1 / 16

Write & Read การแสดงผลข้อมูล และ การรับข้อมูล

Write & Read การแสดงผลข้อมูล และ การรับข้อมูล. SCC : Suthida Chaichomchuen std@kmitnb.ac.th. การแสดงผลข้อมูลโดยใช้คำสั่ง Write. คำสั่งที่ใช้เพื่อแสดงผลข้อมูล รายการที่ต้องการแสดงใส่ในเครื่องหมาย ( ) รูปแบบ Write(output, item1, item2,…, itemN);. การแสดงข้อความ.

terra
Télécharger la présentation

Write & Read การแสดงผลข้อมูล และ การรับข้อมูล

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Write & Read การแสดงผลข้อมูล และ การรับข้อมูล SCC : Suthida Chaichomchuen std@kmitnb.ac.th

  2. การแสดงผลข้อมูลโดยใช้คำสั่ง Write • คำสั่งที่ใช้เพื่อแสดงผลข้อมูล • รายการที่ต้องการแสดงใส่ในเครื่องหมาย ( ) รูปแบบ Write(output, item1, item2,…, itemN);

  3. การแสดงข้อความ • นำข้อความที่ต้องการแสดงใส่ในสัญลักษณ์ ‘apostrophy’ เช่น write(‘Hello’); write(‘I am happy.’); Write(‘Enter the number = ’);

  4. การกำหนดความยาวของข้อความการกำหนดความยาวของข้อความ • กำหนดตัวเลขไว้หลังข้อความที่ต้องการแสดง โดยตามหลังสัญลักษณ์ : เช่น กำหนดให้แสดงคำว่า Hello จองความยาวไว้ 10 ตัวอักษร write(‘Hello’ : 10); ผลที่ได้คือ_ _ _ _ _Hello

  5. การแสดงค่าในตัวแปร • ใส่ชื่อตัวแปรที่ต้องการแสดงค่าในวงเล็บ เช่น write(number); write(a); write(count);

  6. การแสดงตัวแปรหลายค่า • ต้องการแสดงค่าตัวแปรหลายตัว ใช้เครื่องหมาย , คั่น เช่น write(day,month,year); write(a,b,c);

  7. การกำหนดความยาวให้ตัวแปรการกำหนดความยาวให้ตัวแปร • เมื่อตัวแปรเป็นชนิด จำนวนเต็ม ตัวอักขระหรือชุดอักขระ การกำหนดความยาวในการแสดงผล ให้ใส่ตัวเลขกำกับหลังตัวแปรนั้น เช่น write(name:20); write(a:10, b:10, c:10);

  8. การกำหนดความยาวให้ตัวแปรการกำหนดความยาวให้ตัวแปร • เมื่อตัวแปรเป็นชนิดจำนวนจริง (ทศนิยม) ให้ใส่ตัวเลขกำกับหลังตัวแปร 2 ตัวคือ • ตัวแรกคือความยาวทั้งหมด (รวมจุด .) • ตัวที่สองคือจำนวนตำแหน่งทศนิยม เช่น write(area:10:3); ผลที่ได้_ _ _253.125

  9. ข้อสังเกต • เมื่อโปรแกรมทำคำสั่ง write แล้ว เคอร์เซอร์จะอยู่ที่ตำแหน่งต่อจากตัวอักษรสุดท้ายที่แสดงผล • ถ้ากำหนดความยาวของการแสดงผลน้อยกว่าความยาวของข้อมูลจริง โปรแกรมจะแสดงเสมือนว่าไม่ได้มีการกำหนดตำแหน่ง

  10. การแสดงข้อมูลโดยใช้คำสั่ง WriteLn • แตกต่างจากคำสั่ง write ตรงที่ เมื่อแสดงผลแล้ว เคอร์เซอร์จะเลื่อนตำแหน่งไปอยู่ที่บรรทัดใหม่ริมซ้ายสุดให้ รูปแบบ WriteLn(output, item1,…, itemN);

  11. การแสดงข้อความและตัวแปรการแสดงข้อความและตัวแปร • เมื่อต้องการแสดงข้อความและตัวแปรร่วมกันให้ใช้เครื่องหมาย , คั่น เช่น writeln(‘AREA=’, area:10:3); ผลที่ได้คือAREA= 253.125

  12. การรับข้อมูลโดยใช้คำสั่ง Read • เมื่อต้องการรับข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องระบุถึง 2 สิ่งหลักคือ • รับจากที่ไหน? • Keyboard • Disk drive • Mouse • เมื่อรับเข้ามาแล้ว จะนำไปเก็บไว้ที่ตัวแปรใด?

  13. การใช้คำสั่ง Read • ข้อมูลที่จะนำเข้าสู่เครื่องเป็นได้ทุกชนิด ยกเว้นชนิดบูลีน เพราะไม่สามารถอ่านค่าได้ รูปแบบ read(input, var1, var2,…, varN);

  14. การใช้คำสั่ง Read • ตัวอย่าง การรับค่าตัวแปร 1 ตัว read(name); read(x); • ตัวอย่าง การรับค่าตัวแปรหลายตัว read(name, age); read(x, y, z);

  15. ข้อสังเกต • การป้อนค่าให้กับตัวแปรนั้น ต้องใส่ค่าที่เป็นชนิดเดียวกันเท่านั้น มิเช่นนั้นโปรแกรมจะหยุดทำงานทันที • เมื่อใช้คำสั่ง read เคอร์เซอร์จะอยู่ ณ ตำแหน่งท้ายสุดของข้อมูลที่ป้อน ถ้าต้องการให้เคอร์เซอร์ขึ้นบรรทัดใหม่ต้องใช้คำสั่ง readln

  16. ข้อสังเกต • การป้อนค่าหลายตัวแปร สามารถใช้คีย์ spacebar หรือ enter เพื่อแยกค่าแต่ละตัว • คำสั่ง readln ที่ไม่มี () ต่อท้ายหมายถึง การหยุดรอรับคีย์ enter ก่อนที่จะทำคำสั่งต่อไป

More Related