเตเตอร์ที่ทำด้วยเหล็กแผ่นลามิเนทของมอเตอร์แบบสปลิตเฟสขนาด 187 วัตต์ ( ¼hp ) 12

  13. โรเตอร์ โรเตอร์ของมอเตอร์แบบสปลิตเฟส เป็นโรเตอร์แบบกรงกระรอกเช่นเดียวกับโรเตอร์ของมอเตอร์เหนี่ยวนำสามเฟส 13

  14. ฝาครอบฝาครอบหรือฝาปิดหัวท้าย (End plates ) จะยึดติดกับสเตเตอร์ด้วยสกรูและโบลท์ (Screw and bolt) หน้าที่หลักของฝาครอบก็คือรองรับเพลาของโรเตอร์ด้วยแบริ่งให้หมุนอยู่ในแนวศูนย์กลาง เพื่อไม่ให้โรเตอร์หมุนเสียดสีกับสเตเตอร์ 14

  15. สวิทช์แรงเหวี่ยง (Centrifugal switch)สวิทช์แรงเหวี่ยงติดตั้งอยู่ภายในมอเตอร์ มีหน้าที่ตัดขดสตาร์ทออกจากวงจร หลังจากโรเตอร์หมุนได้ความเร็วประมาณ 75 % ของความเร็วเต็มพิกัด โดยทั่วไปสวิทช์แรงเหวี่ยงประกอบด้วยส่วนประกอบสองส่วนคือ ส่วนที่อยู่กับที่และส่วนที่หมุน 15

  16. คุณลักษณะและการนำไปใช้งานคุณลักษณะและการนำไปใช้งาน มอเตอร์แบบสปลิตเฟส มีการออกแบบไว้เป็น 2 ลักษณะคือ ก. แบบใช้งานทั่วไป (General purpose)หรือแบบมาตรฐาน (Standard Split phase motor) มีขนาดพิกัดกำลังเอาพุตตั้งแต่ 1/20 -3/4 hp. มีแรงบิดเต็มพิกัดมีค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์และประสิทธิภาพเมื่อโหลดเต็มพิกัดประมาณ 65% และ 67% ตามลำดับ 16

  17. 100 90 80 70 60 50 40 30 20 10 ขดรันอย่างเดียว สวิตซ์แรงเหวี่ยงทำงาน 0 50 100 150 200 250 300 350 400 %แรงบิดเต็มพิกัด % ความเร็วซิงโครนัส เส้นกราฟคุณลักษณะแรงบิด-ความเร็วของมอเตอร์ สปลิตเฟสแบบใช้งานทั่วไปหรือแบบมาตรฐาน 17

  18. ข. แบบให้แรงบิดสูง (High-torque)หรือแบบพิเศษ (Special-service split-phase motor) มีขนาดพิกัดกำลังเอาท์พุทตั้งแต่ 1/6 – 1/3 hp. มีแรงบิดเริ่มหมุนประมาณ 275% ของแรงบิดเต็มพิกัด ให้แรงบิดสูงสุดประมาณ 350% ของแรงบิดเต็มพิกัด มีค่าเพาเวอร์และประสิทธิภาพเมื่อโหลดเต็มพิกัดประมาณ 62% คุณลักษณะแรงบิด-ความเร็วของมอเตอร์สปลิตเฟสแบบให้แรงบิดสูงหรือแบบพิเศษแสดงไว้ในรูป 18

  19. 100 90 80 70 60 50 40 30 20 10 สวิตซ์แรงเหวี่ยงทำงาน ทั้งสองขด 0 50 100 150 200 250 300 350 400 450 500 %แรงบิดเต็มพิกัด % ความเร็วซิงโครนัส เส้นกราฟคุณลักษณะแรงบิด-ความเร็วของมอเตอร์สปลิตเฟส แบบให้แรงบิดสูงหรือแบบพิเศษ 19

