1.01k likes | 2.5k Vues
บทที่ 2. ประเภท และองค์ประกอบของนโยบายสาธารณะ. หัวข้อ. 1. ตัวแบบในการศึกษานโยบายสาธารณะ 2 . ประเภทของนโยบายสาธารณะ 3. องค์ประกอบของนโยบายสาธารณะ 4. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะ 5. ข้อควรคำนึงในการกำหนดนโยบายสาธารณะ. ตัวแบบในการศึกษานโยบายสาธารณะ.
E N D
บทที่ 2 ประเภท และองค์ประกอบของนโยบายสาธารณะ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หัวข้อ • 1. ตัวแบบในการศึกษานโยบายสาธารณะ • 2. ประเภทของนโยบายสาธารณะ • 3. องค์ประกอบของนโยบายสาธารณะ • 4. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะ • 5. ข้อควรคำนึงในการกำหนดนโยบายสาธารณะ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ตัวแบบในการศึกษานโยบายสาธารณะตัวแบบในการศึกษานโยบายสาธารณะ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ตัวแบบในการศึกษานโยบายสาธารณะตัวแบบในการศึกษานโยบายสาธารณะ • 1. ตัวแบบทฤษฎีระบบ ( System Theory Model ) • 2. ตัวแบบทฤษฎีผู้นำหรือชนชั้นสูง (Elite Theory Model) • 3. ตัวแบบทฤษฎีกลุ่ม ( Group Theory Model ) • 4. ตัวแบบการตัดสินใจตามหลักเหตุผล (Rational Comprehensive Decision – Making Model) • 5. ตัวแบบทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจากของเดิม(Incrementalism Model) • 6. ตัวแบบอื่นๆ ก.ตัวแบบที่อาศัยแนวความคิดที่เรียกว่า มิกซ์สแกนนิ่ง (Mixed Scanning) ข. ตัวแบบเชิงสถาบัน(Institutional Model) อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. ตัวแบบทฤษฎีระบบ ( System Theory Model ) - • อีสตัน ( David Easton ) , Sharkansky, Dye และคนอื่นๆ • อธิบายกระบวนการกำหนดนโยบายในลักษณะความสัมพันธ์เชิงโครงสร้าง ระหว่าง ปัจจัยทางการเมือง การบริหารภายในระบบการกำหนดนโยบาย กับปัจจัยสภาวะแวดล้อมภายนอกระบบ • ตัวแปรในตัวแบบเชิงระบบได้มีการแยกออกเป็น 4 ประเภทคือ 1) ปัจจัยนำเข้า ( Input Factors ) 2) กระบวนการตัดสินใจ ( Conversion Process ) 3) ผลการตัดสินใจซึ่งก็คือนโยบายในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ( Output ) 4) ผลย้อนกลับ ( Feedback ) อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- • ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนโยบายออกเป็น 4 ปัจจัยคือ 1) ปัจจัยความต้องการ ( Policy Demand ) >>(ปัจจัยนำเข้า) เป็นปัจจัยความต้องการให้มีการกำหนดนโยบายเพื่อผลักดันเข้าสู่ กระบวนการกำหนดนโยบาย(ปัญหา แรงกดดัน และความต้องการต่างๆ) 2) ปัจจัยการตัดสินใจ ( Policy Decision ) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอำนาจ ในการกำหนดนโยบาย และบทบาทของผู้ กำหนดนโยบายในการแปรความต้องการของสังคมไปเป็นนโยบายเพื่อให้เกิดผลการ เปลี่ยนแปลงขึ้นในสังคม 3) ปัจจัยผลลัพธ์ ( Policy Output ) >>(ผลของการตัดสินใจ=นโยบาย) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับการผลิตของกระบวนการกำหนดนโยบายเมื่อ กระบวนการนโยบายสำเร็จเสร็จสิ้นลงตัวผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ นโยบายนั่นเอง รวมถึง ผลที่ได้จากนโยบายนั้นด้วย 4) ปัจจัยผลกระทบ ( Policy Outcomes ) >>(ผลย้อนกลับ) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากนโยบาย ทั้งผลที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจให้เกิดขึ้น อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการศึกษาวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฎีระบบลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการศึกษาวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฎีระบบ • 1) กระบวนการกำหนดนโยบายเป็นเสมือนหนึ่งระบบที่มีปัจจัยนำเข้าและผลผลิต ซึ่งระบบดังกล่าวอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่อาจมีอิทธิพลได้ • 2) ความต้องการและแรงกดดันต่างๆในสังคมจะเป็นปัจจัยนำเข้าสู่ระบบ • 3) กลไกทางการเมืองจะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจกำหนดนโยบายเพื่อนำมาใช้ปฏิบัติต่อสังคม • 4) นโยบายเป็นเสมือนหนึ่งผลผลิตของระบบ • 5) ผลผลิตของระบบอาจเป็นแรงผลักดันย้อนกลับทำให้เกิดนโยบายใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายเดิม • 6) สิ่งแวดล้อมอาจมีอิทธิพลในการกำหนดเงื่อนไขแห่งการสร้างนโยบาย อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
แสดงตัวแบบการวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฎีระบบ สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า ระบบการเมือง ผลลัพธ์ ผลกระทบ -ความต้องการ -การสนับสนุน -ทรัพยากร -ข้อคัดค้าน กระบวนการตัดสินใจ นโยบาย เศรษฐกิจการเมืองสังคม ฯลฯ ปฏิกิริยาย้อนกลับ สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ตัวแบบกระบวนการนโยบายที่ขยายตัวแบบระบบ สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า ระบบการเมือง ผลลัพธ์ ผลกระทบ -ความต้องการ -การสนับสนุน -ทรัพยากร -ข้อคัดค้าน ตัวกลาง -กลุ่ม -พรรค -องค์กร ระบบการตัดสินใจ -การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม นโยบาย เครือข่ายองค์กร ปฏิกิริยาย้อนกลับ สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2. ตัวแบบทฤษฎีผู้นำหรือชนชั้นสูง (Elite Theory Model) - • นโยบายสาธารณะ คือ แนวทางที่สะท้อนค่านิยมที่เลือกสรรแล้วและความชอบของกลุ่มผู้นำหรือชนชั้นสูง ของกลุ่มผู้นำหรือชนชั้นสูง นโยบายสาธารณะไม่ได้สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน • ตัวแบบนี้เชื่อว่าประชาชนโดยทั่วไปไม่สนใจใยดีกับความเป็นไปของบ้านเมืองมากนัก ไม่ใส่ใจกับกิจกรรมต่างๆของรัฐบาลอย่างลึกซึ้งจริงจังนัก นอกจากนี้ยังมักจะได้รับข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับกิจกรรมของรัฐบาล และความเป็นไปของการเมืองไม่ทั่วถึงและละเอียดถี่ถ้วนเพียงพอ • กลุ่มผู้นำหรือชนชั้นสูงซึ่งมีไม่มากนักมักเป็นผู้ที่มีข้อมูลข่าวสารอย่างลึกซึ้งทั่วถึง และเป็นผู้ที่กำหนดความคิดเห็นของประชาชนในแทบทุกเรื่อง อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฏีผู้นำหรือชนชั้นสูงลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฏีผู้นำหรือชนชั้นสูง • 1) สังคมมักถูกแบ่งแยกโดยให้คนส่วนน้อยมีอำนาจ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่มีอำนาจ และคนส่วนน้อยเป็นผู้กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมรวมทั้งค่านิยม คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอำนาจในการตัดสินใจกำหนดนโยบายรัฐ • 2) คนส่วนน้อยที่ควบคุมกลไกการบริหารประเทศมักใช้มวลชนที่เป็นคนส่วนใหญ่และคนส่วนน้อยพวกนี้มักเป็นชนชั้นสูงที่ถูกยกย่องให้มีฐานะสูงสุดในสังคม • 3) การที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะจากมวลชนไปเป็นชนชั้นสูง จะต้องอาศัยระยะเวลานาน และมวลชนที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะได้นั้นก็จะต้องยอมรับโครงสร้างสังคมที่ชนชั้นสูงเป็นผู้กำหนดขึ้น • 4) นโยบายสาธารณะโดยส่วนใหญ่ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของมวลชน แต่มักเป็นไปตามความต้องการและสอดคล้องกับความต้องการของชนชั้นสูง การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่กำหนดโดยชนชั้นสูงมักจะเป็นไปอย่างเชื่องช้ามากกว่าการเปลี่ยนแปลงแบบทันที • 5) ชนชั้นสูงมีอำนาจและอิทธิพลเหนือมวลชน โอกาสที่มวลชนจะมีอำนาจเหนือมีน้อย อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
กลุ่มผู้นำ การกำหนดนโยบาย ข้าราชการ/พ่อค้า/ ชนชั้นกลาง การนำนโยบายไปปฏิบัติ ประชาชน (มวลชน) แสดงตัวแบบการวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฏีผู้นำ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ความเชื่อตามตัวแบบผู้นำหรือชนชั้นสูงนี้ นำไปสู่ข้อสรุปเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะในหลายประเด็นด้วยกัน กล่าวคือ • ประเด็นแรก คือ การที่นโยบายสาธารณะเป็นเพียงภาพสะท้อนค่านิยมที่เลือกสรรแล้วของผู้นำกลุ่มหรือชนชั้นสูง การจะเปลี่ยนแปลงใดๆในเนื้อหาและรูปแบบของนโยบายจะต้องเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในความคิดและค่านิยมของกลุ่มผู้นำหรือชนชั้นสูงเป็นสำคัญ ค่านิยมดังกล่าวอาจจะสวนทางกับความต้องการของประชาชนหรืออาจสะท้อนความต้องการจริงของประชาชน • ประเด็นที่สอง คือ การที่เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจความเป็นไปของบ้านเมือง เฉื่อยชา และมักถูกครอบงำโดยกลุ่มผู้นำหรือชนชั้นสูงนั้นส่งผลไปสู่ข้อสรุปที่ว่า การเลือกตั้ง การแสดงประชามติต่างๆนั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ช่วยผูกพันประชาชนกับผู้นำหรือชนชั้นสูงไว้ • ประเด็นสุดท้าย คือ การที่เชื่อว่ากลุ่มผู้นำหรือชนชั้นสูงมีความเห็นคล้ายคลึงกันในกุล่มเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินกิจกรรมของรัฐนั้น นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าเสถียรภาพทางการเมืองขึ้นอยู่กับความเห็นพ้องต้องกันของกลุ่มผู้นำหรือกลุ่มชนชั้นสูง อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
