300 likes | 439 Vues
ครบรอบ 2 ปี FTA ไทย-จีน : ผลกระทบและความเข้าใจผิดบางประการ. ธราธร รัตนนฤมิตศร และ สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ 26 ตุลาคม 254 8 โครงการ FTA digest.com สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. หัวข้อนำเสนอ. สาระสำคัญของการเปิดเสรีไทย-จีน (อาเซียน-จีน)
E N D
ครบรอบ 2 ปี FTA ไทย-จีน: ผลกระทบและความเข้าใจผิดบางประการ ธราธร รัตนนฤมิตศร และ สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ 26ตุลาคม 2548 โครงการ FTAdigest.com สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
หัวข้อนำเสนอ • สาระสำคัญของการเปิดเสรีไทย-จีน (อาเซียน-จีน) • ผลกระทบ ความเข้าใจผิดบางประการและข้อเท็จจริง • ผลกระทบ FTA ไทย-จีนต่อสวัสดิการทางเศรษฐกิจไทย
-1-สาระสำคัญของการเปิดเสรีไทย-จีน (อาเซียน-จีน)
อาเซียนเดิม 2010 อาเซียนใหม่ 2015 ทยอยลดภาษี Normal และ Sensitive Track อาเซียนเดิม 2006 อาเซียน-จีน ทยอยลดภาษี HS01-08 อาเซียนใหม่ 2010 ไทย-จีน ลดภาษีผักผลไม้ (HS07-08) เหลือ 0 % ตารางการลดภาษี ต.ค. 03 ม.ค.04 20 ก.ค. 05
อัตราภาษีนำเข้าของไทยอัตราภาษีนำเข้าของไทย * ลดเฉพาะภาษีในโควตาเหลือ 0 %
-2-ผลกระทบ ความเข้าใจผิดบางประการและข้อเท็จจริง
ความเข้าใจผิดประการที่ 1 FTA ไทย-จีนทำให้ดุลการค้าของไทย ขาดดุลเพิ่มขึ้นมาก
ดุลการค้าของไทยกับจีนขาดดุลเพิ่มขึ้นดุลการค้าของไทยกับจีนขาดดุลเพิ่มขึ้น
สินค้านำเข้า 20 อันดับแรกจากจีน
ข้อเท็จจริง • ขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นไม่ได้เกิดจาก FTA • เกิดจากการนำเข้าสินค้าของไทยจากจีนขยายตัว • (โดยเฉพาะสินค้าทุน วัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น) • เช่น ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป (HS7207) ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ (HS8473) เครื่องส่งวิทยุโทรทัศน์ (HS8525) เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ (HS8471) แร่เงิน (HS7106) • สินค้าเหล่านี้เริ่มทยอยลดภาษีนับจาก 20 กรกฎาคม 2548 • ผักผลไม้นำเข้าจากจีน คิดเป็น 1.26 % ของมูลค่านำเข้าจากจีนรวม
ผลกระทบต่อการส่งออกผักผลไม้ไทยผลกระทบต่อการส่งออกผักผลไม้ไทย • ต.ค. 2546-พ.ค.2548 (20 เดือน) กรมการค้าต่างประเทศออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าให้ผู้ส่งออก (01-08) ไปจีน 24,636 ฉบับ (ร้อยละ 99 ของสินค้าที่ส่งออกไปจีนในหมวดนี้) • เป็นสินค้าผักผลไม้ (07-08) มูลค่า 23,169 ล้านบาท (ร้อยละ 96 ของการส่งออกสินค้า 01-08 ไปจีนทั้งหมด) • ดังนั้น ผู้ส่งออกได้ใช้ประยชน์จาก FTA ไทย-จีน ในสินค้าหมวดผักผลไม้เป็นส่วนใหญ่
ความเข้าใจผิดประการที่ 2 FTA ไทย-จีนทำให้ผลไม้จีนทะลักเข้าไทย จนขาดดุลการค้าผลไม้
ดุลการค้าของไทยกรณีผักผลไม้ดุลการค้าของไทยกรณีผักผลไม้
ข้อเท็จจริง • ไทยเกินดุลการค้ากับจีนทั้งในผักและผลไม้ ยกเว้นช่วงแรกของการเปิดเสรี ต.ค.2546-ธ.ค.2546 ที่ไทยขาดดุลการค้าผลไม้ เกิดจาก • (1) สินค้าลักลอบเปลี่ยนมาเข้าสู่ระบบศุลกากร • (2) แอปเปิ้ลและลูกแพร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ขยายตัว 214.2 % • (3) การส่งออกผักผลไม้ขยายตัว 41.65 % (สาเหตุ: ยังไม่ทราบข้อมูลทั่วถึง มาตรการสุขอนามัย ระเบียบปฏิบัติภายในของจีน)
ข้อเท็จจริง • ขาดดุลการค้าผลไม้กับจีนเป็นปรากฎการณ์ชั่วคราว • หลังเปิดเสรีไป 1 ปี (ม.ค. 2547- ธ.ค.2547) ไทยได้กลับมาเกินดุลการค้าผลไม้ เนื่องจาก • (1) การนำเข้าแอปเปิ้ลและแพร์ได้ขยายตัวลดลง • (ความไม่สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภค ปัญหาคุณภาพผลไม้) • (2) ไทยสามารถส่งออกผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนและลำไยสด และลำไยอบแห้งไปจีนได้เพิ่มขึ้น
ความเข้าใจผิดประการที่ 3 FTAไทย-จีนทำให้หอมและกระเทียมจีนทะลักเข้าไทย ปริมาณมหาศาล
