440 likes | 1.1k Vues
พระพุทธศาสนาแห่งละโว้ (Buddhist Era 15 – 18). 1. ละโว้ หรือลพบุรีในปัจจุบัน เคยเป็นแหล่งความเจริญทางวัฒนธรรมแห่งอาณาจักรโบราณหลายอาณาจักร เริ่มตั้งแต่ทวารวดี ขอม อยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน โดยได้ทิ้งร่องรอยเกราบวกับศาสนา วัฒนธรรมและประเพณี ต่างๆเอาไว้ 2. การแผ่ขยายอำนาจและอิทธิพล
E N D
พระพุทธศาสนาแห่งละโว้(Buddhist Era 15 – 18)
1. ละโว้หรือลพบุรีในปัจจุบัน เคยเป็นแหล่งความเจริญทางวัฒนธรรมแห่งอาณาจักรโบราณหลายอาณาจักร เริ่มตั้งแต่ทวารวดี ขอม อยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ปัจจุบัน โดยได้ทิ้งร่องรอยเกราบวกับศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีต่างๆเอาไว้ 2. การแผ่ขยายอำนาจและอิทธิพล • ในพศต.ที่11-15 อิทธิพลของอาณาจักรทวารวดีได้แผ่ไปถึงละโว้ • ส่วนพวกขอม (ฟูนัน , เจนละ หรือเขมร) ได้แผ่ขยายอำนาจไปยังตะวันตก(ของขอม) • ส่วนอาณาจักรศรีวิชัยก็ได้แผ่ขยายอำนาจไปทางใต้ จึงส่งผลให้อาณาจักรทวารวดีหายไป พระพุทธศาสนาแห่งละโว้(Buddhist Era 15 – 18)
บางกลุ่มเชื่อว่า ในพศต.ที่15-16 ซึ่งเป็นสมัยพระเจ้าอนุรุทธหรือพระเจ้าอโนรธามังช่อ ได้เกิดศึกพุกามจึงทำให้นครปฐม (อาณาจักรทวารวดี) ได้ลดบทบาทไป โดยที่ประชาชนและพระสงฆ์ได้ถูกกวาดต้อนไปพร้อมทั้งศิลปะสาขาต่างๆกลับไปยังพม่า จากนั้นก็ทิ้งดินแดนนี้ให้แก่พวกขอมเข้ามาครอบครองภายหลัง 3. ยุคที่ขอมรุ่งเรืองที่สุดในภูมิภาคนี้ จะอยู่ในช่วงพศต.ที่ 15-18 • โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่2 (พศต.ที่15) สามารถขยายอำนาจได้ตั้งแต่กัมพูชา ตลอดจนถึงภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางของไทยในปัจจุบัน • ดินแดนของไทยในอดีต จะอยู่ในฐานะเป็นอาณานิคมหรือประเทศราชของขอมหรือเขมรโบราณ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละโว้ (ประเทศราช) ซึ่งปกครองแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด
*** เกร็ดความรู้ *** • พระเจ้าอโนรธามังช่อ หรือ พระเจ้าอโนรธา (พ.ศ. 1587-1620 ) • ปฐมกษัตริย์พม่าแห่งราชวงศ์พุกาม ผู้ก่อตั้งอาณาจักรพุกาม • เป็นกษัตริย์ที่ทรงนำพระพุทธศาสนาเข้ามาในพม่าเป็นพระองค์แรก • คนไทยจะรู้จักพระองค์ในพระนามว่า พระเจ้าอนุรุทธ หรือ พระเจ้าอนิรุทธ
พระเจ้าอโนรธามังช่อ • ทรงอัญเชิญพระไตรปิฎก • และพระเถระมายังพุกาม • ทรงสร้างเจดีย์มากมาย • หลายองค์ในทุกที่ที่ • พระองค์เสด็จไปถึง • ซึ่งเจดีย์องค์ที่มีชื่อเสียง • ที่สุดที่พระองค์ทรงสร้าง • คือ เจดีย์ชเวสิกอง
4. อำนาจการปกครองของขอมในบริเวณแถบนี้ เริ่มตั้งแต่จ.นครพนม ฝั่งขวาแม่น้ำโขงถึงเมืองเพชรบุรี (ทางใต้ของไทย) ตอนบนของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ขอมตั้งเมืองศรีสัชนาลัย สุโขทัย เป็นประเทศราช ทางภาคอีสานทั้งหมด โดยมีสกลนคร พิมายเป็นเขตปกครอง ทางทิศตะวันตก อิทธิพลของขอมแพร่มาถึงสุพรรณบุรี สิงห์บุรี ทางทิศใต้ อิทธิพลของขอมแพร่มาถึงเพชรบุรี *** อิทธิพลของขอมไม่ได้เข้าไปในลุ่มแม่น้ำปิง เพราะอารยธรรมทวารวดียังคงมีอิทธิพลอยู่ในบริเวณดังกล่าวอยู่มาก 5. ละโว้ มาจากคำว่า ลวปุระ = เมืองพระลพ ซึ่งเป็นชื่อพระโอรสองค์หนึ่งของพระรามในเรื่องรามเกียรติ์ ดังนั้นจึงมีเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับพระรามในเมืองนี้ด้วย เช่น
