1 / 78

Fair play please!!!!

Fair play please!!!!. Ergogenic aids. Spirit in sports. คำว่า สปิริต หรือ ภาษาอังกฤษว่า Spirit. ความหมาย สปิริต หมายถึง จิตใจ วิญญาณ หัวใจ อารมณ์ ความเด็ดเดี่ยว

ulla
Télécharger la présentation

Fair play please!!!!

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Fair play please!!!!

  2. Ergogenic aids

  3. Spirit in sports

  4. คำว่า สปิริต หรือ ภาษาอังกฤษว่า Spirit • ความหมาย สปิริต หมายถึง จิตใจ วิญญาณ หัวใจ อารมณ์ ความเด็ดเดี่ยว • การแสดงความรับผิดชอบ การยอมรับการกระทำ รวมถึงการตัดสินใจเพื่อแสดงจุดยืน ความรับผิดชอบ ต่อความผิดพลาดจากการกระทำ หรือแม้แต่ยังไม่ผิดพลาด แต่เป็นที่ติดใจสงสัย • นอกจากนี้ สปิริต ยังหมายถึงจิตใจที่เปิดกว้าง มีความเมตตากรุณา ให้กับทุกสรรพสิ่ง จิตใจที่ได้รับการพัฒนาแล้วจนอ่อนโยนเปิดกว้าง มีน้ำใจให้กับคนรอบข้าง มีความรักความเมตตาให้กับคนและทุกสรรพสิ่งในวงที่กว้างขึ้น

  5. Sportmanship

  6. Ergogenic aids • การใช้ยา หรือสารเคมีที่ไม่ใช่อาหารปกติ ตลอดจนวิธีการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพและความสามารถในการทำงานให้ดีหรือมากกว่าปกติ

  7. แบ่งเป็น 2 ประเภท • 1. สิ่งที่เป็นสารที่นำเข้าสู่ร่างกายโดยสูดดม ฉีด รับประทาน หรือดื่ม • 2.สิ่งที่เป็นการกระทำมุ่งให้อิทธิพลต่อจิตใจของนักกีฬาเป็นหลัก เช่นการฝึกสมาธิ การกระตุ้นจิต ตลอดจนการเชียร์ฯลฯ

  8. สารที่ใช้ • 1.ทำหน้าที่เป็นยากระตุ้น • มุ่งชะลอความเหนื่อย ความเมื่อยล้า สามารถทำงานได้นานกว่าปรกติ มีส่วนผสมของ amphetamine ephredine, caffeine cocsine, lecithin,cocaine

  9. ซูโดเอฟิดรีน PseudoEphedrine • เป็นสารออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติประเภทซิมพาเธติก มีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับ เอฟิดรีน รวมทั้งสาร เมธแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) อย่างมาก มีการใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาไอซ์ ซึ่งเป็นสารเสพติดที่ออกฤทธิ์รุนแรง • มีการใช้ยา ซูโดเอฟิดรีน ในผู้ที่ต้องขับรถทางไกล หรือนักกีฬา โดยหวังผลในการกระตุ้นให้ประสาทตื่นตัวตลอดเวลา แต่มักไม่ค่อยได้ผล เนื่องจาก ซูโดเอฟิดรีน มีผลต่อระบบประสาทน้อยมาก ยกเว้นในรายที่ไวต่อยาอย่างมากเท่านั้น • แหล่งที่มา นพ.สมศักดิ์ หวานกิจเจริญ: www.oknation.net/blog/print.php?id=12241

  10. ยาอี ซึ่งย่อมาจากเอคตาซี่ (Ectasy) • เป็นสารอนุพันธุ์ ตัวหนึ่งของยาบ้า MDMA มีผลโดยทั่วไปคล้ายยาบ้า แต่มีผลทำให้เกิดประสาทหลอน รุนแรงกว่ายาบ้า ยาอีลักลอบใช้กันมาก ในหมู่นักศึกษา และวัยรุ่นในสังคมชั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มักใช้ในงานเลี้ยงส่วนตัวตามบ้าน งานเต้นรำโต้รุ่ง เพื่อเพิ่มเติมความรู้สึกสนุกสนาน เคลิ้มสุข และเข้ากันได้ง่าย ยานี้ปัจจุบันยังต้อง ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ และลักลอบซื้อกันในตลาดมืด