ข้อเท็จจริง • การนำเข้าหอมกระเทียมจากจีนที่เพิ่มขึ้นมากไม่ได้เกิดจากการลดภาษีตามความตกลง FTA เพราะไทยลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 เฉพาะปริมาณในโควตาเท่านั้น ซึ่งมีสัดส่วนน้อยมาก • ภาษีนอกโควตา ซึ่งเป็นการนำเข้าส่วนใหญ่ยังคงเดิมไว้ • การนำเข้ากระเทียมจากจีนที่เพิ่มขึ้นเกิดจากต้นทุนการผลิตของจีนที่ต่ำกว่าไทยมาก และการอนุญาตให้นำเข้าจากจีนได้จากเดิมที่ให้นำเข้าได้เฉพาะจากประเทศลาว
ความเข้าใจผิดประการที่ 4 FTA ไทย-จีนไม่ได้ช่วยการส่งออก มันสำปะหลังจากไทย
มูลค่าการส่งออกมันสำปะหลังไปจีน ล้านบาท HS0714
ข้อเท็จจริง • การส่งออกมันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้น เกิดจากปัจจัยหลัก คือ ความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นของจีน • ปัจจัยรองลงมา คือ การลดภาษีตาม FTA ไทย-จีน ภาษีนำเข้ามันสำปะหลังเหลือ 0 % (จากเดิม 5-10%) สำหรับมันเส้น ทยอยลดภาษีลงสำหรับแป้งมัน (จากเดิม 10-20%) • ม.ค. 2549 แต้มต่อของไทยที่ลดภาษีมันสำปะหลังล่วงหน้าจะหมดไป ประเทศอื่นๆ ในอาเซียน (เวียดนาม อินโดนีเซีย) ซึ่งเป็นคู่แข่งในการส่งมันสำปะหลังไปจีนจะลดภาษีเช่นกัน
-3-ผลกระทบ FTA ไทย-จีนต่อสวัสดิการทางเศรษฐกิจไทย
ผลกระทบต่อสวัสดิการ • การเปิดเสรีช่วยจัดสรรทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น • เศรษฐศาสตร์วัดผลประโยชน์ดังกล่าว “สวัสดิการทางเศรษฐกิจ” • วิเคราะห์ใช้แบบจำลอง GTAP ซึ่งเป็นแบบจำลองดุลยภาพทั่วไป (CGEModel) • FTA ไทย-จีน:ลดภาษีผักผลไม้เหลือ 0 % ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.016 และสวัสดิการทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 9.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ • ผลกระทบต่อสวัสดิการทางเศรษฐกิจในสินค้าหมวดดังกล่าวนี้ค่อนข้างน้อย • หากมีการเปิดเสรีสินค้าไทย-จีนในทุกหมวดสินค้า สวัสดิการของไทยจะเพิ่มขึ้น 580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่ากรณีลดภาษีผักผลไม้ประมาณ 60 เท่า)
ผลกระทบต่อสวัสดิการ • การทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ส่งผลให้แต้มต่อของไทยในตลาดจีนหมดไป • ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีนมีผลบังคับใช้ • อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยจะลดลง 0.0058 % (ปท.อาเซียนอื่นๆ ได้ส่วนแบ่งตลาดส่งออกในจีนเพิ่มขึ้นด้วย) • สวัสดิการทางเศรษฐกิจของไทยจะเพิ่มขึ้น 3.64 ล้าน US$ (ประมาณ 1 ใน 3 ของการที่ไทยเปิดเสรีผักผลไม้กับจีนแต่ฝ่ายเดียว)
สรุป (1) • แม้ FTA ไทย-จีน ไม่ได้เป็นสาเหตุของการขาดดุลการค้าของไทย ตรงกันข้ามกลับช่วยเพิ่มการเกินดุลการค้าต่อจีนก็ตาม ดุลการค้าไม่ควรเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในการทำความตกลงการค้าเสรี • เป้าหมายที่ควรได้รับความสำคัญ คือ การเพิ่มสวัสดิการของประชาชน และการปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนัยนี้ FTA ไทย-จีน ถือว่ามีผลน้อยมากต่อไทย เนื่องจากยังไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มสวัสดิการของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ • แม้ FTA ไทย-จีน จะมีผลสนับสนุนการส่งออกผักผลไม้บางรายการจากไทยไปจีน เช่น มันสำปะหลัง แต้มต่อของไทยในตลาดผักผลไม้จีนดังกล่าวจะหมดไป ในม.ค. 2549 เมื่อความตกลงอาเซียน-จีน มีผลบังคับใช้
สรุป (2) • แม้ผลกระทบทางลบที่เกิดขึ้นต่อเกษตรกรผู้ปลูกหอมกระเทียมจะไม่ได้เกิดขึ้นจากความตกลง FTA เป็นหลัก ผลกระทบที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงการขาดการเตรียมการของภาครัฐในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งในด้านการบรรเทาความเดือดร้อนและการช่วยเหลือการปรับตัว • สาเหตุของความเข้าใจผิดต่อผลกระทบของ FTA ไทย-จีนน่าจะเนื่องมาจาก • ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมกำหนดนโยบายการเปิดเสรีทางการค้า • ประชาชนขาดการได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง • ไม่มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม • รัฐจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการการมีส่วนร่วมที่มีความโปร่งใส การให้ข้อมูลที่รอบด้านต่อสาธารณะทั้งช่วงก่อน ระหว่าง หลังการทำความตกลง