1 / 21

การประเมินค่างาน ตามแนวทางของระบบจำแนกตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551

การประเมินค่างาน ตามแนวทางของระบบจำแนกตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551. มาตรา 47. กระจาย อำนาจ การ กำหนด ตำแหน่ง.

selima
Télécharger la présentation

การประเมินค่างาน ตามแนวทางของระบบจำแนกตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การประเมินค่างานตามแนวทางของระบบจำแนกตำแหน่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551

  2. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 47 กระจายอำนาจการกำหนดตำแหน่ง ตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญจะมีในส่วนราชการใดจำนวนเท่าใด และเป็นตำแหน่งประเภทใดสายงานใด ระดับใดให้เป็นไปตามที่ อ.ก.พ. กระทรวงกำหนดโดยต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลความไม่ซ้ำซ้อนและประหยัดเป็นหลักทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนดและต้องเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งตามมาตรา 48

  3. เนื้อหา • ความหมายของการประเมินค่างาน • หลักการและแนวคิดของการประเมินค่างาน • เครื่องมือและเกณฑ์การประเมินค่างาน

  4. การประเมินค่างาน JOB EVALUATION

  5. ความหมายของการประเมินค่างานความหมายของการประเมินค่างาน “ การประเมินค่างาน เป็นวิธีการดำเนินการอย่างเป็นระบบเพื่อตีค่างาน โดยเป็นกระบวนการวัดความสัมพันธ์หรือคุณค่างานของตำแหน่ง ที่ไม่ใช่วัดปริมาณงาน ซึ่งเป็นการนำงานทั้งหมดมาเปรียบเทียบกันภายใต้ปัจจัยหรือองค์ประกอบที่เป็นตัววัดหลักเพื่อตีค่างานออกมา ”

  6. ทำไมต้องมีการประเมินค่างานทำไมต้องมีการประเมินค่างาน ในบริบทของภาคราชการพลเรือนไทย เพื่อให้การกำหนดระดับตำแหน่งในภาคราชการพลเรือนมีมาตรฐาน เป็นธรรมและไม่เหลื่อมล้ำกันระหว่างส่วนราชการ

  7. เมื่อไหร่ต้องมีการประเมินค่างานเมื่อไหร่ต้องมีการประเมินค่างาน 1 มีการกำหนดตำแหน่งขึ้นใหม่ในหน่วยงาน 2 หน้าที่ความรับผิดชอบและคุณภาพงานของตำแหน่งเปลี่ยนไป

  8. กระบวนการประเมินค่างานกระบวนการประเมินค่างาน วิเคราะห์งานJA ข้อมูลเกี่ยวกับงานJD วิธีการJE วินิจฉัยตีค่างาน(คณะกรรมการ) กำหนดระดับตำแหน่ง ยอมรับได้ Acceptableมีความยุติธรรม Felt-Fair

  9. หลักการประเมินค่างาน 1 ต้องเข้าใจงาน - ต้องมีการวิเคราะห์งาน 2 ประเมินที่งาน - มิใช่ตัวบุคคลที่ครองตำแหน่ง 3 มีมาตรฐาน - ต้องสะท้อนกับงานปัจจุบันและสอดคล้องกับระดับตำแหน่ง 4 ไม่มีอคติ– เก็บข้อมูล วิเคราะห์และตีค่างานอย่างเป็นธรรม 5 ตรวจสอบให้แน่ใจ - ตรวจสอบความสัมพันธ์ทั้งแนวนอนและแนวดิ่ง

  10. ขั้นตอนการประเมินค่างานขั้นตอนการประเมินค่างาน โปรแกรมประเมินค่างาน ขั้นศึกษา ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นนำเสนอ

  11. แนวคิดเรื่องการประเมินค่างาน :องค์ประกอบพื้นฐานของงานทุกประเภท การประเมินค่างานของโปรแกรมประเมินค่างาน THROUGHPUT INPUT OUTPUT กระบวนงาน องค์ประกอบที่ใช้ในกระบวนงาน ความรู้KNOW - HOW ทักษะการแก้ไขปัญหาPROBLEMSOLVING ความรับผิดชอบACCOUNTABILITY องค์ความรู้ (Know How)ขอบเขตการบริหารจัดการ(Management Breadth)ระดับมนุษยสัมพันธ์ที่จำเป็น(Human Relations Skill) ขอบเขตการตัดสินใจในงาน(Thinking Environment)ระดับความยากในการตัดสินใจ(Thinking Challenge) อิสรภาพในการปฏิบัติหน้าที่(Freedom to Act)ลักษณะของผลกระทบ(Type of Impact) ขอบเขตของผลกระทบ(Magnitude) องค์ประกอบที่ใช้ในการประเมินค่างาน

