1 / 87

Microsoft Windows

Microsoft Windows. ระบบปฏิบัติการ. ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) คือ ซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ Printer, Monitor, Mouse ช่วยให้ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมต่าง ๆ สามารถทำงานได้

howe
Télécharger la présentation

Microsoft Windows

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Microsoft Windows

  2. ระบบปฏิบัติการ • ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) คือ ซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ • ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ • Printer, Monitor, Mouse • ช่วยให้ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมต่าง ๆ สามารถทำงานได้ • ช่วยให้ซอฟต์แวร์หลาย ๆ ตัวสามารถติดตั้งและทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ เช่น โปรแกรม Microsoft Word • จัดการไฟล์ • ช่วยให้ไฟล์ต่าง ๆ สามารถจัดเก็บลง disk และสามารถดึงกลับมาใช้งานได้

  3. วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • DOS • ทำงาน 16 บิต • ทำงานแบบ Single Task • รับคำสั่งทีละบรรทัดผ่าน Command line และแสดงผลด้วยข้อความล้วน ๆ (Text mode) • Windows 3.1 และ Windows 3.11 • ทำงานร่วมกับ DOS • สนับสนุน Multitasking แต่ยังไม่สมบูรณ์ • GUI

  4. วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • Windows 3.11 for Workgroup • เป็นเวอร์ชันพิเศษของ Windows 3.11 ที่ขยายความสามารถทางด้านเครือข่ายหรือเน็ตเวิร์กเพื่อทำงานร่วมกับเครื่องอื่น ๆ เช่น การใช้ไฟล์และเครื่องพิมพ์ร่วมกัน • Windows 95 • ทำงาน 32 บิต • การทำงานด้านเน็ตเวิร์กส่วนใหญ่สนับสนุนให้เป็นเครื่องลูกข่าย (Client)

  5. วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • Windows NT Workstation • เรียกย่อ ๆ ว่า NT • ทำงาน 32 บิต • เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเน็ตเวิร์กขนาดเล็กถึงกลาง • เหมาะสำหรับเครื่องแม่ข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) • Windows NT Advanced Server • เรียกย่อ ๆ ว่า NTAS • เป็นเวอร์ชันพิเศษของ Windows NT • ขยายความสามารถให้รองรับงานทางด้านเน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ได้

  6. วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • Windows 98/2000/Me/XP • เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหญ่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีในปัจจุบัน • Windows Server 2003 • เน้นการทำงานเป็นเครื่อง Server เป็นหลัก • Windows Vista • พัฒนาต่อมาจากวินโดวส์เอ็กซ์พี และวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 • Windows 7 • พัฒนาต่อมาจาก Windows Vista เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2552

  7. ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Windows • ดึงความสามารถของ PC มาใช้อย่างเต็มที่ • สามารถรันโปรแกรมพร้อม ๆ กันได้หลายโปรแกรม • สนับสนุนการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก โดยเพิ่มความเร็วและเสถียรภาพในการทำงาน • อ่าน เขียนดิสก์ และพิมพ์ได้เร็วขึ้น • ใช้งานง่าย มีGUIในการติดต่อกับผู้ใช้ • สามารถตั้งชื่อไฟล์ได้ยาวถึง 255 ตัวอักษร ในระบบเก่าตั้งชื่อไฟล์ได้เพียง 11 ตัวอักษร

  8. ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Windows • มี Windows Explorerซึ่งเป็นตัวจัดการไฟล์ที่เก่งและเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์กได้ • สนับสนุนการคัดลอก ลบ หรือเคลื่อนย้ายไฟล์ด้วยวิธี Drag and Drop • มีการเชื่อมโยงไฟล์ไปยังตำแหน่งที่มีการติดตั้งโปรแกรมหรือที่เรียกว่า Shortcutเพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งาน • สามารถเรียกเมนูคำสั่งของ “วัตถุ” ทุกอย่างของระบบด้วยการคลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ออบเจ็คนั้นได้เลย

