1 / 77

บทที่ 6 ระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูล ( Computer Network And Data Communication)

บทที่ 6 ระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูล ( Computer Network And Data Communication). การสื่อสารข้อมูล.

melva
Télécharger la présentation

บทที่ 6 ระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูล ( Computer Network And Data Communication)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 6 ระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูล(Computer Network And Data Communication)

  2. การสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูล หมายถึง การรับส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยผ่านสื่อกลางเช่น สายโทรศัพท์ สายเคเบิลไฟเบอร์ออพติก, คลื่นไมโครเวฟ, แสงอินฟราเรด, ระบบดาวเทียม.

  3. องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูล ประกอบด้วย 5องค์ประกอบ คือ • ข้อมูล(Message) • หน่วยส่งข้อมูล (Sending unit) • ช่องทางการส่งข้อมูล (Transmission unit) • หน่วยรับข้อมูล (Receiving unit) • ข้อตกลงหรือกติกาในการรับส่งข้อมูล(Protocol) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  4. องค์ประกอบการสื่อสาร

  5. องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล • ข้อมูล(Message) เป็นข้อมูลที่เราทำการส่งหรือรับ ซึ่ง ประกอบไปด้วย ข้อมูลตัวอักษร, รูปภาพ, เสียง, video, และอื่นๆ • หน่วยส่งข้อมูล (Sending unit)ทำหน้าที่ ส่งข้อมูลออกไป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  6. องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล 3. ช่องทางการส่งข้อมูล (Transmission unit) ทำหน้าที่นำข้อมูลจากหน่วยส่งข้อมูลไปยังหน่วยรับข้อมูล โดยใช้ช่องทางการสื่อสาร เช่น สายโทรศัพท์, สายLAN, สัญญาณวิทยุ เป็นต้น

  7. องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล 4.*หน่วยรับข้อมูล (Receiving unit)ทำหน้าที่ รับข้อมูลที่ถูกส่งจากหน่วยส่งข้อมูล หน่วยรับข้อมูล เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์

  8. องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล 5. ข้อตกลงหรือกติกาในการรับส่งข้อมูล(Protocol) เป็นข้อตกลงหรือกติกาในการสื่อสาร สามารถเปรียบได้กับ ภาษา ในการสื่อสารถ้าเราเอาคนพูดคนละภาษามาพูดคุยกัน ก็จะไม่สามารถสื่อสารข้อมูลในแต่ละฝ่ายเข้าใจได้ เราจึง จำเป็นต้องใช้กติกาเดียวกันในการสื่อสารทำหน้าที่กำหนด รูปแบบในการส่ง/รับว่าเป็นแบบanalog หรือdigital ระดับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ลักษณะกันเข้ารหัสสัญญาณ เป็นต้น 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  9. ชนิดของสัญญาณ ชนิดของสัญญาณ ประกอบด้วยกัน 2 ชนิด คือ การส่งสัญญาณแบบอนาล็อก (Analog) การส่งสัญญาณแบบดิจิตอล(Digital) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  10. 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  11. ชนิดของสัญญาณ การส่งสัญญาณแบบอนาล็อก (Analog) หมายถึงสัญญาณข้อมูลแบบต่อเนื่อง โดยทั่วไปคือสัญญาณที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้ เช่น แรงดันของน้ำ ค่าของอุณหภูมิ หรือความเร็วของรถยนต์ เป็นต้น การส่งสัญญาณแบบดิจิตอล(Digital)หมายถึงสัญญาณข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง  โดยทั่วไปคือสัญญาณที่มนุษย์ไม่สามารถสัมผัสได้ เช่น สัญญาณไฟฟ้า เป็นต้น 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  12. วัตถุประสงค์ของการสื่อสารข้อมูลวัตถุประสงค์ของการสื่อสารข้อมูล • รเพื่อรับข้อมูลและสารสนเทศจากแหล่งกำเนิดข้อมูล • รเพื่อส่งและกระจายข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว • รเพื่อช่วยลดเวลาการทำงาน • รเพื่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งข่าวสาร • รเพื่อช่วยการขยายการดำเนินการขององค์กร • รเพื่อช่วยปรับปรุงการบริหารขององค์กร