  11. ยาอี หรือ MDMA จะมีชื่อที่ใช้เรียกกันว่า เอ็กทาซี่ (Ecstasy) หรือ เอ็สเซ็นซ์ (Essence) หรือ อดัม (Adam) • เป็นยาที่มีฤทธิ์ผสมกันระหว่างกระตุ้นประสาท เหมือนกับยาบ้า และมีฤทธิ์หลอนประสาทด้วยในขณะเดียวกัน ยาอี มีฤทธิ์ที่แรงกว่ายาบ้าถึง 10 เท่า เมื่อเสพยาอีจะมีอาการเมายารู้สึกเคลิบเคลิ้ม และมีอาการหลอนประสาทร่วมด้วย ยานี้ไปกระตุ้นประสาท ทำให้คนเสพมีอาการสนุกคึกคักกล้ามเนื้อกระตุก เช่น จะมีการกระตุกของขาซ้ำไปมา เต้นรำตลอดเวลา การรับรู้สัมผัสของจมูก ตา และผิวหนัง จะเปลี่ยนไปคล้ายกับประสาทหลอน จะรู้สึกเหมือนตนเองรู้สึกถึงผู้อื่นได้ มีความรู้สึกรักใคร่ ไว้วางใจ ผู้คนรอบข้างทำให้มีความสุข หัวใจเต้นเร็วและผิดจังหวะ เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เส้นเลือดในสมองแตก ชัก โคม่า และตายได้ ยาอี บางคนเรียกว่า ยาเลิฟ เนื่องจากมีฤทธิ์ทำให้ความต้องการทางเพศสูงขึ้นได้ เมื่อฤทธิ์ยาเริ่มลดลงทำให้ผู้เสพมีอาการซึมเศร้า บางครั้งคิดฆ่าตัวตายได้ ดังนั้น หากพบว่าคนรอบข้างของท่านมีการจัดปาร์ตี้ ชนิดเต้นรำกันสูดเหวี่ยง ลืมโลก ควบคุมตัวเองไม่ได้ มีพฤติกรรม Sex หมู่เกิดขึ้น อาจสงสัยได้ว่ามีการจัดปาร์ตี้ยาอีกันขึ้น

  12. ลุยปาร์ตี้ยาอี ตรวจฉี่ม่วง!!!!

  13. ยาเค หรือ เคตามีน (Ketamine) • คือยาสลบชนิดหนึ่ง ที่ทางสัตวแพทย์ ใช้ฉีดสลบสัตว์ และแพทย์ใช้ฉีด ผู้ป่วยเด็กก่อนทำการผ่าตัดขนาดเล็ก ยานี้ไม่ทำให้หมดสติ แต่ทำให้ผู้ป่วยอยู่ใน ภาวะที่ร่างกายและจิตใจ เหมือนแยกจากกัน ไม่รับรู้ความเจ็บปวด ที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด ยานี้มีแหล่งที่มาจาก บริษัทผู้ผลิตยาซึ่งจำหน่าย เพื่อใช้ในโรงพยาบาล และปศุสัตว์ และบางส่วน ถูกลักลอบออกมา • ยาเคในปัจจุบัน ยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากโดยธรรมชาติ เป็นยาน้ำทำให้พกพา และใช้ไม่สะดวก ยาเคทำให้รู้สึกเหมือนว่า ร่างกายและจิตใจ แยกออกจากกัน (เปรียบเทียบคล้ายกับ ความรู้สึกเมื่อใกล้ตาย) และถ้าใช้ขนาดสูง ก็ทำให้หมดสติได้

  14. ยา Love (MDA) • มียาและสารหลายตัว ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นระบบประสาท คล้ายกับยาบ้าและยาอี ตัวอย่าง เช่น ยา Love (MDA) หรือ เมทิลลีน- ไดออกซีแอมเฟตามีน ซึ่งได้ชื่อมาจาก ผลของยาที่ทำให้ ผู้ใช้มีความขวยเขิน และความอับอายลดลง รู้สึกอยากพูดคุยกับคนอื่น