  9. ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Windows • สามารถกำหนดขนาดตัวอักษรหรือสีในการแสดงผลได้และยังสามารถปรับขนาดของเมาส์พอยเตอร์ได้ด้วย • เพิ่มความสามารถด้านมัลติมีเดียโดยมีระบบการเล่นภาพวีดีโอที่เร็วขึ้น • มีคุณสมบัติ Plug and Play ทำให้ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น • มีการสอนวิธีการใช้งาน Windows และโปรแกรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีดัชนีและฐานข้อมูลของ Help ในการค้นหาคำที่ต้องการ

  10. ที่มาของ Windows XP • คำว่า XP ย่อมาจาก “eXPerience” ที่แปลว่าประสบการณ์ นั่นหมายถึงเป็นการรวบรวมข้อดีของ Windows ทั้ง 2 สายพันธุ์หลาย ๆ เวอร์ชันมารวมกัน 2 สายพันธุ์นี้ก็คือ • สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน ได้แก่ Windows 95, 98, ME • สำหรับระบบเครือข่าย ได้แก่ Windows NT, 2000 • ซึ่งข้อดีที่กล่าวมาก็คือ การใช้งานง่าย, คุณสมบัติ Plug & Play, ความปลอดภัย (Security) และความเสถียรภาพ

  11. รุ่นต่างๆ ของ Windows XP • Windows XP Home Edition • เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานตามบ้านหรือต้องการใช้งานด้านมัลติมีเดียเป็นหลัก และมีความเสถียรภาพและความปลอดภัยของระบบรวมอยู่ด้วย • Windows XP Professional Edition • เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานในองค์กรซึ่งจะคล้ายกับรุ่น Home แต่จะมีความเสถียรภาพมากกว่า • Windows XP 64-bit Edition • เหมาะสำหรับระบบงานที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบ 64 บิต เช่น AMD Hammer

  12. ความต้องการพื้นฐานก่อนการติดตั้ง Windows XP • ความเร็วในการประมวลผลไม่ควรต่ำกว่า 300 MHz • ขนาดของหน่วยความจำไม่ควรต่ำกว่า 128 MB • พื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ควรเหลือไว้อย่างน้อย 1.5 GB • การ์ดจอควรใช้แบบ Super VGA (800 x 600) • CD-Rom Drive หรือ DVD • รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่น ๆ ที่จำเป็น

  13. การ Upgrade ระบบปฏิบัติการเดิมให้เป็น Windows XP

  14. ความสามารถใหม่ของ Windows XP • หน้าจอ Log in • Start menu แบบใหม่ • การจัดกลุ่มโปรแกรมบน Taskbar • Search Companion • Windows Media Player • Internet Connection Sharing • Internet Connection Firewall • Internet Explorer 6 • System Restore Recovery

  15. ลักษณะของตัวชี้เมาส์ • (Normal Select) ใช้เพื่อเลือกหรือชี้วัตถุต่าง ๆ • (Help) เป็นตัวชี้เมาส์จากตัวชี้เมาส์ปกติจะเปลี่ยนเป็นลักษณะนี้เมื่อชี้ที่ Help ของหน้าต่าง • (Working Background) จะเปลี่ยนเป็นตัวชี้เมาส์ลักษณะนี้เมื่อชี้อยู่เหนือพื้นที่ของโปรแกรมที่กำลังโหลดข้อมูล • (Busy) จะเป็นตัวชี้เมาส์ลักษณะนี้เมื่อ เปิดโปรแกรมขึ้นมาและเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังโหลดข้อมูล

  16. ลักษณะของตัวชี้เมาส์ • (Precision Select)คือการเลือกที่จะครอบคลุมวัตถุเพื่อเลือกตัวชี้เมาส์ลักษณะนี้จะพบในโปรแกรม Graphics เป็นส่วนใหญ่ • (Text Select) ใช้พิมพ์ข้อความต่าง ๆ • (Hand Writing) จะเปลี่ยนเป็นลักษณะนี้เมื่อมีการวาดภาพด้วยเมาส์ • (Unavailable) จะเปลี่ยนเป็นลักษณะนี้เมื่อไม่อนุญาตให้คลิกที่ข้อความ หรือ ปุ่มนี้ • (Vertical Resize) เป็นการขยาย/ลด หน้าต่างโดยเลื่อนลงจากด้านล่าง