  20. 5.1.3 มอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์ (Capacitor type motor) เนื่องจากมอเตอร์แบบสปลิตเฟส เป็นมอเตอร์ที่มีแรงบิดเริ่มหมุนค่อนข้างเพราะว่ากระแสในขดสตาร์ทกับกระแสในขดรันต่างเฟสกันประมาณ 25 องศาทางไฟฟ้าเท่านั้น ดังนั้นถ้าต้องการให้มอเตอร์มีแรงบิดเริ่มหมุนสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้คาปาซิเตอร์ต่ออนุกรมกับวงจรของขดสตาร์ทดังจะกล่าวต่อไป 20

  21. มอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์ แบ่งออกได้ 3 แบบ คือ - มอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ท - มอเตอร์แบบเปอร์มาเนนท์-สปลิต คาปาซิเตอร์ - มอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สองค่า มอเตอร์คาปาซิเตอร์แต่ละแบบต่างก็มีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน ส่วนที่เหมือนๆกันก็คือ มีขดลวดสเตเตอร์ 2 ชุด คือ ขดรันและขดสตาร์ทพันเรียงห่างกัน 90 องศาทางไฟฟ้าและขดสตาร์ทจะต้องต่ออนุกรมกับคาปาซิเตอร์เสมอ 21

  22. 1. มอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ท (Capacitor start motor) มอเตอร์แบบนี้มีส่วนประกอบเหมือนกับมอเตอร์แบบสปลิตเฟสทุกอย่าง แต่เพิ่ม คาปาซิเตอร์อีก 1 ตัว เพื่อต่ออนุกรมกับขดสาร์ท คาปาซิเตอร์ดังกล่าวติดตั้งไว้บนโครงของมอเตอร์ ดังรูป 22

  23. วงจรของมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ท 23

  24. หลักการทำงานของมอเตอร์แบบนี้เหมือนกับมอเตอร์แบบ สปลิตเฟส การต่อคาปาซิเตอร์อนุกรมกับขดสตาร์ทจะทำให้กระแสที่ไหลผ่านขดสตาร์ทนำหน้าแรงดันป้อนและทำให้กระแสของขดสตาร์ท (IS)นำหน้ากระแสของขดรัน (IM)เป็นมุมประมาณ 80 องศาทางไฟฟ้า จึงเป็นเหตุทำให้มอเตอร์แบบนี้มีแรงบิดเริ่มหมุนสูงกว่ามอเตอร์แบบสปลิตเฟส 24

  25. 25

  26. คุณลักษณะและการนำไปใช้งานคุณลักษณะและการนำไปใช้งาน การต่อคาปาซิเตอร์อนุกรมกับวงจรขดสตาร์ท ทำให้มอเตอร์แบบนี้มีแรงบิดเริ่มหมุนสูงมาก ประมาณ 350% ของแรงบิดเต็มพิกัด ให้แรงบิดสูงสุดประมาณ 250% ของแรงบิดเต็มพิกัด มีค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์และประสิทธิภาพเมื่อโหลดเต็มพิกัด คุณลักษณะแรงบิดความเร็วของมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ทแสดงไว้ในรูป 26

  27. 100 90 80 70 60 50 40 30 20 10 สวิตซ์แรงเหวี่ยงทำงาน ขดรันอย่างเดียว ทั้งสองขด 0 50 100 150 200 250 300 350 400 450 500 %แรงบิดเต็มพิกัด %ความเร็วซิงโครนัส เส้นกราฟคุณลักษณะแรงบิด-ความเร็วของมอเตอร์แบบ คาปาซิเตอร์สตาร์ท 27

  28. คาปาซิเตอร์ คาปาซิเตอร์ที่ใช้ช่วยสตาร์ทมอเตอร์แบบนี้ เป็นคาปาซิเตอร์ชนิดอีเล็กทรอไลติ(Electrolytic capacitor) ผลิตขึ้นโดยใช้ แผ่นอลูมิเนียมบาง ๆสองแผ่น คั่นกลางด้วยวัสดุ ฉนวนซึ่งทำจากผ้าก๊อสชุบด้วยสารละลายเคมีที่เรียกว่าอีเล็กทรอไลต์จนอิ่มตัวซึ่งอีเล็กทรอไลต์จะทำให้เกิดไขขึ้นมาคั่นกลางระหว่างแผ่นอลูมิเนียมทั้งสอง 28