3. ตัวแบบทฤษฎีกลุ่ม ( Group Theory Model ) - • เบนท์เลย์ (Arthur Bentley)และ ทรูแมน ( DavidTrueman ) • กระบวนการกำหนดนโยบายในรูปของปฏิสัมพันธ์ระหว่าง “กลุ่มผลประโยชน์” หรือกลุ่มคนในการบริหารการเมืองในระบบการเมืองนั้นๆ • ตัวแบบนี้มีความเชื่อว่า นโยบายสาธารณะเป็นผลผลิตที่สะท้อนดุลยภาพของการต่อสู้ดิ้นรนแข่งขันระหว่างกลุ่มต่างๆในสังคม ตัวแบบนี้เชื่อว่าหัวใจของการเมืองก็คือการต่อสู้แข่งขันระหว่างกลุ่มต่างๆในสังคม เพื่อที่จะมีอิทธิพลในการกำหนดนโยบายสาธารณะ หน้าที่ของระบบการเมืองที่สำคัญที่สุดคือ การประสานความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฎีกลุ่มลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฎีกลุ่ม • 1) ทฤษฎีนี้เชื่อว่ากลุ่มต่างๆของสังคมจะพยายามยื่นข้อเสนอของตนและผลักดันความต้องการของตนเองต่อรัฐบาล • 2) ระบบการเมืองมีหน้าที่ตั้งกฎเกณฑ์การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างกลุ่มและกระจายผลประโยชน์ให้สมดุล • 3) นโยบายในขณะใดขณะหนึ่งคือความสมดุลของการต่อสู้ระหว่างกลุ่ม • 4) กลุ่มที่มีอิทธิพลมากนโยบายจะเอนเอียงเข้าหาผลประโยชน์ของกลุ่มนั้น • 5) สมาชิกของกลุ่มขณะใดขณะหนึ่งจะเป็นสมาชิกของกลุ่มอื่นด้วยและมักจะมีการเคลื่อนย้ายสมาชิกบ่อยๆ • 6) การเคลื่อนย้ายสมาชิกจะก่อให้เกิดความสมดุลในระบบ • 7)พรรคการเมืองคือตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ หากพรรคการเมืองใดได้รับการสนับสนุนมาก จะมีการสนองผลประโยชนให้กับกลุ่มที่สนับสนุน อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
อิทธิพลของ ก. อิทธิพลของ ข. จุดดุลยภาพ (นโยบายสาธารณะ) แสดงตัวแบบการวิเคราะห์ตัวแบบนโยบายสาธารณะตามทฤษฎีกลุ่ม อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
แสดงการเปลี่ยนแปลงของของจุดดุลยภาพในตัวแบบวิเคราะห์ตัวแบบนโยบายสาธารณะตามทฤษฎีกลุ่ม การเปลี่ยนแปลงของอิทธิพลสัมพัทธ์ อิทธิพลที่เพิ่มขึ้น อิทธิพลของ ก. อิทธิพลของ ข. นโยบายใหม่ นโยบาย จุดดุลยภาพ ที่เปลี่ยนไป จุดดุลยภาพ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
4. ตัวแบบการตัดสินใจตามหลักเหตุผล (Rational Comprehensive Decision – Making Model) - • ถือว่านโยบายสาธารณะที่ใช้หลักเหตุผลจะเป็นนโยบายที่ทำให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ • ก่อนที่จะตัดสินใจเพื่อกำหนดเป็นนโยบายสาธารณะ ต้องมีการศึกษาแนวทางเลือกหลายแนวทางโดยวิเคราะห์ผลดี ผลเสียของแต่ละแนวทาง ศึกษาเปรียบเทียบในต้นทุน ( Input ) กับประโยชน์ที่ได้รับ ( Output ) หรือการวิเคราะห์ต้นทุน-ผลกำไร ( Cost-Benefit Analysis ) ในการนี้ผู้กำหนดนโยบายจะต้องกำหนดเป้าหมายโดยจัดลำดับความสำคัญตามความต้องการและคุณค่าต่างๆและศึกษาวิเคราะห์ทางเลือกต่างๆดังกล่าวแล้วจึงตัดสินใจเลือกทางเลือก ที่ได้ผลมากที่สุดแต่ลงทุนน้อยที่สุด อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ขั้นตอนการกำหนดนโยบายตามทฤษฎีตัดสินใจตามหลักเหตุผลขั้นตอนการกำหนดนโยบายตามทฤษฎีตัดสินใจตามหลักเหตุผล - • 1) ต้องตั้งเป้าหมายให้ได้ว่า นโยบายต้องการอะไร มีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายอย่างไร • 2) เป็นการรวบรวมค่านิยมและทรัพยากรของแต่ละเป้าหมาย • 3) เป็นการกำหนดนโยบายทางเลือกว่า ในเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของสัญญานั้น มีทางเลือกที่เป็นไปได้ ที่จะทำให้เป้าหมายบรรลุวัตถุประสงค์มีกี่ทาง อะไรบ้าง • 4) คาดคะเน ผลประโยชน์ที่จะได้รับ หรือที่คาดว่าจะได้รับกับต้นทุนของแต่ละทางเลือกที่กำหนดในขั้นตอนที่สาม • 5) คำนวณค่าคาดหวังสุทธิของแต่ละทางเลือก • 6) การตัดสินใจ ใช้เกณฑ์การเลือกทางเลือกที่มีค่าคาดหวังทางเลือกสูงที่สุด เป็นการเปรียบเทียบผลประโยชน์หรือค่าคาดหวังสุทธิที่คำนวณได้ของแต่ละทางเลือกในขั้นตอนที่ห้า อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการตัดสินใจตามหลักเหตุผลลักษณะสำคัญของความเชื่อตามตัวแบบการตัดสินใจตามหลักเหตุผล • 