  13. รูปแบบการสื่อสารข้อมูลรูปแบบการสื่อสารข้อมูล รูปแบบของการสื่อสารข้อมูล แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ • แบบทิศทางเดียว (Simplex) • แบบกึ่งสองทิศทาง(Half duplex) • แบบสองทิศทาง (Full duplex)

  14. แบบทิศทางเดียว (Simplex) • แบบทิศทางเดียว (Simplex) ข้อมูลจะถูกส่งไปในทางเดียวเท่านั้น เช่น การกระจายเสียงของสถานีวิทยุ ผู้ส่ง ผู้รับ

  15. แบบกึ่งสองทิศทาง (Half duplex) • แบบกึ่งทางคู่ (Half duplex) สามารถส่งข้อมูลสวนทางกันได้แต่ต้องสลับกันส่ง เช่น วิทยุสื่อสารของตำรวจ ผู้ส่ง ผู้รับ

  16. แบบทางคู่ (Full duplex) • แบบทางคู่ (Full duplex) สามารถส่งข้อมูลสวนทางกันได้ตลอดช่วงเวลาเดียวกัน เช่น การพูดโทรศัพท์ ผู้ส่ง ผู้รับ 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  17. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 3 ประเภท • ระบบเครือข่ายระยะใกล้ (LAN: LocalArea Network) • ระบบเครือข่ายระหว่างเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) • ระบบเครือข่ายระยะไกล(WAN: WideArea Network) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  18. ระบบเครือข่ายระยะใกล้ : LAN เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายขนาดเล็กในพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก เช่น ภายในห้อง หรือภายในตัวอาคาร จุดประสงค์ของการเชื่อมต่อ คือ แบ่งปันทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น พรินเตอร์ สแกนเนอร์ รวมทั้งข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  19. ระบบเครือข่ายระยะใกล้ : LAN 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  20. ระบบเครือข่ายระหว่างเมือง : MAN เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่า LANมักเกิดจากการเชื่อมโยงเครือข่าย LANในบริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อระบบระหว่างองค์กรกับองค์กร 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  21. ระบบเครือข่ายระยะไกล : WAN เป็นเครือข่ายบริเวณกว้าง ซึ่งอาจมีขอบเขตการเชื่อมต่อที่กว้างไกลขึ้นจาก LANและ MANซึ่งเมื่อเชื่อมต่อแล้วจะก่อให้เกิดเป็นระบบเครือข่ายในระดับจังหวัด ประเทศ หรือข้ามทวีปได้ 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  22. ระบบเครือข่ายระยะไกล : WAN 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  23. โครงสร้างของเครือข่ายคอมพิวเตอร์โครงสร้างของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โครงสร้างของระบบเครือข่าย แบ่งเป็น 4 ประเภท • โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส (Bus Network) • โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว(Star Network) • โครงสร้างเครือข่ายแบบวงแหวน(Ring Network) • โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม(Hybrid Network) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  24. โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส: Bus เครือข่ายแบบบัสคือ เป็นเครือข่ายการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน ข้อดี ง่ายต่อการนำอุปกรณ์เชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย ข้อจำกัด หากมีการส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์สองเครื่องพร้อมกันจะทำให้ข้อมูลสูญหาย เนื่องจากการชนของข้อมูล ต้องทำการส่งข้อมูลใหม่ 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  25. โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส: BUS 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  26. โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว: Star เครือข่ายแบบดาวคือ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อกับอุปกรณ์ที่อยู่ตรงกลางHUBเพียงตัวเดียว เมื่อต้องการส่งข้อมูลจะต้องส่งผ่าน HUBก่อน เป็นรูปแบบการต่อที่นิยมมากที่สุด ข้อดีง่ายต่อการตรวจเช็คเมื่อคอมพิวเตอร์มีปัญหาส่งข้อมูลไม่ได้, ลดปัญหาการชนของข้อมูล ข้อจำกัดHUB เป็นตัวกลางของการส่งข้อมูล ถ้าเสียระบบก็ล่ม 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  27. โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว: Star 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  28. โครงสร้างเครือข่ายแบบวงแหวน: Ring เครือข่ายแบบวงแหวน คือ ต่อสายผ่านคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องเป็นวง การส่งข้อมูลจะส่งผ่านวงแหวนโดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจนถึงเครื่องที่ร้องขอข้อมูล ข้อดีไม่มีปัญหาเรื่องการชนของข้อมูล ข้อจำกัด การส่งข้อมูลจะช้ากว่าทุกระบบ เพราะต้องส่งผ่านที่ละเครื่องจนถึงเครื่องที่ร้องขอข้อมูล 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  29. โครงสร้างเครือข่ายแบบวงแหวน: Ring 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  30. โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม:Meshโครงสร้างเครือข่ายแบบผสม:Mesh เครือข่ายแบบผสมเป็นระบบที่ผสมผสานการเชื่อมต่อกับระบบทั้งสามระบบข้างต้น โดยผ่านตัว HUBเป็นการขยายระบบเครือข่ายให้สามารถรองรับคอมพิวเตอร์มากขึ้น 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  31. โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม:Hybridโครงสร้างเครือข่ายแบบผสม:Hybrid 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  32. สื่อกลางนำส่งข้อมูล (Transmission Media) สื่อกลางนำส่งข้อมูล แบ่งเป็น 2 ประเภท • ชนิดใช้สาย (Wire) • ชนิดไร้สาย(Wireless) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  33. สายคู่ตีเกลียว(Twisted pairs cable) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  34. สายคู่ตีเกลียว(Twisted pair cable) • สายคู่บิดเกลียวที่พบเห็นโดยทั่วไป คือ สายโทรศัพท์ • มีฉนวนหุ้มจับคู่พันเป็นเกลียว เพื่อลดสัญญาณรบกวน • ประกอบด้วยสายทองแดง 2 เส้น (สายคู่ตีเกลียว 1 คู่ จะแทนการสื่อสารได้ 1 ช่องทางสื่อสาร (Channel) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  35. สายคู่ตีเกลียว (Twisted pair cable) สายคู่บิดเกลียวที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เป็นสายทองแดง 8 เส้น 4 คู่ และเชื่อมต่อด้วย คอนเน็กเตอร์ RJ-45 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  36. สายคู่ตีเกลียว (Twisted pair cable) สายคู่บิดเกลียว แบ่งออกเป็น 2 ชนิด • สายคู่บิดเกลียวไม่หุ้มฉนวน (Unshield Twisted Pair : UTP) • สายคู่บิดเกลียวแบบมีฉนวนหุ้ม (Shielded Twisted pair : STP) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  37. สายคู่ตีเกลียวไม่หุ้มฉนวน(Unshield Twisted Pair : UTP) สายแบบ UTP เป็นสายที่มีราคาถูกและหาง่ายแต่ป้องกันสัญญาณรบกวนจากอำนาจแม่เหล็กได้ไม่ดีเท่าสายแบบ STP 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  38. สายคู่ตีเกลียวแบบมีฉนวนหุ้ม (Shielded Twisted pair : STP) สายแบบ STP เป็นสายแบบมีฉนวนป้องกัน (ฉนวนโลหะ) สัญญาณรบกวนที่ความถี่สูงได้ ราคาจะแพงกว่าสาย UTP มาก สามารถเดินสายได้ยาวกว่าสาย UTP   04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  39. สายโคแอกเชียล(Coaxial cable) ประกอบด้วยแกนทองแดงหุ้มด้วยฉนวน ภายนอกฉนวนจะถูกหุ้มด้วยโลหะอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันสนามไฟฟ้ารบกวนจากภายนอก และสายดิน (ลักษณะเป็นฝอย) แล้วหุ้มด้วยฉนวนบางอีกหนึ่งชั้น 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  40. สายโคแอกเชียล (Coaxial cable) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  41. สายโคแอกเชียล(Coaxial cable) • รองรับความเร็วสูงสุดในการรับ-ส่งข้อมูลที่ 10 Mbps สายนำสัญญาณแบบนี้จะใช้ Connector เฉพาะในการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และจุดต่างๆ ภายในเครือข่าย • ปัจจุบันได้เปลี่ยนสายดินจากลวดทองแดงเป็นลวดเงิน ทั้งนี้เพื่อ ป้องกันอาการรบกวนที่เกิดจากสายสัญญาณข้างเคียง 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  42. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) • เป็นสายนำสัญญาณที่ใช้รูปแบบของแสงในการรับ-ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ทั้งสองตัวมีหน้าที่แปลงสัญญาณแสงให้เป็นสัญญาณที่เครื่องคอมพิวเตอร์รู้จัก (ดิจิตอล) • สายใยแก้วนำแสงมีประสิทธิภาพ ในการรับส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับสายนำสัญญาณชนิดอื่น • รองรับความเร็ว ในการรับ-ส่งข้อมูลสูง 565-1300 Mbps 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  43. สายใยแก้วนำแสง(Fiber optic Cable) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  44. ข้อดีของสายใยแก้วนำแสงข้อดีของสายใยแก้วนำแสง • ทนทานต่อคลื่นรบกวนด้วยฉนวนชั้นนอก • สัญญาณคงที่ในการส่งข้อมูลแม้ในระยะทางไกลๆ ไม่ต้อง อาศัยอุปกรณ์ เพิ่มสัญญาณหรือทวนสัญญาณ • แบนด์วิดท์สูง รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลประมาณ 500 Mbps ขึ้นไป 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  45. ข้อจำกัดของสายใยแก้วนำแสงข้อจำกัดของสายใยแก้วนำแสง • มีราคาแพงเนื่องจากต้นทุนการผลิต • การติดตั้งและการบำรุงรักษา • ความเปราะและแตกหักง่าย 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  46. ระบบไมโครเวฟ(Microwave System) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  47. ระบบไมโครเวฟ(MicrowaveSystem) • ไมโครเวฟ คือ ช่วงสัญญาณคลื่นวิทยุ นำมาใช้ในการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงทั้งสัญญาณเสียงและข้อมูล • มีจานส่งและรับข้อมูลตั้งอยู่บนเสาสูง ยอดตึก หรือภูเขา • ส่งสัญญาณเป็นเส้นตรง และจะไม่มีอะไรมาขวางกั้น (แต่มีการลดทอนของสัญญาณ) • ระยะทางของจานรับ/ส่งประมาณ 30-50 กม. 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  48. ระบบไมโครเวฟ (Microwave System) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  49. ระบบดาวเทียม(SatelliteSystem) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

  50. ระบบดาวเทียม(Satellite System) • ดาวเทียม มีหน้าที่ขยายและทบทวนสัญญาณข้อมูล, รับและส่งสัญญาณข้อมูลกับสถานีดาวเทียมภาคพื้นโลก • ดาวเทียมอยู่ห่างจากพื้นโลกประมาณ 36,000 ก.ม. • การส่งสัญญาณข้อมูลขึ้นไปยังดาวเทียมเรียกว่า “สัญญาณอัป-ลิงค์” (Uplink) • การส่งสัญญาณข้อมูลกลับมายังพื้นโลกเรียกว่า “สัญญาณดาวน์-ลิงค์” (Downlink) 04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน

More Related