  29. แสดงลักษณะภายนอกของคาปาซิเตอร์ชนิดอีเล็กทรอไลติก ซึ่งเป็นคาปาซิเตอร์ที่มีค่าความจุสูงต่อใช้งานได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ 29

  30. คุณสมบัติของคาปาซิเตอร์ที่ควรทราบมีดังนี้คุณสมบัติของคาปาซิเตอร์ที่ควรทราบมีดังนี้ ก. ขนาดพิกัดแรงดันไฟฟ้า (Voltage rating) ควรเลือกใช้คาปาซิเตอร์ให้สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้เท่ากับแรงดังไฟฟ้าของมอเตอร์เป็นอย่างต่ำ ข. ขนาดความจุของคาปาซิเตอร์ (Capacitance rating) ควรเลือกใช้คาปาซิเตอร์ที่มีขนาดความจุเหมาะสมกับขนาดของมอเตอร์ อย่าลืมว่าขนาดความจุยิ่งสูง ราคายิ่งแพง 30

  31. ค. อุณหภูมิขณะใช้งาน (Ambient temperature) ขนาดความจุของคาปาซิเตอร์ตามปกติวัด ณ อุณหภูมิ 25 C แต่สามารถใช้งานจนกระทั่งอุณหภูมิของห้องเพิ่มขึ้นถึง 80 C อุณหภูมิยิ่งสูงอายุการใช้งานของ คาปาซิเตอร์ยิ่งสั้นลง ณ อุณหภูมิ 95 C ก็ยังพอใช้งานได้ แต่ต้องใช้งานแบบเดิน ๆ หยุด ๆ 31

  32. ง. พิกัดการใช้งาน ( Duty cycle) ตามปกติคาปาซิเตอร์ที่ใช้งานในสตาร์ทมอเตอร์ มักมีข้อกำหนดหรือข้อห้ามไว้ว่าจะสตาร์ทมอเตอร์ได้ไม่เกิน 20 ครั้ง ในหนึ่งชั่วโมง และช่วงเวลาในการสตาร์ทแต่ละครั้งต้องไม่เกิน 3 วินาที 32

  33. ขดสตาร์ท และขดรัน 1370r/min N-m 10 8 6 4 2 9.5N-m สวิตซ์แรงเหวี่ยงเปิดวงจร 300r/min แรงบิด 3.4N-m 2.8N-m สวิตซ์แรงเหวี่ยงปิดวงจร โหลดเต็มพิกัด 0 200 400 600 800 1000 1200 1400 1600 1800 r/min ความเร็ว เส้นกราฟแรงบิด-ความเร็วของมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ท ขนาดพิกัด 1/3 แรงม้า1760 รอบ ต่อนาที 115 โวลท์ 60 เฮร์ตช์ 33

  34. การต่อมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ทให้หมุนกลับทิศทางสามารถกระทำได้เช่นเดียวกับมอเตอร์แบบสปลิตเฟสการต่อมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ทให้หมุนกลับทิศทางสามารถกระทำได้เช่นเดียวกับมอเตอร์แบบสปลิตเฟส ก) หมุนในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ข) หมุนในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา 34

  35. 2. มอเตอร์แบบเปอร์มาเนนท์-สปลิต คาปาซิเตอร์( Permanent-split capacitor motor) มอเตอร์แบบนี้มีลักษณะโครงสร้างโดยทั่วไปเหมือนกับมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สตาร์ท แต่ไม่มีสวิทช์แรงเหวี่ยง ดังนั้นทั้งคาปาซิเตอร์และขดสตาร์ทจึงต้องอยู่ในวงจรตลอดเวลา ทั้งในขณะเริ่มหมุนและขณะหมุนขับโหลด วงจรของมอเตอร์แบบนี้แสดงไว้ในรูป 35