  12. การกำหนดระดับตำแหน่ง ผลลัพธ์การประเมินค่างานจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับค่าคะแนน CSC Points ประจำแต่ละระดับของแต่ละกลุ่มประเภทตำแหน่ง เพื่อเปรียบเทียบว่าผลการประเมินควรจะตกอยู่ในระดับใดเช่น ในกลุ่มวิชาการ หากการประเมินตกอยู่ในคะแนน 342 ซึ่งเป็นคะแนนของระดับชำนาญการประเภทวิชาการ งานที่มีผลการประเมินเช่นนั้นก็ควรอยู่ระดับชำนาญการ เป็นต้น ค่าคะแนนของแต่ละกลุ่มตำแหน่งเป็นไปดังรูป ระดับทรงคุณวุฒิ901-1,240 ระดับทักษะพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ631-900 ระดับอาวุโส221-451 ผลของการประเมินค่างาน ชำนาญการพิเศษ452-630 ระดับชำนาญงาน155-220 ระดับสูง725-1,035 ระดับสูง ระดับชำนาญการ321-451 ระดับปฏิบัติงาน105-154 ระดับปฏิบัติการ221-320 ระดับต้น520-724 ระดับต้น ทั่วไป วิชาการ อำนวยการ บริหาร

  13. รูปแบบของการใช้โปรแกรมประเมินค่างานรูปแบบของการใช้โปรแกรมประเมินค่างาน

  14. กระบวนการประเมินค่างานผ่านโปรแกรมการประเมินค่างานกระบวนการประเมินค่างานผ่านโปรแกรมการประเมินค่างาน • การประเมินค่างานผ่านโปรแกรมประเมินค่างานนั้นจะเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่ต้องการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งให้เป็นระดับสูงขึ้น โดยผู้ประเมินต้อง • - ดำเนินการวิเคราะห์งาน เพื่อแสดงว่าตำแหน่งงานที่ต้องการจะประเมินค่างานใหม่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทหน้าที่ ลักษณะงาน ความรับผิดชอบ ภาระงานหรือคุณภาพงานของตำแหน่งไปจากเดิม • - ประเมินค่างาน โดยตอบคำถามทั้ง 20 คำถาม ซึ่งจะเป็นวิธีการประเมินตามมาตรฐานของกระบวนการประเมินค่างานที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด (CSC Points) โดยอิงมาตรฐานของเฮย์กรุ๊ปตามหลักแนวคิดและกระบวนวิธีการประเมินค่างานที่ใช้ Hey Guide ChartsProfile Method of Job Evaluation ซึ่งเป็นวิธีการประเมินค่างานอันเป็นลิขสิทธิ์ของเฮย์กรุ๊ปและเป็นที่นิยมใช้ในองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกมากว่า 60 ปี โดยชุดคำถามจะสะท้อนปัจจัยการประเมินค่างานที่กำหนดเป็นชุดของคำสั่งที่สร้างไว้ตามลำดับขั้นตอน (algorithm) เพื่อใช้ประเมินค่าคะแนน โดยชุดคำสั่งดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบจนได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำ เพื่อผลการประเมินค่างานที่มีความเที่ยงตรง (Validity) และเชื่อถือได้ (Reliability)

  15. กระบวนการวิเคราะห์งานกระบวนการวิเคราะห์งาน เขียนบรรยายความสำคัญของงานที่ต้องการปรับระดับให้สูงขึ้น และอธิบายเหตุผลที่ต้องปรับระดับตำแหน่งดังกล่าว เขียนบรรยายภาระของงานที่เพิ่มขึ้น หรือขอบเขตของงานที่ขยายมากขึ้น หรือยุ่งยาก ซับซ้อนมากขึ้น เขียนบรรยายหน้าที่ความรับผิดชอบหลักและผลสัมฤทธิ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เขียนบรรยายประเภทหรือระดับของความรู้ที่ต้องการเพิ่มขึ้น เขียนบรรยายประเภทหรือระดับของทักษะที่ต้องการเพิ่มขึ้นตามระดับตำแหน่ง เขียนบรรยายประสบการณ์ที่ต้องการเพิ่มขึ้นตามระดับตำแหน่ง เขียนบรรยายประเภทหรือระดับของสมรรถนะที่ต้องการเพิ่มขึ้นตามระดับตำแหน่ง