  17. ลักษณะของตัวชี้เมาส์ • (Horizon Resize) เป็นการขยาย/ลดหน้าต่างโดยการเลือนเข้า/ออกจากมุมด้านซ้ายล่าง • (Diagonal Resize1)เป็นการขยาย/ลดหน้าต่างโดยการเลือนเข้า/ออกจากมุมด้านขวาล่าง • (DiagonalResize2)เป็นการขยาย/ลดหน้าต่างโดยการเลือนเข้า/ออกจากมุมด้านซ้ายล่าง • (Move) เป็นการย้ายหน้าต่าง • (Alternate Select)เป็นตัวชี้เมาส์ที่ใช้ชี้เซลล์งานประเภท Spread sheet (ตารางคำนวณ) • (Link Select)เมื่อชี้เมาส์ปกติอยู่เหนือข้อความ hyper link

  18. การใช้งานเมาส์ (Mouse) • Click คือ การกดและปล่อยปุ่มเมาส์ด้านซ้าย 1 ครั้ง • Double-clickคือ การกดและปล่อยปุ่มเมาส์ด้านซ้าย 2 ครั้ง ติดกัน • Dragคือ การกดปุ่มเมาส์ด้านซ้ายค้างไว้และลากเมาส์ถึงตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นให้ปล่อยปุ่มเมาส์ • Right-Click คือ การกดและปล่อยปุ่มเมาส์ด้านขวา 1 ครั้ง

  19. Windows Screen Shortcut Icon Desktop Folder File Taskbar Start Menu Quick Launch Toolbar System Tray

  20. Windows Screen • Desktop • เปรียบเสมือนโต๊ะทำงานที่วางองค์ประกอบต่าง ๆ สำหรับการทำงาน เป็นหน้าจอแรกที่พบ หลังจากเปิดเครื่อง • Taskbar • อยู่ ณ บริเวณตอนล่างสุดของ Desktop เป็นที่สำหรับการเรียกดูข้อมูล เปลี่ยนการทำงานระหว่างโปรแกรม • Shortcut Icons • เป็น icon เล็ก ๆ บน Desktop ที่เพิ่มความสะดวกในการเรียกใช้งานโปรแกรมหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องใช้งานบ่อย ๆ

  21. Windows Screen • My Computer • เป็น icon สำหรับการเรียกใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Disk drive ต่าง ๆ • My network place • ใช้สำหรับการเรียกดูเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน • Start Menu • ปุ่มที่มุมซ้ายสุดของ Taskbar เป็นปุ่มแรกในการเปิดโปรแกรมต่าง ๆ

  22. Windows Screen • Recycle Bin • พื้นที่ชั่วคราว สำหรับ File หรือ Folder ที่ถูกลบ จนกว่าจะถูกผู้ใช้สั่ง Clear Recycle Bin ผู้ใช้สามารถกู้คืน file หรือ folder ที่ถูกลบได้จากที่นี่ถ้า File หรือ Folder นั้น ๆ ยังไม่ถูก Clear • Quick Launch Toolbar • ใช้เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานโปรแกรมที่ใช้บ่อย ๆ • System Tray • เป็นแถบเครื่องมือที่กำลังทำงานอยู่ แทนด้วยรูปภาพเล็ก ๆ

  23. Window Maximize Minimize Control Menu Title Bar Menu Bar Tool Bar Close Work Area Windows คือพื้นที่ทำงานของตัวโปรแกรม จะมีสองพื้นที่หลัก ๆ ได้แก่ ส่วน ควบคุมของโปรแกรม กับพื้นที่ทำงาน (Work area) ของโปรแกรมนั้น