1)ทฤษฏีนี้เชื่อว่าผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่ต้องการกำหนดนโยบายที่ดีที่สุดหลักเหตุผลในการกำหนดนโยบายมากที่สุด • 2)หน่วยงานที่ทำหน้าที่วิเคราะห์นโยบายเพื่อเสนอรัฐบาล จะใช้หลักการประเมินทางเลือกที่ให้ประโยชน์มากที่สุด โดยคำนึงถึงทรัพยากรที่มีอยู่ และค่านิยม ความต้อง การของสังคมในขณะนั้น • 3)การคาดคะเนผลประโยชน์ตอบแทน และต้นทุนค่าจ่ายของทางเลือกในการวิเคราะห์นโยบาย ใช้ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจ สังคมประกอบ จึงทำให้การคาดหมายใกล้เคียงกับความเป็นจริง • 4)การตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อกำหนดนโยบายของรัฐบาล ยากที่จะมีผู้โต้แย้ง เพราะสาธารณชนย่อมมีเหตุผล สามารถเข้าใจความสำคัญและความจำเป็น รวมทั้งเหตุผลในการตัดสินใจของรัฐบาลได้ เพราะใช้ข้อมูลที่เป็นจริงในการตัดสินใจ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ตัวแบบการวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฎีการตัดสินใจตามหลักเหตุและผล ปัจจัยนำเข้า ตั้งเป้าหมายโดยกำหนดน้ำหนักของแต่ละเป้าหมาย 1 ทรัพยากรที่ต้องการ รวบรวมค่านิยมของทรัพยากรของแต่ละเป้าหมายโดยกำหนดน้ำหนักตามสิ่งที่เป็นอยู่จริง 2 4 ข้อมูลข่าวสารที่จำเป็น 5 3 คาดคะเนประโยชน์ที่จะได้รับกับต้นทุนของแต่ละทางเลือก คำนวณค่าคาดหวังสุทธิของแต่ละทางเลือก กำหนดนโยบายทางเลือก 6 ปัจจัยส่งออก เปรียบเทียบผลประโยชน์แต่ละทางเลือกแล้วเลือกทางเลือกที่จะได้ประโยชน์มากที่สุด นโยบาย อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
5. ตัวแบบทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจากของเดิม(Incrementalism Model) - • ชาลส์ อีลินด์บลอม (Charles E. Lindblom) • การกำหนดนโยบายจะเป็นเพียงการแก้ไขดัดแปลงจากของเดิมที่มีอยู่เดิมในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป นั่นคือ นักบริหารจะถือว่านโยบายที่มีอยู่ถูกต้องแล้วไม่ต้องล้มเลิกหรือกำหนดขึ้นใหม่ทั้งหมด เพียงแต่พิจารณานโยบายในส่วนที่เพิ่ม ลด หรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่มีอยู่ • การพิจารณาในส่วนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่านั้น ซึ่งง่ายกว่าการเปลี่ยนแปลงใหม่ และเป็นแบบที่ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากนั้นการเสนอนโยบาย ที่แต่ปรับปรุงแก้ไขจากของเดิม ซึ่งเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วนั้นย่อมทำให้เกิดข้อโต้แย้งน้อยกว่าการเริ่มต้นสิ่งใหม่ทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นการทำให้ระบบการเมืองลดความขัดแย้ง และช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเมืองอีกด้วย อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ลักษณะสำคัญของความเชื่อของตัวแบบ การวิเคราะห์นโยบายตามทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจากของเดิม • 1) การกำหนดนโยบายมักจะกำหนดนโยบายต่อเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในอดีต • 2) ผู้กำหนดนโยบายมักจะไม่เลือกที่จะกำหนดนโยบายใหม่ทั้งหมดเพราะสิ้นเปลืองเวลาในการที่จะมาวิเคราะห์ผลประโยชน์ ค่าใช้จ่ายและเงินลงทุนอันมหาศาล • 3) ตัวแบบนี้นิยมอนุรักษ์นโยบายเก่า จะมีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงบ้างก็เป็นส่วนน้อย • 4) ผู้กำหนดนโยบายมักเลือกที่จะเดินตามนโยบายเก่าเพราะปลอดภัยกว่าการเลือกนโยบายใหม่ที่ไม่สามารถคาดการณ์และยังอาจจะเกิดความขัดแย้งได้ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ส่วนที่เปลี่ยนแปลง สาระสำคัญของนโยบายในอดีต อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
6. ตัวแบบอื่นๆ ก.ตัวแบบที่อาศัยแนวความคิดที่เรียกว่า มิกซ์สแกนนิ่ง (Mixed Scanning) ข. ตัวแบบเชิงสถาบัน(Institutional Model) อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ตัวแบบอื่นๆ • ตัวแบบ มิกซ์สแกนนิ่ง >> เป็นการรวมตัวแบบการตัดสินใจตามหลักเหตุผล และ ตัวแบบการตัดสินใจตามทฤษฎีแก้ไขเปลี่ยนแปลงจากของเดิม โดยการพิจารณาเรื่องต่างๆอย่างกว้างๆ และเมื่อสนใจเรื่องใดก็จะพิจารณาเป็นจุดๆไป • ตัวแบบเชิงสถาบัน >> การกำหนดนโยบาย การพัฒนานโยบาย รวมทั้งการนำนโยบายไปปฏิบัติ ย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะของสถาบันทางการเมืองการบริหารของประเทศนั้นๆ รวมทั้งขึ้นอยู่กับค่านิยม กฎเกณฑ์ ในการปฏิบัติงาน