  15. โคเคน • โคเคน สะกัดแยก มาจากใบของต้นโคคา มีฤทธิ์และผลต่อร่างกาย และจิตใจคล้ายยาบ้ามาก แต่ก็มีข้อแตกต่าง คือมีผลอยู่ได้สั้น เพียงประมาน 30 นาที หลังจากใช้ยา ขณะที่ยาบ้า มีผลอยู่ได้นานถึง 4-6 ชั่วโมง ทำให้ในต่างประเทศ นิยมใช้โคเคน ในหมู่นักกีฬาอาชีพ และดารา เนื่องจากสามารถ เลือกใช้ผลยาตามเวลา ที่ต้องการได้

  16. โคเคน • โคเคนเกิดการชินยา (Tolerance) ได้ช้า ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้อง เพิ่มปริมาณยาที่เสพย์ มากขึ้นทุกครั้ง ในการใช้ยา ขณะที่ยาบ้า เกิดการชินยาได้เร็ว ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณยา มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลกระตุ้น ระบบประสาท และจิตอารมณ์เหมือนเดิม ในบางครั้งต้องใช้ยา มากกว่าครั้งแรก 5-10 เท่า ซึ่งทำให้เสี่ยง ต่อพิษของยามากขึ้น ประการที่สาม โคเคนนั้นมีทางเลือก ในการเสพย์ มากกว่ายาบ้า สามารถเสพโดยการสูด หรือการนัตถุ์ยาได้ โคเคนมีราคาแพง มากกว่ายาบ้า

  17. ชนิดที่ทำให้สงบหรือกล่อมประสาทชนิดที่ทำให้สงบหรือกล่อมประสาท • สำหรับระงับความตื่นเต้นในกีฬายิงปืน ยิงธนู การวิ่งระยะสั้น ได้แก่ Diazepam,Chlorpromzine,Meprobamate บุหรี่และแอกอฮอล์

  18. แบบเจล

  19. ชนิดที่เพาะกล้ามเนื้อชนิดที่เพาะกล้ามเนื้อ • เพื่อทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่และมีพลังมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นฮอร์โมน เช่น Testosterone ในท้องตลาดอาจใช้ชื่อ Dianabol stromba,Maxibolin

  20. ชนิดที่เป็นอาหารพิเศษชนิดที่เป็นอาหารพิเศษ • เช่น น้ำตาล เกลือ น้ำผลไม้ น้ำหรือเครื่องดื่ม ไวตามิน สมุนไพรต่าง ๆ สัตว์บางชนิด การใช้เลือดโด๊ป (Blood doping)

  21. การใช้สารในกลุ่มของ “ฮอร์โมน” เพื่อการโด๊ปในนักกีฬา • 3 ยา ยอดฮิตที่พบว่ามีการใช้ในนักกีฬาอนาบอลิก สเตรียรอยด์ (Anabolic Steroid), ฮิวแมนโกรท์ธ ฮอร์โมน (Human Growth Hormone) และ อีพีโอ (EPO- Erythropoietin) เป็นยาซึ่งถือว่ามีสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบหลักและจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “ฮอร์โมน” (Hormones)

  22. กลุ่มเบตาบล็อกเกอร์ ใช้ในการลดความตื่นเต้น เช่น นาโดโลน หรือ ซาโตโลน ที่พบว่ามีการใช้ในหมู่นักกีฬา แต่มีผลเสียคือ หากผู้ใช้มีปฏิกิริยาไวต่อสารชนิดนี้จะทำให้มีอาการหอบ หน้ามืด หลอดลมตีบ ผู้ที่ไม่เคยใช้มาก่อนอาจมีความดันต่ำและหน้ามืด • ไดยูเรติก หรือสารขับปัสสาวะ ใช้มากในการลดน้ำหนักของนักกีฬา เช่น นักมวย

  23. “ฮอร์โมน” คืออะไร? • “ฮอร์โมน”เป็นสารที่หลั่งออกมาจากหลายอวัยวะในร่างกายของคนเรา ไหลเวียนไปทั่วร่างกายเพื่อควบคุมการทำงานของร่างกาย โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ไทรอยด์ฮอร์โมน สร้างโดยต่อมไทรอยด์ที่อยู่บริเวณคอ • เทสโทสสเตอโรน (Testosterone) สร้างโดยต่อมที่อยู่บริเวณลูกอัณฑะผู้ชาย และเล็กน้อยจากต่อมที่อยู่บริเวณรังไข่ในผู้หญิง