  24. Window Component • Title Bar: แถบแสดงชื่อโปรแกรมและ File ที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนั้น • Control Menu: icon เล็กมุมซ้ายบน ซึ่งจะมีเมนูสำหรับการย่อ ขยาย ปรับขนาด ย้าย และปิดหน้าต่างโปรแกรม • Menu Bar: แถบสำหรับเก็บคำสั่งการทำงานทั้งหมดของโปรแกรมนั้น • Tool Bar: แถบของ icon สำหรับเรียกแต่ละคำสั่งที่ต้องใช้บ่อย ๆ ในโปรแกรมนั้น

  25. Window Component • Minimize Button: ปุ่มสำหรับย่อโปรแกรมให้เป็น Icon Bar ที่อยู่ใน Task Bar • Maximize Button: ปุ่มสำหรับขยายหน้าต่างโปรแกรมให้เต็มหน้าจอ ซึ่งเมื่อโปรแกรมขยายเต็มหน้าจอ ปุ่มนี้จะเปลี่ยนเป็น Restore เมื่อคลิกที่ปุ่ม Restore หน้าจอจะกลับสู่ขนาดเท่าเดิมมีขนาดเท่าตอนก่อนขยาย • Close Button: ปุ่มสำหรับปิดโปรแกรม • Work Area: พื้นที่สำหรับการทำงานของโปรแกรม

  26. DialogBox • ในเมนูโปรแกรมคำสั่งต่าง ๆ ถ้าคำสั่งใด มีเครื่องหมาย ... ต่อท้าย เช่น Font… หมายความว่าคำสั่งนั้นยังสามารถกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมในคำสั่งที่มีความซับซ้อน เช่นการกำหนดลักษณะต่าง ๆ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ จะถูกจัดไว้เป็นหมวดหมู่ โดยอยู่ในหน้าต่างที่เรียกว่า Dialog Box

  27. DialogBox (ต่อ) Text Box List Box Command Button Check Box

  28. DialogBox (ต่อ) • List Box: เป็นการเก็บรายการต่าง ๆ ให้ผู้ใช้เลือก • Command Button: เป็นปุ่มสำหรับสั่งให้โปรแกรมทำงานตามที่ผู้ใช้กำหนดใน Dialog Box เรียบร้อยแล้ว หรือสั่งยกเลิก Dialog Box นั้น • Text Box: เป็นช่องสี่เหลี่ยมสำหรับรับข้อมูลตัวอักษร หรือตัวเลขจากคีย์บอร์ด ผู้ใช้สามารถป้อนข้อความได้ เช่น การตั้งชื่อ File เป็นต้น • Check Box: เป็นช่องรูปสี่เหลี่ยมสำหรับการเลือก หรือไม่เลือก การทำงานบางอย่างของ Dialog Box นั้น ถ้าถูกเลือก จะมีเครื่องหมายถูกที่ Check Box นั้นแต่ละ Check Box จะเป็นอิสระแก่กัน การเลือกแต่ละอัน จะไม่มีผลต่ออันอื่น

  29. DialogBox (ต่อ) Tabs • Dialog Box Tabs หรือ Sheet: เป็นการแบ่งตัวเลือก หรือคำสั่งย่อย ๆ ออกจากกันเป็นกลุ่ม ๆ เมื่อคลิกที่ Tab หรือ Sheet อันใด ก็จะเหมือนกับการเปิดเอา Sheet แผ่นนั้นมาไว้หน้าสุด • OptionButton: เป็นช่องรูปวงกลมว่าง ๆ สำหรับการเลือกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งในตัวเลือกที่กำหนดให้ คำสั่งที่ถูกเลือก จะมีจุดสีดำ ปรากฏอยู่กลางวงกลม Option Button

  30. Dropdown List Boxes Dropdown List Box • เป็นการเก็บรายการที่มีไว้ สำหรับให้ผู้ใช้เลือกใช้ โดยจะแสดงเฉพาะชื่อที่ถูกเลือกไว้ แต่เมื่อคลิกที่ Dropdown List Box รายชื่อทั้งหมดจะปรากฏเรียงกันออกมาให้เลือก ถ้ารายชื่อยาว จะมี Scroll bar สำหรับให้เลื่อนดูรายการทั้งหมด Scroll bar