ประเพณีและวัฒนธรรมทางการเมืองการบริหารด้วย อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ประเภทของนโยบายสาธารณะประเภทของนโยบายสาธารณะ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. ประเภทของนโยบาย (ตามงานเขียนของสุรนาท ขมะณะรงค์) - • มีการจำแนก 3 วิธี 1. การจำแนกนโยบายตามวัตถุประสงค์ของนโยบาย-นโยบายเกี่ยวกับการจัดระเบียบกฎเกณฑ์ นโยบายเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร นโยบายเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรใหม่ และนโยบายเกี่ยวกับการจัดระบบงานและโครงสร้างการบริหารงาน 2. การจำแนกนโยบายตามแหล่งที่มาของนโยบาย-นโยบายที่มีแหล่งที่มาจากภายในวงการที่เกี่ยวข้อง และนโยบายที่มีแหล่งที่มาจากภายนอกวงการที่เกี่ยวข้อง 3. จำแนกนโยบายตามลักษณะกิจกรรมของนโยบาย -นโยบายทางเศรษฐกิจ นโยบายทางสังคม และนโยบายทางการเมือง อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.1 การจำแนกนโยบายตามวัตถุประสงค์ของนโยบาย - • มีการจำแนก 4 ประเภท 1.) นโยบายเกี่ยวกับการจัดระเบียบกฎเกณฑ์ -กำหนดโดยรัฐบาลในรูปกฎหมาย ระเบียบ เช่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการ 2.) นโยบายเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร -การกำหนดการจัดสรรและการกระจายทรัพยากรของประเทศในระหว่างบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ทั้ง งบประมาณ คน วัสดุ ความรู้ เทคโนโลยี ข่าวสาร ข้อมูล เช่น นโยบายกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน นโยบายการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายการจัดสรรบริการสาธารณะ นโยบายการให้สิทธิพิเศษเพื่อส่งเสริมการลงทุน อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.1 การจำแนกนโยบายตามวัตถุประสงค์ของนโยบาย(ต่อ) - 3.) นโยบายเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรใหม่ -การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการจัดสรรทรัพยากรเสียใหม่ให้เหมาะสม เช่น นโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและการยกเลิกรัฐวิสาหกิจ นโยบายการปฏิรูปที่ดิน นโยบายการปฏิรูประบบบริหารราชการ 4.) นโยบายเกี่ยวกับการจัดระบบงานและโครงสร้างการบริหารงาน -เป็นนโยบายหลักที่แสดงถึงวัตถุประสงค์หลักและระบบการปฏิบัติงานในระดับมหภาค ซึ่งถือเป็น นโยบายต้นแบบ(Metapolicy) ที่ชี้นำการกำหนดนโยบายเฉพาะด้านในระบบต่างๆ เช่น การปรับปรุงระบบการบริหารงานและการปฏิบัติงานประจำ (เช่น การปฏิรูประบบราชการโดยการยกเลิก ยุบรวม และจัดตั้งกระทรวงในช่วงรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร) กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.2การจำแนกนโยบายตามแหล่งที่มาของนโยบาย1.2การจำแนกนโยบายตามแหล่งที่มาของนโยบาย - • มีการจำแนก 2 กลุ่ม 1.) นโยบายที่มีแหล่งที่มาจากภายในวงการที่เกี่ยวข้อง-นโยบายริเริ่ม -นโยบายร้องเรียน 2.) นโยบายที่มีแหล่งที่มาจากภายนอกวงการที่เกี่ยวข้อง -นโยบายเรียกร้อง -นโยบายโดยปริยายหรือโดยนัย (หมายเหตุวงการที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย คือ ระบบราชการ ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม หรือกอง ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดทำนโยบาย) อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.2การจำแนกนโยบายตามแหล่งที่มาของนโยบาย(ต่อ)1.2การจำแนกนโยบายตามแหล่งที่มาของนโยบาย(ต่อ) - 1.) นโยบายที่มีแหล่งที่มาจากภายในวงการที่เกี่ยวข้องเป็นนโยบายที่มาจากภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือกอง ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดทำนโยบาย -นโยบายริเริ่ม นโยบายที่ริเริ่มโดยผู้กำหนดนโยบายหรือเจ้ากระทรวง(รัฐมนตรี) ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงาน เช่น นโยบายโคล้านตัว นโยบายการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อโดยไม่มีแป๊ะเจี๊ย -นโยบายร้องเรียน นโยบายที่เสนอโดยผู้บริหารระดับกลางหรือระดับล่าง มักเป็นข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาจากการปฏิบัติงาน เช่น นโยบายการปรับปรุงระบบการคลังของสำนักงานคลังจังหวัด นโยบายการประเมินเพื่อพัฒนาการทำงานของบุคลากรในองค์กร อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.2การจำแนกนโยบายตามแหล่งที่มาของนโยบาย(ต่อ)1.2การจำแนกนโยบายตามแหล่งที่มาของนโยบาย(ต่อ) - 