  36. วงจรของมอเตอร์แบบเปอร์มาเนนท์-สปลิต คาปาซิเตอร์ 36

  37. คาปาซิเตอร์ที่ต่อใช้งานในมอเตอร์แบบนี้ เป็นคาปาซิเตอร์ชนิดบรรจุน้ำมัน (Oilfilledcapacitor ) ฉนวนคั่นกลางระหว่างแผ่นอะลูมิเนียมทำด้วยกระดาษแผ่นบางๆอาบด้วยน้ำมันฉนวนแล้วม้วนเป็นรูปทรงกระบอกหรือพับเป็นรูปสี่เหลี่ยม แล้วบรรจุลงในกล่องอลูมิเนียมหรือกล่องพลาสติก คุณสมบัติของคาปาซิเตอร์ ชนิดบรรจุน้ำมันคือมีค่าความจุต่ำและสามารถต่อใช้งานในวงจรได้เป็นระยะเวลานาน ๆ (Continuous duty) 37

  38. แสดงลักษณะภายนอกของคาปาซิเตอร์ชนิดบรรจุน้ำมัน ซึ่งเป็น คาปาซิเตอร์ที่มีค่าความจุต่ำ ต่อใช้งานในวงจรได้เป็นระยะเวลานานๆ 38

  39. คุณลักษณะและการนำไปใช้งานคุณลักษณะและการนำไปใช้งาน มอเตอร์แบบเปอร์มาเนนท์-สปลิต คาปาซิเตอร์ มีการออกแบบไว้เป็นสองลักษณะคือ ก) แบบแรงบิดเริ่มหมุนต่ำ (Low starting torque) มีขนาดพิกัดกำลังตั้งแต่ ถึง แรงม้า มีแรงบิดเริ่มหมุนประมาณ 60-75% ของแรงบิดเต็มพิกัด 39

  40. ข) แบบแรงบิดเริ่มหมุนปกติ (Normal starting torque) มีขนาดพิกัดกำลังตั้งแต่ ถึง แรงม้ามีแรงบิดเริ่มหมุนและแรงบิดสูงสุดประมาณ 200% ของแรงบิดเต็มพิกัด มีค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์และประสิทธิภาพเมื่อโหลดเต็มพิกัดประมาณ 80-95% และ 55-65% ตามลำดับเหมาะกับงานขับโหลดด้วยสายพานและโหลดที่ยึดติดกับแกนเพลาของมอเตอร์โดยตรง เช่นมอเตอร์ พัดลมของเครื่องปรับอากาศ พัดลมเพดาน พัดลมดูดอากาศและเตียงพยาบาล เป็นต้น 40

  41. การกลับทางหมุน การกลับทางหมุนมอเตอร์แบบเปอร์มาเนนท์-สปลิต คาปาซิเตอร์ ที่มีปลายสายสี่สายทำได้โดยสลับปลายสาย T5 และT8 41

  42. 3. มอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สองค่า ( Two-value capacitor motor) มอเตอร์แบบนี้ใช้คาปาซิเตอร์สองตัวหรือสองค่า คาปาซิเตอร์ตัวแรกเป็นชนิดอีเล็กทรอไลติก ทำหน้าที่เป็นคาปาซิเตอร์สตาร์ท อีกตัวหนึ่งเป็นคาปาซิเตอร์ชนิดบรรจุน้ำมันทำหน้าที่เป็นคาปาซิเตอร์รันคาปาซิเตอร์ทั้งสองตัวดังกล่าวติดตั้งไว้บนโครงการของมอเตอร์ดังรูป 42

  43. ลักษณะโครงสร้างภายนอกของมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สองค่าลักษณะโครงสร้างภายนอกของมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สองค่า 43