  31. Selection, Cut, Copy, and Paste • Selectionคือพื้นที่บริเวณที่ถูกเลือก เพื่อการกระทำการใด ๆ ต่อไป พื้นที่ที่ถูกเลือก จะมีแถบที่เรียกว่า Highlight ปรากฏ ให้พื้นที่นั้นดูเด่นชัดขึ้น การ Selection ทำได้โดย • คลิกที่ตำแหน่งที่จะเริ่มต้นการ Selection ค้างไว้ • เลื่อน Mouse ไปเรื่อย ๆ จนสุดพื้นที่ที่เลือก จะมีแถบ Highlight ปรากฏขึ้นตลอดพื้นที่ที่ถูกเลือก • Cut เมื่อมีการ Cut วัตถุใดก็ตาม หมายถึงการลบวัตถุนั้น จากตำแหน่งที่อยู่ในปัจจุบัน ไปเก็บไว้ในส่วนพิเศษที่เรียกว่า Clipboard

  32. Selection, Cut, Copy, and Paste • Copy คล้ายกับการ Cut แต่วัตถุต้นฉบับจะยังคงอยู่ที่เดิม ในขณะที่มีการทำสำเนาของวัตถุนั้น ไปเก็บไว้ใน Clipboard ด้วย • Paste คือการนำวัตถุใด ๆ ที่ถูกเก็บไว้ใน Clipboard ไปไว้ในพื้นที่ใหม่ ที่มี Cursor อยู่ หรือพื้นที่ที่เราเลือกจะนำไปไว้ • Clipboardคือพื้นที่พิเศษ ที่ใช้ในการเก็บวัตถุที่ถูก Cut หรือ Copy ทุกครั้งที่มีการ Cut หรือ Copy วัตถุนั้น ๆ จะถูกนำไปไว้ใน Clipboard สามารถนำวัตถุที่อยู่ใน Clipboard ไป Paste ณ ที่ใดก็ได้ เป็นจำนวนครั้งที่ไม่จำกัด

  33. Selection, Cut, Copy, and Paste • หลังจากการ Highlight บริเวณที่ Selection แล้ว เราสามารถ Cut, Copy หรือ Paste ได้ โดยการคลิกที่ icon ต่อไปนี้ หรือการใช้ Hot-Keysดังต่อไปนี้ • Cut Ctrl+X • Copy Ctrl+C • Paste Ctrl+V • หรือเลือกจาก Menu Bar แก้ไขหรือ Edit

  34. การออกจาก Windows XP • เมื่อต้องการออกจาก Windows ผู้ใช้ไม่ควรปิดสวิตช์เครื่องให้ออกจากระบบให้ถูกต้องโดย • คลิกที่ Start Button จะมี Start menu ปรากฏขึ้น • คลิกที่หัวข้อ Turn Off Computer จะมี Turn Off Computer Dialog Box ปรากฏขึ้น

  35. การออกจาก Windows XP • Stand By เข้าสู่สภาวะการประหยัดพลังงานโดยตัดไฟเลี้ยงหรือสัญญาณไปยังส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ระหว่างนั้น เป็นการปิดเครื่องไว้ชั่วคราว เมื่อเปิดเครื่องอีกครั้ง งานที่ทำอยู่ก็จะปรากฏขึ้นมาให้ทำงานต่อไปได้ทันที • Shut down หรือ Turn Off คลิกที่ปุ่มนี้เมื่อต้องการปิดเครื่อง หรือ เลิกใช้งานจริงๆ จะเห็นข้อความ Windows is shutting down เป็นการบอกให้รอระหว่างที่ Windows กำลังปิดตัวเองอยู่ จากนั้นจะดับเครื่องไปเอง • Restart เหมือนปิด Windows แล้วเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ สำหรับบางกรณีที่มีการกำหนดค่าใดๆ ให้กับระบบ Windows ใหม่ซึ่งจะมีผลก็เมื่อสั่ง Restart แล้วเท่านั้น