2.) นโยบายที่มีแหล่งที่มาจากภายนอกวงการที่เกี่ยวข้อง เป็นนโยบายที่มาจากภายนอกกระทรวง ทบวง กรม หรือกอง ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดทำนโยบาย -นโยบายเรียกร้อง เกิดจากแรงกดดันจากภายนอกและทำให้ต้องกำหนดเป็นนโยบาย เช่น ข้อเรียกร้องการกำหนดระยะเวลาเป็นสมาชิกพรรคก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งของกลุ่มพรรคการเมือง ข้อเรียกร้องเพิ่มค่าจ้างของกลุ่มแรงงาน ข้อเรียกร้องช่วยพยุงค่าเงินบาทของกลุ่มผู้ส่งออก -นโยบายโดยปริยายหรือโดยนัย เป็นนโยบายที่ใช้ข้อมูลเก่าๆตามความต้องการของผู้บริหารระดับสูงโดยไม่ต้องการเหตุผลหรือข้อพิสูจน์เสียก่อน เกิดจากความเชื่อหรือค่านิยมของคนในสังคมส่วนใหญ่ที่เคยใช้อย่างมีผลสามารถที่จะใช้ต่อไปได้ เช่น นโยบายส่งเสริมประเพณีศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.3จำแนกนโยบายตามลักษณะกิจกรรมของนโยบาย1.3จำแนกนโยบายตามลักษณะกิจกรรมของนโยบาย - • มีการจำแนก 3 ประเภท 1. ทางเศรษฐกิจ 2. นโยบายทางสังคม 3. นโยบายทางการเมือง อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.3 จำแนกนโยบายตามลักษณะกิจกรรมของนโยบาย(ต่อ) - 1. นโยบายทางเศรษฐกิจ -นโยบายเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการพัฒนาทางเศรษฐกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายการเงินแบบเข้มงวด นโยบายการคลังการคลังแบบผ่อนคลาย นโยบายส่งเสริมการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า-เพื่อการส่งออก นโยบายการรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ 2. นโยบายทางสังคม -นโยบายเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในสังคม โดยการสนองตอบความต้องการของประชาชน พัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ รักษาความสงบเรียบร้อย ให้มีความเป็นธรรมในสังคม พัฒนาการศึกษา การสาธารณสุข และคุณภาพชีวิตของประชาชน อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.3 จำแนกนโยบายตามลักษณะกิจกรรมของนโยบาย(ต่อ) - เช่น นโยบายรักษาพยาบาลฟรีแก่ประชาชน นโยบายจัดการศึกษาฟรีแก่ประชาชน นโยบายการจัดหาน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคแก่ประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร นโยบายการเพิ่มสวนสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ ฯลฯ 3. นโยบายทางการเมือง -นโยบายเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการพัฒนาทางการเมือง การพัฒนาระบบการปกครองประเทศ การส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน การพัฒนาพรรคการเมือง การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น นโยบายการจัดตั้งสภาพัฒนาการเมือง นโยบายการกระจายอำนาจการปกครองแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นโยบายการรวมกลุ่มประเทศอาเซียน อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. ประเภทของนโยบาย (ตามงานเขียนของศ.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์) - • จำแนกเป็น 1. นโยบายมุ่งเน้นขอบเขตเฉพาะด้านและนโยบายมุ่งเน้นสถาบันที่กำหนดนโยบาย 2. นโยบายมุ่งเน้นเนื้อหาสาระ และนโยบายมุ่งเน้นขั้นตอนการปฏิบัติ 3. นโยบายเน้นการควบคุมกำกับโดยรัฐ และนโยบายมุ่งเน้นการควบคุมกำกับตนเอง 4. นโยบายมุ่งเน้นการกระจายผลประโยชน์ และนโยบายมุ่งเน้นการกระจายความเป็นธรรม 5. นโยบายเน้นเชิงวัตถุ และนโยบายเน้นเชิงสัญลักษณ์ 6. นโยบายเน้นลักษณะเสรีนิยม และนโยบายมุ่งเน้นอนุรักษ์นิยม 7. นโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าสาธารณะ และนโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าเอกชน อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. ประเภทของนโยบาย (ต่อ) - 1. นโยบายมุ่งเน้นขอบเขตเฉพาะด้านและนโยบายมุ่งเน้นสถาบันที่กำหนดนโยบาย -นโยบายมุ่งเน้นขอบเขตเฉพาะด้าน เช่น นโยบายของรัฐบาลที่แบ่งเป็น นโยบายด้านเศรษฐกิจ นโยบายด้านสังคม นโยบายด้านการเมือง นโยบายต่างประเทศ นโยบายด้านความมั่นคง -นโยบายมุ่งเน้นสถาบันที่กำหนดนโยบาย เป็นนโยบายที่แบ่งตามผู้ออกนโยบาย ได้แก่ นโยบายที่ออกโดยสถาบันนิติบัญญัติ (กฎหมายต่างๆ) นโยบายที่ออกโดยสถาบันบริหารหรือ ครม. (กฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล มติ ครม. พระราชกฤษฎีกา