  24. อนาบอลิก สเตรียรอยด์ (Anabolic Steroid) • ตัวอย่าง การใช้ในกีฬาที่มีบันทึกไว้ เช่น นักกีฬาว่ายน้ำของเยอรมันและนักกีฬาอื่นๆ มีการใช้ในยุค 1970 และ 1980 จนมีการห้ามใช้ในโอลิมปิกเกมส์ปี 1997 แต่มีข้อมูลว่ามีการอนุญาติให้ใช้ในเมเจอร์ลีกเบสบอลของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เคยมีข่าวการตรวจพบสารโด๊ป กลุ่มนี้ในนักกีฬาเหรียญทองของอังกฤษ ลินฟอร์ด คริสตี้ (Linford Christie) ในปี 1999

  25. การตรวจโด๊ป • สามารถตรวจพบได้จากการตรวจปัสสาวะ โดย มีความยากพอสมควรในการตั้งมาตรฐานปริมาณที่ตรวจพบ เพราะอย่างที่ทราบกันอยู่ว่า ฮอร์โมนที่เกิดตามปกติในคนเรานั้นก็มีระดับหนึ่ง ปริมาณที่พบในแต่ละบุคคลก็แตกต่างกัน ในแต่ละช่วงเวลาก็อาจมีปริมาณเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ การอักเสบติดเชื้อจากแบคทีเรียก็พบว่าทำให้ค่าเปลี่ยนแปลงได้ ปัจจุบันจึงมีการตรวจที่ใช้เทคนิคของการใช้สารรังสี ซึ่งสามารถแยกว่าเป็นฮอร์โมนที่เกิดตามธรรมชาติ หรือเป็นสารที่ผลิตขึ้นและทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนเหล่านี้ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ามีความยุติธรรมแก่นักกีฬาทุกคน • Human Growth Hormone และ EPO ต่อไปครับ สวัสดีครับอ้างอิง นอ.(พิเศษ) นพ.ไพศาลจันทรพิทักษ์Email:paisal@bangkokhospital.comhttp://www.bangkokhealth.com/exercis...p?Number=10015

  26. การใช้แอมเฟตามีนในวงการกีฬาการใช้แอมเฟตามีนในวงการกีฬา • หลังค.ศ.1958 นักกีฬาในสหรัฐเริ่มใช้แอมเฟตามีนมากขึ้น 35% จากการสำรวจ • ค.ศ.1959 Smith and Beecgerพบว่าแอมเฟตามีนเพิ่มความสามารถในกีฬาประเภทวิ่งและว่ายน้ำ • แต่ Karpovichค้านว่าแอมเฟตามีนไม่มีอิทธิพลต่อการวิ่งและการว่ายน้ำ • ค.ศ.1961 Ikai and Steinhausเพิ่มความสามารถในการยกน้ำหนัก • ค.ศ.1963 Golding and Bernardพบว่าไม่มีผลต่อการวิ่งบนลู่วิ่งกล

  27. ในปี 1967 ทอม ซิมป์สัน นักจักรยานทางไกลตูร์ เดอ ฟรองซ์ ชาวอังกฤษ หัวใจล้มเหลวขณะปั่น 2 ล้อคู่ใจขึ้นเขามองต์ แวงโตซ์ เมื่อตรวจเลือดพบสารแอมเฟตามีนและแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังพบยาเม็ดแอมเฟตามีนในเสื้อของเขาด้วย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ จึงเริ่มมีการตรวจสารกระตุ้น

  28. คาเฟอีนมากเท่าไหร่ จึงถือว่าโด๊ป???? • คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International  Olympic  Committee; IOC)  กำหนดว่าคาเฟอีนเป็นสารช่วยเพิ่มสมรรถภาพและเป็นสารกระตุ้น  (doping  agent)  ถ้าตรวจพบคาเฟอีนในปัสสาวะ  12  ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร  ซึ่งนักกีฬาจะต้องดื่มกาแฟถึงประมาณ  8  ถ้วย  จึงจะเกินปริมาณที่ IOC กำหนด  ซึ่งโดยปกติแล้วไม่มีนักกีฬาคนใดสามารถดื่มกาแฟจำนวนมากๆ  ก่อนการแข่งขัน  แต่อย่างไรก็ตามก็ควรจะระวังไว้  เพราะแต่ละบุคคลก็มีความสามารถในการเผาผลาญคาเฟอีนแตกต่างกัน