  36. Log off • การ log off มีไว้เพื่อเปลี่ยนผู้ใช้เครื่อง ในกรณีที่มีผู้ใช้เครื่องมากกว่า 1 คน โดย • คลิกที่ Start Button จะมี Start menu ปรากฏขึ้น • คลิกที่หัวข้อ Log Off จะมีกรอบข้อความให้เลือกทำงาน

  37. Log off ตัวเลือกให้คลิกเพื่อเลือกรายชื่อผู้ใช้ ปิดโปรแกรมและหยุดการทำงานของ Windows XP หากทำการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันทีโดยไม่ทำการ Shut down จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับความเสียหาย กับส่วนฮาร์ดดิสก์และ แรม จะทำให้เครื่อง คอมพิวเตอร์ทำงานหนักเสียเร็ว

  38. Start Program

  39. โปรแกรมที่ใช้สำหรับเล่น Web และอ่าน E-mail ที่เก็บเอกสารของแต่ละคนในเครื่อง เป็น Folder ย่อยใน My documents ใช้เก็บรูปภาพ เป็น Folder ย่อยใน My documents ใช้เก็บเพลง ใช้เรียกดูสิ่งต่างๆ ในเครื่อง แสดง Folder ต่างๆ ในเครือข่าย ปรับแต่งค่าต่างๆ โปรแกรมที่เรียกใช้งานบ่อย ๆ Start Program Menu

  40. Start Program Menu • Start Menu Program จะมีหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้ • Turn Off Computer สำหรับการปิดเครื่อง • Log Off สำหรับให้ผู้ใช้งานคนปัจจุบันออกจาก Windows แล้วเปลี่ยนให้ผู้ใช้คนอื่นเข้ามาใช้ • Run... สั่งเปิดโปรแกรมโดยระบุชื่อ • Help and Support เรียกระบบ Help เพื่อขอคำอธิบายการใช้งาน

  41. Start Program Menu • Search เป็นการค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ • Settings ปรับตั้งการทำงานของเครื่อง โดยผ่านทาง Folder Control Panel, Network Connections, Printersand Faxes และ Taskbar and Start Menu • Documents เก็บรายชื่อ file ข้อมูลที่ถูกเรียกใช้ด้วยโปรแกรมต่าง ๆ ล่าสุดจำนวนหนึ่งเอาไว้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเรียกใช้งานใหม่ • Program เป็นเมนูหลักในการเรียกใช้โปรแกรมต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็นเมนูย่อยอีกหลาย ๆ ชั้นตามต้องการ สำหรับโปรแกรมที่ใช้งานบ่อย ๆ จะมี Shortcut อยู่ด้านบนของ Start Program Menu

  42. การเรียกใช้งานโปรแกรมการเรียกใช้งานโปรแกรม • การเรียกใช้โปรแกรมสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ • การเรียกจากเมนู Programโดยเรียกเป็นขั้น ๆ ไปตามเมนูย่อย • การเรียกจาก Shortcut Iconในกรณีที่โปรแกรมนั้นมี Shortcut Icon อยู่บน Desktop • เรียกที่ตัวโปรแกรมโดยตรง จาก Windows Explorer

  43. การเรียกใช้งานโปรแกรมการเรียกใช้งานโปรแกรม • การเรียกใช้โปรแกรมสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ • การเรียกจากเมนู Run… เมื่อเรียกจากเมนูนี้ จะมี Run Dialog Box ปรากฏขึ้น ผู้ใช้สามารถพิมพ์ชื่อโปรแกรมไปได้เลย แต่อาจต้องมีการระบุ Drive และ Folder ที่โปรแกรมนั้นอยู่ด้วย