พระราชกำหนด นโยบายพรรคการเมือง) นโยบายที่ออกโดยสถาบันตุลาการ(คำพิพากษาต่างๆ เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ) อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. ประเภทของนโยบาย (ต่อ) - 2. นโยบายมุ่งเน้นเนื้อหาสาระ และนโยบายมุ่งเน้นขั้นตอนการปฏิบัติ - นโยบายมุ่งเน้นเนื้อหาสาระ ว่าจะทำอะไร และก่อให้เกิดผลกระทบต่อใครอย่างไร เช่น นโยบายการเวนคืนที่ดินเพื่อขยายเส้นทาง - นโยบายมุ่งเน้นขั้นตอนการปฏิบัติ ว่าใครจะทำ และอย่างไร เช่น นโยบายการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการปกครองของประชาชน 3. นโยบายเน้นการควบคุมกำกับโดยรัฐ และนโยบายมุ่งเน้นการควบคุมกำกับตนเอง - นโยบายเน้นการควบคุมกำกับโดยรัฐ เช่น นโยบายควบคุมอาวุธปืน - นโยบายมุ่งเน้นการควบคุมกำกับตนเองเช่น พ.ร.บ.ทนายความ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. ประเภทของนโยบาย (ต่อ) - 4. นโยบายมุ่งเน้นการกระจายผลประโยชน์ และนโยบายมุ่งเน้นการกระจายความเป็นธรรม - นโยบายมุ่งเน้นการกระจายผลประโยชน์ เช่น นโยบายการส่งเสริม OTOP, SME - นโยบายมุ่งเน้นการกระจายความเป็นธรรม เช่น นโยบายการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี , ประกันสุขภาพถ้วนหน้า(30 บาทรักษาทุกโรค) 5. นโยบายเน้นเชิงวัตถุ และนโยบายเน้นเชิงสัญลักษณ์ - นโยบายเน้นเชิงวัตถุ เช่น นโยบายการจัดหาปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกร - นโยบายเน้นเชิงสัญลักษณ์ เช่น นโยบายการส่งเสริมประเพณีศิลปวัฒนธรรม อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. ประเภทของนโยบาย (ต่อ) - 6. นโยบายเน้นลักษณะเสรีนิยม และนโยบายมุ่งเน้นอนุรักษ์นิยม - นโยบายเน้นลักษณะเสรีนิยม เช่น นโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ นโยบายการกระจายอำนาจการปกครอง นโยบายการค้าเสรี - นโยบายมุ่งเน้นอนุรักษ์นิยม เช่น นโยบายความมั่นคงของรัฐ นโยบายการเกณฑ์ทหาร นโยบายการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจ 7. นโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าสาธารณะ และนโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าเอกชน - นโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าสาธารณะ เช่น นโยบายการรักษาความความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ และการรักษาความมั่นคงของประเทศ - นโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าเอกชน เช่น นโยบายการส่งเสริมการประกอบกิจการของภาคเอกชน นโยบายการส่งเสริมตลาดเสรี อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
องค์ประกอบของนโยบาย อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
องค์ประกอบของนโยบาย มี 4 ประการ • 1) เหตุผลของการกำหนดนโยบาย (Rationale) • 2) เป้าหมายของนโยบายหรือผลที่คาดว่าจะได้รับจากนโยบาย (Target or ended result) • 3) วิธีการหรือกลวิธีที่จะทำให้นโยบายบรรลุเป้าหมาย (Means or strategies) • 4) ทรัพยากรหรือปัจจัยที่สนับสนุนการดำเนินนโยบาย (Resources) อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1.เหตุผลของการกำหนดนโยบาย (Rationale) • ต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เหตุใดจึงมีการกำหนดนโยบายในลักษณะนั้นลักษณะนี้ขึ้น หากนโยบายที่กำหนดขึ้นมีเหตุผลเพียงพอ สาธารณชนก็จะยอมรับโดยง่าย • ยกตัวอย่างนโยบาย พร้อมบอกเหตุผลของนโยบาย • 2. เป้าหมายของนโยบายหรือผลที่คาดว่าจะได้รับจากนโยบาย (Target or ended result) • การกำหนดเป้าหมายของนโยบายถือเป็นจุดหมายปลายทางที่รัฐบาลมุ่งมั่นจะไปให้ถึง หรือเป็นวัตถุประสงค์หลัก เกี่ยวข้องอาจแตกเป็นวัตถุประสงค์ย่อยในระดับรองๆลงไปก็ได้ • ยกตัวอย่างนโยบายที่มีวัตถุประสงค์หลัก วัตถุประสงค์รอง อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
3) วิธีการหรือกลวิธีที่จะทำให้นโยบายบรรลุเป้าหมาย (Means or strategies) • ประกอบด้วยกลวิธีหลายกลวิธีที่ผู้ปฏิบัติจะต้องเลือกเอากลวิธีที่ดีที่เหมาะสมไปใช้ • นโยบายที่มีวิธีการปฏิบัติเป็นองค์ประกอบจะเป็นนโยบายที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง และจะมีโอกาสอย่างมากที่นโยบายนั้นจะประสบความสำเร็จ • ผู้กำหนดนโยบายจึงควรกำหนดวิธีการที่จะนำไปสู่เป้าหมาย (Means) หรือกลวิธีที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในแนวทางหลัก (Strategies) ไว้ด้วย • ดูยุทธศาสตร์รัฐบาลบางยุทธศาสตร์ แล้วพิจารณาว่าสามารถบรรลุเป้าหมายของนโยบายได้หรือไม่ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