  16. กลไกการประเมินค่างานในโปรแกรมการประเมินค่างานกลไกการประเมินค่างานในโปรแกรมการประเมินค่างาน ในโปรแกรมการประเมินค่างานนั้นจะอ้างอิงจากแนวคิดเรื่องการประเมินค่างานของเฮย์กรุ๊ปซึ่งจะประกอบด้วยปัจจัยหลัก 3 ประการดังต่อไปนี้ ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง Know-Howและ Problem Solvingตามค่ามาตรฐานของเฮย์กรุ๊ป ด้านความรู้และทักษะที่จำเป็นในงาน(Know-How) โดยในโปรแกรมจะมีการตรวจสอบความคงเส้นคงวาและความน่าเชื่อถือของคะแนนเพื่อให้ได้ผลการประเมินที่ถูกต้องที่สุด ด้านการคิดและการตัดสินใจแก้ไขปัญหา(Problem-Solving) ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง Problem Solvingและ Accountability ตามการตรวจสอบ Profile Checkของเฮย์กรุ๊ป ด้านภาระความรับผิดชอบ(Accountability)

  17. กลไกการประเมินค่างานในโปรแกรมฯกลไกการประเมินค่างานในโปรแกรมฯ ปัจจัยหลัก 3 ประการจะถูกแบ่งออกเป็น 20 คำถามดังนี้ Technical Know-How ด้านความรู้และทักษะที่จำเป็นในงาน(Know-How) การประยุกต์ความรู้ที่จำเป็นในงาน (AP-K-H) ความรู้และทักษะในเชิงเทคนิค(TH) การศึกษา(Req Ed) ประสบการณ์ (Req Ex)0 Management Breadth ลักษณะของการทำงานเป็นทีม(Coor) การวางแผน (Plan) การบริหารจัดการ (MB) Human Relationship Skill ระดับของมนุษย์สัมพันธ์ (IU) การติดต่อสื่อสาร (Contact) Freedom to Think กรอบแนวคิดสำหรับการแก้ปัญหา (PS) ความอิสระในการคิด(TH-L) ด้านการคิดและการตัดสินใจแก้ไขปัญหา(Problem-Solving) Thinking Challenge การวิเคราะห์ข้อมูล (IA) ความท้าทายในงาน (Chal) Freedom to Act ด้านภาระความรับผิดชอบ(Accountability) อิสระในการทำงาน (FA) การได้รับอำนาจ (Emp) อำนาจในการตัดสินใจ (DM) Impact Type of Impact ผลกระทบ (Impact) ลักษณะของงาน (Purpose) Level Check Profile Check (Profile)

  18. ขั้นตอนการตอบคำถามเพื่อการประเมินค่างานขั้นตอนการตอบคำถามเพื่อการประเมินค่างาน ขั้นตอนในโปรแกรมการประเมินค่างาน • ก่อนตอบคำถามทุกครั้ง โปรแกรมจะขึ้นหน้าเอกสารสรุปงาน เพื่อให้มีการปรับปรุงเอกสาร สรุปงาน (Role Profile) ของตำแหน่งที่ต้องการประเมิน ไม่เช่นนั้นโปรแกรมจะไม่ผ่าน ไปยังคำถามเพื่อประเมินค่างาน • การตอบคำถามจำเป็นต้องอธิบายเหตุผลประกอบว่าทำไมตำแหน่งงานที่กำลังประเมินจึงควรได้รับ คะแนนแบบนี้ ไม่เช่นนั้นโปรแกรมจะไม่ผ่านไปยังข้อถัดไป • คำถามทั้งหมด 20 คำถามจะถูกจัดเรียงให้สลับที่กันโดยอัตโนมัติ เพื่อพยายามให้ผู้ประเมินตอบ ตามความเป็นจริงที่สุด • คำตอบทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ในโปรแกรมเพื่อส่งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน ค่างานต่อไป

  19. ข้อคำถามในการประเมินค่างานข้อคำถามในการประเมินค่างาน ด้านภาระความรับผิดชอบ (Accountability) • ประเภทและระดับตำแหน่ง ด้านความรู้และทักษะที่จำเป็นในงาน (Know-How) • ความรู้ที่จำเป็นในงาน • ความรู้ ความสามารถ และทักษะในเชิงเทคนิค • ระดับการศึกษา • ประสบการณ์ที่ต้องการในงาน • ลักษณะของการทำงานเป็นทีม • การวางแผน • การบริหารจัดการ • ลักษณะของมนุษยสัมพันธ์ที่จำเป็นในงาน • ลักษณะของการติดต่อสื่อสารที่จำเป็นในงาน

  20. ข้อคำถามในการประเมินค่างาน (ต่อ) ด้านการคิดและการตัดสินใจแก้ไขปัญหา (Problem-Solving) • กรอบแนวคิดสำหรับการแก้ไขปัญหา • อิสระในการคิด • การวิเคราะห์ข้อมูล • ความท้าทายในงาน ด้านภาระความรับผิดชอบ (Accountability) • อิสระในการทำงาน • การได้รับอำนาจในการทำงาน • อำนาจในการตัดสินใจ • ผลกระทบ • ลักษณะของงาน • วัตถุประสงค์หลักของงาน

  21. จบการนำเสนอ

More Related