  29. ANABOLIC STEROIDS • ถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยมีโครงสร้างทางเคมีและฤทธิ์ทางสรีรวิทยาคล้าย testosterone ซึ่งส่งเสริมการสร้างโปรตีน Protein Anabolism ในร่างกาย • กระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและกระดูก

  30. ผลการใช้ steriods

  31. นักกีฬาหลายคนถูกตรวจพบว่ามีสารโด๊ปอยู่ในปัสสาวะ???นักกีฬาหลายคนถูกตรวจพบว่ามีสารโด๊ปอยู่ในปัสสาวะ??? • ที่มาของสารโด๊ปส่วนใหญ่ที่พบก็คือ นักกีฬาได้รับสารโด๊ปจาก อาหารเสริม ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในนักกีฬาทั่วโลก • ศาสตราจารย์ รอน โมฮาน จากมหาวิทยาลัยอเบอรดีน ได้สำรวจความคิดเห็นของนักกีฬาจำนวนมากกว่า 10,000 คนทั่วโลก และพบว่านักกีฬาร้อยละ 46 นิยมบริโภคอาหารเสริมเพื่อบำรุงร่างกาย • ปัจจัยที่สำคัญที่กระตุ้นให้นักกีฬาเหล่านี้ใช้อาหารเสริมคือ การสนับสนุนของผู้ฝึกสอน และการโฆษณาชวนเชื่อของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเหล่านั่นเอง กล่าวกันว่า อาหารเสริมนั้นเป็นธุรกิจที่ทำรายได้ ให้กับผู้ประกอบการอย่างมหาศาล ในประเทศสหรัฐอเมริกาเอง ธุรกิจอาหารเสริมมีส่วนแบ่งการตลาดมากกวา 16 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

  32. อาหารเสริมโดยทั่วไปมีอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง??อาหารเสริมโดยทั่วไปมีอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง?? • ดอกเตอร์ ฮันส์ ไกเยอร์ จากมหาวิทยาลัยกีฬาเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้วิเคราะห์อาหารเสริมจำนวน 634 ตัวอย่างจากบริษัทผู้ผลิตจำนวน 215 บริษัท ใน 13 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนต์ เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ อิตาลี สวีเดน นอร์เวย์ อสสเตรียและฮังการี • ผลการวิเคราะห์พบว่า นอกจากสารอาหารตามที่ได้โฆษณาไว้ในฉลากแล้ว อาหารดังกล่าวจำนวน 94 ชนิด ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 14.8 มีสารพวกโปรฮอร์โมนอยู่ด้วย ในระดับความเข้มข้นต่างๆ กัน ทั้งๆ ที่ในฉลากไม่ได้ระบุว่า  มีสารพวกโปรฮอร์โมนเป็นองค์ประกอบ

  33. ยาโด๊ปในรูปของอาหารเสริมยาโด๊ปในรูปของอาหารเสริม • นอกเหนือจากพวกโปรฮอร์โมนแล้ว ในการศึกษาวิจัยยังพบมีสารโด๊ปกลุ่มอื่นด้วย เช่น อาหารเสริมพวกสมุนไพร เช่น Ma Huang ก็จะมีสารพวกเอฟฮีดีน • เครื่องดื่มบางชนิดมีส่วนผสมของกัญชา และขนมเค้กบางชนิดก็มีการผสมเมล็ดฝิ่นและชาบางชนิดเข้าไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีฝิ่นและอนุพันธ์ของฝิ่นออกมาในปัสสาวะได้