4) ทรัพยากรหรือปัจจัยที่สนับสนุนการดำเนินนโยบาย (Resources) • หมายถึง คน เงิน วัสดุ เครื่องมือ เครื่องจักร เป็นต้น • หากไม่มีความเป็นไปได้ในการจัดสรรทรัพยากรสนับสนุน นโยบายนั้นจะเป็นนโยบายลอย ไม่สามารถแปรเปลี่ยนไปเป็นแผนปฏิบัติการได้ • ทรัพยากรที่จำเป็นต้องกำหนดเป็นองค์ประกอบของนโยบายในที่นี้หมายถึงทรัพยากรที่มีอยู่หรือที่สามารถหามาได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะใช้ในการดำเนินการ • ทรัพยากรที่กำหนดในขั้นนี้ไม่จำเป็นต้องกำหนดรายละเอียดตายตัวทุกเรื่อง แต่หมายถึง วงเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ แหล่งทรัพยากรในภาพรวม • พิจารณาตามยุทธศาสตร์ข้างต้นว่ามีการจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับเป้าหมายหรือไม่ อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบาย อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบาย - • มี 3ประการ 1. ผู้มีอำนาจทางการเมือง (อธิบายเพิ่มด้วย เพราะไม่มีคำอธิบาย) 2. ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Factors) -1) ปัจจัยที่มีผลประโยชน์ต่อชาติ -2)ปัจจัยที่เกี่ยวกับผู้กำหนดนโยบาย วิธีการ หรือ กระบวนการในการกำหนด และดำเนินนโยบาย -3)ปัจจัยข้อมูลข่าวสาร 3. ปัจจัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Factors) -1)ปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายในระบบ เช่น วัฒนธรรมหรือประเพณีทางการเมือง ความต้องการของมหาชน ผู้นำ พรรค กลุ่มผลประโยชน์ -2)ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่อยู่ภายนอกระบบ เช่น ภูมิศาสตร์และภูมิหลังของพื้นที่ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางสังคม อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Factors) • หมายถึง สิ่งใด ๆ ก็ตามที่ผู้ที่มีหน้าที่กำหนดนโยบายจะต้องคำนึงถึงตลอดเวลา เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลหลักในการกำหนดนโยบาย • ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ใหญ่ๆ • 1) ปัจจัยที่มีผลประโยชน์ต่อชาติต้องกำหนดให้ประเทศชาติได้ประโยชน์มากที่สุด หรือสูญเสียประโยชน์ที่จะได้รับให้น้อยที่สุด มีความผูกพันของผลประโยชน์หรือความต้องการของประชาชนและของชาติ เช่น การกินดีอยู่ดี ความสุขของประชาชน นโยบายของรัฐที่ดีที่สุดคือนโยบายที่มีลักษณะเป็นการตอบสนองต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม แบ่งเป็น ผลประโยชน์ของชาติที่มีความสำคัญยิ่งยวด และผลประโยชน์ของชาติที่มีความสำคัญรองลงมา ลักษณะสำคัญของประโยชน์ต่อชาติ คือ เป็นเรื่องของนามธรรม คงทนถาวรไม่เปลี่ยนแปลงง่าย ๆ หรือบ่อยครั้ง เป็นเรื่องของความปรารถนาของชาติในอนาคต สามารถยืนยัดอย่างแข็งแกร่ง ตราบที่ประเทศนั้นเป็นเอกราช ต้องมีการประกาศให้เห็นเด่นชัด อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- • 2)ปัจจัยที่เกี่ยวกับผู้กำหนดนโยบาย วิธีการหรือ กระบวนการในการกำหนดและดำเนินนโยบายตัวผู้กำหนดนโยบาย เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจในปัญหาอย่างดี เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เข้าใจในปัญหาอย่างแท้จริง วิธีการหรือกระบวนการในการกำหนดและดำเนินนโยบาย จะต้องสอดคล้องกับความรู้ความสามารถของผู้กำหนดนโยบายด้วย มีระเบียบ กฎเกณฑ์ กฎหมาย เอื้ออำนวย ประชาชนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย • 3) ปัจจัยข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลที่ดีจะช่วยให้นโยบายมีความชัดเจนและกำหนดขึ้นในทิศทางที่ถูกต้องตรงกับความต้องการของประชาชน และความต้องการของประเทศ เช่น นโยบายเกี่ยวกับอาชีพ ต้องการข้อมูลข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ รายได้ของกลุ่มอาชีพต่าง ๆ วัตถุดิบในการประกอบอาชีพของประชาชน ทักษะในการประกอบอาชีพ แหล่งซื้อขายและการตลาดของผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มอาชีพต่าง ๆ ผลิตขึ้น ข้อมูลอาจทำให้นโยบายเกิดขึ้น เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกไป หรือทำให้นโยบายกำหนดล่าช้าไป อาจารย์มานิตย์ ผิวขาว สาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น