ทะเลสาบชุบศร ซึ่งกษัตริย์ขอมทุกพระองค์เมื่อจะทำพิธีบูชาอภิเษกจะต้องเอาน้ำจากที่นี้ไปทำพิธี เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์ • ลิงหรือหนุมาน (เสนาของพระราม) ปัจจุบัน อดีต
ศิลปะและศาสนา 1. การได้อิทธิพลที่ส่งผลต่อการนับถือศาสนาในดินแดนส่วนนี้ • อิทธิพลจากฟูนัน • อิทธิพลจากทวารวดี >>> เถรวาท • อิทธิพลจากศรีวิชัย >>>มหายาน (มนตรยาน) • พราหมณ์นิกายศิวเวท 2. ตำนานจามเทวีวงศ์และชินกาลมาลีปกรณ์ ได้เล่าถึงพระพุทธศาสนาในยุคทวารวดีซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างละโว้กับหริภุญชัยไว้ว่า “ พระเจ้าจักกวัตติแห่งกรุงละโว้รับเชิญจากประชาชนในภาคเหนือซึ่งมีฤาษีวาสุเทพเป็นประธาน ให้พระราชธิดาขึ้นไปเป็นนางพระยาปกครองนครหริภุญชัย (ลำพูน) โดยความตกลงพระทัยของพระนางจามเทวีกับพระสวามี พระนางเสด็จจากกรุงละโว้โดยทางเรือ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ราชบัณฑิต โหราจารย์ หมอยา นายช่างฝีมือต่างๆ ในพ.ศ. 1205”
3. พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานน่าจะมีบทบาทมากกว่าเถรวาทเพราะอิทธิพลมาจากขอม • 4. ยุคนี้นิยมสร้างพระพุทธรูปนาคปรกอย่างมาก เนื่องจากก่อนจะมานับถือศาสนาพุทธ ขอมได้รับลัทธิงูมาก่อน • ลักษณะพระพุทธรูปที่เรียกว่า ศิลปะอู่ทองที่ 1 (ศิลปะแบบใหม่) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ผสมผสานระหว่างทวารวดีกับขอม • ส่วนศิลปะลพบุรี เป็นศิลปะเลียนแบบมาจากขอมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น • 5. อิทธิพลของพระพุทธศาสนามหายาน ซึ่งจะนิยมสร้างพระเครื่องมากกว่า เช่น
อโรคยาศาลา • ปรากฏให้เห็นขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เช่นเดียวกับธรรมศาลาเพื่อใช้เป็นสถานพยาบาลที่สร้างขึ้นตามรายทางโบราณของอาณาจักรขอมสมัยพระนคร ซึ่งเชื่อมกับปราสาทนครธม และปราสาทหินอื่นๆ • พระเจ้าชัยวรมันที่ 7ทรงโปรดให้สร้างอโรคยาศาลขึ้นจำนวน ๑๐๒ แห่งตามหัวเมืองสำคัญทั่วราชอาณาจักร ที่ได้แผ่พระราชอำนาจไปถึงและทรงโปรดให้สร้างเป็นปราสาทหินเอาไว้ ในบริเวณประเทศไทยได้พบอโรคยาศาลแล้วอย่างน้อย 20แห่ง กระจายอยู่ทั่วไป โดยพบมากในเขตอีสานใต้
อโรคยาศาลา ในกลุ่มปราสาทตาเหมือน บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
พระกริ่งพรหมมุนี สังฆราชแพ วัดสุทัศน์
ลักษณะของพระกริ่ง เป็นแบบพระพุทธรูปมหายานทางประเทศธิเบต และปรากฏว่าในประเทศเขมร ก็มีพระกริ่งแบบนี้เหมือนกัน เราเรียกกันว่า “กริ่งพระปทุม” • ประเพณีนิยมสร้างพระกริ่งของไทย คงจะได้ครูจากเขมรเป็นแน่แท้ และมีการสร้างกันในยุคกรุงสุโขทัยแล้ว ที่กล่าวว่าตำราสร้างพระกริ่งในยุคกรุงรัตนโกสินทร์นี้เดิมเป็นของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ดังนั้นในสมัยนั้นวัดป่าแก้วก็นับถือกันว่าเป็นสำนักอรัญญิกาวาส – สมถธุระวิปัสสนาธุระ • อันที่จริงพระกริ่งก็คือ พระปฏิมาไภษัชยคุรุพุทธเจ้านั่นเอง พระพุทธเจ้าองค์นี้เป็นที่นิยมนับถือของปวงพุทธศาสนิกชนฝ่ายลัทธิมหายานยิ่งนัก • ปรากฏพระประวัติมาในพระสูตรสันสกฤตสูตรหนึ่ง คือ “พระพุทธไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาราชามูลปณิธานสูตร”
พระนารายณ์ทรงปืน เป็นพระพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์เป็น "พระแผง" องค์ค่อนข้างเขื่อง ปรากฏทั้งเนื้อดินและเนื้อชิน และมีขึ้นมากมายหลายกรุ ลักษณะองค์พระจะมี "พระปางนาคปรก" เป็นประธาน • เป็นงานศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากขอมบายน โดยดูได้จากการมีลักษณะของพระพุทธรูปปางนาคปรกที่ประทับอยู่กึ่งกลางนั้นเป็นเช่นเดียวกับ "พระชัยพุทธมหานาถ" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกที่องค์ชัยวรมันที่ 7 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นรวม 23 องค์ และพระราชทานให้นำไปประดิษฐานไว้ทั่วปริมณฑลแห่งอำนาจของพระองค์ ซึ่งต่อมาได้เรียกศิลปะเขมรในยุคดังกล่าวนี้ว่า “ศิลปะลพบุรี”
ศิลปะของละโว้จะผสมระหว่างแบบพุทธศาสนาฝ่ายมหายานกับพราหมณ์ศิลปะของละโว้จะผสมระหว่างแบบพุทธศาสนาฝ่ายมหายานกับพราหมณ์ สถานที่ก่อสร้างทางศาสนาโดยมากทำด้วยอิฐศิลาแลงและหิน ที่สร้างด้วยอิฐถือว่าเป็นสถานที่เก่าแก่ที่สุด ต่อมาก็เป็นศิลาแลง และเมื่อขอมมีกำลังมากขึ้นก็สร้างด้วยหิน ศิลปะการสร้างศาสนสถานได้ครูมาจากอินเดียและศรีวิชัย ต่อมาก็ดัดแปลงเป็นของตนเอง ความแตกต่างระหว่างพระปรางค์เทวสถานและพุทธสถาน 1) แบบศาสนาพราหมณ์ มักยกฐานพระปรางค์ให้สูงลอยเด่น เข่น ปราสาทเขาพระวิหาร 2) แบบพุทธศาสนา มักสร้างบนพื้นราบๆ เช่น ปราสาทหินพิมาย พระปรางค์ 3 ยอด (ลพบุรี) อาณาจักรละโว้ ประชาชนนับถือศาสนาพราหมณ์(โดยเฉพาะศิวเวท) และพระพุทธศาสนาผสมกัน แต่ด้วยการที่ตั้งอยู่ในเขตอิทธิพลทางวัฒนธรรมของทวรวดีดั้งเดิม จึงส่งผลให้มีพุทธศาสนามหายานแบบมนตรยานและเถรวาท (แบบทวารวดี)
ศาสนสถานทางพระพุทธศาสนาศาสนสถานทางพระพุทธศาสนา
ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา
เป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย • มีรูปแบบศิลปกรรมขอมแบบบาปวนและนครวัดที่มีความงดงาม เชื่อว่าเป็นต้นแบบในการสร้างนครวัดในเขมรปราสาทหินแห่งนี้ตั้งอยู่กลาง เมืองพิมายซึ่งเป็นเมืองโบราณที่สำคัญของภูมิภาค มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกับเมืองสำคัญทางตอนเหนือของลาวและทางตอนใต้ของขอม • สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคที่อาณาจักรขอมแผ่อิทธิพลมายังภูมิภาคนี้ในสมัย พระเจ้าสุริยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายของอาณาจักรขอม • ใน พ.ศ. 2479 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ • แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 ได้กำหนดให้เมืองโบราณพิมายและปราสาทหินพิมายเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ ในปี พ.ศ.2529 โดยมีการอนุรักษ์และบูรณะเป็นอย่างดี
พระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี
พระปรางค์สามยอด • ตั้งอยู่กลางเมืองลพบุรี สร้างด้วยศิลาแลง ซึ่งได้รับอิทธิพลศิลปะขอมที่มีชื่อเรียกกันว่า “ศิลปะแบบลพบุรี” • สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิวัชรยาน (มหายาน) ประจำเมืองละโว้ เพื่อประดิษฐานรูปพระวัชรสัตว์นาคปรก พระโลเกศวร และพระนางปรัชญาปารมิตา อันเป็นรูปเคารพที่นิยมสร้างขึ้นในพุทธศาสนาลัทธิวัชรยานของกัมพูชาในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่พุทธศาสนาลัทธิวัชรยานเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในกัมพูชา
ตราประจำจังหวัดลพบุรีตราประจำจังหวัดลพบุรี รูปพระนารายณ์ประทับบน พระปรางค์สามยอด หมายถึง การระลึกถึง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชผู้สร้างเมือง ลพบุรีขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2208 และสร้าง ความเจริญให้กับแผ่นดินลพบุรีไว้มากมาย ส่วนพระปรางค์สามยอดถือได้ว่าเป็นโบราณสถานที่เป็นสัญลักษณ์ ของเมืองลพบุรีนั่นเอง
พระพุทธรูปปางต่างๆที่นิยมสร้างในสมัยละโว้พระพุทธรูปปางต่างๆที่นิยมสร้างในสมัยละโว้ ปางสมาธิ
ปางสมาธิ • เป็นชื่อเรียกพระพุทธรูปลักษณะนั่งสมาธินั่งลำพระองค์ตั้งตรงพระบาท (เท้า) ทั้งสองซ้อนกัน โดยพระบาทขวาซ้อนทับอยู่บนพระบาทซ้าย พระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนหงายกันบนพระเพลา (ตัก) โดยวางพระหัตถ์ขวาซ้อนหงายอยู่บนพระหัตถ์ซ้าย (ท่าสมาธิราบ ขาขวาทับขาซ้าย) • จัดเป็น "ปฐมปาง" หรือปางที่ให้กำเนิดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยพระองค์ทรงอยู่ในพระอิริยาบถนี้ในคืนวันตรัสรู้ เรียกได้อีกอย่างว่าปางตรัสรู้ หรือเป็นพระพุทธรูปในอิริยาบทประทับนั่งสมาธิโดยใช้ข้อพระบาททั้งสองข้างขัด กันซึ่งเรียกว่า (ปางขัดสมาธิเพชร)
“พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” • พระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องที่ใหญ่และงดงามที่สุดในเมืองไทย • เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และคุ้มครองบ้านคุ้มครองเมือง ทำให้ข้าศึกเกิดความเกรงกลัวไม่ทำลายวัดนี้ได้ • อยู่ที่วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาเนื่องจากเคยเป็นวัดที่พม่าใช้ตั้งฐานบัญชาการจึงเป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปางประทานอภัย เป็นชื่อเรียกของพรพุทธรูปที่มีลักษณะ ยกพระหัตถ์เบื้องขวาตั้งหันฝ่าพระหัตถ์ไปข้างหน้า มีทั้งท่ายืน ท่าเดิน และท่าขัดสมาธิ (หรือเรียกปางลักษณะนี้ว่าเป็น ปางห้ามญาติ หรือ ปางโปรดสัตว์) ประวัติ พระเจ้าอชาตศัตรู พระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร แห่งกรุงราชคฤห์ ถูกพระเทวทัตยุยงให้ปลงพระชนม์พระราชบิดา แล้วขึ้นครองราชแทน พระเจ้าอชาตศัตรูยังทรงช่วยสนับสนุนพระเทวทัต ส่งนายขมังธนูไปปลงพระชนม์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ไม่สำเร็จ ภายหลังจากที่พระมเหสีคลอดพระราชโอรสจึงมีความดีใจเป็นล้นพ้นและสำนึกตัวว่า ได้ทำบาปมหันต์ที่ปลงพระชนม์ชีพพระราชบิดา จึงเสด็จมาสารภาพความผิดและขอพระราชทานอภัยโทษกับพระพุทธองค์ ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งและทรงบำรุงพระพุทธศาสนา และอุปถัมภ์ในการทำสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ 1
ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์
ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ เป็นพระปางลีลาทำเป็นพระยืน มีรูปพระอินทร์อยู่ 2 ข้างเป็นเครื่องประกอบ หรือทำเป็นพระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ทั้งสองยกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) จีบนิ้วพระหัตถ์ทั้งสอง เป็นกิริยาทรงแสดงธรรม ประวัติ หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อสิ้นสุดพรรษาพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยบันไดแก้วมณี ที่ท้าวสักกเทวราชเนรมิตน้อมถวาย โดยมีเหล่าพรหมและเทวดาจำนวนมากส่งเสด็จและยังมีปัญจสิขเทพบุตรทรงพิณ ขับร้องด้วยเสียงอันไพเราะ มาตลีเทพบุตรถือของหอมและดอกไม้ทิพย์โปรยปรายในระหว่างทาง พระพุทธองค์เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในวันออกพรรษา จึงมีประเพณีตักบาตรเทโว เพื่อรับเสด็จพระพุทธองค์ในวันออกพรรษาสืบมาจนถึงปัจจุบัน
ปางปาเลไลยก์ (ปาลิเลยยกะ) • น่าจะดัดแปลงมาจากปางปฐมเทศนาแบบทวารวดี • เป็นพระประจำวันของคนที่เกิดวันพุธกลางคืน หรือ วันราหู (ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึงเช้าตรู่วันพฤหัสบดี) • พระพุทธรูปปางนี้มีพระพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งบัลลังก์ หย่อนพระบาททั้งสองทอดลงมาเหยียบบนพื้น พระพาหา(แขน)ทั้งสองวางบนพระเพลา(เข่า) หงายพระหัตถ์ขวา เป็นกิริยารับหม้อน้ำจากพญาช้างปาลิไลยกะ ซึ่งเป็นช้างอยู่ในป่า หลีกหนีจากโขลง มาคอยปรนนิบัติพระพุทธองค์ พระหัตถ์ซ้ายคว่ำลง แสดงกิริยาไม่รับรวงผึ้งจากลิง เนื่องจากรวงผึ้งมีแมลงผึ้งอยู่ ลิงต้องกลับไปเอาแมลงผึ้ง และตัวลูกอ่อนออกหมดก่อน แล้วนำไปถวายใหม่ พระองค์จึงทรงรับประเคน • ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ พระพุทธรูปปางนี้มีมูลเหตุมาจากการที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับในป่าป่ารักขิตวัน ในละแวะบ้านปาลิเลยยกะ (อ่านว่า ปา-ลิ-ไล-ยะ-กะ = ป่าเลไลย์)
พระโพธิสัตว์ปัทมปาณิ (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร) ศิลปะศรีวิชัย (พศต.ที่ ๑๔ - ๑๕) พบที่วัดพระบรมธาตุไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
พระอวโลกิเตศวร • พระโพธิสัตว์องค์สำคัญของพระพุทธศาสนามหายาน ที่มีผู้เคารพศรัทธามากที่สุด และเป็นเสมือนปุคคลาธิษฐานแห่งมหากรุณาคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง เรื่องราวของพระอวโลกิเตศวรปรากฏอยู่ทั่วไปในคัมภีร์สันสกฤตของมหายาน
รูปนางภควดีปัญญาบารมี ทำเป็นรูปนางยกมือขวาถือหนังสือ มือซ้ายถือดอกบัว ซึ่งมักเข้าใจกันว่าเป็นรูปนางอุมาภควดี
พระพุทธศาสนานิกายมหายาน ปรากฏอยู่ในอาณาจักร 2 แห่ง ที่สำคัญที่สุด อาณาจักรศรีวิชัย (ราว พ.ศ. 1300)