  34. “โด๊ปยา” กันทั่วโลก • วันที่ 22 มกราคม 2546 มีการแข่งขันคริกเก็ตนัดสำคัญที่ประเทศออสเตรเลีย หลังการแข่งขัน 1 ชั่วโมง เชน วาร์เน่ นักคริกเก็ตที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลียก็ถูกจับตรวจโด๊ป • เพราะมีการสังเกตว่าเขาฟื้นตัวจากการแข่งขันได้รวดเร็วกว่านักกีฬาในวัยเดียวกัน ปรากฎว่าจากการตรวจพบยาขับปัสสาวะ ซึ่งเป็นสารโด๊ปชนิดหนึ่ง • ในขั้นแรกวาร์เน่แก้ตัวว่าได้รับยาจากมารดา 1 เม็ดโดยไม่ทราบว่าเป็นยาโด๊ป แต่ใช้เพื่อให้ร่างกายและบุคลิกภาพอยู่ในสภาพที่ดีหลังการแข่งขัน

  35. 2. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2546 สมาคมกรีฑาของสหราชอาณาจักรได้ตัดสินลงโทษ เพอร์ริสส์ วิลกินส์ นักกีฬาประเภทขว้างจักรชาวอังกฤษ ซึ่งถูกตรวจจับว่าใช้สารโด๊ป ตั้งแต่เดือนเมษายน 2545 โดยห้ามลงแข่งขันกรีฑาตลอดชีวิต ซึ่งการที่ถูกลงโทษหนักขนาดนี้เนื่องจากเป็นครั้งที่ 2 ที่วิลกินส์ถูกตรวจจับได้ว่าใช้สารโด๊ป โดยครั้งแรกเขาถูกจับว่าใช้สารโด๊ปเมื่อเดือนกรกฏาคม 2544 และถูกลงโทษโดยห้ามลงแข่งขันเป็นเวลา 2 ปี

  36. 3. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2546 สมาพันธ์สกีนานาชาติประกาศห้ามนักกีฬาหญิง 2 คนคือ ไคซ่า วาริส จากประเทศฟินแลนด์ และ ซเวตลาน่า นาเกจาคีน่า จากประเทศเบลารุส ลงแข่งขันนอร์ดิกสกีชิงแชมป์โลก เป็นเวลา 5 วัน ในช่วงแรกของการแข่งขัน เนื่องจากตรวจพบว่านักกีฬาทั้ง 2 มีระดับความเข้มข้นของเลือดสูงกว่าที่สหพันธ์สกีนานาชาติได้กำหนดไว้ ในเรื่องนี้ ไคซ่า วาริส ซึ่งเคยได้รับเหรียญทองแดงจากการแข่งขันสกีประเภทครอสคันทรีระยะทาง 15 กิโลเมตร ในการแข่งขันสกีชิงแชมป์โลก ปี ค.ศ. 2001 กล่าวว่าระดับเฮโมโกลบินที่สูงขึ้นในร่างกายของเธออาจจะเป็นผลจากการฝึกซ้อมในบรรยากาศที่เลียนสภาพบรรยากาสที่สูง ทั้งนี้เธอได้ฝึกซ้อมในห้องที่มีระดับไนโตรเจนสูงและอ๊อกซิเจนต่ำโดยเชื่อว่าการฝึกซ้อมในสภาพเช่นนี้ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้

  37. เรื่องเศร้าของการใช้สารกระตุ้นเรื่องเศร้าของการใช้สารกระตุ้น • เมื่อเดือน มิ.ย. 2550 คริส เบนวา นักมวยปล้ำขวัญใจเด็กๆ ทั่วโลก ก่อเหตุสะเทือนขวัญลงมือสังหาร แนนซี ผู้เป็นภรรยา และแดเนียล ลูกชายตัวน้อยวัย 7 ขวบ ก่อนปลิดชีวิตตัวเอง จากการสอบประวัติพบว่า เบนวา ซึ่งมีรูปร่างเล็กกว่านักมวยปล้ำทั่วไปนั้น ใช้สารสเตอรอยด์ที่ซื้อจากร้านค้าออนไลน์

  38. Blood Doping • นำเลือดออกมา 800-1,200 มล.ในระยะ 2-3 สัปดาห์ก่อนแข่งขันแช่แข็งไว้ • ฉีดกลับเข้าไปก่อนลงทำการแข่งขัน • การทดสอบสำหรับอีริโทรพอีทินถูกค้นพบในช่วงปลายทศวรรษปี 1990 และเริ่มถูกใช้ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2000 ที่ซิดนีย์ (Sydney)