  44. การเพิ่ม Shortcut Program ใน Program Menu • ผู้ใช้ สามารถเพิ่มเติม Shortcut Icon ที่อยู่บน Desktopไปไว้ยัง Program Menuได้ โดย • คลิกเลือกที่ Shortcut Icon ที่ต้องการ แล้วกดปุ่มซ้ายไว้ • ลาก (Drag Mouse) Shortcut Icon ที่ต้องการไปทับ ณ ปุ่ม Start โดยยังคงกดปุ่มซ้ายไว้ Icon ที่ถูกเลือกจะปรากฏเป็นสีจาง ๆ • เมื่อนำไปทับปุ่ม Start แล้ว ให้ปล่อยปุ่มซ้ายได้ Icon นั้น จะปรากฏอยู่ตอนบนของ Program menu • วิธีการนี้ สามารถใช้กับการนำ Shortcut Icon ไปไว้ยัง Task Bar ได้เช่นกัน โดยดำเนินการในวิธีเดียวกัน เพียงแต่ใช้การ Drag mouse ไปไว้ ณ Task Bar แล้วจึงปล่อยแทน

  45. การลบ Shortcut Program ใน Program Menu • ผู้ใช้ สามารถลบ Shortcut Icon ที่อยู่ใน Program Menu ได้ โดย • เลื่อน Mouse ไปที่ Shortcut ที่ต้องการ แล้วกดปุ่มขวาไว้ จะมี sub menu ปรากฏ • เลือกไปคลิกที่หัวข้อ Delete • ระบบจะถามย้ำให้แน่ใจ ถ้ายังยืนยัน คลิกที่ Yes • วิธีการนี้ สามารถใช้กับการลบ Shortcut ที่ไม่ต้องการ ออกจาก Task Bar ได้เช่นกัน โดยดำเนินการในวิธีเดียวกัน • การลบไฟล์โดยไม่ไปเก็บไว้ที่ Recycle Bin ให้กด Shiftค้างไว้

  46. การปิดโปรแกรม 3 1 • เมื่อต้องการปิดโปรแกรม มีวิธีในการปิด 4 วิธี 1. คลิกที่ปุ่ม ที่ด้านขวาของ Control Menu 2. คลิกที่ Menu Barเลือกที่หัวข้อ File และเลือกต่อที่ Close 3. ดับเบิ้ลคลิกที่มุมซ้ายบนสุดของ Control Menu 4. ใช้คีย์ลัดคือ Alt+F4 2

  47. การสลับภาษา ไทย - อังกฤษ • ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถสลับการใช้ภาษาระหว่างภาษาไทย และอังกฤษได้ การสลับภาษาจะมีผลกับโปรแกรมที่กำลัง Active อยู่ในขณะนั้น • การสลับภาษา ทำได้โดยการกดคีย์บอร์ดปุ่ม ~ หรือคลิกที่มุมขวาของ Task Bar จะพบเครื่องหมาย TH ในกรณีที่ภาษาในขณะนั้น เป็นภาษาไทย หรือ EN ในกรณีที่ภาษาในขณะนั้นเป็นภาษาอังกฤษ คลิกเลือก จะมีเมนูย่อยการสลับภาษาปรากฏขึ้น และเลือกภาษาที่ต้องการ

  48. การเลือก Active Program • ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถรองรับการทำงานแบบ Multi-Taskingได้ แต่ในขณะใด ๆ จะมีโปรแกรมเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถโต้ตอบ สื่อสารกับผู้ใช้ได้ เราเรียกโปรแกรมที่กำลังติดต่อกับผู้ใช้ว่า Active Program • การเลือก Active Program ทำได้หลายวิธี • เลือกจาก Task Bar โดยการคลิกเลือกโปรแกรมที่ต้องการจาก Task Bar Window ของโปรแกรมนั้น จะ Active ขึ้นมา ส่วน Window ของโปรแกรมอื่นจะถูกซ่อน แม้ว่าโปรแกรมนั้น อาจจะยังทำงานอยู่ก็ตาม • เลือกโดยกดคีย์ Alt+Tab

  49. การเลือก Active Program Active Program

More Related