  44. คาปาซิเตอร์ชนิดบรรจุน้ำมัน ขณะเริ่มสตาร์ทมอเตอร์คาปาซิเตอร์ทั้งสองตัวจะต่อขนานกันซึ่งทำให้ค่าความจุความสูงขึ้น ทำให้มอเตอร์มีแรงบิดเริ่มหมุนสูง 44

  45. คุณลักษณะและการนำไปใช้งานคุณลักษณะและการนำไปใช้งาน มอเตอร์แบบนี้ มีขนาดพิกัดกำลังเอาท์พุท ตั้งแต่ 1/8 ถึง ¾แรงม้า มีแรงบิดเริ่มหมุนประมาณ 350% ของแรงบิดเต็มพิกัด ให้แรงบิดสูงสุดประมาณ 250% ของแรงบิดเต็มพิกัด คุณลักษณะแรงบิด-ความเร็วของมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์สองค่า 45

  46. 5.1.4 มอเตอร์แบบเชดเดดโพล (Shaded pole motor) มอเตอร์แบบเชดเดดโพล เป็นมอเตอร์ เหนี่ยวนำหนึ่งเฟส ขนาดเล็กที่มีขนาดพิกัดกำลังเอาท์พุทตั้งแต่ 1/100-1/20 แรงม้า ใช้เป็นมอเตอร์อเนกประสงค์ที่มีความเร็วรอบคงที่ ส่วนประกอบไม่ยุ่งยาก สร้างได้ง่าย ราคาถูก ทนทานและใช้งานได้ดี 46

  47. ส่วนประกอบ สเตเตอร์ ทำด้วยเหล็กแผ่นลามิเนทนำมาอัดติดกันเป็นรูปทรงกระบอก มีขั้วแม่เหล็กเป็นแบบขั้วแม่เหล็กยื่น (Salient pole) โดยแบ่งพื้นที่ด้านหน้าของขั้วแม่เหล็กออกเป็นสองส่วน ส่วนที่มีพื้นที่น้อยเรียกว่า เชดเดดโพล (Shaded pole) ส่วนที่มีพื้นที่มากเรียกว่า อันเชเดดโพล (Unshaded pole) ลักษณะของแกนเหล็กสเตเตอร์ของมอเตอร์แบบเชดเดดโพลชนิด 6 ขั้ว 47

  48. เหล็กแผ่นลามิเนทแกนเหล็กสเตเตอร์ของมอเตอร์แบบเชดเดดโพลชนิด 6 ขั้ว 48

  49. โรเตอร์เป็นแบบกรงกระรอกเช่นเดียวกับโรเตอร์ของมอเตอร์แบบสปลิตเฟสและมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์โรเตอร์เป็นแบบกรงกระรอกเช่นเดียวกับโรเตอร์ของมอเตอร์แบบสปลิตเฟสและมอเตอร์แบบคาปาซิเตอร์ ฝาครอบปิดหัวท้ายทำด้วยเหล็กหล่อเหนียว เช่นเดียวกับฝาปิดหัวท้ายของมอเตอร์ต่างๆดังกล่าวมาข้างต้น 49

  50. หลักการทำงาน เมื่อป้อนแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับหนึ่งเฟสเข้าขดลวดเมน กระแสชั่วขณะที่ไหลเข้าขดลวดเมนจะเปลี่ยนแปลงตามรูปคลื่นไซน์ คือกระแสจะเปลี่ยนแปลงโดยมีค่าเพิ่มขึ้นจาก o ถึง a การเปลี่ยนแปลงค่าของกระแสอย่างรวดเร็วทำให้สนามแม่เหล็กของขั้วแม่เหล็กเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เพิ่มขึ้นทำให้มีแรงคลื่นไฟฟ้าเหนี่ยวนำเกิดขึ้นในเชดดิ้งคอล์ยและมีกระแสจำนวนมากไหล ในเชดดิ้งคอล์ยซึ่งมีค่าความต้านทานต่ำ 50

More Related