  39. กระบวนการโด๊ปเลือดจะเริ่มจากการนำเลือดบางส่วนออกจากร่างกายของนักกีฬาก่อนการแข่งขันนัดสำคัญหลายสัปดาห์ โดยทั่วไปเลือดที่ดึงออกมาจะมีปริมาตรราว 1-4 หน่วย (เลือด 1 หน่วย = 450 มิลลิลิตร) นำเลือดที่ได้มาปั่นเพื่อแยกส่วนของพลาสมาและเม็ดเลือดออกจากกัน จากนั้นนำส่วนพลาสมาใส่กลับเข้าไปในร่างกายของนักกีฬาทันที ส่วนเม็ดเลือดจะแยกไปแช่เย็นไว้ที่ 4 องศาเซลเซียสหรือที่อุณหภูมิติดลบ 80 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะนำไปใส่กลับสู่ร่างกายนักกีฬาก่อนการแข่งขัน โดยทั่วไป ร่างกายคนเราจะใช้เวลาสร้างเม็ดเลือดให้มีระดับปกติดังเดิมประมาณ 3-8 สัปดาห์ ดังนั้น การนำเลือดใส่กลับสู่ร่างกายของนักกีฬาจะต้องคำนวณอย่างแม่นยำ และการตรวจเลือดในจังหวะเวลาที่ไม่เหมาะสมก็จะพบว่า นักกีฬาที่โด๊ปเลือดมีเม็ดเลือดน้อยกว่าปกติ (แทนที่จะมากกว่าปกติ!) การโด๊ปเลือดที่ทำอย่างถูกขั้นตอนสามารถเพิ่มปริมาณของโปรตีนเฮโมโกลบินที่อยู่ในเม็ดเลือดแดงซึ่งทำหน้าที่จับกับออกซิเจนได้มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว!!!

  40. ส่วนในทางปฏิบัติด้วยการทดสอบกับนักกีฬาจริง ผลการทดลอง ปรากฏว่าวิธีนี้ช่วยเพิ่มฮีโมโกลบินได้จริง ใกล้เคียง 8 เปอร์เซ็นต์ และดึงออกซิเจนเข้าสู่ระบบได้ 4 มิลลิลิตร/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม (ถ้านักกีฬาหนัก 70 กิโลกรัม จะเพิ่มได้เท่าไร โปรดคำนวณเอาเอง) จึงสรุปได้จากการทดลองว่าออกซิเจนที่เข้าสู่ระบบมากจะทำให้กล้ามเนื้อทนทานมากขึ้นไปด้วย และส่งผลต่อเนื่องได้ 1 สัปดาห์หลังฉีดเลือดเดิม กลับเข้าไป • แต่ที่ต้องห้ามทำกันก็เพราะมันมีผลเสีย เพราะเซลล์ เม็ดเลือดที่เพิ่มขึ้นจะไปทำให้เลือดข้นเกินจำเป็นจนเกาะตัวเป็นลิ่มเลือด ส่งผลเหมือนการใช้อีพีโอคือถ้าไปอุดตันอยู่ตอนใกล้ถึงหัวใจ หัวใจก็จะวายตายเฉียบพลันแบบไม่มีอาการเตือน ถ้าไม่ทำอย่างสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ ตับจะติดเชื้อ หรือที่เลวร้ายสุดๆ คือ ถ้าใช้เลือดนักกีฬาชอบสนุกคนอื่น ก็อาจติดเชื้อเอดส์

  41. โดยทั่วไปในผู้ชายจะมีระดับฮีโมโกลบินอยู่ในช่วง 14 – 17 กรัมต่อเดซิลิตรของเลือด (เดซิ = 10-2) และผู้หญิงอยู่ในช่วง 12-15 กรัมต่อเดซิลิตรของเลือด ในกีฬาที่แตกต่างกันหรือในการแข่งขันที่แตกต่างกัน จะมีค่าอนุญาตที่ต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น สมาคมสกีนานาชาติ (the international ski federation; FIS) อนุญาตให้มีค่ามากที่สุดเท่ากับ 17 กรัมต่อเดซิลิตร ในนักกีฬาผู้ชาย ส่วนนักกีฬาผู้หญิงมีฮีโมโกลบินได้มากที่สุด คือ 16 กรัมต่อเดซิลิตร

  42. ???ทำอย่างไรถึงจะเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงได้จำนวนมากๆ???ทำอย่างไรถึงจะเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงได้จำนวนมากๆ • คนที่อาศัยหรือถูกฝึกซ้อมในที่สูง จะมีการเพิ่มขึ้นของระดับฮีโมโกลบิน เหตุผลเป็นเพราะว่าบริเวณดังกล่าวมีออกซิเจนเบาบาง ทำให้ไตมีการผลิตฮอร์โมนที่มีชื่อว่า อีริโทรพอีทิน (erythiopoietin; EPO) เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการผลิตเม็ดเลือดแดงที่โพรงกระดูก (bone marrow) นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้สารละลายเพอร์ฟลูออโรคาร์บอน (perfluorocarbon) ซึ่งดูดซับออกซิเจนได้ดี และสารแอคโทเวจิน (actovegin) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของเลือดลูกวัว ที่จับออกซิเจนได้ดีอีกด้วย เป็นต้น

  43. การสร้างเม็ดเลือดแดงโดยธรรมชาติการสร้างเม็ดเลือดแดงโดยธรรมชาติ • เครื่องมือที่นักจักรยานมืออาชีพรวมถึงแลนซ์ อาร์มสตรอง เองก็ยังใช้ คือ เต็นท์จำลองความสูง (altitude tent) หลักการก็คือ มันเป็นเต็นท์นอนได้ 2 คนประกอบเครื่องดูดอากาศออกพอประมาณ (ดูดมากคนนอนอาจตายเพราะขาดอากาศ) • อากาศที่เบาบางภายในจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ เลือดจะไม่ข้นจนจับตัว เป็นลิ่มส่งผลดีต่อการแข่งขันได้ระดับหนึ่ง

  44. Altitude Tent!

  45. Altitude Tent!

  46. การฝึกในสภาพอากาศเบาบางการฝึกในสภาพอากาศเบาบาง

  47. ผลการโด๊ป • นักจักรยานดังที่รับผลกระทบจากการโด๊ปเลือดนี้แบบเต็มสูบคือ ไทเลอร์ แฮมิลตัน จากสหรัฐ เจ้าของเหรียญทองในโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ • เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข่าวจากปักกิ่งเกมส์ตีแผ่ไปทั่วโลกว่า พบ “สารอีพีโอ” หรือ “ฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง” ในปัสสาวะของ “มาเรีย อิซาเบล โมเรโน่” นักจักรยาน ทีมชาติสเปน • ทีมชาติสาววัย 27 ปีคนนี้ จึงเป็นผู้ที่เจอข้อหาโด๊ปยาเป็น รายแรกของโอลิมปิก 2008 มีสิทธิ์ถูกห้ามแข่งขัน 2 ปี และและอาจหมดสิทธิเข้าร่วมโอลิมปิก 2012 ที่อังกฤษ

  48. ??? อะไรคือยีนตกตะกอน (gene doping) • นี้เป็นสิ่งที่ถูกคาดว่าจะเป็นสิ่งต่อไปในอนาคตสำหรับนักกีฬา เพื่อมาทดแทนการใช้ยาและเลือดฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อผลิตเม็ดเลือดแดง

  49. ??? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณปรับเปลี่ยนยีนของคุณเพื่อให้เป็นไปตามที่ต้องการ • ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการค้าที่มีชื่อว่า เร็พอ๊อกซิเจน (Rep-oxygen) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทอ๊อกฟอร์ด ไบโอเมดดิคอล (Oxford BioMedical) ที่มาจากประเทศอังกฤษ มันเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกๆ ที่ใช้เทคนิคยีนตกตะกอน โดยใช้ไวรัสเพื่อการถ่ายยีน โดยมันจะเป็นพาหะในการถ่ายยีนอีริโทรพอีทินของคน และสามารถทำให้กล้ามเนื้อเริ่มผลิตอีริโทรพอีทิน โดย จุดประสงค์แรกของการผลิตเร็พอ๊อกซิเจนคือเพื่อใช้กับคนที่มีไตที่ทำงานไม่เหมาะสม ยาชนิดนี้ยังอยู่ในขั้นคลีนิคเริ่มแรก (pre-clinical) และยังไม่มีการใช้ยีนตกตะกอนในกีฬา

More Related